แปดปีแล้ว ยังไม่ได้ปลูกผักซักที

หลังจากที่ห่างหายจากการเขียนไปหลายเดือน วันนี้เราจะมาแบ่งปันข้อมูลให้เพื่อนๆ กันค่ะ แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่า เป็นการรวบรวมที่เกิดจากความเข้าใจของตัวเอง อาจจะไปอ้างอิงที่ไหนไม่ได้
จุดเริ่มต้นของเรา คงน่าจะมาจากการพยายามปลูกผักสลัด ซึ่งเราใช้เวลา อยู่เกือบ 2 ปี แต่ไม่ได้ทำทุกวันนะคะ ซึ่งการปลูกครั้งแรกคือ ไม่ได้กินเลย มาได้ครั้งที่ 2 ที่ 3 แต่ก็เป็นผักต้นเล็กๆ และหลังจากนั้นก็ทดลองปลูกอีก 3-4 รอบ แต่ไม่ได้ผลเลย
สาเหตุ ก็เพราะว่าดินที่เราปลูก เป็นดินเหนียว ดินถม ส่วนหน้าดินเราฝังอยู่ใต้ดินหมดค่ะ เพราะความไม่รู้เลยไม่ได้แยกหน้าดินไว้แต่แรก  เมื่อดินไม่สมบูรณ์ เราก็เริ่มทดลองปุ๋ย และ วัสดุปลูกไปเรื่อยๆ ทั้งอ่าน ทั้งฟัง ทดลองเอง จนหลังๆ ต้องไปหาคนที่เค้าประสบความสำเร็จจริงๆ แต่ยังไม่ได้กลับมาทำอย่างจริงจัง 
หลังจากที่ได้ไปเรียนรู้เรื่อง Regenerative Agriculture กับ คุณนิค และ คุณเจน ที่อุดรออร์กานิคฟาร์มแล้ว ทำให้เราเข้าใจเรื่องต่างๆมากขึ้น อยากปลูกผัก และ ต้นไม้ที่บ้านต้นแจงโดยอาศัยหลักเกษตรแบบฟื้นฟู เพราะถ้าเราสามารถสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินแล้ว สิ่งมีชีวิตในดินก็จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วย สำหรับเรามันจับต้องได้มากกว่าคำว่าเกษตรอินทรีย์
วันที่ไปเรียน คุณนิค พูดถึงคาร์บอน ซึ่งเราก็ไม่ค่อยเข้าใจว่ามันเกี่ยวข้องยังไงกับพืช ก็เลยใช้เวลาอ่าน และ ทำความเข้าใจอยู่พักใหญ่ จนไปเจอคำว่า Soil Carbon Sequestration คือ การเปลี่ยนคาร์บอนที่อยู่ในอากาศมาเก็บไว้ในดิน 
นั่นก็หมายความว่า ถ้าเราไม่มีต้นไม้ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และ มลพิษต่างๆ ก็จะเพิ่มสูงขึ้น ใบไม้ที่ร่วงลงพื้นดิน ก็มีส่วนประกอบของคาร์บอน กระบวนการย่อยสลายที่เกิดขึ้น ก็คงจะเป็นแหล่งอาหารให้กับสิ่งมีชีวิตต่างๆในดิน นอกจากนี้การย่อยสลายนี้ก็ยังให้ ไนโตรเจน ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชเช่นกัน
พอเริ่มอ่านก็เลยทำให้เราเข้าใจ Regenerative Agriculture มากขึ้นมาอีกนิดนึง  และเข้าใจว่าทำไม เราไม่ควรไถพรวน ทำไมเราไม่ควรปล่อยให้ดินว่างเปล่า ทำไมไม่ควรเผา
แล้วทำไมเราเอาขี้วัวใส่ต้นไม้โดยตรงแล้วพืชไม่งาม เพราะขบวนการ Mineralization จำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน กว่าจะได้อนินทรีย์ไนโตรเจนในรูปที่พืชเอาไปใช้ได้ 
นอกจากนี้ยังทำให้เข้าใจเกี่ยวกับการทำนาเปียกสลับแห้งมากขึ้น เพราะถ้าเราปล่อยให้น้ำขังนานเกินไป จะทำให้ดินขาดออกซิเจน จุลินทรีย์ในดินก็จะดึง ออกซิเจนออกจาก NO3- ทำให้ดินสูญเสีย ไนโตรเจนไปในรูปของ N2
หลังจากหาข้อมูลมาได้ซักพัก  คิดว่ากลางปีต่อไปนี้ เราจะเริ่มกลับไปทำสวนอย่างจริงจังซักที ส่วนเป้าหมายก็ยังคงเหมือนเดิม คือการปลูกผักโดยไม่ใช้สารเคมี เพื่อเอาไปผลิตไส้อั่วของเรานั่นเอง 
แต่สุดท้าย ความเข้าใจการการลงมือปฏิบัติตัวจริง ก็คงต้องทดลองต่อไปอีก ยังอีกไม่ไกลค่ะ แล้ววันนั้นเราก็จะชวนเพื่อนๆ มาเที่ยวที่สวนได้ซักที
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่