โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก จะมาพร้อมกับอากาศที่ร้อนจัดจนทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทันเมื่อความร้อนในร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส สมองส่วนควบคุมอุณหภูมิของร่างกายจะเกิดความผิดปกติ จนส่งผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิตและระบบสมองสำหรับกลุ่มเสี่ยงของโรคนี้ ได้แก่
🌥️ ผู้ที่ต้องทำงานกลางแดดหรือออกกำลังกายกลางแดดเป็นเวลานาน
🌥️ กลุ่มคนที่เป็นโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน
🌥️ กลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งร่างกายจะระบายความร้อนได้ไม่ดีเหมือนวัยหนุ่มสาว
🌥️ ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน
🌥️ ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
🌥️ ผู้ที่ทำงานในห้องแอร์เย็น ๆ แล้วต้องออกมาเจออากาศร้อนจัด อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน
🌥️ ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะร่างกายจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากกว่าปกติ
สัญญาณเตือนที่สำคัญของโรคฮีทสโตรกที่สามารถสังเกตได้
เริ่มจากเมื่อมีอากาศร้อนแต่ไม่มีเหงื่อออก หน้าแดง ตัวร้อนจัด กระหายน้ำ วิงเวียน ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หายใจเร็ว กล้ามเนื้อเกร็ง มึนงง มีอาการชัก รูม่านตาขยาย ความรู้สึกตัวน้อยลง จนหมดสติหากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกต้อง อาจทำให้หัวใจหยุดเต้นและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ซึ่งการช่วยเหลือ
การช่วยเหลือเบื้องต้น
🌥️ พาผู้ป่วยเข้าร่ม นอนราบ ยกเท้าสูง
🌥️ ปลดหรือคลายเสื้อผ้าที่รัดแน่นออก
🌥️ ใช้ผ้าชุบน้ำประคบตามตัว และใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน
🌥️ รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล
ดูแลตัวเองให้ห่างไกล ฮีทสโตรก
🌥️ ผู้ที่มีความเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการต้องทำงานที่อยู่กลางแดดจัดเป็นเวลานาน
🌥️ ไม่ควรออกกำลังกายกลางแดดแต่เลือกออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือเย็นแทน
🌥️ หลีกเลี่ยงไปอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด
🌥️ ไม่ควรให้เด็ก ผู้สูงอายุ อยู่ในรถที่จอดรถทิ้งไว้กลางแจ้งเป็นเวลานาน
🌥️ ในช่วงฤดูร้อนควรมีอุปกรณ์ป้องกันแสงแดด เช่น หมวกหรือร่ม เลือกเสื้อผ้าที่โปร่ง ไม่หนา มีสีอ่อน จะช่วยระบายความร้อนได้ดี
🌥️ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว และดื่มน้ำระหว่างวันแม้จะไม่กระหายน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นและลดอุณหภูมิในร่างกาย
🌥️ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
หากพบว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ขอให้รีบมาพบแพทย์ทันทีเพื่อลดความเสี่ยงในการเสียชีวิต
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-734-0000 ต่อ 5400
สัญญาณเตือน ฮีทสโตรก โรคอันตรายที่มากับหน้าร้อน
🌥️ ผู้ที่ต้องทำงานกลางแดดหรือออกกำลังกายกลางแดดเป็นเวลานาน
🌥️ กลุ่มคนที่เป็นโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน
🌥️ กลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งร่างกายจะระบายความร้อนได้ไม่ดีเหมือนวัยหนุ่มสาว
🌥️ ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน
🌥️ ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
🌥️ ผู้ที่ทำงานในห้องแอร์เย็น ๆ แล้วต้องออกมาเจออากาศร้อนจัด อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน
🌥️ ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะร่างกายจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากกว่าปกติ
สัญญาณเตือนที่สำคัญของโรคฮีทสโตรกที่สามารถสังเกตได้
เริ่มจากเมื่อมีอากาศร้อนแต่ไม่มีเหงื่อออก หน้าแดง ตัวร้อนจัด กระหายน้ำ วิงเวียน ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หายใจเร็ว กล้ามเนื้อเกร็ง มึนงง มีอาการชัก รูม่านตาขยาย ความรู้สึกตัวน้อยลง จนหมดสติหากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกต้อง อาจทำให้หัวใจหยุดเต้นและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ซึ่งการช่วยเหลือ
การช่วยเหลือเบื้องต้น
🌥️ พาผู้ป่วยเข้าร่ม นอนราบ ยกเท้าสูง
🌥️ ปลดหรือคลายเสื้อผ้าที่รัดแน่นออก
🌥️ ใช้ผ้าชุบน้ำประคบตามตัว และใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน
🌥️ รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล
ดูแลตัวเองให้ห่างไกล ฮีทสโตรก
🌥️ ผู้ที่มีความเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการต้องทำงานที่อยู่กลางแดดจัดเป็นเวลานาน
🌥️ ไม่ควรออกกำลังกายกลางแดดแต่เลือกออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือเย็นแทน
🌥️ หลีกเลี่ยงไปอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด
🌥️ ไม่ควรให้เด็ก ผู้สูงอายุ อยู่ในรถที่จอดรถทิ้งไว้กลางแจ้งเป็นเวลานาน
🌥️ ในช่วงฤดูร้อนควรมีอุปกรณ์ป้องกันแสงแดด เช่น หมวกหรือร่ม เลือกเสื้อผ้าที่โปร่ง ไม่หนา มีสีอ่อน จะช่วยระบายความร้อนได้ดี
🌥️ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว และดื่มน้ำระหว่างวันแม้จะไม่กระหายน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นและลดอุณหภูมิในร่างกาย
🌥️ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
หากพบว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ขอให้รีบมาพบแพทย์ทันทีเพื่อลดความเสี่ยงในการเสียชีวิต
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้