ถึงเวลา! กองบัญชาการกองทัพไทยตั้งกองบัญชาการไซเบอร์ทหาร รองรับภัยคุกคามทางไซเบอร์ พร้อมจัดตั้ง โรงเรียนไซเบอร์ทหาร

กองทัพรุก !!
ตั้ง Cyber Command
กองบัญชาการไซเบอร์ทหาร
มี ผบ.เป็น พลโท
อัตรา จาก ศปร. ขยับเป็น ที่ปรึกษาพิเศษฯ
ขยับ ศปร. ไปอยู่ นทพ.
ยกระดับขีดความสามารถ
รองรับภัยคุกคามทางไซเบอร์
จัดตั้ง รร.ไซเบอร์ทหาร
ผลิต นักรบไซเบอร์
ยึดแบบ สหรัฐอเมริกา-อังกฤษ
เริ่ม ตค.2567
.
#BangkokPost
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่า กองทัพไทยมีนโยบายที่สำคัญ การจัดตั้ง หน่วยบัญชาการไซเบอร์ทหาร หมายความว่า นโยบายสร้างกองทัพที่ทันสมัย ที่เคยได้มอบหมาย ในด้านเทคโนโลยีการปรับปรุงการรบด้านยุทธวิธี ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ วันนี้สำเร็จถึงขั้นบรรลุ ได้ยกระดับยุบรวมหลายหน่วยงาน ขึ้นมาเป็นหน่วยบัญชาการไซเบอร์ทหาร พร้อมกำหนดภารกิจโครงสร้างชัดเจน
และที่สำคัญมีระบบโรงเรียนดิจิทัลโรงเรียนไซเบอร์ ที่จะสอนกำลังพลและพลเรือน และหน่วยดังกล่าวอาจจะต้องพัฒนาไปสู่กองทัพไซเบอร์ในอนาคต
ทั้งนี้ ใน การประชุมสภากลาโหมวันนี้
กองบัญชาการกองทัพไทย ยกระดับขีดความสามารถทางไซเบอร์ มุ่งไปสู่การปฏิบัติการร่วมทางไซเบอร์ของกองทัพไทยอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยจัดตั้งหน่วยบัญชาการไซเบอร์ทหาร ใน 1 ต.ค. 2567 เพื่อรองรับและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ ทั้งในระดับกองทัพ และในระดับประเทศ ในส่วนของเหล่าทัพได้มีการดำเนินการรองรับการปฏิบัติ ประกอบด้วย
กองทัพบก ปรับโครงสร้างหน่วยไซเบอร์ภายใต้หน่วยปฏิบัติการดิจิทัลกองทัพบก กองทัพเรือ ปรับเพิ่มกองสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ศูนย์ไซเบอร์กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ปรับย้ายกองสงครามเครือข่าย ไปอยู่ภายใต้ศูนย์ไซเบอร์กองทัพอากาศ
และปรับศูนย์ไซเบอร์กองทัพอากาศ ไปอยู่ภายใต้กรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทหารอากาศ
นอกจากนี้ กองทัพไทยได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปศึกษาดูงานหน่วยงานด้านไซเบอร์ของมิตรประเทศ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาขีดความสามารถด้านไซเบอร์ของกองทัพไทย มุ่งสู่การเป็นศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อความเป็นเลิศ (Cyber Security Academy) เพื่อการพัฒนาบุคลาการทางไซเบอร์ของประเทศโดยร่วมมือกับทุกกระทรวง
ทบวง กรม สถาบันการศึกษา ภาคธุรกิจ เอกชน และหน่วยงานความมั่นคง
โดยตั้งเป้าหมายการผลิตบุคลากรที่มีความชำนาญด้านไซเบอร์ปีละ 300-500 นาย
รวมถึงจัดตั้งโรงเรียนไซเบอร์ทหาร เพื่อเป็นหน่วยสายวิทยาการด้านไซเบอร์ และเป็นแหล่งผลิตบุคลากรด้านไซเบอร์ให้แก่กองทัพ และหน่วยงานภายนอก
พลโท ชาติชาย ชัยเกษม หัวหน้าฝ่ายเสธ ประจำ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน ด้านไซเบอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เราได้ขยายจากศูนย์ไซเบอร์ทหารเป็นหน่วยบัญชาการไซเบอร์ทหาร
โดยจะมีการจัดตั้ง ไซเบอร์เป็นทีม ตั้งแต่ระดับกองทัพและระดับประเทศ คล้ายกับหน่วยไซเบอร์คอมแมน ของสหรัฐอเมริกา หากเกิดเหตุการณ์ สำคัญกองทัพก็จะมีความสามารถในการเตรียมการจัดทีม รับผิดชอบ สาธารณูปโภคสำคัญของประเทศ
นอกจากนี้จะมีการจัดตั้งไซเบอร์อะคาเดมี่ ซึ่งประเทศไทยยังไม่มี กองทัพจะเป็นศูนย์กลางให้การศึกษาด้านไซเบอร์ ทั้งในระดับกองทัพและนอกกองทัพ
" เรื่องไซเบอร์ถือเป็นประเด็นร้อนของโลก นับเป็นสงครามทางด้านไซเบอร์ ซึ่งจากการที่ผมได้ไปทั้ง ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอังกฤษ
ซึ่งทั้ง 2 ประเทศ ไซเบอร์ถือเป็นมิติการรบ เราจะเตรียมทีมให้พร้อม บนมิติ ไซเบอร์เช่นเดียวกัน 3 ทีมเตรียมไว้ เป็นทีมเชิงรับ ทีมรับผิดชอบระบบสาธารณูปโภคที่สำคัญของประเทศ เป็นทีมเชิงรุก ทีมไซเบอร์อะคาเดมี่ โดยจะเริ่มใช้วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ในงบประมาณปี 68"พลโท ชาติชาย กล่าว

ที่มา
https://www.facebook.com/WassanaJournalist/posts/pfbid0FsMdGJb8q4TEjN3E7U8sHd86trDv9ZmcWwyoZRqvt4JBmf3U7fViiEaoK19DvsLtl


อีกหน่วยที่เรายังไม่ได้ก่อตั้งเป็นรูปเป็นร่างตามสหรัฐฯไป  คือ
กองทัพอวกาศ
แยกออกจากกองทัพอากาศเหมือนกับสหรัฐฯ  แต่งบประมาณคงจะกระโดดน่าดู 
เพราะต้องลงทุนดาวเทียมทหาร  AI  เทคโนโลยีอวกาศ

และพลังงานนิวเคลียร์ทหารคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ  
เพราะการใช้พลังงานของทั้งพลเรือน  และราชการในอนาคตมหาศาลแน่ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่