สวัสดีครับ
ผมตามเพจท่องเที่ยวอยู่หลายเพจมากๆ เพราะตัวเองเป็นคนชอบเที่ยวทั้งในและต่างประเทศครับ
เท่าที่สังเกต แทบทุกเพจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางจะมีสิ่งที่คล้ายกัน คือ มักจะแชร์ข้อมูล / เทคนิค เกี่ยวกับ
(1) การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อให้ได้แต้มสูงสุด แล้วนำมา convert เปลี่ยนเป็นไมล์ เพื่อแลกที่นั่งชั้นธุรกิจ หรือชั้นหนึ่ง
(2) การเข้าพัก ในเครือโรงแรมต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งสถานะบัตรขั้นพิเศษ
(3) การสมัครบัตรต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิพิเศษ เช่น บริการเลขาส่วนตัว , บริการลิมูซีนรับส่งสนามบิน เมื่อมียอดใช้จ่ายถึงเกณฑ์ที่กำหนด
เท่าที่ผมสังเกตแทบไม่มีบัตรเครดิตใดเลยที่ สมัครปุ๊ปเอาตั๋วชั้นธุรกิจยื่นให้ปั๊ป
ทุกแต้ม ทุกไมล์ ทุกสิ่งที่เป็น "สิทธิพิเศษ" เหล่านี้ ล้วนเกิดจากการใช้จ่ายของเจ้าของบัตรทั้งสิ้น
ผมเชื่อว่ามีคนไม่น้อยที่ WOW กับเทคนิคหรือข้อมูลที่ได้รับจากเพจท่องเที่ยวหรือข้อมูลชี้ชวนจากเจ้าของบัตรเครดิต
ทุกคนล้วนมีฝันอยากนั่งเลาจน์ , บินบิสิเนสคลาส , จิบแชมเปญในห้องโดยสารชั้น 1 ผมเองก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้เช่นกัน
ผมเคยตั้งหน้าตั้งตารูดบัตร เพื่อเก็บสะสมไมล์ รูดสากกระเบือยันเรือรบ แล้วมีความสุขเวลามอง statement ในช่องคะแนนสะสมมันเพิ่มขึ้นๆ
จนเมื่อผมเลื่อนสายตาไปอีกนิด แล้วมอง Statement ในกระดาษแผ่นเดียวกัน แต่เป็นช่อง "ยอดชำระ" แล้วผมก็สะดุด แล้วเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง
...เมิง รูด Here ไร ขนาด นี้...
ผมเริ่มกลับมานั่งคิด
ระหว่างการตั้งหน้าตั้งตารูดบัตรเครดิตเพื่อให้มียอดชำระพอสำหรับบริการลิมูซีนรับส่งสนามบินด้วยรถเยอรมัน ผมต้องใช้จ่ายขั้นต่ำหลักแสนกว่าบาท
ในทางกลับกัน ถ้าผมใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น แล้วโทรเรียกบริการรับส่งของ AOT ด้วยรถยนต์ Toyota Camry ซึ่งตกขาละไม่เกิน 2,000 บาท กับระยะเวลาที่นั่งในรถไม่ถึง40นาที แบบใดมันคุ้มค่ากว่ากัน
ระหว่างปั่นยอดค่าใช้จ่ายบัตรเพื่อให้ได้คะแนนสะสม 120,000 ไมล์ ซึ่งต้องใช้จ่ายผ่านบัตรประมาณ 2,000,000บาท เพื่อแลกตั๋วชั้นธุรกิจ Singapore Airlines ไปกลับ Auckland กับการที่ผมใช้จ่ายแบบปกติมนุษย์ แล้วกำเงิน 80,000 บาท ไปซื้อตั๋วโปรชั้นธุรกิจ Malaysia Airlines เส้นทาง ไปกลับในเส้นทางเดียวกัน แบบใดมันคุ้มค่ากว่ากัน
ระหว่างตะบี้ตะบัน นอนโรงแรมในเครือใดเครือหนึ่งในราคา overprice ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้รีวิวระดับ7ปลายๆ ถึง 8ต้นๆ ใน Booking.com เพื่อสถานะขั้นสูงของเครือนั้น กับการเลือกนอนโรงแรมอิสระ โดย Individual service providers ในราคา Reasonable และได้รีวิวระดับ 9+ จาก 1,000 ความคิดเห็น แบบใดมันคุ้มค่ากว่ากัน
สิ่งเหล่านี้มันทำให้ผมเริ่มกลับมาตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้เงินของตัวเอง
ความฉลาดในการใช้จ่าย เราเอาอะไรเป็นตัววัด?
จ่ายเยอะ เพื่อของแถม เช่นแต้ม เช่นไมล์ ถือเป็นผู้มีความฉลาดในการใช้จ่าย?
หรือ จ่ายเท่าที่จำเป็น เก็บออม รอเวลาซื้อของ/บริการที่ต้องการ ในช่วงเวลาโปรโมชั่น จะเรียกว่าเป็นผู้มีความฉลาดในการใช้จ่ายได้หรือไม่?
ระหว่างตะบี้ตะบันรูดบัตรเครดิตเพื่อเก็บไมล์ กับ ใช้ชีวิตง่ายๆแล้วเอาเงินไปซื้อตั๋วเครื่องบิน แบบไหนคุ้มค่ากว่ากันครับ?
ผมตามเพจท่องเที่ยวอยู่หลายเพจมากๆ เพราะตัวเองเป็นคนชอบเที่ยวทั้งในและต่างประเทศครับ
เท่าที่สังเกต แทบทุกเพจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางจะมีสิ่งที่คล้ายกัน คือ มักจะแชร์ข้อมูล / เทคนิค เกี่ยวกับ
(1) การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อให้ได้แต้มสูงสุด แล้วนำมา convert เปลี่ยนเป็นไมล์ เพื่อแลกที่นั่งชั้นธุรกิจ หรือชั้นหนึ่ง
(2) การเข้าพัก ในเครือโรงแรมต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งสถานะบัตรขั้นพิเศษ
(3) การสมัครบัตรต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิพิเศษ เช่น บริการเลขาส่วนตัว , บริการลิมูซีนรับส่งสนามบิน เมื่อมียอดใช้จ่ายถึงเกณฑ์ที่กำหนด
เท่าที่ผมสังเกตแทบไม่มีบัตรเครดิตใดเลยที่ สมัครปุ๊ปเอาตั๋วชั้นธุรกิจยื่นให้ปั๊ป
ทุกแต้ม ทุกไมล์ ทุกสิ่งที่เป็น "สิทธิพิเศษ" เหล่านี้ ล้วนเกิดจากการใช้จ่ายของเจ้าของบัตรทั้งสิ้น
ผมเชื่อว่ามีคนไม่น้อยที่ WOW กับเทคนิคหรือข้อมูลที่ได้รับจากเพจท่องเที่ยวหรือข้อมูลชี้ชวนจากเจ้าของบัตรเครดิต
ทุกคนล้วนมีฝันอยากนั่งเลาจน์ , บินบิสิเนสคลาส , จิบแชมเปญในห้องโดยสารชั้น 1 ผมเองก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้เช่นกัน
ผมเคยตั้งหน้าตั้งตารูดบัตร เพื่อเก็บสะสมไมล์ รูดสากกระเบือยันเรือรบ แล้วมีความสุขเวลามอง statement ในช่องคะแนนสะสมมันเพิ่มขึ้นๆ
จนเมื่อผมเลื่อนสายตาไปอีกนิด แล้วมอง Statement ในกระดาษแผ่นเดียวกัน แต่เป็นช่อง "ยอดชำระ" แล้วผมก็สะดุด แล้วเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง
...เมิง รูด Here ไร ขนาด นี้...
ผมเริ่มกลับมานั่งคิด
ระหว่างการตั้งหน้าตั้งตารูดบัตรเครดิตเพื่อให้มียอดชำระพอสำหรับบริการลิมูซีนรับส่งสนามบินด้วยรถเยอรมัน ผมต้องใช้จ่ายขั้นต่ำหลักแสนกว่าบาท
ในทางกลับกัน ถ้าผมใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น แล้วโทรเรียกบริการรับส่งของ AOT ด้วยรถยนต์ Toyota Camry ซึ่งตกขาละไม่เกิน 2,000 บาท กับระยะเวลาที่นั่งในรถไม่ถึง40นาที แบบใดมันคุ้มค่ากว่ากัน
ระหว่างปั่นยอดค่าใช้จ่ายบัตรเพื่อให้ได้คะแนนสะสม 120,000 ไมล์ ซึ่งต้องใช้จ่ายผ่านบัตรประมาณ 2,000,000บาท เพื่อแลกตั๋วชั้นธุรกิจ Singapore Airlines ไปกลับ Auckland กับการที่ผมใช้จ่ายแบบปกติมนุษย์ แล้วกำเงิน 80,000 บาท ไปซื้อตั๋วโปรชั้นธุรกิจ Malaysia Airlines เส้นทาง ไปกลับในเส้นทางเดียวกัน แบบใดมันคุ้มค่ากว่ากัน
ระหว่างตะบี้ตะบัน นอนโรงแรมในเครือใดเครือหนึ่งในราคา overprice ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้รีวิวระดับ7ปลายๆ ถึง 8ต้นๆ ใน Booking.com เพื่อสถานะขั้นสูงของเครือนั้น กับการเลือกนอนโรงแรมอิสระ โดย Individual service providers ในราคา Reasonable และได้รีวิวระดับ 9+ จาก 1,000 ความคิดเห็น แบบใดมันคุ้มค่ากว่ากัน
สิ่งเหล่านี้มันทำให้ผมเริ่มกลับมาตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้เงินของตัวเอง
ความฉลาดในการใช้จ่าย เราเอาอะไรเป็นตัววัด?
จ่ายเยอะ เพื่อของแถม เช่นแต้ม เช่นไมล์ ถือเป็นผู้มีความฉลาดในการใช้จ่าย?
หรือ จ่ายเท่าที่จำเป็น เก็บออม รอเวลาซื้อของ/บริการที่ต้องการ ในช่วงเวลาโปรโมชั่น จะเรียกว่าเป็นผู้มีความฉลาดในการใช้จ่ายได้หรือไม่?