ย้อนไปเมื่อปี 2019
เราพบว่าบนเตียงนอนของเรามีจุดเลือดต้องสงสัย สืบหาที่มาที่ไปไม่นานก็พบว่าแมวที่เลี้ยงไว้ตัวหนึ่งมีแผลตรงขาหลังข้างซ้ายลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง และมีเลือดซึมออกมาตามภาพ

หลังจากพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลแล้วเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจที่แล็บก็ได้ผลออกมาว่าเป็นเนื้องอกชนิด Mast Cell Tumor ซึ่งคุณหมอบอกว่าเป็นเนื้องอกชนิดลุกลามเร็ว ต้องผ่าตัดออก และยังต้องผ่าเนื้อรอบๆ รอยโรคออกไปเป็นรัศมีถึง 4 เซนติเมตร
แต่เนื่องจากรอยโรคของแมวเราปรากฏบนขาหลัง การผ่าตัดจะต้องกินตั้งแต่เนื้อขาขึ้นไปจนถึงสะโพกซึ่งจะทำให้แมวเราไม่สามารถวิ่งเล่นได้อีก เราเลยเลือกปฏิเสธการผ่าตัดแล้วพยายามหาวิธีรักษาทางเลือก
ตอนนั้น เป็นช่วงที่เรารู้สึกอับจนหนทางและทดท้อมาก เพราะข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ในภาษาไทยบนอินเตอร์เน็ตน้อยมาก ต้องสืบค้นเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งก็เจอแต่ศัพท์การแพทย์หมาแมว อ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ได้ความว่าในต่างประเทศมีวิธีการรักษาสัตว์แบบองค์รวมหรือโฮลิสติก ที่เชื่อว่าเซลล์มะเร็งเป็นอาการแสดงของโรค การรักษาเน้นไปที่เซลล์โดนตรงอาจจะไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นตอ และสามารถกลับมาเกิดซ้ำได้อีก เราเลยพยายามกำจัดสภาพแวดล้อมที่จะสร้างความเครียดให้แมว รวมถึงพยายามดูแลอาหาร แล้วก็เดชะบุญไปเจอเพจของฝรั่งคนหนึ่งซึ่งเลี้ยงหมาที่เป็นเนื้องอกที่หางแล้วรักษาหายได้ด้วยยาจากสมุนไพรธรรมชาติ คือ ขมิ้น น้ำมันมะพร้าว และ เลซิติน เราก็เริ่มใจชื้นเห็นทางสว่าง
ส่วนผสมคือ
1.ผงขมิ้นชัน (มีสารเคอร์คูมิน ทำหน้าที่ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง เราซื้อจาก Villa Market)
2.น้ำมันมะพร้าว (มีกรดลอริค ทำหน้าที่ต้านเชื้อจุลชีพที่ทำให้เกิดการอักเสบโดยไม่กัดทำลายเนื้อเยื่อแผล เราใช้แบบสกัดเย็นออร์แกนิก)
3.เลซิติน (เป็นไขมันที่เจอในสารสื่อประสาท ทำหน้าที่ช่วยสมานแผล เราใช้เลซิตินถั่วเหลืองแบบเกล็ด หรือ granules ของ GNC)
เอามาผสมอย่างละส่วนเท่าๆกัน แล้วก็คนให้เข้ากันเป็นเนื้อครีม ทาไปบนตุ่มเนื้องอก
เราลองทำแล้วไหลเยิ้มเหลืองไปทั่วบ้าน แต่ด้วยความรักแมวก็ยอมเหลือง จนหลังๆ ลองลดน้ำมันมะพร้าวลงให้เนื้อครีมข้นขึ้น ก็ไหลน้อยลง
พอได้รู้มาว่าขมิ้นมีสาร curcumin ที่ช่วยต้านมะเร็งได้ (ในปีนั้นยังไม่มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับ แต่เดี๋ยวนี้มีแล้ว) ก็เอาผสมในอาหารให้แมวกินด้วย
ประกอบกับแมวเรามันไม่ชอบเปื้อน มันก็เลียทำความสะอาดกินขมิ้นเข้าไป เราก็ทาใหม่ให้แผลโดนพอกอยู่เรื่อยๆ ในที่สุดก้อนเนื้อก็หายจริงๆ ค่ะ
นี่คือภาพวิวัฒนาการตั้งแต่ต้นจนจบการรักษา
ในช่วงแรกที่ทา ก้อนเนื้อมันดูบวมขึ้น แดงขึ้นจนเรากังวลใจ เลยส่งข้อความไปถามฝรั่งที่รักษาน้องหมาหายมา เขาก็บอกว่ามันจะเป็นเหมือนสิวแตกแล้วแห้งตกสะเก็ด เราเลยทาต่อ สรุปมันก็เป็นแบบนั้นจริง คือหลังจากผ่านไป 2 เดือน กับ 5 วัน อยู่มาวันหนึ่งเราก็เห็นตูดแมวกลายเป็นแบบภาพที่ 6 เลย คือกลายเป็นหลุมแห้งๆ เหมือนแผลตกสะเก็ด แล้วสักพักสะเก็ดก็หายไป กลายเป็นผิวหนังปกติ ทิ้งร่องรอยไว้แต่ขนที่แหว่งไปจากรอยแผล
ตอนสะเก็ดแห้งแบบซูม
ภาพตอนหายแล้ว

วันที่ตั้งกระทู้นี้ปี 2024 ผ่านมา 5 ปีแล้ว ตอนนี้น้องแมวเราอายุ 10 ขวบ (มีโรคประจำตัวเป็นลูคีเมีย) แต่ยังสดใสร่าเริงดี กินอาหารได้ตามปกติ เนื้องอกไม่กลับมาขึ้นอีก และขนที่แหว่งไปก็กลับขึ้นมาตามเดิมค่ะ
ส่วนยาขมิ้นที่เหลือ เราเอามาทาแผลตัวเองเวลาโดนเล็บแมวข่วน ก็รู้สึกว่าแผลสมานไวและไม่ค่อยทิ้งแผลเป็น วันนี้เราเล่นพันทิปและเจอว่ามีกระทู้เกี่ยวกับ Mast Cell Tumor ในสัตว์เลี้ยงที่เพื่อนๆ ในนี้เพิ่งตั้ง เลยอยากมาให้กำลังใจและแบ่งปันประสบการณ์ให้กับเจ้าของหมาแมวที่กำลังทุกข์ใจจากปัญหาเดียวกันและไม่อยากหรือไม่สามารถผ่าตัดเนื้องอกให้กับสัตว์เลี้ยงได้ค่ะ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ราคาไม่สูงและกระบวนการไม่ยุ่งยาก แต่จะเหลืองมากค่ะ
มาแบ่งปันประสบการณ์การรักษาเนื้องอก ชนิด Mast Cell Tumor ให้น้องแมวหายโดยไม่ต้องผ่าตัดค่ะ
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะเราพบว่าบนเตียงนอนของเรามีจุดเลือดต้องสงสัย สืบหาที่มาที่ไปไม่นานก็พบว่าแมวที่เลี้ยงไว้ตัวหนึ่งมีแผลตรงขาหลังข้างซ้ายลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง และมีเลือดซึมออกมาตามภาพ
หลังจากพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลแล้วเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจที่แล็บก็ได้ผลออกมาว่าเป็นเนื้องอกชนิด Mast Cell Tumor ซึ่งคุณหมอบอกว่าเป็นเนื้องอกชนิดลุกลามเร็ว ต้องผ่าตัดออก และยังต้องผ่าเนื้อรอบๆ รอยโรคออกไปเป็นรัศมีถึง 4 เซนติเมตร
แต่เนื่องจากรอยโรคของแมวเราปรากฏบนขาหลัง การผ่าตัดจะต้องกินตั้งแต่เนื้อขาขึ้นไปจนถึงสะโพกซึ่งจะทำให้แมวเราไม่สามารถวิ่งเล่นได้อีก เราเลยเลือกปฏิเสธการผ่าตัดแล้วพยายามหาวิธีรักษาทางเลือก
ตอนนั้น เป็นช่วงที่เรารู้สึกอับจนหนทางและทดท้อมาก เพราะข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ในภาษาไทยบนอินเตอร์เน็ตน้อยมาก ต้องสืบค้นเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งก็เจอแต่ศัพท์การแพทย์หมาแมว อ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ได้ความว่าในต่างประเทศมีวิธีการรักษาสัตว์แบบองค์รวมหรือโฮลิสติก ที่เชื่อว่าเซลล์มะเร็งเป็นอาการแสดงของโรค การรักษาเน้นไปที่เซลล์โดนตรงอาจจะไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นตอ และสามารถกลับมาเกิดซ้ำได้อีก เราเลยพยายามกำจัดสภาพแวดล้อมที่จะสร้างความเครียดให้แมว รวมถึงพยายามดูแลอาหาร แล้วก็เดชะบุญไปเจอเพจของฝรั่งคนหนึ่งซึ่งเลี้ยงหมาที่เป็นเนื้องอกที่หางแล้วรักษาหายได้ด้วยยาจากสมุนไพรธรรมชาติ คือ ขมิ้น น้ำมันมะพร้าว และ เลซิติน เราก็เริ่มใจชื้นเห็นทางสว่าง
ส่วนผสมคือ
1.ผงขมิ้นชัน (มีสารเคอร์คูมิน ทำหน้าที่ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง เราซื้อจาก Villa Market)
2.น้ำมันมะพร้าว (มีกรดลอริค ทำหน้าที่ต้านเชื้อจุลชีพที่ทำให้เกิดการอักเสบโดยไม่กัดทำลายเนื้อเยื่อแผล เราใช้แบบสกัดเย็นออร์แกนิก)
3.เลซิติน (เป็นไขมันที่เจอในสารสื่อประสาท ทำหน้าที่ช่วยสมานแผล เราใช้เลซิตินถั่วเหลืองแบบเกล็ด หรือ granules ของ GNC)
เอามาผสมอย่างละส่วนเท่าๆกัน แล้วก็คนให้เข้ากันเป็นเนื้อครีม ทาไปบนตุ่มเนื้องอก
เราลองทำแล้วไหลเยิ้มเหลืองไปทั่วบ้าน แต่ด้วยความรักแมวก็ยอมเหลือง จนหลังๆ ลองลดน้ำมันมะพร้าวลงให้เนื้อครีมข้นขึ้น ก็ไหลน้อยลง
พอได้รู้มาว่าขมิ้นมีสาร curcumin ที่ช่วยต้านมะเร็งได้ (ในปีนั้นยังไม่มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับ แต่เดี๋ยวนี้มีแล้ว) ก็เอาผสมในอาหารให้แมวกินด้วย
ประกอบกับแมวเรามันไม่ชอบเปื้อน มันก็เลียทำความสะอาดกินขมิ้นเข้าไป เราก็ทาใหม่ให้แผลโดนพอกอยู่เรื่อยๆ ในที่สุดก้อนเนื้อก็หายจริงๆ ค่ะ
นี่คือภาพวิวัฒนาการตั้งแต่ต้นจนจบการรักษา
ในช่วงแรกที่ทา ก้อนเนื้อมันดูบวมขึ้น แดงขึ้นจนเรากังวลใจ เลยส่งข้อความไปถามฝรั่งที่รักษาน้องหมาหายมา เขาก็บอกว่ามันจะเป็นเหมือนสิวแตกแล้วแห้งตกสะเก็ด เราเลยทาต่อ สรุปมันก็เป็นแบบนั้นจริง คือหลังจากผ่านไป 2 เดือน กับ 5 วัน อยู่มาวันหนึ่งเราก็เห็นตูดแมวกลายเป็นแบบภาพที่ 6 เลย คือกลายเป็นหลุมแห้งๆ เหมือนแผลตกสะเก็ด แล้วสักพักสะเก็ดก็หายไป กลายเป็นผิวหนังปกติ ทิ้งร่องรอยไว้แต่ขนที่แหว่งไปจากรอยแผล
ตอนสะเก็ดแห้งแบบซูม
ภาพตอนหายแล้ว
วันที่ตั้งกระทู้นี้ปี 2024 ผ่านมา 5 ปีแล้ว ตอนนี้น้องแมวเราอายุ 10 ขวบ (มีโรคประจำตัวเป็นลูคีเมีย) แต่ยังสดใสร่าเริงดี กินอาหารได้ตามปกติ เนื้องอกไม่กลับมาขึ้นอีก และขนที่แหว่งไปก็กลับขึ้นมาตามเดิมค่ะ
ส่วนยาขมิ้นที่เหลือ เราเอามาทาแผลตัวเองเวลาโดนเล็บแมวข่วน ก็รู้สึกว่าแผลสมานไวและไม่ค่อยทิ้งแผลเป็น วันนี้เราเล่นพันทิปและเจอว่ามีกระทู้เกี่ยวกับ Mast Cell Tumor ในสัตว์เลี้ยงที่เพื่อนๆ ในนี้เพิ่งตั้ง เลยอยากมาให้กำลังใจและแบ่งปันประสบการณ์ให้กับเจ้าของหมาแมวที่กำลังทุกข์ใจจากปัญหาเดียวกันและไม่อยากหรือไม่สามารถผ่าตัดเนื้องอกให้กับสัตว์เลี้ยงได้ค่ะ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ราคาไม่สูงและกระบวนการไม่ยุ่งยาก แต่จะเหลืองมากค่ะ