ส่วนตัว เป็นคนที่ตามข่าวเรื่องมิจฉาชีพหลอกลวงรูปแบบต่างๆ มาตลอด และเข้าใจว่าตัวเองมี "ภูมิคุ้มกัน" พอสมควร
แต่มันไม่จริงเลย มิจฉาชีพเปลี่ยนรูปแบบ และเนียนขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าตกใจ
เรื่องเกิดประมาณกลางปีที่แล้ว วันหนึ่งได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงสาว ฟังจากเสียงอายุน่าจะช่วง 30-40 ปี
บอกว่า คุณมีห้องชุด (คอนโด) 1 ห้อง เลขที่ xxxx อยู่ที่ xxx
คุณหมายเลขประชาชน xxxx ชื่อ xxxx ที่อยู่ xxxx
ทางเราได้ส่งจดหมายแจ้งไปให้คุณมาติดต่อเกี่ยวกับเรื่องภาษีของห้องชุด แต่คุณไม่มาติดต่อเลย จะหมดเขตการติดต่อแล้ว
(ตามที่แจ้งคือ เหลือเวลาอีกสองวัน)
เราเชื่อสนิท เพราะมิจฉาชีพบอกข้อมูลถูกหมดเลย
และเรากำลังต้องไปจ่ายภาษีที่ดินของห้องชุดห้องนั้น เพราะไม่ย้ายชื่อไปอยู่ในทะเบียนบ้านของห้องชุด
ก็ตอบว่า เรายังไม่ได้รับจดหมายเลย แล้วตอนนี้ เราก็มาอยู่ต่างจังหวัดกับญาติ ไม่สะดวกกลับไปดำเนินการ
มิจฉาชีพบอกว่า
ขอให้คุณมาติดต่อที่กรมที่ดิน เพื่อยืนยันการใช้ประโยชน์จากห้องชุดดังกล่าว ว่าใช้อยู่อาศัยเอง หรือให้เช่า
จะได้คำนวณภาษีได้ถูกต้อง
จะมาที่กรมที่ดินก็ได้ ถ้าไม่สะดวกจะแจ้งทางไลน์ก็ได้
เราตอบว่า เราจะไปที่กรมภายในสัปดาห์หน้า
มิจฉาชีพบอกว่า
สัปดาห์หน้าถือวาาไม่ทันตามเวลาที่กำหนด ควรมาภายในสองวันนี้
ถ้าจะไปที่กรมที่ดิน มีคิวแค่วันละ 50 คิวต้องไปเช้าหน่อย
ถ้าไม่สะดวกจะแอดไลน์ และจะดำเนินการให้ ใช้เวลาไม่นาน
ถึงตรงนี้เราเฉลียวใจขึ้นมานิดๆ ทำไมต้องแอดไลน์ ทำไม ทำไม
แต่มิจฉาชีพไม่ได้เร่งเร้าอะไร ทำให้เราก็ยังเชื่ออยู่
เลยแจ้งว่า เรามีห้องชุดนี้เพื่ออยู่อาศัยเอง ขอแจ้งรายละเอียดทางโทรศัพท์นะ ไม่สะดวกแอดไลน์
มิจฉาชีพยืนยันว่า ต้องแจ้งทางไลน์เท่านั้น จะได้มีหลักฐาน
เราเลยตัดบทว่า งั้นเราจะไปที่กรมดีกว่า เดี๋ยวจะไปในสัปดาห์หน้า ถ้าเกินกำหนด ยินดีเสียค่าปรับ
มิจฉาชีพก็ไม่ได้ตื๊ออะไรเลย ก็บอกรายละเอียดว่ากรมอยู่ที่ไหน ชั้นไหน
แล้ววางสายไป
ยอมรับว่า มิจฉาชีพนิ่งมาก ไม่ยื้อ ไม่เร่งเร้าอะไร เฉื่อยๆ แบบอยากมาก็มา ฉันก็แค่ทำตามหน้าที่ อารมณ์ประมาณนั้น
และเหตุการณ์ก็เงียบไป เราเองกะว่ากลับจากต่างจังหวัดจะไปที่กรมที่ดิน แต่พอมาค่อยๆ คิดก็แปลกใจนิดๆ
เพราะกรมที่ดินไม่น่าเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี ตามกฎหมายน่าจะเป็นกรมสรรพากร เราก็รู้แค่งูๆ ปลาๆ ไม่มั่นใจนัก
แต่สัปดาห์ถัดมาเราลองโทรสอบถามไปที่กรมที่ดิน
ก็ได้รับทราบว่า โดนมิจฉาชีพเข้าแล้ว กรมที่ดินไม่มีหน้าที่แบบนั้น และประชาชนโดนกันหลายรายแล้ว
หลังจากนั้นไม่กี่วัน เราก็ได้ข่าวว่ามีผู้ประกาศข่าวคนนึง โดนมิจฉาชีพในรูปแบบคล้ายคลึงกับเรา
ปชผู้ประกาศข่าวโดนดูดเงินไปหลักล้านบาท
เรายังคิดว่า เราเองก็เกือบไปเหมือนกัน มันเนียนมากจริงๆ เกือบไปแล้วไหมล่ะ
ใครมีประสบการณ์เหล่านี้ ลงแลกเปลี่ยนไว้เป็นความรู้หน่อยนะคะ
ขอเล่าเรื่องที่ “เกือบ” พลาดท่าให้กับมิจฉาชีพ ที่มาเนียนๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นสักเล็กน้อยก็ยังดี
แต่มันไม่จริงเลย มิจฉาชีพเปลี่ยนรูปแบบ และเนียนขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าตกใจ
เรื่องเกิดประมาณกลางปีที่แล้ว วันหนึ่งได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงสาว ฟังจากเสียงอายุน่าจะช่วง 30-40 ปี
บอกว่า คุณมีห้องชุด (คอนโด) 1 ห้อง เลขที่ xxxx อยู่ที่ xxx
คุณหมายเลขประชาชน xxxx ชื่อ xxxx ที่อยู่ xxxx
ทางเราได้ส่งจดหมายแจ้งไปให้คุณมาติดต่อเกี่ยวกับเรื่องภาษีของห้องชุด แต่คุณไม่มาติดต่อเลย จะหมดเขตการติดต่อแล้ว
(ตามที่แจ้งคือ เหลือเวลาอีกสองวัน)
เราเชื่อสนิท เพราะมิจฉาชีพบอกข้อมูลถูกหมดเลย
และเรากำลังต้องไปจ่ายภาษีที่ดินของห้องชุดห้องนั้น เพราะไม่ย้ายชื่อไปอยู่ในทะเบียนบ้านของห้องชุด
ก็ตอบว่า เรายังไม่ได้รับจดหมายเลย แล้วตอนนี้ เราก็มาอยู่ต่างจังหวัดกับญาติ ไม่สะดวกกลับไปดำเนินการ
มิจฉาชีพบอกว่า
ขอให้คุณมาติดต่อที่กรมที่ดิน เพื่อยืนยันการใช้ประโยชน์จากห้องชุดดังกล่าว ว่าใช้อยู่อาศัยเอง หรือให้เช่า
จะได้คำนวณภาษีได้ถูกต้อง
จะมาที่กรมที่ดินก็ได้ ถ้าไม่สะดวกจะแจ้งทางไลน์ก็ได้
เราตอบว่า เราจะไปที่กรมภายในสัปดาห์หน้า
มิจฉาชีพบอกว่า
สัปดาห์หน้าถือวาาไม่ทันตามเวลาที่กำหนด ควรมาภายในสองวันนี้
ถ้าจะไปที่กรมที่ดิน มีคิวแค่วันละ 50 คิวต้องไปเช้าหน่อย
ถ้าไม่สะดวกจะแอดไลน์ และจะดำเนินการให้ ใช้เวลาไม่นาน
ถึงตรงนี้เราเฉลียวใจขึ้นมานิดๆ ทำไมต้องแอดไลน์ ทำไม ทำไม
แต่มิจฉาชีพไม่ได้เร่งเร้าอะไร ทำให้เราก็ยังเชื่ออยู่
เลยแจ้งว่า เรามีห้องชุดนี้เพื่ออยู่อาศัยเอง ขอแจ้งรายละเอียดทางโทรศัพท์นะ ไม่สะดวกแอดไลน์
มิจฉาชีพยืนยันว่า ต้องแจ้งทางไลน์เท่านั้น จะได้มีหลักฐาน
เราเลยตัดบทว่า งั้นเราจะไปที่กรมดีกว่า เดี๋ยวจะไปในสัปดาห์หน้า ถ้าเกินกำหนด ยินดีเสียค่าปรับ
มิจฉาชีพก็ไม่ได้ตื๊ออะไรเลย ก็บอกรายละเอียดว่ากรมอยู่ที่ไหน ชั้นไหน
แล้ววางสายไป
ยอมรับว่า มิจฉาชีพนิ่งมาก ไม่ยื้อ ไม่เร่งเร้าอะไร เฉื่อยๆ แบบอยากมาก็มา ฉันก็แค่ทำตามหน้าที่ อารมณ์ประมาณนั้น
และเหตุการณ์ก็เงียบไป เราเองกะว่ากลับจากต่างจังหวัดจะไปที่กรมที่ดิน แต่พอมาค่อยๆ คิดก็แปลกใจนิดๆ
เพราะกรมที่ดินไม่น่าเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี ตามกฎหมายน่าจะเป็นกรมสรรพากร เราก็รู้แค่งูๆ ปลาๆ ไม่มั่นใจนัก
แต่สัปดาห์ถัดมาเราลองโทรสอบถามไปที่กรมที่ดิน
ก็ได้รับทราบว่า โดนมิจฉาชีพเข้าแล้ว กรมที่ดินไม่มีหน้าที่แบบนั้น และประชาชนโดนกันหลายรายแล้ว
หลังจากนั้นไม่กี่วัน เราก็ได้ข่าวว่ามีผู้ประกาศข่าวคนนึง โดนมิจฉาชีพในรูปแบบคล้ายคลึงกับเรา
ปชผู้ประกาศข่าวโดนดูดเงินไปหลักล้านบาท
เรายังคิดว่า เราเองก็เกือบไปเหมือนกัน มันเนียนมากจริงๆ เกือบไปแล้วไหมล่ะ
ใครมีประสบการณ์เหล่านี้ ลงแลกเปลี่ยนไว้เป็นความรู้หน่อยนะคะ