สวัสดีค่ะ เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากโครงการโครงการนึง มาแลกเปลี่ยนที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ค่ะ เรามาปลายเดือนสิงหาและกลับต้นกรกฎา รวมแล้ว10เดือน ตอนนี้เดือนพฤษภาค่ะ อยากจะเล่าประสบการณ์ทั้งหมดจนถึงความรู้สึกของเราตอนนี้ให้ฟังค่ะ เริ่มจากโฮสบ้านเเรก เราอยู่ได้ไม่เกินสองอาทิตย์ค่ะ โฮสเเรก คนที่เป็นพ่อเป็นคนที่ค่อนข้างเข้มงวด แล้วก็กดดันค่ะ ยกตัวอย่างเช่นวันแรกที่เรามาถึง เค้าก็บอกให้เราขี่จักรยานFatbike (เป็นจักรยานไฟฟ้ากึ่งมอเตอร์ไซค์ค่ะ) เราพยายามปฏิเสธ เพราะเราไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์มาก่อน จักรยานธรรมดาเราก็ขี่ไม่เก่ง แต่เค้าก็ดึงดัน เราเลยยอมลองค่ะ เค้าพาเราขี่เข้าเมือง เราก็ล้มไปทีนึง แต่ก็ยังไม่เป็นอะไร ตอนใกล้ๆถึงบ้านมีแมลงบินเข้าปาก เราหันหน้าหลบ รู้ตัวอีกทีคือ ได้ยินเสียงโครม กับตัวเองที่นอนพังพาบอยู่บนรถอีกคันนึงซึ่งจอดอยู่ เป็นรถยนต์ เค้าก็ค่อนข้างตกใจค่ะ ปรากฏว่า คางเราไปกระแทกกบนกระโปรงรถ มีรอยบุบไปนิดนึง สุดท้ายเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวจะพยายามตามหาเจ้าของแต่ว่าสุดท้ายรถคันนั้นก็หายไปเลย ตอนนั้นเราตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ช้ำไปหมดทั้งตัวเลยค่ะ เป็นการเริ่มวันแรกแบบแย่มากๆ แต่ตอนนี้มองกลับไปตลกตังเองทุกที นอกจากนี้เค้าต้องการให้เราตื่นแต่เช้าเพื่อมาออกกำลังกายทุกวัน มีบอกให้เราดูChris Hemsworth Limitless เพราะเค้าบอกว่าดีต่อการใช้ชีวิต อยากให้เราลุกขึ้นมาทำอะไรตามที่เค้าบอกให้ทำทุกวัน เราก็พยายามทำตาม แต่บางเรื่องเราก็ฮาจจะทำไม่ได้เป๊ะๆ ตามที่เค้าต้องการ เค้าบอกว่าเค้าเป็นคนที่เปิดใจรับฟัง แต่ทุกครั้งที่เราพูดอะไร เค้าจะโต้แย้งตลอด เรารู้สึกกดดันมาก เลยบอกผ่านลูกสาวเค้าว่าเราไม่ไหว กลายเป็นว่า เค้าโกรธมาก และหายออกจากบ้านไปเลยค่ะสองวัน ตอนวันที่เราบอกเค้าทะเลาะกับแฟนเค้าเสียงดังมาก ตอนนั้นเรากลัวมาก แล้วแฟนเค้าก็เหมือนมีปัญหาในความสัมพันธ์อยู่แล้วก็มาร้องไห้กับเรา ซึ่งเราก็ทำอะไรไม่ถูกเลย หลังจากที่เค้าหายไปสองวันแล้วกลับมา เค้าก็บอกว่าเค้าทะเลาะกับแฟนเค้า เค้าเลยหายไปเพราะเรื่องขนมปัง ซึ่งทะเลาะเรื่องขนมปัง ถึงขั้นต้องหายไปจากบ้านคือเรางงมาก แต่ตอนนั้นเราพยายามเข้าใจค่ะ เพราะรู้มาว่าโฮสพ่อเค้ามีวัยเด็กที่ค่อนข้างลำบาก เค้าเป็นคนเกาหลีและะแม่เสียชีวิต ส่วนลุงก้พยายามฆ่า เค้ากับพี่สาวเลยโดนรับมาเลี้ยงโดยครอบครัวชาวดัช โดยครอบครัวที่รับมาเลี้ยงก็ค่อนข้างtoxic และปฏิบัติกับเค้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ ตอนนั้นเรายังโทษตัวเองอยู่ คือ คิดว่าเราผิดเอง เป็นเราเองที่ยังทำไม่ได้เท่าความคาดหวังของเค้า แล้วก็มีเรื่องอื่นๆ ซึ่งเราก็ยังคิดว่าอาจจะเป็นเราเองไม่คุ้นชิน เช่นพูดเรื่อง sex position ที่เค้าชอบบนโต๊ะอาหาร หรือ การชวนเราไปซาวน่ากับเค้าและแฟน ซึ่งซาวน่า ต้องเปลือย และตอนนั้นเราอายุ 17 (เราปฏิเสธไม่ได้ไปนะคะ) แล้วมีสองสามครั้งที่เราเข้าห้องน้ำแล้วเค้าไม่ปิดประตู เราเลยคิดว่าไม่มีคน เลยเข้าไปและเจอเค้ากับแฟนแก้ผ้าอยู่ นอกจากนี้ยังมีคำพูดแปลกๆซึ่งเรามั่นใจว่าเราได้ยินไม่ผิด อย่างเช่น วันแรกที่เรามาถึง เราบอกขอบคุณเค้าที่เค้ารับเรามา เค้าก้บอกว่าไม่เป็นไร เค้าไม่ได้จะปฏิบัติต่อเราแบบสัตว์เลี้ยงเพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง ตอนนั้นเรางงไปเลยสุดท้ายเราตัดสินใจปรึกษา contact person หรือผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ดูแลเรา เป็นคนจากโครงการ ซึ่งเป็นคนเนเธอร์แลนด์นะคะ เค้าก็ฟังเรื่องที่เราเล่ามา แล้วเค้าก็บอกว่า ควรย้ายบ้าน โดยให้บอกเหตุผลกับโฮสว่า หาโรงเรียนแถวนั้นไม่ได้ (ตอนนั้นเรายังไม่ได้โรงเรียนค่ะ) วันก่อนออกจากบ้าน โฮสพ่อเค้าบอกว่า เดี๋ยวจะบอกบ้ายบายก่อนเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เค้าจะต้องไปทำงาน และอาจจะไม่ได้เจอกัน แต่จู่ๆเค้าก็หายไปเลยค่ะ ไม่ได้บอกลาแล้วก้ขึ้นไปนอนเลย สุดท้าย ตอนเรากลับคนที่มาส่งเราก็มีแค่ แฟนเค้า กับลูกสาวเค้าค่ะ
หลังจากเหตุการณ์นี้ เราก็คุยกับพ่อแม่เรา เค้าก็บอกว่า อย่าเพิ่งยอมแพ้อย่าเพิ่งกลับไทย เราก็โอเค เพราะมันอาจจะเป็นแค่เหตุการณ์แย่ๆช่วงเริ่มปีแลกเปลี่ยนเฉยๆ
จบ ep.1
ประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนที่เนเธอร์แลนด์ที่ทุลักทุเลสุดๆ ep.1
สวัสดีค่ะ เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากโครงการโครงการนึง มาแลกเปลี่ยนที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ค่ะ เรามาปลายเดือนสิงหาและกลับต้นกรกฎา รวมแล้ว10เดือน ตอนนี้เดือนพฤษภาค่ะ อยากจะเล่าประสบการณ์ทั้งหมดจนถึงความรู้สึกของเราตอนนี้ให้ฟังค่ะ เริ่มจากโฮสบ้านเเรก เราอยู่ได้ไม่เกินสองอาทิตย์ค่ะ โฮสเเรก คนที่เป็นพ่อเป็นคนที่ค่อนข้างเข้มงวด แล้วก็กดดันค่ะ ยกตัวอย่างเช่นวันแรกที่เรามาถึง เค้าก็บอกให้เราขี่จักรยานFatbike (เป็นจักรยานไฟฟ้ากึ่งมอเตอร์ไซค์ค่ะ) เราพยายามปฏิเสธ เพราะเราไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์มาก่อน จักรยานธรรมดาเราก็ขี่ไม่เก่ง แต่เค้าก็ดึงดัน เราเลยยอมลองค่ะ เค้าพาเราขี่เข้าเมือง เราก็ล้มไปทีนึง แต่ก็ยังไม่เป็นอะไร ตอนใกล้ๆถึงบ้านมีแมลงบินเข้าปาก เราหันหน้าหลบ รู้ตัวอีกทีคือ ได้ยินเสียงโครม กับตัวเองที่นอนพังพาบอยู่บนรถอีกคันนึงซึ่งจอดอยู่ เป็นรถยนต์ เค้าก็ค่อนข้างตกใจค่ะ ปรากฏว่า คางเราไปกระแทกกบนกระโปรงรถ มีรอยบุบไปนิดนึง สุดท้ายเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวจะพยายามตามหาเจ้าของแต่ว่าสุดท้ายรถคันนั้นก็หายไปเลย ตอนนั้นเราตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ช้ำไปหมดทั้งตัวเลยค่ะ เป็นการเริ่มวันแรกแบบแย่มากๆ แต่ตอนนี้มองกลับไปตลกตังเองทุกที นอกจากนี้เค้าต้องการให้เราตื่นแต่เช้าเพื่อมาออกกำลังกายทุกวัน มีบอกให้เราดูChris Hemsworth Limitless เพราะเค้าบอกว่าดีต่อการใช้ชีวิต อยากให้เราลุกขึ้นมาทำอะไรตามที่เค้าบอกให้ทำทุกวัน เราก็พยายามทำตาม แต่บางเรื่องเราก็ฮาจจะทำไม่ได้เป๊ะๆ ตามที่เค้าต้องการ เค้าบอกว่าเค้าเป็นคนที่เปิดใจรับฟัง แต่ทุกครั้งที่เราพูดอะไร เค้าจะโต้แย้งตลอด เรารู้สึกกดดันมาก เลยบอกผ่านลูกสาวเค้าว่าเราไม่ไหว กลายเป็นว่า เค้าโกรธมาก และหายออกจากบ้านไปเลยค่ะสองวัน ตอนวันที่เราบอกเค้าทะเลาะกับแฟนเค้าเสียงดังมาก ตอนนั้นเรากลัวมาก แล้วแฟนเค้าก็เหมือนมีปัญหาในความสัมพันธ์อยู่แล้วก็มาร้องไห้กับเรา ซึ่งเราก็ทำอะไรไม่ถูกเลย หลังจากที่เค้าหายไปสองวันแล้วกลับมา เค้าก็บอกว่าเค้าทะเลาะกับแฟนเค้า เค้าเลยหายไปเพราะเรื่องขนมปัง ซึ่งทะเลาะเรื่องขนมปัง ถึงขั้นต้องหายไปจากบ้านคือเรางงมาก แต่ตอนนั้นเราพยายามเข้าใจค่ะ เพราะรู้มาว่าโฮสพ่อเค้ามีวัยเด็กที่ค่อนข้างลำบาก เค้าเป็นคนเกาหลีและะแม่เสียชีวิต ส่วนลุงก้พยายามฆ่า เค้ากับพี่สาวเลยโดนรับมาเลี้ยงโดยครอบครัวชาวดัช โดยครอบครัวที่รับมาเลี้ยงก็ค่อนข้างtoxic และปฏิบัติกับเค้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ ตอนนั้นเรายังโทษตัวเองอยู่ คือ คิดว่าเราผิดเอง เป็นเราเองที่ยังทำไม่ได้เท่าความคาดหวังของเค้า แล้วก็มีเรื่องอื่นๆ ซึ่งเราก็ยังคิดว่าอาจจะเป็นเราเองไม่คุ้นชิน เช่นพูดเรื่อง sex position ที่เค้าชอบบนโต๊ะอาหาร หรือ การชวนเราไปซาวน่ากับเค้าและแฟน ซึ่งซาวน่า ต้องเปลือย และตอนนั้นเราอายุ 17 (เราปฏิเสธไม่ได้ไปนะคะ) แล้วมีสองสามครั้งที่เราเข้าห้องน้ำแล้วเค้าไม่ปิดประตู เราเลยคิดว่าไม่มีคน เลยเข้าไปและเจอเค้ากับแฟนแก้ผ้าอยู่ นอกจากนี้ยังมีคำพูดแปลกๆซึ่งเรามั่นใจว่าเราได้ยินไม่ผิด อย่างเช่น วันแรกที่เรามาถึง เราบอกขอบคุณเค้าที่เค้ารับเรามา เค้าก้บอกว่าไม่เป็นไร เค้าไม่ได้จะปฏิบัติต่อเราแบบสัตว์เลี้ยงเพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง ตอนนั้นเรางงไปเลยสุดท้ายเราตัดสินใจปรึกษา contact person หรือผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ดูแลเรา เป็นคนจากโครงการ ซึ่งเป็นคนเนเธอร์แลนด์นะคะ เค้าก็ฟังเรื่องที่เราเล่ามา แล้วเค้าก็บอกว่า ควรย้ายบ้าน โดยให้บอกเหตุผลกับโฮสว่า หาโรงเรียนแถวนั้นไม่ได้ (ตอนนั้นเรายังไม่ได้โรงเรียนค่ะ) วันก่อนออกจากบ้าน โฮสพ่อเค้าบอกว่า เดี๋ยวจะบอกบ้ายบายก่อนเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เค้าจะต้องไปทำงาน และอาจจะไม่ได้เจอกัน แต่จู่ๆเค้าก็หายไปเลยค่ะ ไม่ได้บอกลาแล้วก้ขึ้นไปนอนเลย สุดท้าย ตอนเรากลับคนที่มาส่งเราก็มีแค่ แฟนเค้า กับลูกสาวเค้าค่ะ
หลังจากเหตุการณ์นี้ เราก็คุยกับพ่อแม่เรา เค้าก็บอกว่า อย่าเพิ่งยอมแพ้อย่าเพิ่งกลับไทย เราก็โอเค เพราะมันอาจจะเป็นแค่เหตุการณ์แย่ๆช่วงเริ่มปีแลกเปลี่ยนเฉยๆ
จบ ep.1