อันดับแรกต้องออกตัวก่อนว่าเรื่องรายละเอียดขั้นตอนการจองนั้น ขอผ่านเลยนะครับ เพราะมีเยอะแล้ว
ยอดดอยแห่งนี้คือเป้าหมายอันดับต้น ๆ ของนักทำคอนเท้นต์ ครีเอเตอร์ทั้งหลาย ที่อยากจะมาสัมผัสสิ่งสวยงามที่อยู่ข้างบนนั้น
จนบางครั้ง ก็เหมือนคิดว่ามันสวย เดินง่าย ๆ ก็เลยแต่งตัวชิล ๆ เพื่อพร้อมที่จะถ่ายภาพตลอดเวลา บางคนในวันกลับที่เดินสวนทางกัน
เดินตัวเบามีแต่กล้องแถมแต่งตัวเหมือนเดินเที่ยว ใส่รองเท้าหลวม ๆ บางคนชุดอาจจะไม่เหมาะ รองเท้าที่อาจจะสร้างปัญหาในการเดินทางระยะไกลให้กับตัวเองได้ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นผู้ที่เริ่มเดินครั้งแรกหรือไม่ก็ระดับเทพที่ใส่แบบนี้เดินทุกดอยมาแล้ว
ที่เกริ่นมานั้น ไม่มีเจตนาจะวิจารณ์ใคร ๆ นะครับ ทุกอย่างนั้นล้วนแต่เป็นสิทธิ์และความพอใจของแต่ละคน
แค่อยากจะให้คำนึงถึงผลกระทบกับตัวเองและทีมงานต่าง ๆ ที่เขาคอยดูแลนักเดินป่า หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา มันก็ทำให้การเที่ยววันนั้น ๆ หมดสนุกไปเลยก็ได้ครับ อีกอย่าง มันห่างไกลจากโรงพยาบาลมาก ๆ
1. คุณต้องออกกำลังกายมาบ้าง เพื่อให้การเดินในวันนั้นสนุก ไม่สร้างความทรมานให้ร่างกายหรือจิตใจมากเกินไป เพราะหลังจากจุดพักกินข้าว นั่นคือของจริง
2. รองเท้าใส่ให้กระชับพอดี รองเท้าให้มีดอกลึกหน่อยก็ดี เป็นไปได้ก็เป็นรองเท้าเดินป่าที่เราใส่+ถุงเท้าแล้วสบาย เพราะบางจุดทางเดินเรียกว่าเฉียงและลื่น หากสิ่งนี้ดีก็จะช่วยลดการเกร็ง การจิกเท้าได้เยอะเลยทีเดียว
3. ไม้โพลสำหรับช่วยพยุง นี่ก็สิ่งสำคัญสุด ๆ ที่ช่วยให้เราไม่ใช้กล้ามเนื้อขาหนักเกินไปในการก้าวขายกตัวเองขึ้นทางชัน แถมยังช่วยให้การทรงตัวได้ดีอีกด้วย ป้องกันอันจรายจากการลื้นล้มได้ดี เพราะหินแหลมคม ทางเดินบางจุดแคบและลื่น หากล้มไปแล้วบาดเจ็บคงจะเซ็งทั้งตัวเราและเพื่อนร่วมทาง
4. หมวกและที่ปิดหูระหว่างเดินผ่านจุดที่เป็นป่าและมียุงหรือแมลงมาบินตอมเรา มันคงน่ารำคาญไม่น้อย หรืออาจจะสร้างปัญหาให้เราได้หากโดนกัดต่อย
5. สิ่งที่ช่วยปกป้องผิวหนังของเราไม่ให้โดนอะไรจากภายนอกมาสัมผัส เช่นถุงแขน ผ้าบลัฟ รวมไปถึงเสื้อรัดรูปออกกำลังก็ได้ เพราะเราจะไม่ได้อาบน้ำ หรือหากโดนอะไรที่ทำให้เกิดการคันก็ต้องใช้น้ำล้างออก ก็จะกระทบปริมาณน้ำที่ต้องใช้อีก
6. ค่อย ๆ เดิน ดื่มด่ำกับธรรมชาติ เก็บความทรงจำไว้ ณ เวลานั้น จากเส้นทางนั้นถ้ารีบเดิน ก็สามารถเดินได้แล้วความสวยงามระหว่างทางล่ะ?
ทริปของพวกผมแค่ จองกันเองให้ทัน+จองรถรับ-ส่ง อุปกรณ์ทั้งหมดแบกกันเอง แบกจนชินไปแล้ว
กระเป๋าแต่ละคน ก็ราว 17-25 กก. วันกลับจะตัวเบาหน่อย
อุปกรณ์ที่มีในกระเป๋าทุกคนก็ง่าย ๆ น้ำ 3 ลิตร ถุงนอน เต้นท์ แผ่นปูพื้น แผ่นรองนอน เสื้อกันหนาว อาหารสำหรับตัวเองครบมื้อ
จะมีอุปกรที่ตกลงแบ่งกันเอาไปก็ เตาแก๊ส+หม้อสนาม อาหารกระป๋อง น้ำเพื่อทำอาหาร เมล็ดกาแฟบด+ชุดดริป
เดือนที่ชัวร์ที่สุดสำหรับเลือกขึ้นคือ ปลายพฤษจิกา - มกราคม มีโอกาสที่ท้องฟ้าจะเปิด ไม่มีอะไรปิดบังยอดและยังมีทะเลหมอกเพราะอากาศยังไม่แห้งมาก
9-11 ธันวา คือวันที่พวกผมเลือกจอง ( และจองทัน 555 )
มา 4 คน ที่สปีดการเดินเท่ากัน ไม่มีใครต้องเป็นภาระใคร

ถ่ายรูปให้กันและกันแล้วแชร์ผ่าน AirDrop ทีหลัง

แวะทุกที่ ที่คิดว่าวิวสวย

หญ้ากับต้นไม้ยังเขียว

จุดพัก ต้องดริปกาแฟกิน พี่ที่อยู่บริเวณนั้นบ่นอุบเลย หอมกาแฟสด.......

จุดถ่ายรูประหว่างใต่ความชัน

ช่วงเดินเมฆปิดยอดเขา ก็มีช่วงฟ้าสีคราม เปิดมาให้เห็นบ้าง





กลางคืนนั่ง ๆ นอน ๆ นอกเต้นท์ดูดาวตกไปหลายดวง ได้เจอนักเดินทางจากที่อื่น บอกว่าทั้งชีวิตยังไม่เคยเห็นดาวตกจริง ๆ กับตาตัวเอง
ก็นั่นเลยครับ พยามมองทิสที่พวกผมบอกว่ามีดาวตกจนได้เห็นกับตาตัวเอง
แน่นอนว่าเช้ามา ตีห้า อากาศเปิด ท้องฟ้าเคลียร์

















สุดท้ายนี้ ถ้าใครเข้ามาอ่านจนจบ ก็ขอให้เดินทางท่องเที่ยวกันให้สนุกนะครับ
ช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะที่ทำลายธรรมชาติ ธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยว ก็จะอยู่กับเราไปนาน ๆ
และในอนาคต ผมเองกับเพื่อน ๆ ก็จะพาลูก ๆ ของเรามาเดินบ้าง
และยังคงหวังว่า มันจะยังสวยงามจนถึงเวลานั้น
[CR] รีวิวเดินขึ้นยอดดอยหลวงเชียงดาว ช่วงเวลาที่ดีที่สุด วิวสวย ทะเลหมอกปัง
ยอดดอยแห่งนี้คือเป้าหมายอันดับต้น ๆ ของนักทำคอนเท้นต์ ครีเอเตอร์ทั้งหลาย ที่อยากจะมาสัมผัสสิ่งสวยงามที่อยู่ข้างบนนั้น
จนบางครั้ง ก็เหมือนคิดว่ามันสวย เดินง่าย ๆ ก็เลยแต่งตัวชิล ๆ เพื่อพร้อมที่จะถ่ายภาพตลอดเวลา บางคนในวันกลับที่เดินสวนทางกัน
เดินตัวเบามีแต่กล้องแถมแต่งตัวเหมือนเดินเที่ยว ใส่รองเท้าหลวม ๆ บางคนชุดอาจจะไม่เหมาะ รองเท้าที่อาจจะสร้างปัญหาในการเดินทางระยะไกลให้กับตัวเองได้ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นผู้ที่เริ่มเดินครั้งแรกหรือไม่ก็ระดับเทพที่ใส่แบบนี้เดินทุกดอยมาแล้ว
ที่เกริ่นมานั้น ไม่มีเจตนาจะวิจารณ์ใคร ๆ นะครับ ทุกอย่างนั้นล้วนแต่เป็นสิทธิ์และความพอใจของแต่ละคน
แค่อยากจะให้คำนึงถึงผลกระทบกับตัวเองและทีมงานต่าง ๆ ที่เขาคอยดูแลนักเดินป่า หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา มันก็ทำให้การเที่ยววันนั้น ๆ หมดสนุกไปเลยก็ได้ครับ อีกอย่าง มันห่างไกลจากโรงพยาบาลมาก ๆ
1. คุณต้องออกกำลังกายมาบ้าง เพื่อให้การเดินในวันนั้นสนุก ไม่สร้างความทรมานให้ร่างกายหรือจิตใจมากเกินไป เพราะหลังจากจุดพักกินข้าว นั่นคือของจริง
2. รองเท้าใส่ให้กระชับพอดี รองเท้าให้มีดอกลึกหน่อยก็ดี เป็นไปได้ก็เป็นรองเท้าเดินป่าที่เราใส่+ถุงเท้าแล้วสบาย เพราะบางจุดทางเดินเรียกว่าเฉียงและลื่น หากสิ่งนี้ดีก็จะช่วยลดการเกร็ง การจิกเท้าได้เยอะเลยทีเดียว
3. ไม้โพลสำหรับช่วยพยุง นี่ก็สิ่งสำคัญสุด ๆ ที่ช่วยให้เราไม่ใช้กล้ามเนื้อขาหนักเกินไปในการก้าวขายกตัวเองขึ้นทางชัน แถมยังช่วยให้การทรงตัวได้ดีอีกด้วย ป้องกันอันจรายจากการลื้นล้มได้ดี เพราะหินแหลมคม ทางเดินบางจุดแคบและลื่น หากล้มไปแล้วบาดเจ็บคงจะเซ็งทั้งตัวเราและเพื่อนร่วมทาง
4. หมวกและที่ปิดหูระหว่างเดินผ่านจุดที่เป็นป่าและมียุงหรือแมลงมาบินตอมเรา มันคงน่ารำคาญไม่น้อย หรืออาจจะสร้างปัญหาให้เราได้หากโดนกัดต่อย
5. สิ่งที่ช่วยปกป้องผิวหนังของเราไม่ให้โดนอะไรจากภายนอกมาสัมผัส เช่นถุงแขน ผ้าบลัฟ รวมไปถึงเสื้อรัดรูปออกกำลังก็ได้ เพราะเราจะไม่ได้อาบน้ำ หรือหากโดนอะไรที่ทำให้เกิดการคันก็ต้องใช้น้ำล้างออก ก็จะกระทบปริมาณน้ำที่ต้องใช้อีก
6. ค่อย ๆ เดิน ดื่มด่ำกับธรรมชาติ เก็บความทรงจำไว้ ณ เวลานั้น จากเส้นทางนั้นถ้ารีบเดิน ก็สามารถเดินได้แล้วความสวยงามระหว่างทางล่ะ?
ทริปของพวกผมแค่ จองกันเองให้ทัน+จองรถรับ-ส่ง อุปกรณ์ทั้งหมดแบกกันเอง แบกจนชินไปแล้ว
กระเป๋าแต่ละคน ก็ราว 17-25 กก. วันกลับจะตัวเบาหน่อย
อุปกรณ์ที่มีในกระเป๋าทุกคนก็ง่าย ๆ น้ำ 3 ลิตร ถุงนอน เต้นท์ แผ่นปูพื้น แผ่นรองนอน เสื้อกันหนาว อาหารสำหรับตัวเองครบมื้อ
จะมีอุปกรที่ตกลงแบ่งกันเอาไปก็ เตาแก๊ส+หม้อสนาม อาหารกระป๋อง น้ำเพื่อทำอาหาร เมล็ดกาแฟบด+ชุดดริป
เดือนที่ชัวร์ที่สุดสำหรับเลือกขึ้นคือ ปลายพฤษจิกา - มกราคม มีโอกาสที่ท้องฟ้าจะเปิด ไม่มีอะไรปิดบังยอดและยังมีทะเลหมอกเพราะอากาศยังไม่แห้งมาก
9-11 ธันวา คือวันที่พวกผมเลือกจอง ( และจองทัน 555 )
มา 4 คน ที่สปีดการเดินเท่ากัน ไม่มีใครต้องเป็นภาระใคร
ถ่ายรูปให้กันและกันแล้วแชร์ผ่าน AirDrop ทีหลัง
แวะทุกที่ ที่คิดว่าวิวสวย
หญ้ากับต้นไม้ยังเขียว
จุดพัก ต้องดริปกาแฟกิน พี่ที่อยู่บริเวณนั้นบ่นอุบเลย หอมกาแฟสด.......
จุดถ่ายรูประหว่างใต่ความชัน
ช่วงเดินเมฆปิดยอดเขา ก็มีช่วงฟ้าสีคราม เปิดมาให้เห็นบ้าง
กลางคืนนั่ง ๆ นอน ๆ นอกเต้นท์ดูดาวตกไปหลายดวง ได้เจอนักเดินทางจากที่อื่น บอกว่าทั้งชีวิตยังไม่เคยเห็นดาวตกจริง ๆ กับตาตัวเอง
ก็นั่นเลยครับ พยามมองทิสที่พวกผมบอกว่ามีดาวตกจนได้เห็นกับตาตัวเอง
แน่นอนว่าเช้ามา ตีห้า อากาศเปิด ท้องฟ้าเคลียร์
สุดท้ายนี้ ถ้าใครเข้ามาอ่านจนจบ ก็ขอให้เดินทางท่องเที่ยวกันให้สนุกนะครับ
ช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะที่ทำลายธรรมชาติ ธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยว ก็จะอยู่กับเราไปนาน ๆ
และในอนาคต ผมเองกับเพื่อน ๆ ก็จะพาลูก ๆ ของเรามาเดินบ้าง
และยังคงหวังว่า มันจะยังสวยงามจนถึงเวลานั้น
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น