สรุป ตามความเข้าใจ
1. มีเวลา 120 วันในการเปลี่ยนชื่อซิมให้ตรงกับบัญชีธนาคาร
2. ซิมที่ไม่ตรงกับชื่อ เช่น บริษัท, ญาติ, พ่อ, แม่, พี่, น้อง ให้ไปชี้แจงกับธนาคาร ยังไม่รู้ว่าธนาคารต้องใช้เอกสารอะไร
3. ซิมที่ซื้ออนไลน์ที่ลงทะเบียนให้แล้ว ไปติดต่อศูนย์บริการของเครือข่าย ยังไม่รู้ว่าเครือข่ายต้องใช้เอกสารอะไร
อำนาจในการระงับใช้ หรือไม่ระงับขึ้นอยู่กับธนาคารเท่านั้น
รวบข้อเท็จจริง มาตรการปราบซิมผีบัญชีม้า ใครบ้างเข้าข่ายต้องยืนยันตัวตนใหม่ กรณี ชื่อ – เลขบัตรประชาชนบนซิม และโมบายแบงกิ้งไม่ตรงกัน และทำภายในกี่วัน หากไม่ลงทะเบียนซิมใหม่ ใช้งานโมบายแบงกิ้งได้หรือไม่
สืบเนื่องจากกระแสข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจกิจโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้ประชาชนลงทะเบียนซิมการ์ดที่ผูกโยงกับบัญชีธนาคารแบบ Mobile Banking ใหม่ กรณีชื่อไม่ตรงกันจะไม่สามารถใช้งานโมบายแบงกิ้งได้
ข้อเท็จจริง คือ การตรวจสอบคัดกรองข้อมูลเลขบัตรประชาชน และชื่อที่ลงทะเบียนกับเลขหมายหมายโทรศัพท์ หรือ ซิมการ์ด ที่ผูกโยงกับบัญชีธนาคารเพื่อใช้งาน Mobile Banking นั้น จะใช้เวลา 120 วัน เริ่มจาก 27 พ.ค. นี้
เมื่อมีการตรวจสอบคัดกรองข้อมูลบนซิมการ์ด และบัญชีธนาคารแล้ว
อำนาจในการระงับใช้ หรือไม่ระงับขึ้นอยู่กับธนาคาร แต่มาตรการคัดกรองนี้จะทำให้ทั้ง กสทช. และ ธนาคารจะได้ข้อมูลที่พร้อมใช้ยับยั้งและระบุซิมการ์ดเถื่อน และบัญชีม้า ที่ใช้ก่ออาชญากรรมออนไลน์ได้
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร” กรรมการ กสทช. ได้เปิดเผยว่า กสทช. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ธนาคารพานิชย์ และผู้ประกอบการค่ายมือถือ ว่าจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกันเพื่อสกัดกั้นและปราบซิมผี บัญชีม้า ที่ผูกกับโมบายแบงกิ้ง
เนื่องจากมีบัญชีม้า เข้าสู่ระบบราว 20,000 บัญชีต่อเดือน และปัจจุบันมีบัญชีธนาคารผูกกับซิมการ์ดเพื่อใช้งานโมบายแบงกิ้ง 106 ล้านบัญชี แต่มีชื่อบนซิม – บัญชี ไม่ตรงกันราว 30 ล้านบัญชี จึงต้องเชื่อมโยงข้อมูลกันเพื่อคัดกรอง และเสนอให้ธนาคารแจ้งลูกค้าให้ปรับปรุงข้อมูลส่วนตัวให้ตรงกัน
“การยืนยันตนใหม่สำหรับสุจริตชนไม่มีปัญหา แต่คนที่ใช้งานในทางที่ผิดย่อมไม่อยากไปยืนยันตัวตนใหม่ ซึ่งเป็นแค่เปลี่ยนไปใช้เบอร์ซิมการ์ดที่ตนเป็นเจ้าของ หรือเปลี่ยนชื่อผู้ถือครองเบอร์เป็นชื่อตน ยกเว้นมีเหตุผลความจำเป็น เช่น การเปิดโมบายแบงกิ้งให้บุตรหลานที่เป็นเด็กเยาวชน หรือบิดามารดาผู้สูงวัย เป็นต้น ไม่ได้หมายความว่าจะอายัดบัญชีทีเดียว ประชาชนทั่วไปยังใช้ได้ที่สาขา เพราะต้องไปยืนยันตัวตนอยู่แล้ว ส่วนกรอบเวลาจะเป็นเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ธนาคารตกลงกัน”
ซึ่งการตรวจสอบใช้เวลา 120 วัน แต่เงื่อนไขการลงทะเบียนยืนยันตัวตน เพื่อปรับปรุงข้อมูลขึ้นอยู่กับธนาคาร
ใครที่ต้องลงทะเบียนซิมใหม่
ผู้ที่ต้องลงทะเบียนซิมใหม่ ไม่ว่าจะผูกกับโมบายแบงกกิ้งหรือใหม่ เป็นมาตรการที่ กสทช. ประกาศมาตั้งแต่ต้นปี คือ
ผู้ที่ถือครองซิมการ์ดระหว่าง 6-100 เลขหมาย และ 100 เลขหมายขึ้นไป ถือว่ามีความเสี่ยงนำไปใช้โดยมิชอบ
สำหรับผู้ครอบครองซิม 101 เลขหมายขึ้นไป หมดเวลาการยืนยันตนแล้วตั้งแต่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา กสทช. ได้ระงับซิมที่ไม่มายืนยันตัวตนไปแล้วถึง 2,137,465 เลขหมาย
ส่วนผู้ครอบครอง 6-100 เลขหมาย จะต้องมายืนยันภายใน 13 ก.ค. 2567 นี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกระงับการโทรออก
มาตรการตรวจสอบคัดกรอง เลขหมายผูกโมบายแบงกิ้ง
ข้อเท็จจริงในการ “ดีเดย์” วันที่ 27 พ.ค. คือการดำเนินการตามแนวทางการหารือระหว่าง กสทช. ปปง. และธนาคาร
1. ธนาคารจะเป็นผู้รวบรวมบัญชี (เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ เลขหนังสือเดินทาง) พร้อมเบอร์โทร โมบายแบงก์กิ้งที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ส่งให้ ปปง. ตามช่องทางที่กำหนด เพื่อปกป้องความปบอดภัยข้อมูล
2. ปปง. รับข้อมูลเลข ID ประจำตัว และเบอร์โมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ารหัส แล้วเปิดช่องทางสื่อสารข้อมูลให้ กสทช.
3. กสทช. รับข้อมูลดังกล่าวจาก ปปง.นำเบอร์โมบายแบงก์กิ้งมาแยกเครือข่าย เพื่อส่งตรวจหารายชื่อผู้ถือครอง และตรวจเปรียบเทียบกับรายชื่อเจ้าของบัญชีว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ แล้วแจ้งผลให้ ปปง. และธนาคาร ทราบ
วิธีการเช็ก ว่าชื่อลงทะเบียนซิม ตรงกับโมบายแบงกิ้งหรือไม่
ประชาชนทั่วไปสามารถอัพเดตข้อมูลได้เองโดยการตรงจสอบกับแอป 3 ชั้น ของ กสทช.
อีกวิธีคือ การเช็กด้วยเลขหมาย กด *179*เลขบัตรประชาชน# โทรออก
หากไม่ตรงก็แนะนำให้อัพเดตและติดต่อเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลคนให้เป็นปัจจุบันจะดีที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าธนาคารจะยกเลิกการใช้งานโมบายแบงกิ้งแต่ประการใด...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/ict/news-1572721
ไขข้อเท็จจริง ลงทะเบียนซิม – โมบายแบงกิ้ง ใหม่...
1. มีเวลา 120 วันในการเปลี่ยนชื่อซิมให้ตรงกับบัญชีธนาคาร
2. ซิมที่ไม่ตรงกับชื่อ เช่น บริษัท, ญาติ, พ่อ, แม่, พี่, น้อง ให้ไปชี้แจงกับธนาคาร ยังไม่รู้ว่าธนาคารต้องใช้เอกสารอะไร
3. ซิมที่ซื้ออนไลน์ที่ลงทะเบียนให้แล้ว ไปติดต่อศูนย์บริการของเครือข่าย ยังไม่รู้ว่าเครือข่ายต้องใช้เอกสารอะไร
อำนาจในการระงับใช้ หรือไม่ระงับขึ้นอยู่กับธนาคารเท่านั้น
รวบข้อเท็จจริง มาตรการปราบซิมผีบัญชีม้า ใครบ้างเข้าข่ายต้องยืนยันตัวตนใหม่ กรณี ชื่อ – เลขบัตรประชาชนบนซิม และโมบายแบงกิ้งไม่ตรงกัน และทำภายในกี่วัน หากไม่ลงทะเบียนซิมใหม่ ใช้งานโมบายแบงกิ้งได้หรือไม่
สืบเนื่องจากกระแสข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจกิจโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้ประชาชนลงทะเบียนซิมการ์ดที่ผูกโยงกับบัญชีธนาคารแบบ Mobile Banking ใหม่ กรณีชื่อไม่ตรงกันจะไม่สามารถใช้งานโมบายแบงกิ้งได้
ข้อเท็จจริง คือ การตรวจสอบคัดกรองข้อมูลเลขบัตรประชาชน และชื่อที่ลงทะเบียนกับเลขหมายหมายโทรศัพท์ หรือ ซิมการ์ด ที่ผูกโยงกับบัญชีธนาคารเพื่อใช้งาน Mobile Banking นั้น จะใช้เวลา 120 วัน เริ่มจาก 27 พ.ค. นี้
เมื่อมีการตรวจสอบคัดกรองข้อมูลบนซิมการ์ด และบัญชีธนาคารแล้ว อำนาจในการระงับใช้ หรือไม่ระงับขึ้นอยู่กับธนาคาร แต่มาตรการคัดกรองนี้จะทำให้ทั้ง กสทช. และ ธนาคารจะได้ข้อมูลที่พร้อมใช้ยับยั้งและระบุซิมการ์ดเถื่อน และบัญชีม้า ที่ใช้ก่ออาชญากรรมออนไลน์ได้
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร” กรรมการ กสทช. ได้เปิดเผยว่า กสทช. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ธนาคารพานิชย์ และผู้ประกอบการค่ายมือถือ ว่าจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกันเพื่อสกัดกั้นและปราบซิมผี บัญชีม้า ที่ผูกกับโมบายแบงกิ้ง
เนื่องจากมีบัญชีม้า เข้าสู่ระบบราว 20,000 บัญชีต่อเดือน และปัจจุบันมีบัญชีธนาคารผูกกับซิมการ์ดเพื่อใช้งานโมบายแบงกิ้ง 106 ล้านบัญชี แต่มีชื่อบนซิม – บัญชี ไม่ตรงกันราว 30 ล้านบัญชี จึงต้องเชื่อมโยงข้อมูลกันเพื่อคัดกรอง และเสนอให้ธนาคารแจ้งลูกค้าให้ปรับปรุงข้อมูลส่วนตัวให้ตรงกัน
“การยืนยันตนใหม่สำหรับสุจริตชนไม่มีปัญหา แต่คนที่ใช้งานในทางที่ผิดย่อมไม่อยากไปยืนยันตัวตนใหม่ ซึ่งเป็นแค่เปลี่ยนไปใช้เบอร์ซิมการ์ดที่ตนเป็นเจ้าของ หรือเปลี่ยนชื่อผู้ถือครองเบอร์เป็นชื่อตน ยกเว้นมีเหตุผลความจำเป็น เช่น การเปิดโมบายแบงกิ้งให้บุตรหลานที่เป็นเด็กเยาวชน หรือบิดามารดาผู้สูงวัย เป็นต้น ไม่ได้หมายความว่าจะอายัดบัญชีทีเดียว ประชาชนทั่วไปยังใช้ได้ที่สาขา เพราะต้องไปยืนยันตัวตนอยู่แล้ว ส่วนกรอบเวลาจะเป็นเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ธนาคารตกลงกัน”
ซึ่งการตรวจสอบใช้เวลา 120 วัน แต่เงื่อนไขการลงทะเบียนยืนยันตัวตน เพื่อปรับปรุงข้อมูลขึ้นอยู่กับธนาคาร
ใครที่ต้องลงทะเบียนซิมใหม่
ผู้ที่ต้องลงทะเบียนซิมใหม่ ไม่ว่าจะผูกกับโมบายแบงกกิ้งหรือใหม่ เป็นมาตรการที่ กสทช. ประกาศมาตั้งแต่ต้นปี คือ
ผู้ที่ถือครองซิมการ์ดระหว่าง 6-100 เลขหมาย และ 100 เลขหมายขึ้นไป ถือว่ามีความเสี่ยงนำไปใช้โดยมิชอบ
สำหรับผู้ครอบครองซิม 101 เลขหมายขึ้นไป หมดเวลาการยืนยันตนแล้วตั้งแต่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา กสทช. ได้ระงับซิมที่ไม่มายืนยันตัวตนไปแล้วถึง 2,137,465 เลขหมาย
ส่วนผู้ครอบครอง 6-100 เลขหมาย จะต้องมายืนยันภายใน 13 ก.ค. 2567 นี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกระงับการโทรออก
มาตรการตรวจสอบคัดกรอง เลขหมายผูกโมบายแบงกิ้ง
ข้อเท็จจริงในการ “ดีเดย์” วันที่ 27 พ.ค. คือการดำเนินการตามแนวทางการหารือระหว่าง กสทช. ปปง. และธนาคาร
1. ธนาคารจะเป็นผู้รวบรวมบัญชี (เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ เลขหนังสือเดินทาง) พร้อมเบอร์โทร โมบายแบงก์กิ้งที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ส่งให้ ปปง. ตามช่องทางที่กำหนด เพื่อปกป้องความปบอดภัยข้อมูล
2. ปปง. รับข้อมูลเลข ID ประจำตัว และเบอร์โมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ารหัส แล้วเปิดช่องทางสื่อสารข้อมูลให้ กสทช.
3. กสทช. รับข้อมูลดังกล่าวจาก ปปง.นำเบอร์โมบายแบงก์กิ้งมาแยกเครือข่าย เพื่อส่งตรวจหารายชื่อผู้ถือครอง และตรวจเปรียบเทียบกับรายชื่อเจ้าของบัญชีว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ แล้วแจ้งผลให้ ปปง. และธนาคาร ทราบ
วิธีการเช็ก ว่าชื่อลงทะเบียนซิม ตรงกับโมบายแบงกิ้งหรือไม่
ประชาชนทั่วไปสามารถอัพเดตข้อมูลได้เองโดยการตรงจสอบกับแอป 3 ชั้น ของ กสทช.
อีกวิธีคือ การเช็กด้วยเลขหมาย กด *179*เลขบัตรประชาชน# โทรออก
หากไม่ตรงก็แนะนำให้อัพเดตและติดต่อเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลคนให้เป็นปัจจุบันจะดีที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าธนาคารจะยกเลิกการใช้งานโมบายแบงกิ้งแต่ประการใด...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/ict/news-1572721