อยากถามว่าคนที่เคยเป็นโรคซึมเศร้ารักษาหายแล้ว ถ้ากลับมาเป็นอีกเราจะรู้ตัวเร็วมั้ยว่าเรากลับมาเป็นอีก

เนื่องจากเคยเป็นโรคซึมเศร้าช่วงม.ปลายรักษาหายช่วงปัจฉิมพอดี ช่วงแรกๆที่หมอให้หยุดยา รู้สึกเีมาก และพยายามจะไม่กลับไปเป็นอีก เพราะช่วงที่เป็นมันทรมานมาก แต่ช่วงนี้พึ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย เริ่มทำงานในบริษัทบัญชี ทำบุคคลากรส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และหัวหน้าทีมทุกทีมเป็นหญิงสูงวัยที่เป็นโสดอายุ50+ บรรยากาศในการทำงานค่อยข้างน่าอึดอัด เอกสารเยอะจนรก แทบจะไม่มีทางเดิน ไม่มีหน้าต่างให้เห็นโลกภายนอก อาทิตย์แรกที่มาทำงาน ไม่ได้แย่เท่าไหร่ ทุกอย่างเหมือนจะดี จนกระทั่ง หัวหน้าทีมเริ่มพูดลอยๆให้รู้ว่ากำลังตำหนิเราอยู่ เช่นเรื่องที่ไม่ไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งวันนั้นผู้จัดการ(เจ้าของบริษัท)เลี้ยงข้าวกลางวันโดยให้เงินไปกินบุพเฟ่ต์ขนมจีน (ส่วนตัวเป็นคนไม่กินขนมจีนเพราะว่าที่บ้านขาย แค่ได้ยินชื่อก็เบื่อแล้วอ่ะ) ก็เลยปฏิเสธไป โดยให้เหตุผลว่าจะไปกินข้าวกับเพื่อน(เพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันและได้ทำงานที่เดียวกัน) หัวหน้าก็พูดสวนขึ้นมาเลยว่า จะติดเพื่อนอะไรขนาดนั้น จากที่เราจะอธิบายต่อว่าไม่ไปเพราะอะไร เราก็รู้สึกว่าไม่อยากอธิบายอะไรแล้ว เพราะไม่รู้จะอธิบายคนที่ตัดสินเราไปแล้วทำไม วันต่อมาหัวหน้าก็เดินมาคุยด้วยว่า อย่าทำเหมือนว่าทั้งโลกมีกันอยู่แค่สามคน แล้วก็เดินจากไป 
ส่วนเรื่องที่สองที่ได้ทำการทดลองแล้วว่าเพราะอะไรถึงโดน คืออยู่ช่วงหนึ่ง พอเราทำงานของตัวเองเสร็จเราก็กลับ (ประมาณ6โมง ตอนตกลงงานกันบอกว่าเลิกงาน 5โมง) เพราะอยู่ต่อก็ไม่มีประโยชน์อะไร จะให้นั่งดู YouTube ทั้งวันเหมือนหัวหน้ามันก็ไม่ได้ (ปกติหัวหน้ากลับบ้านตอน2ทุ่มเพราะถ้าอยู่เกิน2ทุ่มจะได้โบนัส ช่วงปิดงบจะอยู่ถึง4ทุ่ม) จนมีอยู่วันหนึ่ง เราทำงานใกล้เสร็จแล้วเหลืออีกนิดเดียว ตอนนั้นเวลาประมาณ18:30 เพื่อนก็จะกลับแล้วเพื่อนก็มาเรียก เพราะอยู่หอพักที่เดียวกันแล้วมาทำงานด้วยกัน เราเลยหยุดทำงานที่เหลือแล้วกลับ วันต่อมา โต๊ะเรามันไม่เหมือนเมื่อวานงานเราไม่อยู่ที่เดิม แล้วหัวหน้าก็เดินมาบอกว่า เราต้องแอคทีฟมากขึ้น แล้วก็เดินจากไป เราก็คิดว่า เราน่าจะทำงานช้าเกินไป เราก็เร่งสปีดขึ้น พอมาสักพักใหญ่ๆ ผู้จัดการก็เรียกเราไปคุยด้วย(ผู้จัดการเป็นคนรับเราเข้ามาทำงานเอง) เขาก็เรียกไปคุยเรื่องที่เราไม่ค่อยพูด(ปกติเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้วถ้าไม่สนิทจริงก็ไม่รู้ว่าต้องคุยกับคนอื่นเรื่องอะไรยังไงเลยไม่ค่อยพูด) เรื่องงานถ้าเราสงสัยเราก็ถามตามปกติ จนมีอยู่วันหนึ่งเขาไปถามงานกับหัวหน้าแล้วเหมือนว่าเราสื่อสารไม่ตรงกัน (หัวหน้าพูดแต่ภาษาถิ่น) จนงานเกิดข้อผิดพลาด เราก็เอากลับมาแก้ ก็นึกว่ามันจะจบ แต่มันไม่จบเพราะหัวหน้าก็พูดขึ้นมาเรื่อยๆพูดขึ้นมาลอยๆว่า เวลาทำงานเราต้องพูด พูดเยอะๆจะได้ไม่เครียด คิดอะไรก็พูด เราก็อยู่เฉยๆของเราต่อไป จนเรื่องไปถึงหูผู้จัดการ ส่วนอีกเรื่องที่ผู้จัดการขอ คือขอให้กลับบ้านช้าลง ขอมาเราก็ทำให้ได้ เราก็กลับ2ทุ่ม-3ทุ่ม จนเมื่อวานเราของกลับเร็วเพราะมีธุระต้องไปทำ งานเราก็ทำเสร็จแล้ว กลับเร็วคือ 18:20 เช้ามา หัวหน้าก็พูดผ่านพี่เลี้ยงมาอีกทีทั้งๆที่เราก็อยู่ตรงนั้น บอกให้เราเร่งมืออีกนิดดดนึง จะให้เร่งอะไร เพราะงานที่รับผิดชอบอยู่ไม่มีอะไรให้ทำแล้วรอแค่ statement เดือนธันวาคมจากลูกค้า ถ้าอยากเร่งก็ควรจะไปเร่งที่ลูกค้า เพราะหัวหน้าเป็นคนที่คุยกับลูกค้า แล้วงานที่ทำในทุกวันส่วนใหญ่เป็นงานของพี่เลี้ยง พอพี่เลี้ยงสั่งงานก็กลับ พอเราทำเสร็จเราก็ไม่มีงานให้ทำต่ออยู่ดี คือมันมีอีกหลายอย่างที่เขาพูดบั่นทอนจิตใจเราอยู่ตลอด จนเพื่อนเป็นห่วงกลัวว่าเราจะกลับไปเป็นซึมเศร้าอีก แต่ที่บ้านบอกให้เราทนต่อ โดยปกติที่ทำงานเป็นแบบเป็นปกติหรือว่าไม่ปกติ เคยทำพาร์ทไทม์ที่ร้านอาหาร ไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกแย่เลย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่