🇹🇭 {Thailand} ⛱ "พะงัน"...เจอกันครั้งหนึ่ง คิดถึงตลอดไป (Pha-Ngan)

..."ปีนี้คุณไปเที่ยวทะเลมารึยังคะ"...

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆสมาชิกพันทิป วันนี้ Are you for real? คนเดิมมาพาไปเที่ยวอีกแล้วค่ะ
วันนี้พาเที่ยวในประเทศไทยแสนสวยบ้านพวกเราเอง ซึ่งก็คือเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี นี่เอง

.
.
Are you for real? เป็นสาวเมืองเหนือ เติบโตจนแก่มาบนพื้นที่ราบสูงแบบภูเขาซะมากกว่าทะเล
จึงมีความสงสัยใคร่รู้ว่าทะเลนั้นมันเป็นยังไง ได้แต่นึกอิจฉาว่าคนที่มีบ้านใกล้ทะเล เขาน่าจะมีความสุขมากๆเลย
จากที่เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เคยได้แต่เที่ยวทะเลยอดนิยมแบบบางแสน พัทยา แต่ก็ไม่เคยรู้จักทะเลอื่นๆอีก
จนกระทั่งโตขึ้นมาจนแก่ ถึงได้รู้ว่า ทะเลในประเทศไทยของเรานั้นสวยงามที่สุด 
ไม่ว่าจะเป็นโซนไหนๆ น้ำทะเลสีฟ้าครามสดใส ก็จะคอยชะล้างจิตใจให้หายเครียดได้ดี
จึงเป็นที่มาของทริปนี้ค่ะ เพราะเราจะไปเที่ยวทะเลฝั่งอ่าวไทยกันเป็นครั้งแรก 
และเราเลือก "เกาะพะงัน" .....ไปค่ะ เก็บของ ไปเที่ยวเกาะกันนนน
เม่ากิจกรรมเม่าดี๊ด๊า

ก่อนอื่น มาดูแผนที่เกาะพะงันกันก่อน
เกาะพะงัน เป็นเกาะที่อยู่แยกออกมาทางตะวันออกเฉียงเหนือของ จ.สุราษฎร์ธานี

การเดินทางในทริปนี้จะมีทั้งนั่งเครื่องบิน นั่งรถ นั่งเรือ เลยเจ้าค่ะ เอาให้สุด! 

1. นั่งเครื่องจากสนามบินดอนเมือง >> มาลงสนามบินสุราษฏร์ธานี = ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
2. นั่งรถบัสจากสนามบินสุราษฏร์ธานี >> ท่าเรือดอนสัก = ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง - 2 ชั่วโมง
3. นั่งเรือเฟอร์รี่ (ราชาเฟอร์รี่) จากท่าเรือดอนสัก >> ท่าเรือท้องศาลา บนเกาะพะงัน = ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง - 2 ชั่วโมงครึ่ง 

พาพันเคลิ้ม
บรรยากาศบนรถ Shuttle Bus เพื่อไปขึ้นเครื่องบินค่ะ มีแต่ชาวต่างชาติจริงๆ 
มีกลุ่มคนไทยแค่เรากับเพื่อนเองมั้งนะ


ไปต่อกันที่ภาพบรรยากาศ รถบัสปรับอากาศที่จะพาเราไปท่าเรือดอนสักค่ะ
แอร์เย็นฉ่ำๆ นั่งหน้ารถไปเลยค่ะ กลุ่มคนไทย เพราะด้านหลังคือชาวต่างชาติ


จริงๆนี่เราเพิ่งรู้ ว่าเส้นทางสุราษฎร์ฯ สามารถไปต่อเกาะได้หลายเกาะเลย
เช่น เกาะพะงัน ที่เราจะไป และ เกาะสมุย
ซึ่งเท่าที่รู้คือ บางกอกแอร์เวย์มีไฟล์ทจากสุวรรณภูมิมาลงที่สมุยเลยแบบไม่ต้องต่อเรือ
แต่ที่ท่าเรือดอนสักนี่เอง ที่เขามีสองเกาะให้เลือก คือ
ใครจะไปพะงันก็ขึ้นเฟอร์รี่ลำนึง ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.เศษๆ ตารางเดินเรือจะไม่เยอะ
แต่ของสมุย ตารางเดินเรือ เวลาจะมีให้เลือกเยอะกว่า

เอาล่ะ ตอนนี้ก็ขึ้นรถบัส (ซึ่งมันก็คือรถทัวร์ดีๆนี่แหละ) เตรียมออกไปท่าเรือ
ถ้าไปช้า ก็ต้องรอรถรอบต่อไป ซึ่งจะออกได้ก็ต่อเมื่อมีไฟล์ทจากดอนเมืองมาลง
คณะเราทำธุระเสร็จช้าไปหน่อย เลยได้รอไปหลายนาทีอยู่
รอจนอีกไฟล์ทมาลง นักท่องเที่ยวก็ขึ้นมาบนรถ ซึ่งก็พบว่าคณะเราเป็นคณะเดียวที่เป็นคนไทย

นั่งรถยาวไปๆ สักพักก็มีน้าผู้หญิงขึ้นมาทำหน้าที่กระเป๋ารถเมล์ เช็คตั๋วๆ
นี่คือระยะทางที่เรานั่งไปกัน


เอาล่ะ เรามาถึงกันแล้ว ท่าเรือดอนสัก (Donsak Pier)
สิ่งที่ต้องทำอย่างแรกเลยคือ ขึ้นไปหาที่เคาน์เตอร์ AirAsia และยื่น Boarding Pass ให้
เขาจะให้ตั๋วขึ้นเรือเฟอร์รี่มา เรือที่เราจะขึ้นชื่อ ราชาเฟอร์รี่ 
พอดีช่วงนั้นก็เที่ยง เรือเฟอร์รี่ที่จะไปเกาะพะงันจะออกอีกทีตอนบ่ายสอง
เลยตัดสินใจไปหาอะไรกินกัน เดินออกไปทางด้านหลังมีร้านอาหารวิวดีมากอยู่ ควรไปหาอะไรรองท้องค่า
ได้ทานข้าวไข่เจียวของโปรดแล้ว ดีใจมากค่ะ

.
.
พอใกล้เวลาบ่ายสอง ก็เดินเรียงตัวไปขึ้นเรือที่ท่า ซึ่งตรงนี้อย่างที่บอก ไปได้ทั้งพะงันและสมุยค่ะ



เรือลำใหญ่ยักษ์กว่าที่คิด เป็นการนั่งเฟอร์รี่ครั้งแรกของเรา
เป็นเรือที่จุคนได้ราวๆ 100-200 คนทีเดียว แต่ถึงแม้จะมีที่ให้เลือกนั่งเยอะ
ด้านล่างเรือเขาจะเป็นที่ของรถยนต์ที่จะข้ามมายังเกาะนี้ ซึ่งเยอะมาก
ส่วนพวกเราก็ได้แต่เบียดเสียดหลบรถที่จะเข้ามาจอด 
แต่กระนั้นพวกเราขึ้นมาช้า ด้านในที่มีแอร์ก็มีคนจับจองกันไปหมดแล้ว
ด้านนอกข้างหลังเรือก็มีที่นั่งที่มีคนเต็ม พวกเราเลยไม่รู้จะทำไง เลยต้องนั่งมันกับพื้นนี่แหละค่ะ
โชคดีที่ใส่ขายาวสีดำมา เพราะพื้นมันเปื้อนเขม่าจากควันเรือมาก
และแดดก็ร้อนมากทีเดียว อากาศอบอ้าว คือนั่งได้ แต่สบายไม่สุด

ต่างชาติที่ล้อมรอบก็เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่น่าเกินสามสิบ มาเป็นคู่เห็นเยอะกว่ามาคนเดียว
มาเป็นกลุ่มก็พอมีให้เห็นบ้าง คงเป็นช่วง gap year ที่บางคนออกท่องโลกก่อนเข้ามหาลัยค่ะ
หรือบางคนอาจจะเพิ่งเรียนจบแล้วก่อนเข้าทำงาน อะไรงี้เนอะ
แต่ไม่ว่าจะอายุอานามเท่าไร สิ่งที่เหมือนกันของฝรั่งที่เราเห็นคือ
พวกเขาอ่านหนังสือ พกหนังสือติดตัวมากันด้วยคนละเล่มสองเล่ม
ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ไม่ได้เห็นกับคนไทยบ่อยๆ



เท่าที่เราเห็น มีประมาณ 40% ที่อ่านหนังสือ 20% เสียบหูฟังเพลง
30% หลับ และอีก 10% คือนั่งคุย และมีกลุ่มเดียวที่นั่งเล่นการ์ดเกม ก็พวกเรานี่ไงคะ 55555
แต่ระยะเวลาสองชั่วโมงบนเรือนี่มันนานจริงๆ เลยออกไปเดินเล่นรอบเรือกัน



ช่วง 45 นาทีสุดท้ายก่อนถึงเกาะ หลายคนเริ่มออกมาอยู่ด้านหลังเรือ
เพราะลมโชยเย็นสบายมากๆ ชอบมากๆเลย
แม้แดดจะร้อนแต่ตอนนั้นมันก็ใกล้ๆจะสี่โมงเย็นละ
เริ่มเห็นตัวเกาะแล้วค่ะ



ณ เวลานั้น พวกเราก็เบียดเสียดกันอีกรอบเพื่อรอลงเรือ
และก็ไปยืนออกันด้านล่างที่เจ้าของรถเริ่มสตาร์ทรถกันแล้ว
มันก็จะแออัดกันนิดนึง 

ท่าเรือที่เราจะลงกันจุดนี้ ชื่อว่า ท่าเรือท้องศาลา (Thong Sala Pier)
เป็นจุดที่เราจะเหยียบแผ่นดินพะงันเป็นที่แรก และเป็นจุดสุดท้ายที่จะออกจากพะงัน
ท่าเรือนี่ใหญ่ มีเรือที่จะต่อไปยังเกาะสมุย และหมู่เกาะอื่นๆได้ด้วย

พอพ้นกันมาได้ก็รีบจ้ำอ้าวมาถาม Taxi เพื่อไปที่พักที่หาดริ้น (Haad Rin)
Taxi ที่นี่ เอาจริงๆก็เป็นรถสองแถวนี่ล่ะค่ะ
คุยไปมาได้ความว่าจากท่าเรือท้องศาลาไปหาดริ้น คนละ 100
จะเห็นว่าอ่าวท้องศาลาและที่พักเราห่างกันอยู่ 11 กิโลเมตรค่ะ


ที่นี่มีลักษณะเป็นภูเขา แน่นอนว่าถนนก็ผ่านภูเขา
ที่สุดจะหวาดเสียวเลยค่า และเป็น part ที่ดีมากของที่นี่ด้วยน้า ชอบมากๆ

Taxi ที่นี่เก่งมาก คือนึกจะโค้งหักศอกก็หัก 
นึกจะสูงๆต่ำๆก็ไป ราวกับเป็นโรลเลอร์โคสเตอร์กันเลยค่ะ ใครชอบความตื่นเต้น น่าจะปลื้ม



และแล้ว เราก็มาถึง หาดริ้น (Haad Rin) กันค่า
ที่พักเราชื่อ “เนปจูน วิลล่า (Neptune’s Villa)”
จะบอกว่าเราชอบมากกก สตาฟฟ์คือดีงามค่ะ
มีห้องหลายแบบให้เลือก สระว่ายน้ำดี๊ดี เดินไปสามสี่ก้าวก็ถึงทะเลแล้ว
ฟิน
ที่สำคัญ เดินไป Full Moon Party ที่หาดริ้นได้แค่สิบนาทีเองค่า 

ตอนนี้เราพามาชมที่พักกันก่อนนะคะ


ที่พักของเราเป็นแบบบังกะโล บ้านเป็นหลังๆ มีสองชั้น
ที่พักมีทางเดินลงทะเลด้านหลังด้วย



ทางลงไปทะเลค่า




ในห้องนอน ไม่ได้ถ่ายภาพไว้เยอะเท่าไร
เรานอนกับเพื่อนอีก 1 คน ถือว่าห้องก็ไม่ใหญ่มาก กำลังพอดีเลยค่ะ



อันนี้เราเดินลงไปที่ชายหาดของโรงแรมนะคะ
เป็นที่พักที่ราคาน่าจะอัพขึ้นมาค่ะ



พระอาทิตย์กำลังตกดิน โอ๊ยยยย สวยมากกกกกก

"Sunsets are proof that no matter what happens every day can end beautifully." - Kristen Butler
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่