ที่มาข่าวhttps://www.khaosod.co.th/update-news/news_8192712#google_vignette
เดือนหน้าจะหมดวาระ "สว." ทิ้งทวน ใช้งบ 81 ล้าน บินดูงานยุโรปฉ่ำ ยันไม่ได้ไปเที่ยว
เดือนหน้าจะหมดวาระ “สว.” ทิ้งทวน ใช้งบ 81 ล้าน บินดูงานยุโรปฉ่ำ ‘บุญสร้าง’ ยันไม่ได้ไปเที่ยว ด้าน ‘เสรี’ จวกเตือนแล้วไม่ฟัง ทำไมไม่ใช้เงินส่วนตัว
วันที่ 18 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงความเคลื่อนไหวของวุฒิสภา (สว.) ที่จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือน พ.ค.นี้ ปรากฏว่า สำนักงานเลขาวุฒิสภา ได้รับการจัดสรรงบประมาณร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 รายการค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปดูงานไปประชุมทวิภาคและไปเยือนต่างประเทศของคณะกรรมาธิการ(กมธ.) จำนวน 81 ล้านบาท
Lobster_Noodles_in_Tom_Yum_Soup
จากการตรวจสอบปรากฏว่ามี กมธ.สามัญ วุฒิสภา หลายคณะ มีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศโดยอ้างว่าไปศึกษาดูงาน เช่น กมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐ ที่มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน โดยมีกำหนดการเดินทางไปประชุมทวิภาคีและไปเยือนต่างประเทศ ณ สาธารณรัฐ คาซัคสถาน และจอร์เจีย ในระหว่างวันที่ 2-9 พ.ค.
กมธ.ท่องเที่ยว ที่มี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เป็นประธาน มีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐโครเอเชีย มอนเตเนโกร และบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ระหว่างวันที่ 14-23 พ.ค.
กมธ.แรงงาน ที่มี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็นประธาน มีกำหนดการเยือนนิวซีแลนด์ ระหว่างวันที่ 26 เม.ย.-3 พ.ค. โดยเดินทางร่วมกับกมธ.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม วุฒิสภา ที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เป็นประธาน
ส่วน กมธ.การศึกษา ที่มีนายตวง อันทะไชย เป็นประธาน มีกำหนดการเดินทางเยือนเมืองกุ้ยหลิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 11 -16 พ.ค. และเดินทางเยือนสาธารณรัฐฟินแลนด์ ราชอาณาจักร สวีเดน และสาธารณรัฐเอสโตเนีย
ในส่วนการเดินทางไปประชุมทวิภาคีและศึกษาดูงาน ณ สาธารณรัฐฟินแลนด์ ราชอาณาจักรสวีเดน และสาธารณรัฐเอสโตเนีย ระหว่างวันที่ 27 พ.ค. – 3 มิ.ย. โดยกมธ.ได้รับเชิญจากกองทุน Robbo ให้ไปศึกษาดูงาน ด้านการศึกษา และการวิจัยที่มุ่งเน้นนวัตกรรมด้านหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ณ Aalto University และศึกษาดูงานการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษา
ขณะที่ กมธ.กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ กำลังพิจารณาเตรียมความพร้อมในการเดินทางไปประชุมทวิภาคี ณ สาธารณรัฐออสเตรีย สาธารณรัฐสโลวีเนีย และสาธารณรัฐโครเอเชีย
กมธ.ติดตาม เสนอแนะและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ มีกำหนดเยือนประเทศเยอรมัน เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และสวีเดน ระหว่างวันที่ 19-30 เม.ย. นี้
ทั้งนี้ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ สว. ประธานกมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐชี้แจงว่า การเดินทางไปต่างประเทศของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ เขาไปได้ เพราะเป็นการใช้งบประมาณเพื่อหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคต ไม่ได้มากมายอะไร เพียงแต่จำนวนคนมันเยอะ ไม่ใช่เรื่องทุจริตอะไร ตนมองว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว คนปกติทั่วไปเขาไม่คิดอะไร เพราะเป็นงบปกติมาตั้งนานแล้ว ช่วงโควิดก็ไม่ได้มีการเบิกใช้ ดังนั้นอย่ามองว่าพวกเราไปเที่ยวทิ้งทวน
“ที่ผ่านมาสว.ไม่อยากไปดูงานต่างประเทศก็เพราะกลัวข้อครหาเช่นนี้ ทำให้เวลาพิจารณาออกกฎหมาย บางทีก็ออกมาอย่างห่วยๆ ไม่มีข้อมูลไม่ดูของจริง งบประมาณดังกล่าวเป็นงบไปสร้างทวิภาคี กับประเทศต่างๆ โดยการพบปะกับ สว. แต่ละประเทศ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน” พล.อ.บุญสร้าง กล่าว
เมื่อถามว่า สว.ชุดนี้จะหมดวาระในเดือน พ.ค.นี้ การไปหาข้อมูลต่างประเทศจะนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า มนุษย์เราไม่ใช่จะหาวันนี้แล้วได้ใช้พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ข้อมูลที่จะนำมาเป็นการสร้างความรอบรู้ ที่จะใช้ในอนาคต เป็นการลงทุนด้านสติปัญญาที่สามารถทำได้ทั้งชีวิต ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องไปเที่ยว เราเน้นไปดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์จริงๆ บางคนอายุ 70-80 ปี เขาไม่ได้อยากไปเที่ยว
“ผมเชื่อว่าเราสามารถชี้แจงสังคมได้ เราไม่ได้เห็นแก่เงินหรือเห็นแก่กิน วัยนี้ก็อยากอยู่กับลูกกับหลาน แม้บางคนสังขารจะไม่ไหวแต่สมองก็ยังดีทำงานได้ ยืนยันว่าพวกเราไปทำงานจริงๆ ไม่ได้ไปเที่ยว”
“คณะของผมไปดูงานที่จอร์เจีย กำหนดเป็นเวลา 9 วัน และในรอบ 5 ปี เราเดินทางไปดูงานต่างประเทศเพียง 2 ครั้ง คิดเป็น 1% เท่านั้น จะบอกว่าพวกเราแก่แล้วไม่ต้องไปมันไม่ได้ เพราะคนแก่สมองยังใช้งานได้”พล.อ.บุญสร้างกล่าว
ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยมานานแล้ว และไม่เห็นด้วยมาตลอด แต่การเดินทางไปดูงานต่างประเทศครั้งนี้ไม่ได้ไปทั้งหมดมีเพียงบางคณะ บางคนก็ไม่ไป และได้ส่งเงินคืนคลังไปแล้ว เช่น ตน นายสถิต ลิ่มพงษ์พันธ์ นายคำนูณ สิทธิสมาน สว. เป็นต้น
นายเสรี กล่าวต่อว่า เหตุที่ตนไม่เห็นด้วยเพราะเข้าใจว่าเป็นการเมืองที่ต้องระมัดระวัง การใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน เมื่อเราจะตรวจคนอื่นไม่ให้ใช้เงินฟุ่มเฟือย เราก็ต้องทำเป็นตัวอย่าง ซึ่งตนยืนยันหลักการนี้มาตลอด
นายเสรี กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุผลว่าไปดูงานนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะสว.จะหมดวาระเดือนหน้านี้แล้ว จะไปดูอะไร ตอนตนทำรายงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศเคยเสนอว่าควรจะยกเลิกการตั้งงบประมาณให้สว.ไปดูงานต่างประเทศ ซึ่งมีบางส่วนที่เห็นด้วย แต่บางส่วนก็ไม่เห็นด้วย สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป
“เมื่อสว.ชุดนี้เข้ามาใหม่ๆ ผมก็เคยเสนอว่าไม่ควรไปดูงานต่างประเทศ แม้จะอ้างว่าได้ประโยชน์อะไรก็ตามแต่สังคมข้างนอกเขามองว่าเราไปเที่ยว ไม่ได้มองว่าไปดูงานจริง แล้วเราจะทำทำไม แต่ปัญหาคือเมื่อมีการตั้งงบประมาณให้เขา เขาก็เอาไปใช้แล้วเราจะไปตั้งให้ทำไม ประเพณีนี้ควรจะเลิกได้แล้ว เพราะคนเขาด่าทุกปี ดังนั้นใครจะไปก็ต้องระวังและเป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องชี้แจงกันเอาเอง ให้สังคมเข้าใจด้วยว่ามีสว.ไม่ได้ไปด้วย ไม่ใช่เหมารวมหมด”
นายเสรี กล่าวต่อว่า ส่วนที่อ้างว่า สว.ทำงานมา 5 ปีไม่ได้เดินทางไปไหนเลย โดยเฉพาะในช่วงโควิด เรื่องนี้ไม่เกี่ยว ไม่ต้อง 5 ปีหรอก ทำงานตลอดชีวิตก็ไม่ควรเอาเงินประเทศไปใช้ หากอยากจะไปก็ควรใช้เงินส่วนตัว ไม่มีใครเขาว่า เป็นสว.มีเงินเดือนเยอะแยะก็ควรจะเอาเงินส่วนตัวไปจะได้ไม่เป็นขี้ปากชาวบ้าน
“ปัญหามันอยู่ที่ว่ามีการเอาเงินภาษีประชาชนไปใช้ ยิ่งไปตอนช่วงจะหมดวาระแบบนี้ยิ่งเป็นปัญหาหลัก ผมเคยเตือนไปแล้วว่าจะโดนตรวจสอบและเป็นประเด็น แต่เขาไม่สนใจก็เลยปล่อยไป อุตส่าห์พยายามให้ภาพ สว.ชุดนี้มันดี ด้วยการเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ให้เห็นว่าสว.ยังมีประโยชน์ แต่มาเกิดเรื่องนี้ขึ้น ก็ระมัดระวังกันเองแล้วกัน” นายเสรี กล่าว
แฉคนดีรักชาติจนน้ำลายไหลพวก ลุงตู่เบิกเงินแผ่นดิน81ล้านดูงานยุโรปก่อนหมดวาระ
เดือนหน้าจะหมดวาระ "สว." ทิ้งทวน ใช้งบ 81 ล้าน บินดูงานยุโรปฉ่ำ ยันไม่ได้ไปเที่ยว
เดือนหน้าจะหมดวาระ “สว.” ทิ้งทวน ใช้งบ 81 ล้าน บินดูงานยุโรปฉ่ำ ‘บุญสร้าง’ ยันไม่ได้ไปเที่ยว ด้าน ‘เสรี’ จวกเตือนแล้วไม่ฟัง ทำไมไม่ใช้เงินส่วนตัว
วันที่ 18 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงความเคลื่อนไหวของวุฒิสภา (สว.) ที่จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือน พ.ค.นี้ ปรากฏว่า สำนักงานเลขาวุฒิสภา ได้รับการจัดสรรงบประมาณร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 รายการค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปดูงานไปประชุมทวิภาคและไปเยือนต่างประเทศของคณะกรรมาธิการ(กมธ.) จำนวน 81 ล้านบาท
Lobster_Noodles_in_Tom_Yum_Soup
จากการตรวจสอบปรากฏว่ามี กมธ.สามัญ วุฒิสภา หลายคณะ มีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศโดยอ้างว่าไปศึกษาดูงาน เช่น กมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐ ที่มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน โดยมีกำหนดการเดินทางไปประชุมทวิภาคีและไปเยือนต่างประเทศ ณ สาธารณรัฐ คาซัคสถาน และจอร์เจีย ในระหว่างวันที่ 2-9 พ.ค.
กมธ.ท่องเที่ยว ที่มี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เป็นประธาน มีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐโครเอเชีย มอนเตเนโกร และบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ระหว่างวันที่ 14-23 พ.ค.
กมธ.แรงงาน ที่มี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็นประธาน มีกำหนดการเยือนนิวซีแลนด์ ระหว่างวันที่ 26 เม.ย.-3 พ.ค. โดยเดินทางร่วมกับกมธ.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม วุฒิสภา ที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เป็นประธาน
ส่วน กมธ.การศึกษา ที่มีนายตวง อันทะไชย เป็นประธาน มีกำหนดการเดินทางเยือนเมืองกุ้ยหลิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 11 -16 พ.ค. และเดินทางเยือนสาธารณรัฐฟินแลนด์ ราชอาณาจักร สวีเดน และสาธารณรัฐเอสโตเนีย
ในส่วนการเดินทางไปประชุมทวิภาคีและศึกษาดูงาน ณ สาธารณรัฐฟินแลนด์ ราชอาณาจักรสวีเดน และสาธารณรัฐเอสโตเนีย ระหว่างวันที่ 27 พ.ค. – 3 มิ.ย. โดยกมธ.ได้รับเชิญจากกองทุน Robbo ให้ไปศึกษาดูงาน ด้านการศึกษา และการวิจัยที่มุ่งเน้นนวัตกรรมด้านหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ณ Aalto University และศึกษาดูงานการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษา
ขณะที่ กมธ.กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ กำลังพิจารณาเตรียมความพร้อมในการเดินทางไปประชุมทวิภาคี ณ สาธารณรัฐออสเตรีย สาธารณรัฐสโลวีเนีย และสาธารณรัฐโครเอเชีย
กมธ.ติดตาม เสนอแนะและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ มีกำหนดเยือนประเทศเยอรมัน เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และสวีเดน ระหว่างวันที่ 19-30 เม.ย. นี้
ทั้งนี้ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ สว. ประธานกมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐชี้แจงว่า การเดินทางไปต่างประเทศของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ เขาไปได้ เพราะเป็นการใช้งบประมาณเพื่อหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคต ไม่ได้มากมายอะไร เพียงแต่จำนวนคนมันเยอะ ไม่ใช่เรื่องทุจริตอะไร ตนมองว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว คนปกติทั่วไปเขาไม่คิดอะไร เพราะเป็นงบปกติมาตั้งนานแล้ว ช่วงโควิดก็ไม่ได้มีการเบิกใช้ ดังนั้นอย่ามองว่าพวกเราไปเที่ยวทิ้งทวน
“ที่ผ่านมาสว.ไม่อยากไปดูงานต่างประเทศก็เพราะกลัวข้อครหาเช่นนี้ ทำให้เวลาพิจารณาออกกฎหมาย บางทีก็ออกมาอย่างห่วยๆ ไม่มีข้อมูลไม่ดูของจริง งบประมาณดังกล่าวเป็นงบไปสร้างทวิภาคี กับประเทศต่างๆ โดยการพบปะกับ สว. แต่ละประเทศ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน” พล.อ.บุญสร้าง กล่าว
เมื่อถามว่า สว.ชุดนี้จะหมดวาระในเดือน พ.ค.นี้ การไปหาข้อมูลต่างประเทศจะนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า มนุษย์เราไม่ใช่จะหาวันนี้แล้วได้ใช้พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ข้อมูลที่จะนำมาเป็นการสร้างความรอบรู้ ที่จะใช้ในอนาคต เป็นการลงทุนด้านสติปัญญาที่สามารถทำได้ทั้งชีวิต ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องไปเที่ยว เราเน้นไปดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์จริงๆ บางคนอายุ 70-80 ปี เขาไม่ได้อยากไปเที่ยว
“ผมเชื่อว่าเราสามารถชี้แจงสังคมได้ เราไม่ได้เห็นแก่เงินหรือเห็นแก่กิน วัยนี้ก็อยากอยู่กับลูกกับหลาน แม้บางคนสังขารจะไม่ไหวแต่สมองก็ยังดีทำงานได้ ยืนยันว่าพวกเราไปทำงานจริงๆ ไม่ได้ไปเที่ยว”
“คณะของผมไปดูงานที่จอร์เจีย กำหนดเป็นเวลา 9 วัน และในรอบ 5 ปี เราเดินทางไปดูงานต่างประเทศเพียง 2 ครั้ง คิดเป็น 1% เท่านั้น จะบอกว่าพวกเราแก่แล้วไม่ต้องไปมันไม่ได้ เพราะคนแก่สมองยังใช้งานได้”พล.อ.บุญสร้างกล่าว
ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยมานานแล้ว และไม่เห็นด้วยมาตลอด แต่การเดินทางไปดูงานต่างประเทศครั้งนี้ไม่ได้ไปทั้งหมดมีเพียงบางคณะ บางคนก็ไม่ไป และได้ส่งเงินคืนคลังไปแล้ว เช่น ตน นายสถิต ลิ่มพงษ์พันธ์ นายคำนูณ สิทธิสมาน สว. เป็นต้น
นายเสรี กล่าวต่อว่า เหตุที่ตนไม่เห็นด้วยเพราะเข้าใจว่าเป็นการเมืองที่ต้องระมัดระวัง การใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน เมื่อเราจะตรวจคนอื่นไม่ให้ใช้เงินฟุ่มเฟือย เราก็ต้องทำเป็นตัวอย่าง ซึ่งตนยืนยันหลักการนี้มาตลอด
นายเสรี กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุผลว่าไปดูงานนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะสว.จะหมดวาระเดือนหน้านี้แล้ว จะไปดูอะไร ตอนตนทำรายงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศเคยเสนอว่าควรจะยกเลิกการตั้งงบประมาณให้สว.ไปดูงานต่างประเทศ ซึ่งมีบางส่วนที่เห็นด้วย แต่บางส่วนก็ไม่เห็นด้วย สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป
“เมื่อสว.ชุดนี้เข้ามาใหม่ๆ ผมก็เคยเสนอว่าไม่ควรไปดูงานต่างประเทศ แม้จะอ้างว่าได้ประโยชน์อะไรก็ตามแต่สังคมข้างนอกเขามองว่าเราไปเที่ยว ไม่ได้มองว่าไปดูงานจริง แล้วเราจะทำทำไม แต่ปัญหาคือเมื่อมีการตั้งงบประมาณให้เขา เขาก็เอาไปใช้แล้วเราจะไปตั้งให้ทำไม ประเพณีนี้ควรจะเลิกได้แล้ว เพราะคนเขาด่าทุกปี ดังนั้นใครจะไปก็ต้องระวังและเป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องชี้แจงกันเอาเอง ให้สังคมเข้าใจด้วยว่ามีสว.ไม่ได้ไปด้วย ไม่ใช่เหมารวมหมด”
นายเสรี กล่าวต่อว่า ส่วนที่อ้างว่า สว.ทำงานมา 5 ปีไม่ได้เดินทางไปไหนเลย โดยเฉพาะในช่วงโควิด เรื่องนี้ไม่เกี่ยว ไม่ต้อง 5 ปีหรอก ทำงานตลอดชีวิตก็ไม่ควรเอาเงินประเทศไปใช้ หากอยากจะไปก็ควรใช้เงินส่วนตัว ไม่มีใครเขาว่า เป็นสว.มีเงินเดือนเยอะแยะก็ควรจะเอาเงินส่วนตัวไปจะได้ไม่เป็นขี้ปากชาวบ้าน
“ปัญหามันอยู่ที่ว่ามีการเอาเงินภาษีประชาชนไปใช้ ยิ่งไปตอนช่วงจะหมดวาระแบบนี้ยิ่งเป็นปัญหาหลัก ผมเคยเตือนไปแล้วว่าจะโดนตรวจสอบและเป็นประเด็น แต่เขาไม่สนใจก็เลยปล่อยไป อุตส่าห์พยายามให้ภาพ สว.ชุดนี้มันดี ด้วยการเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ให้เห็นว่าสว.ยังมีประโยชน์ แต่มาเกิดเรื่องนี้ขึ้น ก็ระมัดระวังกันเองแล้วกัน” นายเสรี กล่าว