แมวตัวแรกในชีวิต

TW ใครอ่อนไหวเกี่ยวกับน้องสัตว์ไม่แนะนำให้อ่านนะคะ

        เรื่องมันมีอยู่ว่าเราได้ยินเสียงแมวร้องมาหลายคืน ซึ่งแถวบ้านมีแมวจรหรือแมวบ้านอื่นมาวิ่งเล่นไต่หลังคาประจำอยู่แล้วเลยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ครั้งนั้นไม่เหมือนเสียงแมวตัวประจำและคิดว่าน่าจะเป็นลูกแมวตอนเช้าเลยพยายามไปเดินหา 
       
        จนได้ไปเจอน้องนอนคดตัวอยู่โพรงเล็กๆแถวๆกำแพงหลังบ้าน เลยเรียกแม่มาช่วยเอาน้องออกมาจาตรงนั้น น้องตัวเล็กมากกก เลยคิดว่าแม่มันจะมาหาอีกรึเปล่าเพราะท้องน้องดูป่องๆอาจจะยังมีแม่มาให้นมอยู่ แต่ผ่านไปวันครึ่งยังไม่เห็นแม่น้องมาสักที ไปหาข้อมูลในเน็ตก็มีเขียนว่าควรให้นมน้องบลาๆ เราก็สงสารกลัวน้องหิวเลยจะให้นมน้อง แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าน้องคิดนมวัวไม่ได้เลยตัดสินในให้ข้าวคุกปลาไปเลย ดูฟันน้องแล้วน่าจะพอกินได้แล้ว วันต่อมาเลยซื้อนมแพะมาให้น้อง ช่วงนั้นฝนตกทีเกือบทั้งวันเลย คืนหลังจากที่เจอน้องตัวแรกเราก็รู้สึกได้ยินเสียงแมวอยู่ แต่ไม่ใช่ตรงใกล้ๆห้องเราแล้วเสียงมันไกลออกไป พอถึงเช้าเราเลยไปดูตรงกำแพงหน้าบ้าน ตรงนั้นหลกระถางต้นไม้เต็มไปหมดเลยไม่ค่อยเห็นแต่ได้ยินเสียงเลยพยายามหา ฝนก็เริ่มลงเม็ดมาอีกแล้วกลัวน้องหนาว จนเจอตัวแต่น้องจับยากมากน้องไม่ยอมให้จับเลย แต่สุดท้ายก็ได้ตัวน้องมา พอจับได้เราก็รีบเอาน้องมาหลบฝนในบ้าน ก็ได้ทั้งคู่เจอกัน ในตอนนั้นก้เริ่มเอะใจแล้วว่าแม่แมวมาคลอดไว้จริงๆหรือมีมนุษย์ใจร้ายเอาน้องมาปล่อยเพราะถ้าอยู่ตรงนี้นานขนาดนี้ทำไมถึงพึ่งเห็นแล้วอีกอย่างที่ผ่านมาฝนตกนักมากน้องผ่านมันมาได้ยังไง เย็นวันนั้นก็เอาน้องที่เจอหน้าบ้านไปให้ป้าดูแลส่วนอีกตัวอยู่กับเราน้องน่ารักมากมากุกอยู่ที่คอแล้วก็นอนอยู่ตรงนั้น แมวเด็กนี่มันน่ารักจริงๆ เช้ามาอีกวัน พ่อบอกว่าเจอน้องแมวที่หน้าบ้านอีกสองตัวแต่ต้องตายแล้ว แหงสิฝนตกนักขนาดนี้ เราไม่ได้เห็นน้องสองตัวที่ตายเพราะตื่นมาพ่อก็เอาน้องไปฝังเรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นได้แต่คิดว่าถ้าเมื่อวานเราหาดีกว่านี้เราตากฝนอีกนิดหน่อยถ้าเราคิดว่าน่าจะมีอีกตัวน้องจะรอดมั้ย รู้สึกเสร้านิดหน่อยเลยมากอดๆเจ้าเหมียว ซื้ออาหาร ของเล่น ขนม มาให้น้องเยอะเลย แมวตัวแรงของบ้านหลังนี้ บรรยากาศในบ้านก็เริ่มเปลี่ยนไปเพราะน้องเลย ทุกคนในบ้านพูดคุยกันเยอะขึ้น เพราะวันๆเวลาเจอหน้ากันถามหาแต่เจ้าเหมียว ตื่นเช้ามาก็ได้ยินเสียงแม่กับพี่เล่นกับเจ้าเหมียว เราก็ออกจากห้องบ่อยถึงเพื่อไปนั่งเล่นกับน้อง เวลาพี่ชายออกไปข้างน้องก็ซื้อหนมมาให้น้องด้วย เวลาน้องสกปรกพี่ก็อาบน้ำให้ เป็นโมเม้นที่ดูตลกและมีความสุขสุดๆไปเลย รู้สึกว่าชีวิตช่วงนั้นหอมหวานมาก น้องโตมาเป็นแมวส้มที่ดื้อมากกกกกัดเจ็บโคตรๆ แต่ตอนหลับน้องก็โคตรน่ารักมากๆเหมือนกัน น้องหลับเป็นตายตลอด555แบบว่านะปกตินี่จับแทบไม่ได้ เราเลยชอบตัดเล็บให้น้องตอนนอนตลอด …คิดถึงเนอะ
     
         แต่ช่วงเวลาที่มีความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ
 
         สองวันก่อนเรื่องจะเกิดน้องหายออกไปจากบ้านตอนเย็นและกลับมาช่วงเช้ามืดเป็นเวลาสองวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกเพราน้องไม่เคยหายไปนานขนาดนี้ แต่ก็คิดว่าน้องก็คงติดเล่นกับแมวจรนั้นเฉยๆ จากที่น้องไปเล่นข้างนอกตัวน้องก็มอมแมมเราเลยอาน้ำให้ก่อนเรื่องจะเกิดหนึ่งวัน กลิ่นสบู่ รอยฟันน้องที่แขนและรอยเล็บน้องที่ขายังอยู่ในตอนนั้น เช้าสายวันเกิดเรื่อง วันนั้นแม่กับน้าและป้าจะออกไปข้างนอกกัน จู่ๆก็มีเสียงน้าดังนึ้นมาว่า เห้ยรถเยียบแมว ตอนนั้นอยู่ห้องน้ำ ได้ยินแว่วๆไม่ชัดเท่าไหรและก็ไม่ได้คิดอะไรมากด้วย เลยเดินไปที่หน้าบ้าน ภาพที่เห็นคือสายตาแม่น้าและป้ามองไปที่พี่ที่กำลังอุ้มแมวมาจากไต่ล้อรถยนต์ ตอนนั้นเราน้ำตาไหลออกมาทันทีที่เห็นภาพนั้น ลองคิดสภาพเด็กผู้หญิงอายุย่างยี่สิบนั่งร้องไห้กอดแมวดูสิ นั่นคือสภาพเราในตอนนั้นล่ะ เราไม่ได้โกรธพี่เลยที่เป็นคนถอยรถ เราโกรธโชกชะตาที่ทำไมถึงใจร้ายกับเราขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เรามีปมเรื่องเลี้ยงสัตว์และปิดกลั้นตัวเองมาตลอด เพราะตอนเด็กเราก็เห็นน้องหมาถูกล้อรถทับและตายไปกับตาเหมือนกัน มันเลยทำให้จิตใจเราแตกสะลายมากในตอนนั้นจนถึงตอนนี้และตอนที่กำลังเขียนเรื่องนี้อยู่ด้วย หน้าอกมันรัดแน่นจนแทบจะหายใจไม่ออก ได้แต่อ้อนวอนให้รีบเอาน้องไปหาหมอไม่หยุด ทั้งสามคนก็เอาแต่บอกว่ามันไม่ทันแล้ว ให้ทำให้และปล่อยวาง เราจะทำแบบนั้นได้ยังไง ใครมันจะทำได้ เราอุ้มน้องอยู่อย่างนั้นเอามืออีกข้างจับไปที่หัวใจของน้องที่ค่อยๆอ่อนลง ในตอนนั้นเราคิดแค่ว่าแกไม่ได้อยู่คนเดี่ยวนะ ฉันอยู่ตรงนี้ หัวน้องเละไปครึ่งหนึ่งเราคิดว่ามันต้องเจ็บมากแน่ๆ ทรมานมากมั้ย เจ็บมากรึเปล่า ไม่ไปได้มั้ย ไม่ตายได้มั้ย อยู่ด้วยกันอีกหน่อยไม่ได้หรอ ยังไม่ได้เล่น/ทำอะไรหลายๆอย่างด้วยกันเลย ขณะที่คำพูดมากมายไหลเขามาในหัวเราได้แค่ร้องให้และฟังเสียงของหัวใจน้องค่อยๆดับลงบนตักของเรา พอไม่มีการเคลื่อนไหวของชีพจรน้องแล้วเราก็รับรู้ได้แล้วว่าน้องไปแล้ว เจ็บหัวใจไปหมด เราเหมือนจะตายไปด้วยเลย ไม่เคยร้องไห้นักขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ตามันปวดและนักไปหมดเป็นการเสียใจที่รู้สึกว่าทรมานกว่าผ่าตัดขาอีก 
 
        น่าจะได้วิ่งไล่กันอีกนิด น่าจะป้อนขนมแกอีกหน่อยนะ ขอโทษและขอบคุณนะ ขอโทษที่ร้องไห้ทุกครั้งที่คิดถึงขอโทษที่ไม่ได้ดีด้วยจนตอนสุดท้าย ถึงคิดว่าถ้ารอดจะยอมให้กัดจนเลือดออกก็จะไม่ห้ามก็เถอะ พอไม่อยู่แล้วกงคิดอะไรที่เป็นไปไม่ได้ตลอดเลยตลกเนอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่