📖 ลูกา 1:39-45
เมื่อนางเอลีซาเบธตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้วพระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบรียลมายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลีชื่อเมืองนาซาเร็ธ มาพบหญิงพรหมจารีคนหนึ่งซึ่งหมั้นอยู่กับชายชื่อโยเซฟ ในราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด หญิงพรหมจารีผู้นั้นชื่อมารีย์ ทูตสวรรค์เข้าในบ้านกล่าวกับพระนางว่า “จงยินดีเถิดท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่าน” เมื่อทรงได้ยินถ้อยคำนี้ พระนางมารีย์ทรงวุ่นวายพระทัยมาก ทรงถามพระองค์เองว่า คำทักทายนี้หมายความว่ากระไร แต่ทูตสวรรค์กล่าวแก่พระนางว่า“มารีย์ อย่ากลัวเลย ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน
ท่านจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ท่านจะตั้งชื่อเขาว่าเยซู เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่และพระเจ้าผู้สูงสุดจะทรงเรียกเขาเป็นบุตรของพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานพระบัลลังก์ของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษให้แก่เขา เขาจะปกครองวงศ์ตระกูลของยาโคบตลอดไปและพระอาณาจักรของเขาจะไม่สิ้นสุดเลย” พระนางมารีย์จึงทรงถามทูตสวรรค์ว่า “เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะข้าพเจ้าตั้งใจจะเป็นพรหมจารี“ ทูตสวรรค์ตอบว่า “พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่าน และพระอานุภาพของพระผู้สูงสุดจะแผ่เงาปกคลุมท่านเพราะฉะนั้น บุตรที่เกิดมาจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ และจะรับนามว่าบุตรของพระเจ้า ดูซิ เอลีซาเบธ ญาติของท่าน ทั้งๆ ที่ชราแล้ว ก็ยังตั้งครรภ์บุตรชาย ใครๆ คิดว่านางเป็นหมัน แต่นางก็ตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว เพราะไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำไม่ได้” พระนางมารีย์จึงตรัสว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” แล้วทูตสวรรค์ก็จากพระนางไป
📖📖📖
เมื่อเอลีซาเบธผู้เป็นมารดาของยอห์นบัปติสตาตั้งครรภ์ได้หกเดือน พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบรียลมายังเมืองนาซาเร็ธในแคว้นกาลิลี เพื่อแจ้งข่าวแก่หญิงพรหมจารีผู้เป็นคู่หมั้นของโยเซฟซึ่งสืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ดาวิด
หญิงพรหมจารีผู้นั้นชื่อ มารีย์ !
คำแรกที่ทูตสวรรค์กาเบรียลกล่าวทักทายพระแม่มารีย์คือ “จงยินดีเถิด ท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน พระเจ้าสถิตอยู่กับท่าน”
คำ “โปรดปราน” ตรงกับภาษากรีก χαριτόω (charitoō - คารีตอโอ) ซึ่งพบอีกเพียงครั้งเดียวใน เอเฟซัส 1:6 ความหมายคือ “ให้เปล่าๆ” และต่อมาใช้เพื่อหมายถึง“พระหรรษทาน (Grace)”
เมื่อพระแม่มารีย์เปี่ยมด้วยพระหรรษทานเช่นนี้ ทำไมพระนางจึงวุ่นวายพระทัยยิ่งนักเมื่อได้ยินคำทักทายของทูตสวรรค์?
เหตุผลแรกอาจเป็นเพราะความสุภาพถ่อมตนของพระแม่มารีย์เอง “ทำไมต้องเป็นข้าพเจ้า? ข้าพเจ้าแสนจะต่ำต้อย ทำไมพระองค์จึงโปรดปรานข้าพเจ้า!”
เหตุผลอีกประการหนึ่งคงเป็นเพราะพระแม่มารีย์ตระหนักดีว่า ชะตากรรมของผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดปรานและเลือกสรรจะเป็นอย่างไร?
ชาวยิว คือ ประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรร แต่ตลอดสามพันปีที่ผ่านมา พวกเขาต้องทนทุกข์ยิ่งกว่าชนชาติอื่นใด และเกือบถูกพวกนาซีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองมาแล้ว
นี่คือสาเหตุที่ทำให้แม่พระกลัวและวุ่นวายพระทัยยิ่งนัก จนทูตสวรรค์กาเบรียลต้องปลอบใจว่า “มารีย์ อย่ากลัวเลย” พร้อมกับกล่าวย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า “ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน”
พร้อมกันนี้ ทูตสวรรค์กาเบรียลได้แจ้งข่าวสำคัญแก่พระแม่มารีย์ 2 ประเด็นด้วยกัน
ประเด็นแรก เกี่ยวข้องกับตัวพระแม่มารีย์เอง กล่าวคือ
1. พระแม่มารีย์จะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ข่าวแรกนี้เองที่ทำให้พระนางถามว่า “เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไรเพราะข้าพเจ้าตั้งใจจะเป็นพรหมจารี”
จะเห็นว่า พระแม่มารีย์ไม่ได้สงสัยในคำพูดของทูตสวรรค์ แต่สงสัยว่าตัวเองจะทำได้อย่างไรในเมื่อตั้งใจจะเป็นพรหมจารี
ผิดกับเศคาริยาห์ที่ถามทูตสวรรค์กาเบรียลว่า “ข้าพเจ้าจะแน่ใจเรื่องนี้ได้อย่างไรข้าพเจ้าชราแล้ว และภรรยาของข้าพเจ้าก็อายุมากแล้วด้วย” จนทูตสวรรค์ต้องตำหนิว่า “ข้าพเจ้าคือกาเบรียลซึ่งเฝ้าอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้ามาพูดกับท่านและนำข่าวดีนี้มาแจ้งให้ท่านทราบ แต่ท่านไม่เชื่อคำของข้าพเจ้า ซึ่งจะเป็นจริงเมื่อถึงเวลากำหนด ดังนั้นท่านจะเป็นใบ้จนถึงวันที่เหตุการณ์นี้จะเป็นจริง” (ลูกา1:18-20)
สิ่งที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่ง คือ ลูกาเป็นแพทย์ และพยายาม “ค้นคว้าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นอย่างละเอียด” (ลูกา 1:3) ท่านควรจะบันทึกกระบวนการให้กำเนิดบุตรแบบเดียวกับที่แพทย์คนอื่นๆ พึงกระทำ
แต่กลับกลายเป็นว่าท่านบันทึกคำสนทนาระหว่างทูตสวรรค์กาเบรียลและพระแม่มารีย์เกี่ยวกับกระบวนการให้กำเนิดบุตรที่ไม่เหมือนมนุษย์คนอื่นใดในโลกนี้ไว้อย่างละเอียด นั่นคือ “พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่านและพระอานุภาพของพระผู้สูงสุดจะแผ่เงาปกคลุมท่าน เพราะฉะนั้น บุตรที่เกิดมาจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และจะรับนามว่าบุตรของพระเจ้า“
นั่นคือ ท่านค้นคว้าและยืนยันในฐานะแพทย์ว่า พระกุมารบังเกิดด้วยฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า
2. พระแม่มารีย์จะตั้งชื่อบุตรที่เกิดมาว่า “เยซู” ซึ่งตรงกับภาษาฮีบรู יְהוֹשֻׁעַ (Joshua) อันหมายถึง “พระผู้ช่วยให้รอด (Saviour)“
ประเด็นที่สอง เกี่ยวกับ “บุตร” ของพระแม่มารีย์ กล่าวคือ
1. เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่
2. เขาจะได้ชื่อว่าบุตรของผู้สูงสุด ตามความคิดของชาวยิว “บุตร” คือ “สำเนา(Copy)” ของบิดาและมีคุณสมบัติทุกประการที่บิดามี ในกรณีนี้บิดา คือ ὕψιστος (hupsistos - ฮุพซิสตอส) หรือ The Most High ซึ่งหมายถึง “พระยาเวห์” นั่นเอง
3. เขาจะได้รับพระที่นั่งของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษของเขา ซึ่งเท่ากับว่าพระองค์ คือ ผู้สืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ดาวิด
4. เขาจะปกครองวงศ์ตระกูลของยาโคบตลอดไป นั่นคือ พระองค์จะเป็นกษัตริย์ปกครองชาวอิสราเอลชั่วนิรันดร
5. พระอาณาจักรของเขาจะไม่สิ้นสุดเลย ซึ่งเป็นการทำให้คำพยากรณ์ของประกาศกนาธันที่กล่าวแก่กษัตริย์ดาวิดสำเร็จลุล่วงไป กล่าวคือ “ราชวงศ์และอาณาจักรของท่านจะมั่นคงอยู่ต่อหน้าเราตลอดไป อำนาจปกครองของท่านจะตั้งมั่นอยู่ตลอดไป” (2 ซามูเอล 7:16)
แม้ทูตสวรรค์กาเบรียลจะไม่ได้กล่าวออกมาตรงๆ แต่จากเนื้อหาของข่าวที่แจ้งแก่พระแม่มารีย์ดังได้กล่าวมาแล้ว เราไม่มีทางสรุปเป็นอย่างอื่นได้เลยนอกจาก
“พระกุมารที่กำลังจะประสูติมานี้คือพระเมสสิยาห์ และเป็นพระบุตรของพระเจ้าผู้สูงสุด!”
พระเจ้าทรงแจ้งแผนการและวัตถุประสงค์ของพระองค์ในการไถ่กู้โลกให้พระแม่มารีย์ทราบแล้ว ขาดเพียงสิ่งเดียว คือ “ความยินยอม” จากแม่พระ
ทั้งๆที่กลัวและวุ่นวายพระทัย พระแม่มารีย์ตัดสินพระทัยเด็ดขาด ตอบทูตของพระเจ้าว่า “ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด”
พระกุมารกำลังจะประสูติแล้ว...
เราจะตอบรับพระหรรษทานเช่นเดียวกับพระแม่มารีย์ และเชิญพระองค์เข้ามาในหัวใจของเรา...
หรือเราจะใจดำทิ้งพระองค์ไว้ในถ้ำเลี้ยงสัตว์...?
#คริสต์ #คาทอลิก #ลูกา #พระวรสาร #พระกิตติคุณ #พระคัมภีร์ไบเบิล #พระคัมภีร์#ไบเบิล #ทูตสวรรค์ #พระเยซูเจ้า #พระเยซู #พระแม่มารีย์ #แม่พระ #ทูตสวรรค์กาเบรียล #กาเบรียล #catholic
CR. :
https://www.facebook.com/share/p/GgYPp3H71PYYuvuC/?mibextid=WC7FNe
อธิบายพระคัมภีร์ ลูกา 1:26-38 ทูตสวรรค์แจ้งข่าวการประสูติของพระเยซูเจ้า
📖 ลูกา 1:39-45
เมื่อนางเอลีซาเบธตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้วพระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบรียลมายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลีชื่อเมืองนาซาเร็ธ มาพบหญิงพรหมจารีคนหนึ่งซึ่งหมั้นอยู่กับชายชื่อโยเซฟ ในราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด หญิงพรหมจารีผู้นั้นชื่อมารีย์ ทูตสวรรค์เข้าในบ้านกล่าวกับพระนางว่า “จงยินดีเถิดท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่าน” เมื่อทรงได้ยินถ้อยคำนี้ พระนางมารีย์ทรงวุ่นวายพระทัยมาก ทรงถามพระองค์เองว่า คำทักทายนี้หมายความว่ากระไร แต่ทูตสวรรค์กล่าวแก่พระนางว่า“มารีย์ อย่ากลัวเลย ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน
ท่านจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ท่านจะตั้งชื่อเขาว่าเยซู เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่และพระเจ้าผู้สูงสุดจะทรงเรียกเขาเป็นบุตรของพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานพระบัลลังก์ของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษให้แก่เขา เขาจะปกครองวงศ์ตระกูลของยาโคบตลอดไปและพระอาณาจักรของเขาจะไม่สิ้นสุดเลย” พระนางมารีย์จึงทรงถามทูตสวรรค์ว่า “เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะข้าพเจ้าตั้งใจจะเป็นพรหมจารี“ ทูตสวรรค์ตอบว่า “พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่าน และพระอานุภาพของพระผู้สูงสุดจะแผ่เงาปกคลุมท่านเพราะฉะนั้น บุตรที่เกิดมาจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ และจะรับนามว่าบุตรของพระเจ้า ดูซิ เอลีซาเบธ ญาติของท่าน ทั้งๆ ที่ชราแล้ว ก็ยังตั้งครรภ์บุตรชาย ใครๆ คิดว่านางเป็นหมัน แต่นางก็ตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว เพราะไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำไม่ได้” พระนางมารีย์จึงตรัสว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” แล้วทูตสวรรค์ก็จากพระนางไป
📖📖📖
เมื่อเอลีซาเบธผู้เป็นมารดาของยอห์นบัปติสตาตั้งครรภ์ได้หกเดือน พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบรียลมายังเมืองนาซาเร็ธในแคว้นกาลิลี เพื่อแจ้งข่าวแก่หญิงพรหมจารีผู้เป็นคู่หมั้นของโยเซฟซึ่งสืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ดาวิด
หญิงพรหมจารีผู้นั้นชื่อ มารีย์ !
คำแรกที่ทูตสวรรค์กาเบรียลกล่าวทักทายพระแม่มารีย์คือ “จงยินดีเถิด ท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน พระเจ้าสถิตอยู่กับท่าน”
คำ “โปรดปราน” ตรงกับภาษากรีก χαριτόω (charitoō - คารีตอโอ) ซึ่งพบอีกเพียงครั้งเดียวใน เอเฟซัส 1:6 ความหมายคือ “ให้เปล่าๆ” และต่อมาใช้เพื่อหมายถึง“พระหรรษทาน (Grace)”
เมื่อพระแม่มารีย์เปี่ยมด้วยพระหรรษทานเช่นนี้ ทำไมพระนางจึงวุ่นวายพระทัยยิ่งนักเมื่อได้ยินคำทักทายของทูตสวรรค์?
เหตุผลแรกอาจเป็นเพราะความสุภาพถ่อมตนของพระแม่มารีย์เอง “ทำไมต้องเป็นข้าพเจ้า? ข้าพเจ้าแสนจะต่ำต้อย ทำไมพระองค์จึงโปรดปรานข้าพเจ้า!”
เหตุผลอีกประการหนึ่งคงเป็นเพราะพระแม่มารีย์ตระหนักดีว่า ชะตากรรมของผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดปรานและเลือกสรรจะเป็นอย่างไร?
ชาวยิว คือ ประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรร แต่ตลอดสามพันปีที่ผ่านมา พวกเขาต้องทนทุกข์ยิ่งกว่าชนชาติอื่นใด และเกือบถูกพวกนาซีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองมาแล้ว
นี่คือสาเหตุที่ทำให้แม่พระกลัวและวุ่นวายพระทัยยิ่งนัก จนทูตสวรรค์กาเบรียลต้องปลอบใจว่า “มารีย์ อย่ากลัวเลย” พร้อมกับกล่าวย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า “ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน”
พร้อมกันนี้ ทูตสวรรค์กาเบรียลได้แจ้งข่าวสำคัญแก่พระแม่มารีย์ 2 ประเด็นด้วยกัน
ประเด็นแรก เกี่ยวข้องกับตัวพระแม่มารีย์เอง กล่าวคือ
1. พระแม่มารีย์จะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ข่าวแรกนี้เองที่ทำให้พระนางถามว่า “เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไรเพราะข้าพเจ้าตั้งใจจะเป็นพรหมจารี”
จะเห็นว่า พระแม่มารีย์ไม่ได้สงสัยในคำพูดของทูตสวรรค์ แต่สงสัยว่าตัวเองจะทำได้อย่างไรในเมื่อตั้งใจจะเป็นพรหมจารี
ผิดกับเศคาริยาห์ที่ถามทูตสวรรค์กาเบรียลว่า “ข้าพเจ้าจะแน่ใจเรื่องนี้ได้อย่างไรข้าพเจ้าชราแล้ว และภรรยาของข้าพเจ้าก็อายุมากแล้วด้วย” จนทูตสวรรค์ต้องตำหนิว่า “ข้าพเจ้าคือกาเบรียลซึ่งเฝ้าอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้ามาพูดกับท่านและนำข่าวดีนี้มาแจ้งให้ท่านทราบ แต่ท่านไม่เชื่อคำของข้าพเจ้า ซึ่งจะเป็นจริงเมื่อถึงเวลากำหนด ดังนั้นท่านจะเป็นใบ้จนถึงวันที่เหตุการณ์นี้จะเป็นจริง” (ลูกา1:18-20)
สิ่งที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่ง คือ ลูกาเป็นแพทย์ และพยายาม “ค้นคว้าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นอย่างละเอียด” (ลูกา 1:3) ท่านควรจะบันทึกกระบวนการให้กำเนิดบุตรแบบเดียวกับที่แพทย์คนอื่นๆ พึงกระทำ
แต่กลับกลายเป็นว่าท่านบันทึกคำสนทนาระหว่างทูตสวรรค์กาเบรียลและพระแม่มารีย์เกี่ยวกับกระบวนการให้กำเนิดบุตรที่ไม่เหมือนมนุษย์คนอื่นใดในโลกนี้ไว้อย่างละเอียด นั่นคือ “พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่านและพระอานุภาพของพระผู้สูงสุดจะแผ่เงาปกคลุมท่าน เพราะฉะนั้น บุตรที่เกิดมาจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และจะรับนามว่าบุตรของพระเจ้า“
นั่นคือ ท่านค้นคว้าและยืนยันในฐานะแพทย์ว่า พระกุมารบังเกิดด้วยฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า
2. พระแม่มารีย์จะตั้งชื่อบุตรที่เกิดมาว่า “เยซู” ซึ่งตรงกับภาษาฮีบรู יְהוֹשֻׁעַ (Joshua) อันหมายถึง “พระผู้ช่วยให้รอด (Saviour)“
ประเด็นที่สอง เกี่ยวกับ “บุตร” ของพระแม่มารีย์ กล่าวคือ
1. เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่
2. เขาจะได้ชื่อว่าบุตรของผู้สูงสุด ตามความคิดของชาวยิว “บุตร” คือ “สำเนา(Copy)” ของบิดาและมีคุณสมบัติทุกประการที่บิดามี ในกรณีนี้บิดา คือ ὕψιστος (hupsistos - ฮุพซิสตอส) หรือ The Most High ซึ่งหมายถึง “พระยาเวห์” นั่นเอง
3. เขาจะได้รับพระที่นั่งของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษของเขา ซึ่งเท่ากับว่าพระองค์ คือ ผู้สืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ดาวิด
4. เขาจะปกครองวงศ์ตระกูลของยาโคบตลอดไป นั่นคือ พระองค์จะเป็นกษัตริย์ปกครองชาวอิสราเอลชั่วนิรันดร
5. พระอาณาจักรของเขาจะไม่สิ้นสุดเลย ซึ่งเป็นการทำให้คำพยากรณ์ของประกาศกนาธันที่กล่าวแก่กษัตริย์ดาวิดสำเร็จลุล่วงไป กล่าวคือ “ราชวงศ์และอาณาจักรของท่านจะมั่นคงอยู่ต่อหน้าเราตลอดไป อำนาจปกครองของท่านจะตั้งมั่นอยู่ตลอดไป” (2 ซามูเอล 7:16)
แม้ทูตสวรรค์กาเบรียลจะไม่ได้กล่าวออกมาตรงๆ แต่จากเนื้อหาของข่าวที่แจ้งแก่พระแม่มารีย์ดังได้กล่าวมาแล้ว เราไม่มีทางสรุปเป็นอย่างอื่นได้เลยนอกจาก
“พระกุมารที่กำลังจะประสูติมานี้คือพระเมสสิยาห์ และเป็นพระบุตรของพระเจ้าผู้สูงสุด!”
พระเจ้าทรงแจ้งแผนการและวัตถุประสงค์ของพระองค์ในการไถ่กู้โลกให้พระแม่มารีย์ทราบแล้ว ขาดเพียงสิ่งเดียว คือ “ความยินยอม” จากแม่พระ
ทั้งๆที่กลัวและวุ่นวายพระทัย พระแม่มารีย์ตัดสินพระทัยเด็ดขาด ตอบทูตของพระเจ้าว่า “ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด”
พระกุมารกำลังจะประสูติแล้ว...
เราจะตอบรับพระหรรษทานเช่นเดียวกับพระแม่มารีย์ และเชิญพระองค์เข้ามาในหัวใจของเรา...
หรือเราจะใจดำทิ้งพระองค์ไว้ในถ้ำเลี้ยงสัตว์...?
#คริสต์ #คาทอลิก #ลูกา #พระวรสาร #พระกิตติคุณ #พระคัมภีร์ไบเบิล #พระคัมภีร์#ไบเบิล #ทูตสวรรค์ #พระเยซูเจ้า #พระเยซู #พระแม่มารีย์ #แม่พระ #ทูตสวรรค์กาเบรียล #กาเบรียล #catholic
CR. : https://www.facebook.com/share/p/GgYPp3H71PYYuvuC/?mibextid=WC7FNe