ตอนนี้ชีวิตกำลังสับสน หาคำตอบกับชีวิตไม่ได้ ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตอยากขอคำแนะนำคำปรึกษา

เราอายุ 30 ต้นๆ ซึ่งเทียบกับอายุแล้วเราไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย เรามีลูก 2 คน ชีวิตเราผ่านอะไรมามากมาย ตอนเด็กๆเราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เราอยู่กับตายายกับน้าๆ พ่อเราติดคุก ส่วนแม่มีสามีใหม่ ตัวเราต้องอยู่กับน้ากับยายกับตา ที่ให้เรารับผิดชอบงานบ้านในบ้านทุกอย่าง
ดูแลน้องๆของเรา เราอายุ 10 ขวบ เราจำได้ว่าเรานอนร้องไห้ทุกวัน เพราะเราอยู่อาศัยแบบที่เราไม่เคยได้ความรักจากใครเลยแม้กระทั่งแม่ของเรา แม่เราไม่เคยส่งเงินมาให้ ถึงส่งมาก็จะกำกับไว้ว่าให้น้องคำพูดที่ทุกคนในบ้านชอบพูดก็คือเราดื้อ เราอ่ะมันหน้าตาเหมือนพ่อ ซึ่งตอนนั้นเราเสียใจ ไม่มีกางเกงในใส่ไม่มีเสื้อในใส่ไม่มีเงินไปโรงเรียน ไม่มีชุดนักเรียนใส่ไปโรงเรียน ทุกอย่างเราต้องดิ้นรนและหาด้วยตัวของเราเอง ดิ้นรนของเราก็คือไปขอจากคนอื่น เอาเสื้อในของยายมานั่งเย็บให้พอใส่ได้ เราใช้ชีวิตแบบนั้นจนวันหนึ่งเรากำลังจะขึ้นม 2 แม่เรามาหาเราก็คุยกับแม่เราว่าที่ผ่านมาเราไม่ได้ตั้งใจเรียนเราเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเราอยากย้ายโรงเรียน เราจะกลับไปตั้งใจเรียนใหม่
แม่เราบอกว่าถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่ต้องเรียนให้น้องคนเล็กเรียนไปก่อน ซึ่งที่ผ่านมาเราเองก็ไม่เคยได้อะไรหรือจะต้องจ่ายอะไรกับทางโรงเรียน เพราะเราอยู่ในโครงการเด็กยากจน หลังจากนั้นเราก็ไปทำงานดูแลตัวเอง ใช้ชีวิตวัยรุ่นจนวันหนึ่งพ่อเราออกจากคุก แล้วมาอยู่บ้านญาติของเรา ซึ่งเป็นญาติฝั่งแม่ เราด้วยความที่คิดถึงพ่อเราก็ไปอยู่บ้านหลังนั้นกับพ่อ
เราก็อยู่และก็ทำงาน มีอยู่คืนหนึ่งคืนนั้นฝนตกหนักมากเรารู้สึกว่ามีใครคนนึงกำลังกอดเราและลูบขาเรา เราหันไปมองซึ่งคนๆนั้นคือตาเขยเรา เราขัดขืนไม่ยอมเขาจึงหนีออกไป พอตอนเช้าเราเอาเรื่องนี้ไปคุยกับทวดของเราและยายของเรายายซึ่งเป็นน้องสาวของยายแท้ๆเรา ทุกคนไม่มีใครเชื่อเราเลย ซึ่งตอนนั้นเรามั่นใจว่าทุกคนในบ้านจะปกป้องเราแต่มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิด เมื่อไม่มีใครเชื่อเราเราจึงเลือกที่จะเดินออกจากบ้านหลังนั้นซึ่งณตอนนั้นพ่อเราก็ไม่เชื่อเราแม่ก็ไม่เชื่อเรา ณตอนนั้นเราอายุ 14-15 ปี
เราออกมาใช้ชีวิตกับการทำงานอยู่กับเพื่อนเที่ยว จนเราได้เจอกับพ่อของลูกคนแรกซึ่งเขาข่มขืนเราเพราะเขาเมาเรากับเขามีอะไรกันเพียงครั้งเดียวเราตั้งท้องเขารับผิดชอบเราโดยการแต่งงานแต่ชีวิตของการที่มีครอบครัวในวัยรุ่นมันไม่ได้จะไปรอดทุกคู่เราจบด้วยการเลิกลากันหลังจากนั้นเราก็ทำงานส่วนลูกอยู่ในการเลี้ยงดูของแม่แฟนเก่า หลังจากนั้นเราก็ได้เริ่มคุยกับสามีคนปัจจุบัน ในตอนอายุ 21
เราคุยกันและสร้างครอบครัวอยู่ด้วยกัน
แต่ปัญหาของเราเหมือนกัน เราทั้งคู่ครอบครัวแตกแยก ชีวิตไม่มีใครคอย support และไม่มีใครชี้แนะ เราคิดกันสองคน เราคุยกัน 2 คน เดินกันสองคน
บางครั้งทะเลาะกัน ต่างฝ่ายต่างโทษกันและกัน แฟนเราเป็นคนอารมณ์ร้อน
เขาจะชอบใช้คำพูดที่กดดันเรา เราจะเป็นคนที่ขี้น้อยใจคิดมาก สุดท้ายทั้งเขาและเราป่วย เขาเป็นโรคเครียดวิตกกังวลและซึมเศร้า
ส่วนเราเป็นโรคซึมเศร้าคั่นร้ายแรง
ตอนนี้ปัญหาที่เรากำลังเจอ คือเรากับแฟนออกมาขับรถ application แต่รถของเราก็ไม่ใช่รุ่นใหม่ซึ่งตอนนี้แอพพลิเคชั่นต่างๆก็เริ่มจะเคลียร์รถรุ่นเก่าๆ ที่บอกข้างต้นว่าเราไม่มีใคร ณตอนนี้เราลูกสามีไม่มีชื่อหรือทะเบียนบ้าน เราทั้ง 4 คนอยู่ทะเบียนบ้านกลาง ตอนนี้เรา 4 คนเหมือนอยู่กลางทะเล ลอยไปเรื่อยๆยังไม่มีจุดหมาย การที่เราไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านเราไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เหมือนบุคคลทั่วไปไม่สามารถ จะเอาเงินในอนาคตมาใช้เพื่อเป็นการลงทุนได้ เรารู้ว่าไม่ควรจะกู้เพื่อเอามาใช้แต่สำหรับบางคนแล้วมันอาจจะเป็นตัวเลือกท้ายๆของเขาแล้วนั่นก็รวมถึงเราด้วย ลูกเราใกล้จะเปิดเทอมแล้วเรายังไม่มีเงินแม้แต่จะพาลูกไปสมัครเรียนไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้า ลูกถามเราว่าโรงเรียนใหม่ชื่ออะไร มันเจ็บทุกครั้ง
บางคนอาจจะถามว่าแล้วตลอดเวลาที่ผ่านมาเงินไปไหนหมด รายละเอียดตรงนี้เยอะมาก เราหาได้ใช้ไป เชื่อไหมว่าจะมีคนที่ชีวิตตกต่ำมากๆต่ำแล้วต่ำอีก เราวิ่งรถมาได้เงินก็ไปจ่ายกับค่าทำรถ ค่ากินค่าใช้ค่าเช่าบ้าน โรงเรียน ลูกเราเรียนโรงเรียนวัด
ค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ที่เราพิมพ์มาทั้งหมดมันยังไม่ได้ครึ่งนึงของที่เราเจอมา บางสิ่งบางอย่างเราก็รู้สึกอึดอัดและไม่สามารถพิมพ์ออกมาเป็นตัวหนังสือได้ แต่เราอยากบอกว่าการมีชีวิตอยู่มันเหนื่อยเหลือเกิน
มันเหนื่อยตั้งแต่เล็กจนโต มันเหนื่อยมาก
มันเหนื่อยจนเราไม่อยากมีลมหายใจทุกวันนี้อยู่ได้เพราะลูกมือเล็กๆของเขาเสียงเล็กๆของเขามันคือกำลังใจที่สำคัญมากๆที่ช่วยต่อลมหายใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่