ไม่อยากรู้สึกถึงความกดดันอีกแล้วแต่..

เราเป็นลูกสาวคนเล็กเพิ่งอายุ13-14 มีพี่ชาย1คนอายุ20+
เราเริ่มรู้สึกกดดันตอนที่เราอยู่ป.6 ตอนนั้นแม่เราก็เริ่มไปขายของที่ตลาดพอดี แล้วเราก็ติดแฟน ในช่วงธันวาเราไปสอบโควตาพิเศษ เราก็สอบไม่ติดเพราะติดแฟน ก่อนหยุดปีใหม่ ครูก็เลี้ยงฉลองที่ผ่านปีนั้นมาได้ แล้วมีเพื่อนคนนึงถ่ายรูปเรากับเพื่อนผู้ชายที่สนิทนั่งเล่นเกมด้วยกันให้แฟนดู ด้วยแฟนขี้หึง หลังจากนั้นก็ทะเลาะกัน แต่พอตอนกลับบ้านโทรศัพท์เราแบตหมดเลยไม่ได้อ่าน มารู้อีกที่คือตอนมืด เราก็พยายามรั้งเขาไว้ แต่ก็เลิกกัน ผ่านปีใหม่ไปเรารู้ว่าแฟนเก่าเราไปคุยแล้วก็คบกับเพื่อนที่ถ่ายรูปเรา เราก็เสียใจแต่เพื่อนสนิทก็ดึงให้เราเข้าสู่การเรียน ผ่านไปเรื่อยๆถึงปลายเดือนมกรา จู่ๆแม่เราก็บอกว่าเรียนแถวบ้านนะไม่มีเงินส่ง
เราเลยคิดไม่สอบรอบห้องพิเศษแต่สุดท้ายเพื่อนก็บอกให้ไปสอบดู เราสอบ2ที่ติด2ที่ แต่แม่กลับส่งเราไปในรร.ที่เราไม่อยากเรียน เราก็ต้องยอม พอเรียนไปมันก็ไม่แย่แต่ไม่ที่ที่เราควรอยู่เพราะกฏระเบียบที่เข้มเกินไป แต่เราก็ได้แต่คิด ทุกๆเดือนเราจะไปหาตายายที่อยู่ต่างอำเภอ แล้วยายก็เล่าเรื่องเด็กท้ายหมู่บ้านแล้วแม่ก็พูดกับเราว่า เด็กบ้านนั้นอยู่ม.1เหมือนกัน เขาตื่นเช้าหุงข้าวทำกับข้าวเลี้ยงน้องแล้วขี่มอไซค์พาน้องไปส่งรร.ทุกเช้า แล้วสมองเราก็ดันจำคำพวกนั้นมาตลอด แล้วมีอยู่วันนึงเรานั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ญาติฝั่งพ่อมาหา เขาเลยถามเรียนว่าอยากเรียนอะไร เราอยากเรียนออกแบบ แต่ด้วยที่ตาพูดกล่อมให้เรียนพยาบาล เลยพูดไปว่าลังเลอยู่เขาก็บอกว่าเรียนพยาบาลดีกว่า เราก็ตอบรับตามมารยาทไป แล้วแม่ก็คอยพูดถึงลูกเพื่อนว่าเขาสอบได้ที่1นู้นนี้ลูกบ้านนู้นช่วยทำไร่ขายของ บลาๆ แล้วมันมีวันนึงที่ตายายเขาเปิดทีวีดูคนรับปริญญา ตาก็พูดขึ้นมาว่ารอเราไปอยู่ในจุดนั้น ยายก็พูดต่อว่าเรียนหมอจบไปเป็นผอ.โรงบาลพม่า โดยที่ในใจเราไม่อยากจะไม่เรียนทางนั้นเลยด้วยซ้ำ เราก็ได้แต่เงียบ 
เราเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จาเวลาอยู่บ้าน เราได้ยินอาพูดว่าเห็นอย่างนั้นเก่งอยู่แหละแต่ไม่พูดกับใครเลย แล้วยายก็พูดตลอดว่าตอนเด็กพูดมากโตมาไม่พูดเลย พูดบ้างเดะจะเป็นใบ้เอา เราได้ฟังเงียบ เขาคาดหวังว่าเราจะได้เป็นหมอเป็นพยาบาล เรียนได้เกรด4 ทำงานบ้านได้ทุกอย่าง ช่วยทำธุรกิจที่บ้านได้ โดยที่เขาไม่เคยถามว่า เหนื่อยไหม หรือ สอนงาน เขาเอาแต่พูดเปรียบลูกบ้านอื่น แล้วก็ต้องมาทนฟังพ่อแม่ทะเลาะกันทุกครั้งหลังจากกลับจากขายของ ตอนนี้เราคิดว่าในตอนที่เรามีวุฒิภาวะมากพอจะไปหางานทำทั้งวันทั้งคืนแบบไม่ต้องนอนจะได้ไม่ต้องมาทนฟังเสียงทะเลาะ คำเปรียบเทียบ เราคิดอย่างงั้นมาตลอด ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอม เรากำลังขึ้นม.2 ในเดือนตุลานี้พี่เราจะได้ปลดออกจากรมแล้ว เวลาเราจะคุยกับคนในบ้านก็พวกเรื่องจิปาถะสั้นๆ แต่คนที่เรารู้สึกว่าเราคุยไรไปเขารับได้ก็มีแต่พี่ชาย แต่เราก็คุยกับเขาตลอดไม่ได้ เพื่อนก็มีแค่1-2คน เราอยากจะอยู่คนเดียวเงียบๆแล้วได้ยินข่าวคราวว่าเขาสบายดี แค่นี้ แต่ด้วยอายุวุฒิภาวะอะไรหลายๆอย่าง

เราเข้าใจที่เขาห่วงที่เขาเหนื่อยจากงานเราเข้าใจเขาทุกอย่างแต่ด้วยอีโก้ทำให้ไม่ได้พูดคุยอะไรกันง่ายๆ
แถมพวกเขายังเป็นคนหน้าดุด้วยแหละ

เราไม่ต้องการอะไรขอแค่พวกคุณเขามารับรู้เรื่องที่เราเก็บไว้ในใจมา2-3ปี ขอบคุณที่เขามานั่งเสียเวลาอ่านด้วยนะคะ🙏🏻🙇🏻
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่