กรดยูริก (Uric Acid) เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย เกิดขึ้นจากกระบวนการย่อยสลาย สารพิวรีน (Purine) ซึ่งพบในเนื้อสัตว์บางชนิด อาหารทะเล สัตว์ปีก ถั่วบางชนิด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อร่างกายมี กรดยูริกสูง เกินกว่าค่าปกติ (ผู้ชาย 7 มก./ดล. ผู้หญิง 6 มก./ดล.) กรดยูริก คือ ของเสียที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการสลายตัวของสารพิวรีน ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของมนุษย์ทุกคน กรดยูริกเป็นสารที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย แต่หากมีปริมาณมากเกินไป จะทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ เช่น โรคข้อปวดหรือโรคไตวาย กรดยูริกส่วนเกินจะตกผลึกสะสมตามข้อต่อ กระตุ้นให้เกิดอาการปวด บวม แดง ร้อน อักเสบ ซึ่งเป็นสัญญาณของ โรคเกาต์ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องควบคุมระดับกรดยูริกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

กรดยูริกสูง ห้ามกินอะไร 
การควบคุมอาหารก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่สำคัญในการจัดการระดับกรดยูริกในร่างกาย โดยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณสารพิวรีนสูง เช่น เนื้อแดง เนื้อสัตว์ทะเล เครื่องในสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากเบียร์  ในทางกลับกัน ควรบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อการลดระดับกรดยูริก เช่น ผัก ผลไม้ ถั่วเมล็ดแห้ง และอาหารที่มีปริมาณโปรตีนต่ำ นอกจากนี้ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยลดระดับกรดยูริกในร่างกาย

สมุนไพรลดกรดยูริก
หนึ่งในวิธีการจัดการระดับกรดยูริกในร่างกายที่เป็นที่นิยม คือ การใช้ สมุนไพรจีน สมุนไพรไทย แล้วแต่ตำรับยา ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดระดับกรดยูริกได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดย สมุนไพรลดกรดยูริก ที่มีประสิทธิภาพในการลดกรดยูริก ได้แก่

1. ขิง: ขิงมีสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการปวดและบวมจากโรคข้อ นอกจากนี้ ขิงยังช่วยเพิ่มการขับถ่ายปัสสาวะ ซึ่งเป็นการช่วยขับกรดยูริกออกจากร่างกาย
2. ว่านหางจระเข้: ว่านหางจระเข้มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการสะสมของกรดยูริกในร่างกาย นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังช่วยลดอาการอักเสบและบวมของข้อต่อ
3. อบเชย: อบเชยมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบ ซึ่งช่วยลดอาการปวดและบวมของข้อต่อ รวมทั้งช่วยลดระดับกรดยูริกในเลือด
สะระแหน่: สะระแหน่มีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการปวดและบวมของข้อต่อ นอกจากนี้ สะระแหน่ยังช่วยขับถ่ายปัสสาวะได้ดีอีกด้วย
4.  ใบย่านาง : ขับปัสสาวะ บำรุงไต แก้ปวดข้อ ลดกรดยูริก
5. หญ้าหนวดแมว : ขับปัสสาวะ บำรุงไต แก้กระษัย ลดกรดยูริก
6.  ตะไคร้ : ขับปัสสาวะ แก้ปวดข้อ ลดกรดยูริก
7. บัวบก : แก้ช้ำใน บำรุงไต ลดการอักเสบ ลดกรดยูริก
8. ดอกคำฝอย : ขับปัสสาวะ บำรุงโลหิต แก้ปวดข้อ ลดกรดยูริก

ชาลดกรดยูริค ดียังไง ? 
ชาที่สามารถช่วยลดระดับกรดยูริกในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ ชาสมุนไพรหรือชาสมุนไพรคุณภาพดี เช่น ชาสมุนไพรจีนลดกรดยูริก หรือ สมุนไพรไทย อย่าง ขิง ว่านหางจระเข้ อบเชย สะระแหน่ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดระดับกรดยูริก ชาเขียวและชาดำก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะมีสารแคตชีนและแอนโทไซ
ยานินที่ช่วยลดการสะสมของกรดยูริก ชาใบหม่อน มีสาร iminosugar ที่ช่วยยับยั้งการสะสมของกรดยูริกในร่างกาย ชาอู่หลงมีสาร polyphenol ที่ช่วยลดการสะสมของกรดยูริก ดังนั้น การดื่ม ชาลดกรดยูริค ที่มีมีคุณสมบัติในการลดระดับกรดยูริก จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อปวดและโรคไตวาย ทำให้สุขภาพดีขึ้น และสามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการจัดการระดับกรดยูริกได้อย่างเป็นธรรมชาติ

โรคเกาต์ : ทำความเข้าใจกับความเชื่อมโยงของกรดยูริก 
โรคเกาต์   เป็นภาวะที่เกิดจากการสะสมของกรดยูริกในร่างกาย โดยทั่วไปแล้วเกิดจากการสร้างฟองน้ำประสานของกรดยูริกในเส้นทางปล่อยออก ซึ่งอาจเกิดการทำลายในเส้นทางนี้ โรคนี้ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินปัสสาวะ และอาจเกิดอาการที่ควรระวังได้ เช่น อาการปัสสาวะไม่สะดวก หรืออาการปวดแสบในระยะรุนแรง

ความเชื่อมโยงกับกรดยูริก ?
การสร้างกรดยูริก : เกาต์เกิดจากการสร้างกรดยูริกเป็นปกติในร่างกาย แต่ในบางกรณี สารสังเคราะห์นี้อาจมีปริมาณมากเกินไป ทำให้เกิดฟองน้ำประสานของกรดยูริกภายในไต ที่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเกาต์

ปัจจัยเสี่ยง : ปัจจัยที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเกาต์รวมถึงการบริโภคอาหารที่มีปริมาณกรดยูริกสูง และการดื่มน้ำไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเข้าล้นของกรดยูริกในร่างกาย

การรักษาและการป้องกัน : การรักษาและการป้องกันโรคเกาต์รวมถึงการควบคุมอาหารที่บริโภค การดื่มน้ำให้เพียงพอ และการใช้ยาสมุนไพรหรือยากลุ่มอื่นๆ เพื่อควบคุมปริมาณกรดยูริกในร่างกาย

การควบคุมอาหาร : การลดการบริโภคอาหารที่มีปริมาณกรดยูริกสูง เช่น เนื้อสัตว์ที่มีปริมาณโปรตีนสูง อาหารที่เป็นกรด เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และอาหารที่มีปริมาณเกลือสูง

การออกกำลังกาย : การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยลดการสะสมของกรดยูริกในร่างกาย และช่วยเสริมสร้างระบบทางเดินปัสสาวะให้แข็งแรง

สรุป วิธีควบคุมกรดยูลิก ควรทำอย่างไร 
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร : 1) หลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณสารพิวรีนสูง เช่น เนื้อแดง เนื้อสัตว์ทะเล เครื่องในสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากเบียร์ 2) บริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อการลดกรดยูริก เช่น ผัก ผลไม้ ถั่วเมล็ดแห้ง และอาหารที่มีปริมาณโปรตีนต่ำ

ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ : การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ร่างกายสามารถขับถ่ายปัสสาวะได้ดี ช่วยลดการสะสมของกรดยูริก

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญและการขับถ่ายปัสสาวะ ลดการสะสมของกรดยูริก

ใช้สมุนไพรที่ช่วยลดระดับกรดยูริก : ชาสมุนไพรลดกรดยูริก หรือ สมุนไพรอื่น ๆ เช่น ขิง ว่านหางจระเข้ อบเชย และสะระแหน่ มีสรรพคุณในการลดระดับกรดยูริกในร่างกาย

ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด : ผู้ป่วยเบาหวานมีความเสี่ยงสูงต่อการสะสมของกรดยูริก ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในด้านต่างๆ ข้างต้น จะช่วยให้สามารถควบคุมระดับกรดยูริกในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันและลดอาการของโรคข้อปวดและโรคไตวาย ส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น