JJNY : ชูวิทย์เผยตอนนี้มีตั๋วหนู│นันทนาโวยยื่นร้องจริยธรรมปมส.ว.ขายหมู│เตือนไทยระวังสัญญาผูกขาด│เวเนซุเอลาโวยสหรัฐซ้อมรบ

ชูวิทย์ เผยแต่ก่อนมี ตั๋วช้าง ตอนนี้มี ตั๋วหนู แต่งตั้งสุดสเปเชี่ยล นายพล ตร.นอกวาระ
.
.
ชูวิทย์ เผยแต่ก่อนมี ตั๋วช้าง ตอนนี้มี ตั๋วหนู แต่งตั้งสุดสเปเชี่ยล นายพล ตร.นอกวาระ ต่อไปคงมี ตั๋วหมู ตั๋วหมา ไม่ต้องทำงาน รอวิ่งรับใช้ง่ายกว่าเร็วกว่า
.
วันที่ 27 ต.ค.68 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักธุรกิจและอดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความในเพจ https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โดยระบุว่า
.
แต่ก่อน ”ตั๋วช้าง“ ตอนนี้ “ตั๋วหนู”
.
ยุคก่อนมีแต่งตั้งตำรวจ สส.โรม แฉมี “ตั๋วช้าง“ ข้ามหัวข้ามห้วย พรวดแซงคนอื่นขึ้นมา ภาษาตำรวจเขาบอกมี ”ตั๋ว“ สารพัด ฝากฝังจากผู้ใหญ่ผู้มีพระคุณ หรือนักการเมืองใหญ่ฝั่งรัฐบาล แต่ตั๋วไหนๆ ก็ต้องหลบไป เมื่อเจอ ”ตั๋วช้าง“ อย่างที่ สส.โรม ว่าไว้ เป็นที่กล่าวขาน
.
ถึงยุคนี้กลายเป็น “ตั๋วหนู” แต่ไม่ใช่หนูเล็กๆ เป็น “หนูอนุทิน” นายกฯ 4 เดือนของเรา ที่เล่นแต่งตั้งตำรวจระดับ “ผู้ช่วย ผบ.ตร.” ขึ้นมานอกวาระ อ้างว่าจำเป็นขาดแคลน เพราะมีตำรวจเกษียณ เอาไปช่วยรับงานแจ้งความ เรื่องร้องเรียน
.
แหม! มันช่างขาดแคลนเอาเสียจริงๆ จังๆ แต่สแกนแล้วข่าวบอกเป็น “ตั๋วหนู” ทั้งที่ “โผนายพล” เพิ่งแต่งตั้งจบไปเดือนก่อนนี้เอง
.
แต่ “นายพล ก.” คนนี้ “สเปเชี่ยล” จริงๆ แต่งตั้งกัน “นอกวาระ“ แสร้งเอาอีก 2 ตำแหน่งเข้าประชุมบังหน้าเป็น ”ไม้ประดับ“ แต่ที่จริงเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้คนคนเดียว คือ “นายพล ก.“ โดยปกติต้องไปรอแต่งตั้งกันอีกทีเดือนตุลาคมปีหน้า แต่นี่เล่นใช้วิธีการแบบมหาดไทย ตั้งกันนอกวาระรวดเร็วทันใจเสียยิ่งกว่า “ตั๋วช้าง”
.
บรรดา “ก.ตร.” ถึงกับยอมให้ผ่าน ทำเสียหลักการ อ้างเอาสีข้างเข้าถู เพราะกลัวหลุดจากเก้าอี้
.
อย่างนี้ประเทศไทยต่อไปคงมี “ตั๋วหมู ตั๋วหมา” ไม่ต้องทำงาน รอวิ่งรับใช้หาเด็กไซด์ไลน์ไปบริการผู้ใหญ่ ง่ายกว่าเร็วกว่า ได้ ”ตั๋ว“ อย่างเดียวเป็นอันผ่าน ไม่ต้องมีกฎเกณฑ์อะไร
.
ไม่เชื่อลองไปถามคนช้ำใจอย่าง พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ์ ปานแก้ว หรือ “บิ๊กเต่า” ที่ออกหน้าลุยจนคนเห็นผลงานไปทั่ว แต่ไม่เห็นมี ”ตั๋วเต่า“ เสียที
.
เดี๋ยวนี้เป็น ”ยุคสีเทา“ รัฐมนตรีเทา นักการเมืองเทา ตำรวจเทา จึงมี ”ตั๋วเทา” ไปทั่ว จะปราบสแกมเมอร์ ก็ดันไปตั้งรัฐมนตรีเกษตรนั่งหัวโต๊ะ ชาวบ้านนั่งหัวเราะกันท้องแข็ง
.
อย่างนี้ เมื่อไหร่จะหมด “สีเทา” เสียทีประเทศไทย
.
.

.
นันทนา โวย ส.ว.เสียงข้างมาก ยื่นร้องจริยธรรม ปมส.ว.ขายหมู ซัดฟ้องปิดปาก ทำลายฝ่ายตรงข้าม
.
‘นันทนา’ โวย เตรียมถูก ส.ว.เสียงข้างมาก ฟ้องปิดปาก ส่งให้ ป.ป.ช. เชือด ลั่น ไม่ยอมศิโรราบ ยัน ไม่ได้ด้อยค่า ส.ว.ขายหมู เจ้าตัวบอกภูมิใจในอาชีพ ถาม ผิดจริยธรรมตรงไหน ยกเคส ‘พิสิษฐ์’ เคยกล่าวหาเป็นโรคจิต กลับถูกยกอย่างไว ด้าน ‘วุฒิพงศ์’ มองเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ใช้ จริยธรรมทำลายฝ่ายตรงข้าม ยกคำเตือนสติ จุดจบแต่ละคนมาถึงแน่ ถึงเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่กฎแห่งกรรมต้องโดนทุกคน 
.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ส.ว. แถลงถึงการฟ้องปิดปากในวุฒิสภากรณีที่ในวันที่ 28 ตุลาคมจะมีการพิจารณารายงานผลการพิจารณาข้อร้องเรียนจริยธรรม น.ส.นันทนา ของคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ว่า ตนในฐานะ ส.ว.ที่ถูกฟ้องปิดปากในวุฒิสภา มีกำลังใจต่อสู้ เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลและความฉ้อฉลทั้งหมดในวุฒิสภาเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด วันนี้กลุ่มส.ว.อิสระจึงมาแสดงพลังเพื่อต่อต้านการฟ้องปิดปากในวุฒิสภา ในวันที่ 28 ตุลาคมวุฒิสภาได้บรรจุวาระเรื่องด่วนดังกล่าว และให้มีการลงมติการร้องเรียนจริยธรรมของตนเป็นวันสุดท้ายของสมัยการประชุมนี้
.
น.ส.นันทนากล่าวว่า เนื่องจากมีผู้มาร้องต่อคณะกรรมการจริยธรรมว่าตนมีพฤติกรรมเสียดสีด้อยค่า ส.ว. ท่านหนึ่งโดยการให้สัมภาษณ์ว่า ตนถูกโหวตออกจากกรรมาธิการพัฒนาการเมืองโดยได้คนขายหมูเข้ามาเป็นกรรมาธิการจึงขอฟ้องประชาชนว่า กระบวนการคัดสรรผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งในกรรมาธิการไม่ได้คำนึงถึงฐานประวัติกลุ่มอาชีพของผู้สมัคร ส.ว. แต่ใช้เสียงข้างมากในการโหวต ซึ่งสิ่งที่ตนเรียกคนที่เข้ามาเป็นกรรมาธิการตามอาชีพของเขาว่าคนขายหมูนั้น เป็นการด้อยค่าตรงไหน เข้าข่ายผิดจริยธรรมตรงไหน และเรื่องนี้มีการไต่สวนในศาลอาญามาแล้ว ซึ่งทนายได้ซักค้านในศาลไปแล้ว ทาง ส.ว. ก็บอกว่าตัวเองมีความภาคภูมิใจในอาชีพนี้ และเมื่อตนเรียกว่าคนขายหมูไปด้อยค่าหรือผิดจริยธรรมตรงไหน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า การกระทำที่วุฒิสภาโดยคณะกรรมการจริยธรรมนั้นได้พิจารณาตามหลักการที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะเพียงแค่พูดว่าคนขายหมูแล้วมีผู้มาร้องก็กล่าวหาว่าตนผิดจริยธรรม จนจะมีการลงมติให้ตนมีความผิดเพื่อนำไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาต่อ
.
น.ส.นันทนากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีกรณีอื่นที่ได้ร้องเรียนเข้าไปในกรรมการจริยธรรมชุดนี้ เช่น นายอลงกต วรกี ส.ว. ร้องไห้ล้อเลียนในสภาฯ และที่ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ ส.ว. อภิปรายกล่าวหาว่าตนเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำโรคจิต ก็มีผู้ไปร้องเรียนแต่ถูกยกไปอย่างรวดเร็ว แต่กรณีของตนเป็นความผิดร้ายแรง ต้องมาลงมติในวันที่ 28 ตุลาคม ซึ่งการกระทำเช่นนี้ตนไม่ยอมศิโรราบเพราะตนเองถือว่าสิ่งที่ออกมาส่งเสียงให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฮั้ว ส.ว. เขากระโดง รวมถึงการแต่งตั้งกรรมาธิการ การกระทำต่างๆ เป็นผลประโยชน์ที่ตนต้องออกมาพูด ดังนั้น การกระทำของคณะกรรมการจริยธรรมถือเป็นการฟ้องปิดปาก หากใครที่มีท่าทีกระด่างกระเดื่องก็จะโดนเชือดเหมือนที่ตนโดน เราจะปล่อยให้สมาชิกวุฒิสภา ใช้พวกมากลากไปปิดประตูตีแมวกับ ส.ว.อิสระที่คิดต่างเช่นนั้นหรือ
.
คณะกรรมการจริยธรรมมี 22 คน 15 คน ผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีฮั้วส.ว. รวมทั้งประธานกรรมการ คือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ซึ่งดิฉันก็ได้ร้องคัดค้านไปว่า คณะกรรมการชุดนั้นเป็นคู่ขัดแย้งกับดิฉัน เพราะดิฉันร้องให้เขาหยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เขาหยุดพิจารณาเรื่องของดิฉันให้เหลือ 7 คน เขาก็ไม่ยอมให้เขาพิจารณาเขาก็ไม่ยอม ยังคงดำเนินการต่อไป ซึ่งชัดเจนว่า พยายามที่จะใช้เสียงข้างมากในการลงมาในการลงมติ และเรื่องนี้ดิฉันได้ร้องคัดค้านไปยัง ป.ป.ช. เนื่องจากเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์โดยชัดเจน คู่ที่มีความขัดแย้งกับดิฉันกลับมาพิจารณา แต่มาพิจารณาคดีของดิฉันระหว่างสอบสวน ดิฉันก็โดนกลั่นแกล้ง พาพยานมาให้ปากคำ แต่กลับไม่ให้พยานเข้าไปให้ปากคำ นี่คือการกลั่นแกล้งหรือไม่ และมีการเก็บโทรศัพท์บอกว่าเป็น ประชุมลับ ไม่ยอมให้ทนายเข้าไปด้วย คดีอาชญากรเมื่อเขาให้การยังต้องมีทนาย และดิฉันเป็นอาชญากรระดับไหนทนายถึงเข้าไปไม่ได้ นี่คือการปิดหูปิดตาประชาชนเป็นการปิดประตูตีแมว” น.ส.นันทนากล่าว
.
น.ส.นันทนากล่าวต่อว่า นี่เป็นที่มาไม่มีใครรู้เลยว่าทำไมเรื่องนี้ถึงเข้ามาอยู่ในระเบียบวาระของการประชุมวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ที่ประชุมลงมติว่าตนมีความผิด ถ้าใช้เสียง ส.ว. 3 ใน 5 คือ 120 เสียงจะผ่านได้ฉลุย เพราะผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีหัว ส.ว.มี 130 กว่าคน และตนจะต้องถูกเชือดส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ
.
ด้าน นายสุนทร พฤกษพิพัฒน์ ส.ว. กล่าวว่า ตนพูดอะไรมากไม่ได้เพราะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการจริยธรรม ในหลักประชาธิปไตยเราเคารพเสียงส่วนใหญ่ แต่ควรรักษาเสียงส่วนน้อยไปด้วย ไม่ใช่ใช้เสียงส่วนใหญ่ไปกำจัดเสียงส่วนน้อย โดยเฉพาะการใช้คำว่าจริยธรรมที่กว้างมาก ซึ่งที่ผ่านมาเราก็เห็นว่าหลายคนโดนคำว่าจริยธรรม และความผิดไม่ได้สัดส่วนกับการกระทำจึงถูกตีความกว้างใหญ่ไปหมด จึงคิดว่าหากสังคมกำลังเพิกเฉยกับความอยุติธรรมแบบนี้ เราควรจะเป็นสังคมแบบที่มีความยุติธรรมที่แท้จริง เห็นถึงความถูกต้องไม่ใช่ถูกเสียงข้างมากลากไปอย่างเดียว
.
ส่วน น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ส.ว. กล่าวว่า การดำเนินการของวุฒิสภาไม่ได้เป็นอิสระอย่างที่ควรจะเป็นแต่มีการสั่งการจากบางจุด อาจเป็นบนเขาสักแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเห็นว่าควรมีการทบทวนเรื่องจริยธรรมเพื่อไม่ให้มีการใช้เรื่องนี้มารังแกกลั่นแกล้งการเมือง ยกตอนนี้ ส.ว.อิสระเหลือเพียง 20 คน ซึ่งน่าเป็นห่วงต่อระบอบประชาธิปไตยของไทย ส่วนตัวได้เจริญภาวนาอนุสติทุกวัน เพราะจุดจบแต่ละคนมาถึงแน่ ถึงเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่กฎแห่งกรรมต้องโดนทุกคน
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ น.ส.นันทนา และ ส.ว.อิสระแถลงข่าวมีประชาชนมามอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจ พร้อมกล่าวว่า ในนามประชาชนที่เป็นแฟนคลับและติดตามผลงานมาตลอดเห็นว่าตัวนี้ น.ส.นันทนา โดนกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการที่ทำเพื่อความโปร่งใสและความถูกต้องวันนี้ จึงอยากขอเป็นกำลังใจให้นางสาวนันทนาสู้ต่อไป สู้เพื่อประชาชนและเป็น ส.ว.น้ำดีต่อไป
.

.
ดีลแร่หายากในภาวะ ‘สงครามการค้า’ ‘นักวิชาการ’ เตือนไทยระวังสัญญาผูกขาด
.
• นักวิชาการชี้สหรัฐทำข้อตกลงแร่หายากกับไทย ตามยุทธศาสตร์การหาแหล่ง rare earth ของสหรัฐ หลังจีนแบนการส่งออกแร่หายาก
• สหรัฐห่วงกระทบหลายอุตสาหกรรม รวมทั้งอุตสาหกรรมทหารและความมั่นคง
• แนะไทยลงนามแค่ในระดับข้อตกลง อย่าทำสัญญาผูกมัดการส่งออกแร่โดยผูกไว้เพียงแค่สหรัฐฯเท่านั้น
• หวั่นสหรัฐใช้เป็นกลไกบีบเรื่องภาษีในอนาคต และจีนอาจไม่พอใจ  
.
จากกรณีที่ไทยและสหรัฐ ได้มีการลงนามความร่วมมือ (MOU) เพื่อสร้างความหลากหลายในห่วงโซ่อุปทานแร่หายากของโลกและส่งเสริมการลงทุน (Cooperation to diversify global critical minerals supply chains and promote investments) โดย MOU ฉบับนี้ได้มีการเผยแพร่ในเว็บไซต์ของทำเนียบขาว (www.whitehouse.gov)  ของรัฐบาลสหรัฐ  
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่