จบไปแล้วสำหรับแมตช์ไทย-เซอร์เบีย ที่จะเป็นตำนานหน้าหนึ่งของวอลเลย์บอลสาวไทย
บทวิเคราะห์นี้ทำมาสนุกๆ โดยการใช้สถิติจากในเวปของ FIVB ที่ใครๆก็เข้าถึงได้ เพื่อให้เพื่อนๆได้แลกเปลี่ยนความคิด วิเคราะห์วิจารณ์กันตามเหตุผล เพราะพวกเราเป็นแค่กองเชียร์ตัวเล็กๆ ต่างกับทีมสตาฟโค้ชที่มีทีมสถิติคอยเก็บสถิติอย่างละเอียดยิบ
1. การเซ็ต
ทีมไทยใช้ตัวเซ็ต 2 คนในแมตช์นี้ พู่ยืนไลน์อัพเซตแรก ทั้งๆที่สถิติการเซตนุกนิกในแมตช์แรกดีกว่าพู่เท่าตัว ทำให้เราสามารถอนุมานได้ว่าทีมสตาฟโค้ชไม่ได้มีการวิเคราะห์และใช้สถิติในการวางแผนไลน์อัพแต่อย่างใด
นุกนิกเซ็ตไป 52 ครั้ง พู่ 23 ครั้ง ประสิทธิภาพโดยรวมของการเซ็ต ต่ำลงกว่านัดแรก เปอร์เซ็นต์ที่ตัวตีทำแต้มได้ของนุกนิกอยู่ที่ 11.5% พู่อยู่ที่ 17.4% เปอร์เซนต์ของพู่เพิ่มขึ้นนิดหน่อยจากแมตช์แรก แต่ของนุกนิกต่ำลงมากว่าเท่าตัว การที่นุกนิกมีเปอร์เซ็นต์ต่ำส่วนนึงเกิดจากมี error จากการจ่ายบอลวืดจากการได้ฟรีบอลของไทย (การจ่ายวืดจะถูกลบคะแนนประสิทธิภาพ)
2. การรับเสิร์ฟ
คนที่รับเสิร์ฟมากที่สุดคือ บุ๋มบิ๋ม 23 ลูก (35.94%) รองลงมาเป็น สองวิ 22 ลูก (34.38%) แล้วค่อยเป็นลิบแป้น 15 ลูก (23.44%)
เทียบกับแมตช์แรกที่บุ๋มบิ๋มรับเหมาไปคนเดียวเกือบ 60% จะเห็นได้ว่าแมตช์นี้เซอร์เบียจี้สองวิมากกว่าอเมริกา และแป้น ที่เป็นลิบบอลแรกพยายามที่จะมาช่วยบุ๋มบิ๋มมากกว่าเดิม ทำให้ภาระของบุ๋มบิ๋มในการรับบอลแรก ลดลงไปกว่าเท่าตัว แต่กระนั้น ลิบรับบอลแรกก็ยังช่วยทีมได้ค่อนข้างน้อยจากจำนวนการรับเสิร์ฟที่ยังน้อยกว่าหัวเสาทั้งสองคน และเปอร์เซ็นต์การรับที่ต่ำกว่าในแมตช์แรกถึงสามเท่า
ประสิทธิภาพการรับเสิร์ฟโดยรวมถึอว่าน่าใจหายมาก ทีมไทยแทบไม่เคยมีเปอร์เซ็นต์รับเสิร์ฟโดยรวมต่ำกว่า 20% แต่มันได้เกิดขึ้นแล้วในแมตช์นี้ คนที่รับเสิร์ฟดีที่สุดคือ สองวิ (18.18%) รองละมาคือ แป้น (13.33%) และ บุ๋มบิ๋ม (13.04%)
3. การเสิร์ฟ
การเสิร์ฟของทีมไทยมาตรฐานต่ำลงไปมากกว่าแมตช์แรกอย่างมีนัยสำคัญ ประสิทธิภาพต่ำลงมากอย่างน่าใจหาย มีคนที่เสิร์ฟพอจะมีประสิทธิภาพอยู่บ้างคือ สองวิ (10%) และบุ๋มบิ๋ม (6.67%) บุ๋มบิ๋มมีเอซถึง 4 ลูก แต่ก็เสิร์ฟเสียไปถึง 3 ลูกเช่นกัน แทบจะหักล้างคะแนนจากการเสิร์ฟเอซไปเลย
คนที่เสิร์ฟดีที่สุดสามคนในนัดแรก อย่าง ยูฟ่า บีม และเตย (17%, 11% และ 10% จากนัดแรก) แทบจะไม่ได้มีโอกาสเปลี่ยนลงมาเสิร์ฟเลย (ยูฟ่าไม่ได้เสิร์ฟสักลูก บีมเสิร์ฟไปลูกเดียว เตยเสิร์ฟไป 2 ลูก จากทั้งแมตช์) ยิ่งทำให้ตอกย้ำว่าทีมสตาฟโค้ชไม่ได้มีการวิเคราะห์และใช้สถิติในการเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อเสริมเกมเสิร์ฟแต่อย่างใด
4. การบุก
ประเด็นแรก MB ไทยได้บุกทั้งสิ้น 15 ครั้งจากทั้งหมด 107 ครั้ง คิดเป็น 14% ซึ่งแทบไม่ได้แตกต่างอะไรเลยจากนัดแรก (13%) แปลว่าทางทีมสตาฟโค้ชไม่ได้ใช้สถิติจากนัดที่แล้ว และไม่ได้เล็งเห็นจุดอ่อนที่ไม่ได้ใช้ MB ทำให้คู่ต่อสู้รอบล็อคหัวเสาเพียงอย่างเดียวก็ปิดเกมรุกของไทยได้อยู่หมัด
ประเด็นที่สอง MB ประสิทธิภาพในการบุกของ MB ไทยต่ำลงอย่าน่าใจหาย โดยเฉพาะแนน (33% นัดเจออเมริกา --> -25% นัดเจอเซอร์เบีย) ส่วนเดียร์ทำได้เพียง 14% ถ้าย้อนไปยุคเจ็ดเซียน มาตรฐานประสิทธิภาพการบุกของ MB ทีมไทยปกติจะสูงกว่า 40%
ประเด็นที่สาม ประสิทธิภาพในการบุกของหัวเสาและบีหลัง สองวิ ทำได้ดีขึ้นจากนัดแรก (จาก 4.17% เป็น 28%) โมเมแม้จะประสิทธิภาพลดลงแต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอใช้ (จาก 42.86% เป็น 22.73%) แต่ที่น่าตกใจคือบุ๋มบิ๋ม (จาก 20.59% เป็น -3.45%) ที่มีลูกเสียเยอะ โดยเฉพาะบอลแก้ ที่เสียแต้มเกือบทั้งหมด และ บีม (จาก 28.12% เป็น -12.5%) ที่ตีออกหลังค่อนข้างมาก
ข้อสังเกต: ออมสินได้รับโอกาสน้อยไปหรือไม่ทั้งในการรับและรุก? เป็นไปได้ไหมที่บีมและโมเมจะสามารถลงสนามพร้อมกัน โดยการโยกโมเมมาหัวเสา? ถ้าดูจากสถิติประสิทธิภาพการบุกทั้งสองนัด โมเมควรยืนเป็นไลน์อัพหลักได้แล้วไหม
สิ่งที่ผมอยากเห็นจากทีมสตาฟโค้ชตอนนี้ ขออย่างเดียว คือขอให้พวกท่านได้โชว์ศักยภาพในการใช้สติปัญญาในการวางแผนและแก้เกม (จากสถิติที่พวกท่านมี ซึ่งละเอียดกว่าสถิติในหน้าเวป FIVB มาก) ซึ่งที่ผ่านมาสองนัด กองเชียร์อย่างพวกเรายังไม่เห็นศักยภาพของพวกท่านเลย
ปล. มีคนอยากให้ผมวิเคราะห์สถิติการบล็อค แต่มันเศร้าใจตรงที่ไทยไม่มีแต้มจากการบล็อคแม้แต่แต้มเดียว แถมประสิทธิภาพในการบล็อคของ MB กับหัวเสามีแต่ 0 หรือติดลบ เลยขอไม่วิเคราะห์ เพราะไม่มีอะไรจะพูดครับ 555
วิเคราะห์สถิติ EP2: ไทย-เซอร์เบีย ตำนานหน้าหนึ่งของวอลเลย์บอลสาวไทย
บทวิเคราะห์นี้ทำมาสนุกๆ โดยการใช้สถิติจากในเวปของ FIVB ที่ใครๆก็เข้าถึงได้ เพื่อให้เพื่อนๆได้แลกเปลี่ยนความคิด วิเคราะห์วิจารณ์กันตามเหตุผล เพราะพวกเราเป็นแค่กองเชียร์ตัวเล็กๆ ต่างกับทีมสตาฟโค้ชที่มีทีมสถิติคอยเก็บสถิติอย่างละเอียดยิบ
1. การเซ็ต
ทีมไทยใช้ตัวเซ็ต 2 คนในแมตช์นี้ พู่ยืนไลน์อัพเซตแรก ทั้งๆที่สถิติการเซตนุกนิกในแมตช์แรกดีกว่าพู่เท่าตัว ทำให้เราสามารถอนุมานได้ว่าทีมสตาฟโค้ชไม่ได้มีการวิเคราะห์และใช้สถิติในการวางแผนไลน์อัพแต่อย่างใด
นุกนิกเซ็ตไป 52 ครั้ง พู่ 23 ครั้ง ประสิทธิภาพโดยรวมของการเซ็ต ต่ำลงกว่านัดแรก เปอร์เซ็นต์ที่ตัวตีทำแต้มได้ของนุกนิกอยู่ที่ 11.5% พู่อยู่ที่ 17.4% เปอร์เซนต์ของพู่เพิ่มขึ้นนิดหน่อยจากแมตช์แรก แต่ของนุกนิกต่ำลงมากว่าเท่าตัว การที่นุกนิกมีเปอร์เซ็นต์ต่ำส่วนนึงเกิดจากมี error จากการจ่ายบอลวืดจากการได้ฟรีบอลของไทย (การจ่ายวืดจะถูกลบคะแนนประสิทธิภาพ)
2. การรับเสิร์ฟ
คนที่รับเสิร์ฟมากที่สุดคือ บุ๋มบิ๋ม 23 ลูก (35.94%) รองลงมาเป็น สองวิ 22 ลูก (34.38%) แล้วค่อยเป็นลิบแป้น 15 ลูก (23.44%)
เทียบกับแมตช์แรกที่บุ๋มบิ๋มรับเหมาไปคนเดียวเกือบ 60% จะเห็นได้ว่าแมตช์นี้เซอร์เบียจี้สองวิมากกว่าอเมริกา และแป้น ที่เป็นลิบบอลแรกพยายามที่จะมาช่วยบุ๋มบิ๋มมากกว่าเดิม ทำให้ภาระของบุ๋มบิ๋มในการรับบอลแรก ลดลงไปกว่าเท่าตัว แต่กระนั้น ลิบรับบอลแรกก็ยังช่วยทีมได้ค่อนข้างน้อยจากจำนวนการรับเสิร์ฟที่ยังน้อยกว่าหัวเสาทั้งสองคน และเปอร์เซ็นต์การรับที่ต่ำกว่าในแมตช์แรกถึงสามเท่า
ประสิทธิภาพการรับเสิร์ฟโดยรวมถึอว่าน่าใจหายมาก ทีมไทยแทบไม่เคยมีเปอร์เซ็นต์รับเสิร์ฟโดยรวมต่ำกว่า 20% แต่มันได้เกิดขึ้นแล้วในแมตช์นี้ คนที่รับเสิร์ฟดีที่สุดคือ สองวิ (18.18%) รองละมาคือ แป้น (13.33%) และ บุ๋มบิ๋ม (13.04%)
3. การเสิร์ฟ
การเสิร์ฟของทีมไทยมาตรฐานต่ำลงไปมากกว่าแมตช์แรกอย่างมีนัยสำคัญ ประสิทธิภาพต่ำลงมากอย่างน่าใจหาย มีคนที่เสิร์ฟพอจะมีประสิทธิภาพอยู่บ้างคือ สองวิ (10%) และบุ๋มบิ๋ม (6.67%) บุ๋มบิ๋มมีเอซถึง 4 ลูก แต่ก็เสิร์ฟเสียไปถึง 3 ลูกเช่นกัน แทบจะหักล้างคะแนนจากการเสิร์ฟเอซไปเลย
คนที่เสิร์ฟดีที่สุดสามคนในนัดแรก อย่าง ยูฟ่า บีม และเตย (17%, 11% และ 10% จากนัดแรก) แทบจะไม่ได้มีโอกาสเปลี่ยนลงมาเสิร์ฟเลย (ยูฟ่าไม่ได้เสิร์ฟสักลูก บีมเสิร์ฟไปลูกเดียว เตยเสิร์ฟไป 2 ลูก จากทั้งแมตช์) ยิ่งทำให้ตอกย้ำว่าทีมสตาฟโค้ชไม่ได้มีการวิเคราะห์และใช้สถิติในการเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อเสริมเกมเสิร์ฟแต่อย่างใด
4. การบุก
ประเด็นแรก MB ไทยได้บุกทั้งสิ้น 15 ครั้งจากทั้งหมด 107 ครั้ง คิดเป็น 14% ซึ่งแทบไม่ได้แตกต่างอะไรเลยจากนัดแรก (13%) แปลว่าทางทีมสตาฟโค้ชไม่ได้ใช้สถิติจากนัดที่แล้ว และไม่ได้เล็งเห็นจุดอ่อนที่ไม่ได้ใช้ MB ทำให้คู่ต่อสู้รอบล็อคหัวเสาเพียงอย่างเดียวก็ปิดเกมรุกของไทยได้อยู่หมัด
ประเด็นที่สอง MB ประสิทธิภาพในการบุกของ MB ไทยต่ำลงอย่าน่าใจหาย โดยเฉพาะแนน (33% นัดเจออเมริกา --> -25% นัดเจอเซอร์เบีย) ส่วนเดียร์ทำได้เพียง 14% ถ้าย้อนไปยุคเจ็ดเซียน มาตรฐานประสิทธิภาพการบุกของ MB ทีมไทยปกติจะสูงกว่า 40%
ประเด็นที่สาม ประสิทธิภาพในการบุกของหัวเสาและบีหลัง สองวิ ทำได้ดีขึ้นจากนัดแรก (จาก 4.17% เป็น 28%) โมเมแม้จะประสิทธิภาพลดลงแต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอใช้ (จาก 42.86% เป็น 22.73%) แต่ที่น่าตกใจคือบุ๋มบิ๋ม (จาก 20.59% เป็น -3.45%) ที่มีลูกเสียเยอะ โดยเฉพาะบอลแก้ ที่เสียแต้มเกือบทั้งหมด และ บีม (จาก 28.12% เป็น -12.5%) ที่ตีออกหลังค่อนข้างมาก
ข้อสังเกต: ออมสินได้รับโอกาสน้อยไปหรือไม่ทั้งในการรับและรุก? เป็นไปได้ไหมที่บีมและโมเมจะสามารถลงสนามพร้อมกัน โดยการโยกโมเมมาหัวเสา? ถ้าดูจากสถิติประสิทธิภาพการบุกทั้งสองนัด โมเมควรยืนเป็นไลน์อัพหลักได้แล้วไหม
สิ่งที่ผมอยากเห็นจากทีมสตาฟโค้ชตอนนี้ ขออย่างเดียว คือขอให้พวกท่านได้โชว์ศักยภาพในการใช้สติปัญญาในการวางแผนและแก้เกม (จากสถิติที่พวกท่านมี ซึ่งละเอียดกว่าสถิติในหน้าเวป FIVB มาก) ซึ่งที่ผ่านมาสองนัด กองเชียร์อย่างพวกเรายังไม่เห็นศักยภาพของพวกท่านเลย
ปล. มีคนอยากให้ผมวิเคราะห์สถิติการบล็อค แต่มันเศร้าใจตรงที่ไทยไม่มีแต้มจากการบล็อคแม้แต่แต้มเดียว แถมประสิทธิภาพในการบล็อคของ MB กับหัวเสามีแต่ 0 หรือติดลบ เลยขอไม่วิเคราะห์ เพราะไม่มีอะไรจะพูดครับ 555