จาก
กระทู้นี้ เนื่องจาก เจ้าของกระทู้ได้ตั้งกระทู้ โดยการกดกูเกิ้ลแปลภาษา ทำให้การตีความเนื้อหาข่าวผิดเป็นหนังคนละม้วน
ผมเลยขอตั้งกระทู้นี้เพื่อแก้ไขเนื้อหาที่ผิดพลาด ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
ลิ้งค์ต้นทางของเกาหลี
1. ลิ้งค์ข่าวนี้ ไม่ใช่ "ข้อเท็จจริง" แต่เป็น นักข่าวที่ไปสัมภาษณ์ "ความคิดเห็น" ของทนายความท่านหนึ่ง
2. หัวกระทู้ใส่คำว่า media play เนื่องจาก นักข่าวที่ลงบทความนี้ คือนักข่าว Lee Seon Myoung
ดูหน้าโพรไฟล์ ซึ่งนักข่าวคนนี้ คือนักข่าวที่ต้องสงสัยว่า จะเป็น นาย LeeXX ที่ปรากฏในแชทมินฮีจิน ที่วางแผนจะใช้นักข่าวในการ media play ซึ่งก็คือคนที่เขียนข่าวโจมตี บังทัน ไอลิท เลอเซราฟิมนั่นเอง
3. สรุปเนื้อหาในบทความที่แท้จริง
- ช่วงต้นของบทความพูดถึงคำตัดสินของศาลที่ห้ามไฮบ์ใช้สิทธิผู้ถือหุ้นในการโหวตปลดมินฮีจิน ด้วยเหตุผลตามที่ข่าวบอกก่อนหน้านี้ คือศาลมองว่า คำกล่าวอ้างและหลักฐานของไฮบ์ยังไม่เพียงพอที่จะบอกว่ามินฮีจิน ละเมิดความไว้วางใจต่อ ADOR
- แต่มินฮีจินได้เคยแสดงความไม่พอใจต่อสัญญาในปลายปี 2023 และเคยมีคำขอที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญานั้น ในขณะเดียวกันก็มีความพยายามที่จะแยกนิวจีนส์ให้เป็นอิสระจากไฮบ์ โดยการกดดันให้ไฮบ์ขายหุ้นที่ถือใน ador ซึ่งการกระทำดังกล่าว ชัดเจนว่าเป็นการโจมตีไฮบ์โดยร่วมมือกับรองประธาน A
- (จากตรงนี้ไปเป็นความคิดเห็นของทนายที่ถูกสัมฯ) อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเป็นการวางแผนที่ยังไม่ได้เกิดการลงมือกระทำที่ก่อให้เกิดโทษทางกฎหมาย
- แม้ว่าการกระทำของมินฮีจินจะเป็นการทรยศต่อไฮบ์ แต่ไฮบ์เป็นฝ่ายเริ่มกระทำก่อน(นักข่าวยกเรื่อง ไม่ทักนิวจีนส์ กับ album push มา) ทนายคนนี้เลยมองว่า นี่ก็อาจถือเป็นการทรยศความไว้วางใจต่อมินฮีจินเหมือนกัน
- ทนายคนนี้บอกว่า จากคำของศาล "นี่ถือเป็นการทรยศความไว้วางใจ" อาจไม่ได้หมายถึงฝั่งมินฮีจินอย่างเดียว แต่หมายถึงทั้งสองฝ่ายเลย แถมไฮบ์ยังเป็นฝ่ายทรยศความไว้วางใจก่อนด้วย (WTF?)
- ในส่วนพาร์ทศาลเกี่ยวกับไอลิท ศาลมองว่า มินฮีจินในฐานะ CEO ของ ADOR มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของนิวจีนส์ การเรียกร้องหรือส่งหนังสือประท้วงไปยังไฮบ์ เรื่องที่มีคนตั้งข้อสังเกตถึงความคล้ายคลึงของนิวจีนส์และไอลิท ถือเป็นสิ่งที่มินฮีจินทำได้ ไม่ถือเป็นการละเมิดความไว้วางใจ [จะเห็นว่าศาลไม่ได้มีการแสดงความเห็นว่าไอลิทก๊อปนิวจีนส์เลย ศาลพูดถึงการกระทำของมินฮีจินที่ประท้วงไฮบ์ว่าทำได้ต่างหาก]
- ศาลบอกว่าเรื่องที่ไฮบ์เลือกปฏิบัติต่อนิวจีนส์ ซึ่งมินฮีจินเรียกร้องให้ไฮบ์ปรับปรุง และเรื่องผลักดันยอดขายอัลบั้ม เป็นเรื่องที่ไม่มีหลักฐาน (completely groundless) แต่การกระทำดังกล่าว ยากที่จะสรุปว่าเป็นการกระทำที่จะสร้างความเสียหาย ที่ถึงขั้นละเมิดข้อผูกพัน
- ทนายแสดงความเห็นว่า การบอกว่าเรื่องเลือกปฏิบัติ และการผลักดันยอดขายไม่มีหลักฐานนั้นพูดยาก ซึ่งในทางตรงกันข้าม ข้ออ้างของไฮบ์ที่บอกว่าดูแลนิวจีนส์อย่างดี และเรื่องผลักดันยอดขายก็ไม่มีหลักฐานเช่นกัน (WTF?)
- ในส่วนคาเคาทอล์ค ศาลมองว่าข้อมูลที่ไฮบ์อ้างว่ามินฮีจินปล่อยให้รั่วไหลสู่คนนอก ทั้งความลับทางการค้าและอื่นๆต่อบุคคลที่สาม ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของ ador
- ทนายแสดงความคิดเห็นว่า การเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นความลับให้กับร่างทรง ข้อมูลนั้นไม่ได้ถือเป็นความลับทางการค้า
- ในส่วนของสัญญาโฆษณา ศาลก็มองว่าการที่ สไตลิสต์ B รับเงินจากเอาท์ซอส โดยไม่ผ่าน ador ก็ไม่ถือว่าเป็นการทำให้ ador เสียหาย เลยยากจะสรุปว่าการกระทำนี้เป็นการกระทำที่ละเมิดความไว้วางใจ
- ส่วนท้ายก็มีแค่การสรุปเรื่องเดิมๆว่าคำสั่งศาลมีผลยังไง ไฮบ์ปลดลูกน้องมินฮีจิน และส่งคนเข้าไปเพิ่มสามคน อะไรพวกนี้ไม่มีอะไรเท่าไหร่
สรุปแบบง่ายๆ สำหรับคนขี้เกียจอ่าน
มันคือบทความของนักข่าวที่ต้องสงสัยว่าโดนมินฮีจินจ้าง ไปสัมฯทนายความที่โคตรเอียง
โดยที่เนื้อหาจริงๆไม่มีอะไรใหม่เลย คือถ้า"ศาล"มาบอกว่าไอลิทก๊อปนิวจีนส์มีมูล ป่านนี้สำนักข่าวทุกสำนักมันลงกันหมดแล้ว
อันนี้คือแค่เอามาวิเคราะห์แบบเอียงๆว่าทำไมศาลถึงคิดแบบนี้ นั่นนี่ จบ ไม่มีอะไรเลย ถึงว่าทำไมหาข่าวไม่เจอ
แล้วก็ถูกเจ้สของกระทู้ต้นทาง เอามากดแปลกูเกิ้ลแบบผิดๆ
เหนื่อยใจกับการรับสารมั่วๆแบบนี้จริงๆ
(แปลไทยที่แท้จริง) บทความ Naver : ทำไมศาลถึงเข้าข้างมินฮีจิน? ... [Media play โดย มินฮีจิน]
ผมเลยขอตั้งกระทู้นี้เพื่อแก้ไขเนื้อหาที่ผิดพลาด ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
ลิ้งค์ต้นทางของเกาหลี
1. ลิ้งค์ข่าวนี้ ไม่ใช่ "ข้อเท็จจริง" แต่เป็น นักข่าวที่ไปสัมภาษณ์ "ความคิดเห็น" ของทนายความท่านหนึ่ง
2. หัวกระทู้ใส่คำว่า media play เนื่องจาก นักข่าวที่ลงบทความนี้ คือนักข่าว Lee Seon Myoung ดูหน้าโพรไฟล์ ซึ่งนักข่าวคนนี้ คือนักข่าวที่ต้องสงสัยว่า จะเป็น นาย LeeXX ที่ปรากฏในแชทมินฮีจิน ที่วางแผนจะใช้นักข่าวในการ media play ซึ่งก็คือคนที่เขียนข่าวโจมตี บังทัน ไอลิท เลอเซราฟิมนั่นเอง
3. สรุปเนื้อหาในบทความที่แท้จริง
- ช่วงต้นของบทความพูดถึงคำตัดสินของศาลที่ห้ามไฮบ์ใช้สิทธิผู้ถือหุ้นในการโหวตปลดมินฮีจิน ด้วยเหตุผลตามที่ข่าวบอกก่อนหน้านี้ คือศาลมองว่า คำกล่าวอ้างและหลักฐานของไฮบ์ยังไม่เพียงพอที่จะบอกว่ามินฮีจิน ละเมิดความไว้วางใจต่อ ADOR
- แต่มินฮีจินได้เคยแสดงความไม่พอใจต่อสัญญาในปลายปี 2023 และเคยมีคำขอที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญานั้น ในขณะเดียวกันก็มีความพยายามที่จะแยกนิวจีนส์ให้เป็นอิสระจากไฮบ์ โดยการกดดันให้ไฮบ์ขายหุ้นที่ถือใน ador ซึ่งการกระทำดังกล่าว ชัดเจนว่าเป็นการโจมตีไฮบ์โดยร่วมมือกับรองประธาน A
- (จากตรงนี้ไปเป็นความคิดเห็นของทนายที่ถูกสัมฯ) อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเป็นการวางแผนที่ยังไม่ได้เกิดการลงมือกระทำที่ก่อให้เกิดโทษทางกฎหมาย
- แม้ว่าการกระทำของมินฮีจินจะเป็นการทรยศต่อไฮบ์ แต่ไฮบ์เป็นฝ่ายเริ่มกระทำก่อน(นักข่าวยกเรื่อง ไม่ทักนิวจีนส์ กับ album push มา) ทนายคนนี้เลยมองว่า นี่ก็อาจถือเป็นการทรยศความไว้วางใจต่อมินฮีจินเหมือนกัน
- ทนายคนนี้บอกว่า จากคำของศาล "นี่ถือเป็นการทรยศความไว้วางใจ" อาจไม่ได้หมายถึงฝั่งมินฮีจินอย่างเดียว แต่หมายถึงทั้งสองฝ่ายเลย แถมไฮบ์ยังเป็นฝ่ายทรยศความไว้วางใจก่อนด้วย (WTF?)
- ในส่วนพาร์ทศาลเกี่ยวกับไอลิท ศาลมองว่า มินฮีจินในฐานะ CEO ของ ADOR มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของนิวจีนส์ การเรียกร้องหรือส่งหนังสือประท้วงไปยังไฮบ์ เรื่องที่มีคนตั้งข้อสังเกตถึงความคล้ายคลึงของนิวจีนส์และไอลิท ถือเป็นสิ่งที่มินฮีจินทำได้ ไม่ถือเป็นการละเมิดความไว้วางใจ [จะเห็นว่าศาลไม่ได้มีการแสดงความเห็นว่าไอลิทก๊อปนิวจีนส์เลย ศาลพูดถึงการกระทำของมินฮีจินที่ประท้วงไฮบ์ว่าทำได้ต่างหาก]
- ศาลบอกว่าเรื่องที่ไฮบ์เลือกปฏิบัติต่อนิวจีนส์ ซึ่งมินฮีจินเรียกร้องให้ไฮบ์ปรับปรุง และเรื่องผลักดันยอดขายอัลบั้ม เป็นเรื่องที่ไม่มีหลักฐาน (completely groundless) แต่การกระทำดังกล่าว ยากที่จะสรุปว่าเป็นการกระทำที่จะสร้างความเสียหาย ที่ถึงขั้นละเมิดข้อผูกพัน
- ทนายแสดงความเห็นว่า การบอกว่าเรื่องเลือกปฏิบัติ และการผลักดันยอดขายไม่มีหลักฐานนั้นพูดยาก ซึ่งในทางตรงกันข้าม ข้ออ้างของไฮบ์ที่บอกว่าดูแลนิวจีนส์อย่างดี และเรื่องผลักดันยอดขายก็ไม่มีหลักฐานเช่นกัน (WTF?)
- ในส่วนคาเคาทอล์ค ศาลมองว่าข้อมูลที่ไฮบ์อ้างว่ามินฮีจินปล่อยให้รั่วไหลสู่คนนอก ทั้งความลับทางการค้าและอื่นๆต่อบุคคลที่สาม ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของ ador
- ทนายแสดงความคิดเห็นว่า การเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นความลับให้กับร่างทรง ข้อมูลนั้นไม่ได้ถือเป็นความลับทางการค้า
- ในส่วนของสัญญาโฆษณา ศาลก็มองว่าการที่ สไตลิสต์ B รับเงินจากเอาท์ซอส โดยไม่ผ่าน ador ก็ไม่ถือว่าเป็นการทำให้ ador เสียหาย เลยยากจะสรุปว่าการกระทำนี้เป็นการกระทำที่ละเมิดความไว้วางใจ
- ส่วนท้ายก็มีแค่การสรุปเรื่องเดิมๆว่าคำสั่งศาลมีผลยังไง ไฮบ์ปลดลูกน้องมินฮีจิน และส่งคนเข้าไปเพิ่มสามคน อะไรพวกนี้ไม่มีอะไรเท่าไหร่
สรุปแบบง่ายๆ สำหรับคนขี้เกียจอ่าน
มันคือบทความของนักข่าวที่ต้องสงสัยว่าโดนมินฮีจินจ้าง ไปสัมฯทนายความที่โคตรเอียง
โดยที่เนื้อหาจริงๆไม่มีอะไรใหม่เลย คือถ้า"ศาล"มาบอกว่าไอลิทก๊อปนิวจีนส์มีมูล ป่านนี้สำนักข่าวทุกสำนักมันลงกันหมดแล้ว
อันนี้คือแค่เอามาวิเคราะห์แบบเอียงๆว่าทำไมศาลถึงคิดแบบนี้ นั่นนี่ จบ ไม่มีอะไรเลย ถึงว่าทำไมหาข่าวไม่เจอ
แล้วก็ถูกเจ้สของกระทู้ต้นทาง เอามากดแปลกูเกิ้ลแบบผิดๆ
เหนื่อยใจกับการรับสารมั่วๆแบบนี้จริงๆ