การไม่ยึดมั่นตั้งแต่แรก

จริงๆแล้ว ปุถุชน หากไม่ตึงไปก็หย่อนไป เพราะตัณหา อุปาทาน เลยกลายไปเป็น กามสุขลิกานุโยค ไม่ก็ อัตตกิลมถานุโยค ไม่ว่าจะภาวนาอย่างไร หากหลงไปตามอำนาจ ตัณหา อุปาทาน ที่ยังไงก็ต้องมี แม้จะสำคัญตนว่าภาวนาอยู่ ว่ามีความเพียรอยู่ ก็ไม่ใช่ความเพียรชอบ อยากดีแค่ไหน ก็ไม่ได้ดี

การกำหนดรู้ที่ถูกต้อง คือ การตามรู้การปฏิบัติของตนไปตลอดสายด้วยความไม่ประมาท ว่ายังไงก็ต้อง ตกไปตามอำนาจตัณหา อุปาทาน ที่เกิดขึ้น เพราะความไม่รู้ความจริงของขันธ์ ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ จนพิจารณาเห็น เพราะได้สดับ ว่าธรรมนั้นมีเหตุ มีปัจจัย ความเกิดขึ้นเพราะเหตุ

หน้าที่ของเราจริงๆ การหมั่นสดับ ไม่ว่าจะประกอบกิจการอันใดก็แล้วแต่ในโลก จะปฏิบัติธรรมอยู่หรือไม่ปฏิบัติธรรมอยู่ เดินเหิน ทำงาน กินข้าว ฯลฯ ก็สามารถปฏิบัติได้ตลอดเวลา แม้ตอนที่หลงลืมการภาวนา หรือการภาวนาไม่เกิดผล ไม่ได้ดั่งใจ เกิดดิ้นรน ตีอกชกหัว อยากจะเจริญขึ้นมา อยากจะยกตนขึ้นสู่ความเจริญ ความสุขในธรรม นั่นเป็น ทางที่นำไปสู่ความเจริญในธรรมจริงๆหรือ นั่นเป็นทางที่นำไปสู่การเห็นความจริงของขันธ์5 อย่างนั้นหรือ

แทนที่จะเห็นความไม่เที่ยงของจิตเสียตั้งแต่ตอนที่มันแสดงให้ดู ว่าเดี๋ยวก็มีสภาพแปรปรวนไปอย่างนี้(เพราะมีเหตุคือ ตัณหา อุปาทาน) ไม่สามารถรักษาการภาวนาอยู่ตลอดเวลาได้ ทันทีที่ระลึกได้ การภาวนา จะกลับเข้าร่องเข้ารอยทันที(เพราะได้อบรมการเห็นความไม่เที่ยง) เพราะเห็นว่าไม่เที่ยง จึงไม่ยึดถือเป็นตน หน้าที่ มีแค่ให้เห็นความจริงของสิ่งที่ปรากฏ พิจารณาด้วยปัญญาไม่ว่าจะปฏิบัติธรรมหรือพยายามพ้นทุกข์ด้วยอุบายวิธีใด เรียกมี โยนิโสมนสิการ

หาก สลัดคืน ความยึดมั่นในการปฏิบัติ และ สภาวะที่เกิดขึ้น ด้วยการพิจารณาเห็นความจริงในขันธ์ เนืองๆ ก็จะเป็นเหตุให้ได้ สัมมาทิฏฐิ เป็นเหตุให้ได้ มรรคข้ออื่นๆ เป็นสามัญญผล แต่ไม่ได้สำคัญตนว่าต้องทำนู่น ทำนี่ เพื่อให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ความจริง หรือ อริยสัจ นั้น ปรากฏให้รับรู้ได้เลยตั้งแต่ตอนนี้ และหากรู้ตามความเป็นจริงได้ ไม่มากก็น้อย ผลคือความคลายความยึดมั่นย่อมเกิด แต่จะเห็นได้ก็ต้องตามเห็นไปจนดับ คือ อนิจจสัญญา ตามไปเรื่อยๆ

การภาวนาจึงเป็นไปตาม การละความเห็นผิด มีความเห็นถูก และความเห็นถูกนั่นแหละ เป็นเหตุให้กระทำถูก คิดถูก และเกิดการละเว้น เกิดการเจริญสติ สมาธิที่ถูก แบบไม่ภาวนาเพื่อเอา หรือเพื่อละ หรือแม้กระทั่งเพื่อสำคัญว่ามีการเห็น แต่เป็นการรู้ และฝ่าฟันอุปสรรคด้วย อาวุธชั้นยอดตั้งแต่เริ่มเดินทาง พิจารณานำไปให้เกิดโยนิโสมนสิการ เห็นความจริงของขันธ์เนืองๆ ย่อมไม่มีปลายทาง ไม่มีเริ่มเดินทางเลย มีแต่เห็นหรือไม่เห็น ก็เท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่