ตอนนี้ผมมีเพจแล้วนะครับ ไปติดตามกันได้ครับ
https://www.facebook.com/Mr.CoffeeKDramaReview
รีวิวซีรีส์
เรื่องที่ 190 Blood Free มี 10 EP EP ละประมาณ 40-50 นาที / Disney+
หากคุณเป็นคอซีรีส์ไซไฟเกาหลี แล้วได้เห็นพล็อตคร่าวๆ ของเรื่องนี้ รับรองว่าจะต้องไม่ยอมพลาดอย่างแน่นอน กับพล็อตที่ว่าด้วยการที่มีบริษัทที่สามารถสังเคราะห์เนื้อชนิดต่างๆ สำหรับการรับประทาน ยอมรับว่าตอนแรกนี่เดาเลยว่า เดี๋ยวต้องมีเนื้อพวกนี้แปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาดแน่ หากใครเคยอ่านมังงะเก่าเรื่อง BM อสูรพันธุ์เขมือบโลก ผมคิดว่ามาแบบนี้แน่ๆ แต่มันไม่ใช่อ่ะ
เพราะเรื่องนี้ไม่ได้มีสัตว์ประหลาดแต่ประการใด แต่ว่าด้วยการเมืองและเศรษญกิจ เมื่อธุรกิจปศุสัตว์และกสิกรรมอาจล่มสลายเพราะการมาของเนื้อสัตว์และพืชสังเคราะห์ ยอมรับว่าเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องการ "ปลูกเนื้อสัตว์" อยู่บ้าง และเหมือนว่าโลกเราเริ่มทำแบบนี้กันได้แล้ว แต่ยอมรับว่าไม่เคยนึกถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์เลย แต่มันไม่ใช่แค่นั้น ช่วงครึ่งหลังของเรื่องคุณจะได้ทราบว่าจินตนาการขงอเรื่องนี้มันไปได้ไกลแค่ไหน
ด้วยความเป็นไซไฟล้ำๆ ต้องบอกว่ามันล้ำไปซะทุกอย่างจริงๆ บริษัท BF ของนางเอกนี่ดูตอนแรกนึงถึง Umbrella Corporation ใน Resident Evil เสียด้วยซ้ำ เราจึงได้เห็นเทคโนโลยีที่น่าจเป็นอนาคตอันไม่ไกล อีกทั้งเรื่องนี้ก็มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างเยอะด้วย จึงมีเรื่องการแย่งชิงทางธูรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เดี๋ยวก่อน..
หลายท่านอาจจะบอกว่า ตัวอย่างมัน Action กันสนั่นเลยนะครับ ก็ใช่ครับ มี Action เยอะพอสมควร บอกเลยตอน EP สุดท้ายนี่ผมนึกว่าดู John Wick ด้วยซ้ำ แต่วิธีการเล่าเรื่องของเรื่องนี้มันค่อนข้างแปลก ดูจะอืดๆ ซึ่งมันจะเป็นไปได้ยังไงกับซีรีส์แนวนี้ล่ะ
ตรงจุดนี้เลยได้ย้อนไปดูชื่อนักเขียนบท Lee Soo-Yeon ผลงานที่ผ่านมาอย่าง Stranger 1&2 นั้นอยู่ระดับขึ้นหิ้ง ก็ดูไม่น่าเป็นปัญหา แต่พอมาเห็นว่าเรื่องล่าสุดคือ Grid บอกเลยว่าหวั่นใจมากๆ คือถ้าใครเคยดูจะรู้ว่ามันไซไฟแต่เล่าเรื่องไม่รู้เรื่อง มันดึงดูดให้ดูจนจบเพราะอยากรู้แต่คุณจะพบว่ามันจบแบบอีหยังหว่า ซึ่งเสียเวลาชีวิตมาก แล้วทีนี้จะเอายังไงกันดี
ผมก็ยอมรับว่า มันพอดูไปได้เรื่อยๆนะเจ้า Blood Free เนี่ย และไม่ได้ออกทรงจะเละแบบ Grid การที่ได้นักแสดงระดับ ฮันฮโยจู กับ จูจีฮุน มาเล่น ย่อมพอรับประกันได้ว่าจะมีความน่าดูอยู่ แต่อย่าพยายามหวัง Love Line อะไรกันเลย
พอดูจนจบ ผมไม่แน่ใจว่ามันพยายามจบ หรือจะทำภาคต่อ แต่เอาเป็นว่ามครชอบแนวไซไฟ Action คงดูผ่านเรื่องนี้ไปจบจบได้ไม่ยาก และมันดีกว่า Grid เยอะมาก ไม่ต้องไปหวั่นใจใดๆ แต่ถ้าไม่ใช่คอไซไฟ Action ผมว่าอาจไม่โดนสักเท่าไหร่
[CR] [Mr. Coffee รีวิว] Blood Free เมื่อเราสร้างเนื้อสัตว์และพืชไว้กินเองได้ ทำไมถึงมีปัญหาขนาดนี้
https://www.facebook.com/Mr.CoffeeKDramaReview
รีวิวซีรีส์
เรื่องที่ 190 Blood Free มี 10 EP EP ละประมาณ 40-50 นาที / Disney+
หากคุณเป็นคอซีรีส์ไซไฟเกาหลี แล้วได้เห็นพล็อตคร่าวๆ ของเรื่องนี้ รับรองว่าจะต้องไม่ยอมพลาดอย่างแน่นอน กับพล็อตที่ว่าด้วยการที่มีบริษัทที่สามารถสังเคราะห์เนื้อชนิดต่างๆ สำหรับการรับประทาน ยอมรับว่าตอนแรกนี่เดาเลยว่า เดี๋ยวต้องมีเนื้อพวกนี้แปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาดแน่ หากใครเคยอ่านมังงะเก่าเรื่อง BM อสูรพันธุ์เขมือบโลก ผมคิดว่ามาแบบนี้แน่ๆ แต่มันไม่ใช่อ่ะ
เพราะเรื่องนี้ไม่ได้มีสัตว์ประหลาดแต่ประการใด แต่ว่าด้วยการเมืองและเศรษญกิจ เมื่อธุรกิจปศุสัตว์และกสิกรรมอาจล่มสลายเพราะการมาของเนื้อสัตว์และพืชสังเคราะห์ ยอมรับว่าเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องการ "ปลูกเนื้อสัตว์" อยู่บ้าง และเหมือนว่าโลกเราเริ่มทำแบบนี้กันได้แล้ว แต่ยอมรับว่าไม่เคยนึกถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์เลย แต่มันไม่ใช่แค่นั้น ช่วงครึ่งหลังของเรื่องคุณจะได้ทราบว่าจินตนาการขงอเรื่องนี้มันไปได้ไกลแค่ไหน
ด้วยความเป็นไซไฟล้ำๆ ต้องบอกว่ามันล้ำไปซะทุกอย่างจริงๆ บริษัท BF ของนางเอกนี่ดูตอนแรกนึงถึง Umbrella Corporation ใน Resident Evil เสียด้วยซ้ำ เราจึงได้เห็นเทคโนโลยีที่น่าจเป็นอนาคตอันไม่ไกล อีกทั้งเรื่องนี้ก็มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างเยอะด้วย จึงมีเรื่องการแย่งชิงทางธูรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เดี๋ยวก่อน..
หลายท่านอาจจะบอกว่า ตัวอย่างมัน Action กันสนั่นเลยนะครับ ก็ใช่ครับ มี Action เยอะพอสมควร บอกเลยตอน EP สุดท้ายนี่ผมนึกว่าดู John Wick ด้วยซ้ำ แต่วิธีการเล่าเรื่องของเรื่องนี้มันค่อนข้างแปลก ดูจะอืดๆ ซึ่งมันจะเป็นไปได้ยังไงกับซีรีส์แนวนี้ล่ะ
ตรงจุดนี้เลยได้ย้อนไปดูชื่อนักเขียนบท Lee Soo-Yeon ผลงานที่ผ่านมาอย่าง Stranger 1&2 นั้นอยู่ระดับขึ้นหิ้ง ก็ดูไม่น่าเป็นปัญหา แต่พอมาเห็นว่าเรื่องล่าสุดคือ Grid บอกเลยว่าหวั่นใจมากๆ คือถ้าใครเคยดูจะรู้ว่ามันไซไฟแต่เล่าเรื่องไม่รู้เรื่อง มันดึงดูดให้ดูจนจบเพราะอยากรู้แต่คุณจะพบว่ามันจบแบบอีหยังหว่า ซึ่งเสียเวลาชีวิตมาก แล้วทีนี้จะเอายังไงกันดี
ผมก็ยอมรับว่า มันพอดูไปได้เรื่อยๆนะเจ้า Blood Free เนี่ย และไม่ได้ออกทรงจะเละแบบ Grid การที่ได้นักแสดงระดับ ฮันฮโยจู กับ จูจีฮุน มาเล่น ย่อมพอรับประกันได้ว่าจะมีความน่าดูอยู่ แต่อย่าพยายามหวัง Love Line อะไรกันเลย
พอดูจนจบ ผมไม่แน่ใจว่ามันพยายามจบ หรือจะทำภาคต่อ แต่เอาเป็นว่ามครชอบแนวไซไฟ Action คงดูผ่านเรื่องนี้ไปจบจบได้ไม่ยาก และมันดีกว่า Grid เยอะมาก ไม่ต้องไปหวั่นใจใดๆ แต่ถ้าไม่ใช่คอไซไฟ Action ผมว่าอาจไม่โดนสักเท่าไหร่
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้