เกริ่นก่อนนะคะ ลองมองย้อนกลับไปที่ผู้ใหญ่เคยสอนเวลาให้เราเลือกคู่ชีวิต หรือคู่ครอง ให้เลือกที่ศีลเสมอกัน แล้วจะอยู่กันได้ยาว พ่อแม่เราก็สอนไว้แบบนั้น ตอนนั้นเราไม่คิดแบบนั้น คิดแค่ว่าเลือกคนที่เรารักเขา และเขาก็รักเรา ชีวิตคู่เป็นเรื่องคน คนสองคนนั้นไม่จริงเลย เรามารู้สึกกับตัวเองก็วันนี้
เราแก่กว่าแฟน 10 ปี ตอนคบกัน เขาน่ารัก เป็นคนดีมาก รักพ่อแม่เรา รักครอบครัวเรา รักเพื่อนเรา ดีทุกอย่าง จริงจังกับเรา วางแผนอนาคตไว้ชัดเจน เราร่วมกันเก็บ ร่วมกันสร้าง จนมีแพลนจะแต่งงานกันในปีหน้า 3 ปีนี้ เรามีที่ดิน 2 แปลง มีเงินเก็บด้วยกัน5แสน มีรถยนต์ 1 คัน เป็นสิ่งที่เราร่วมกันสร้างให้มีด้วยกัน สำหรับวันที่พร้อมจะแต่งงาน แต่ความรู้สึกทุกอย่างเริ่มพังลง ตั้งแต่ความรักมันไม่ใช่เรื่องของคนสองคน แบบที่เราเคยคิด แต่กลับเป็นเรื่องของคนมากมาย พ่อแม่เค้า ญาติเค้า
การสร้างชีวิตคู่มันต้องใช้เงินเยอะมากๆ เราเงินเดือนมากกว่าแฟน แฟนเราเงินเดือนน้อย แต่ก็ฝากเงินอัดแต่งงาน จนบางทีไม่พอใช้ต่อเดือน ต้องหยิบยืมเรา แต่เราเข้าใจมาตลอด เพราะเค้าอายุยังน้อย จะมาหวังให้เค้ามีเท่าเราตอนนี้ มันคงเป็นไปไม่ได้ แค่เค้าตั้งใจเก็บเงินแต่งงานก็ยากแล้ว ลำพังถ้าเราพยุงกันไป 2 คน เรารับได้นะ เรายอมเหนื่อยหาเงิน ยอมเสียสละความสุขทีได้ไปเที่ยว แต่งตัวสวยๆ เพื่อสร้างครอบครัว ชีวิตของเรา แต่ถ้าต้องพ่วงครอบครัวแฟนมาด้วย บอกตรงๆเราไม่ไหว พื้นฐานครอบครัวเรากับแฟน แตกต่างกันเกินไป ทั้งฐานะ ความเป็นอยู่ สภาพสังคม อย่างเรา เราไปกินข้าวกับพ่อ-แม่ แม่ไม่เคยให้เราต้องออกเงินสักบาท แม่แต่ชวนแฟนมากินข้าวด้วย แม้เรายังเลี้ยงหรู เลี้ยงดีทุกมื้อ แม่เรามีแต่ให้ เพราะแม่รู้ว่าเราต้องใช้เงินสร้างอนาคตอีกเยอะ แม้แต่ตอนแก่ แม่เรายังเกรงใจที่จะมาอยุ่กับเรา แต่กับแม่แฟน แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เค้าคิดว่าแฟนเราต้องเป็นเสาหลัก เวลาไปกินข้าวกับแฟน แม่แฟน แม้แต่มื้อถูกๆที่กินด้วยกัน แฟนเราก็จ่ายตลอด ทั้งๆที่เงินแฟนเราก็แทบจะไม่พอใช้ต่อเดือน ต้องเก็บเงินแต่งงาน ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ไหนจะค่ารถ ค่าดูแลรถ จนเราต้องเอ่ยปากบอกแฟนว่า ให้ช่วยหารค่าข้าวไหม ในส่วนของแม่เค้า น้อยมากๆที่จะถามแฟนเราว่า เหนื่อยไหม กินข้าวยัง มีแต่ทักมาทวงเงินบ้าง เราเลยบอกแฟนว่า ถ้าแต่งงาน ยืนยันยังไงก็จะอยู่กันแค่ 2 คน แต่เราปรี๊ดแตกตรงที่ คราวนี้มีญาติทักมายืมเงินแฟนอีก ซึ่งแฟนก็ไม่มีเงินให้ยืม เพราะเก็บแต่งงานหมด เราต้องควักเงินส่วนตัวให้ญาติแฟนยืม ขนาดพ่อแม่ พี่น้อง ญาติแท้ๆของเรายังไม่เคยยืมเงินเราเลยสักบาท เราใกล้ความฝันที่จะได้แต่งงานกับแฟน มีบ้านมีรถ แต่ความรู้สึกเรากลับถอยห่างจากความฝันนั้นออกมาทุกที เพราะเราเหนื่อย เรารู้สึกเราเหนื่อยหาเงินมากๆ แล้วเงินนั้นจะต้องมาให้คนอื่นหยิบยืม แทนที่จะใช้เพื่อตัวเอง เรากลัวว่าถ้าเราแต่งงานกันไป เงินเดือนเราก็ต้องรวมกัน แล้วเราหาเงินได้เยอะกว่า ลำพังถ้ามีกันแค่2คน ก็พอจะช่วยๆพยุงกันไปได้ แต่เรากังวลอนาคตหลังแต่งงาน ถ้าแม่แฟนหรือญาติแฟนเดือดร้อนเรื่องเงิน เราก็ต้องไปช่วยพยุงให้ทางนั้นด้วยหรอ เราบอกตรงๆ เราเครียดมาก เครียดจนนั่งร้องไห้ไปหลายรอบ
ปรึกษาแม่ แม่ก็บอกให้เลือกดีๆ นี่ขนาดยังไม่แต่งงานนะ เรายังเครียดขนาดนี้ จริงๆ ผช หรือฝั่ง ผช ควรช่วยออกค่างานแต่ง หรือค่าใช้จ่ายในสัดส่วนที่มากกว่าด้วยซ้ำ แค่ช่วยออก ช่วยเก็บครึ่งๆ เราก็ให้เยอะมากๆแล้ว แม่ก็เตือนว่าถ้าแต่งไปเห็นอนาคตเลย ว่าเราเหนื่อยแน่นอน ถ้าเงินส่วนใหญ่ที่หาได้ในบ้าน เป็นเรา และถ้ามีคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนมาเกี่ยวข้องอีก
เราคิดวนไปวนมา ถ้าจะไม่แต่ง ถ้าจะเลิกกับแฟน เพียงเพราะญาติ หรือแม่เค้า หรือกังวลอนาคตมากเกินไป มันจะใจร้ายกับแฟนเราไปไหม ทั้งที่เก็บ ที่สร้างกันมา 3 ปี มันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ถึงแฟนเราเงินเดือนจะน้อย แต่ก็เหนื่อยและสู้ แต่ถ้าแต่งงานกันเราก็ไม่อยากต้องมาเครียดเรื่องเงิน(ไม่ได้เห็นแก่เงิน แต่เราคิดว่าเรื่องเงินเป็นปัญหาใหญ่สำหรับการใช้ชีวิตคู่จริงๆ) และกังสลเรื่องครอบครัวแฟนจะมาขอความช่วยเหลืออะไรอีกไหม ต้องมานั่งวุ่นวายเรื่องเงินกับญาติ กับแม่เค้าไหม แฟนเราไม่ได้ผิดอะไร เค้าเลือกพ่อแม่ เลือกญาติไม่ได้ และอายุเค้าก็ยังน้อย จะหวังให้มีเท่าเราก็ไม่ได้ และแฟนเราก็บอกแต่งงานมันคือเราแต่งกัน 2 คน ไม่ใช่คนอื่น มันก็ใช่เราแต่งกัน 2 คน แต่ทำไมทุกคนก็มายุ่งวุ่นวายกับแฟนเรา มายุ่งเรื่องเงินของเราไม่เลิก เราไม่เคยต้องเครียดเรื่องยืมเงินเลย เพราะพื้นฐานฝั่งครอบครัวเราไม่ใช่แบบนี้ เราควรจะทำยังไงดีคะ ตอนนี้เราก็เสียใจ ที่เรามองฝั่งครอบครัวแฟนไม่ดีมากๆ อาจเพราะเราเอาไปเปรียบเทียบกับพื้นฐานครอบครัวตัวเองแบบไม่รู้ตัว
แม่เราบอกให้เราเลือกคนที่ศีลเสมอกัน ไม่ต้องรวยกว่าก็ได้ แค่มีให้เท่าๆกับเรา พื้นฐานครอบครัวใกล้เคียงกับเรา แล้วเราจะไม่เหนื่อย เราควรจะตัดใจเลิกกับแฟน หรือต้องปรับความเข้าใจยังไงดี ในอนาคตเราก็ไม่อยากต้องมาทนมีปัญหาเรื่องหยิบยืมเงิน หรือให้ความช่วยเหลือกับญาติฝั่งแฟน
**แฟนเราเป็นคนดีจริงๆ ขยันมากๆ เค้าทำงานหนักมาก ยอมเอาเหงื่อแลกเงิน เสียสละความสุขส่วนตัว จากวัยที่เค้าจะได้เที่ยว ได้ใช้เงิน จากการเริ่มต้นทำงาน เค้าประหยัด แทบไม่ซื้อของอะไรเลย เพื่อเก็บเงิน จาก 3 ปีที่แล้ว เริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลยจริงๆ เค้าเป็นคนอายุน้อย แต่มองอนาคตไกล เค้าบอกขอเวลาเค้าได้พิสูจน์ตัวเอง เค้าจะทำให้ได้อย่างที่พูด ถ้าให้เค้ามีทุกอย่างตอนนี้ เค้าทำไม่ได้ แต่ถ้าอยู่ด้วยกัน ร่วมกันสร้าง วันหน้ามีแน่ ซึ่งวันนี้ก้อมีจริงๆ มีมากกว่าที่คิด มีเหมือนที่เค้าเคยพูดไว้ เค้าเป็นคนรักษาคำพูด พูดไหนคำนั้น ถ้าเค้าทำไม่ได้ เค้าจะไม่พูดมันออกมา เค้าเสมอต้นเสมอปลายกับเรายังไง วันนี้ก้อแบบนั้น เป็นเหมือนเพชร ที่เราไม่อยากเสียไป เค้าเคยบอกว่าครอบครัวเค้าไม่อบอุ่นนะ เราสงสารเค้า และก็กังวลด้วยที่ถ้าแต่งงานจะมีปัญหาเรื่องเงินกับญาติ กับครอบครัวเค้าไหม แต่เรื่องยืมเงินญาติรอบนี้ เค้าถามเราก่อนนะคะ ว่าจะให้ไหม ถ้าไม่ให้ เค้ายินดีปฏิเสธญาติ เราว่าเค้าหนักแน่นในระดับนึงค่ะ (แต่ในอนาคตก็หวังว่าเค้าจะหนักแน่นเหมือนเดิม) เค้าให้เราตัดสินใจ เค้าบอกเค้ารักเรามาก ถ้าวันนึงเหนื่อยจริงๆ ไม่ไหว ขอให้บอกเค้าคำเดียว เค้าพร้อมปล่อยเราไป สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเค้าคือเค้าอยากเห็นเรามีความสุข และเค้าขอโทดตลอดที่เค้าไม่มีอะไร เลยทำให้เราต้องเหนื่อย แต่เราก็เลือกที่จะเหนื่อยตั้งแต่วันแรกที่เราคบกับเค้าแล้วค่ะ ไม่งั้นเราคบคนรวยๆ ฐานะดีๆ ที่มาจีบเราเหมือนกันแล้ว ตอนนั้น55
**ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากๆเลยนะคะ🙏🏻 เราไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากขนาดนี้ เราเข้าใจทุกคนค่ะ ทุกคนหวังดี ส่วนใหญ่แนะนำให้เราคิดดีๆ แนะนำเหมือนแม่ของเรา เพราะหลายๆคนก็ผ่านจุดนี้ไปแล้ว หรือเห็นคนใกล้ตัว สภาพเป็นยังไงหลังจากนี้ กระทู้นี้เราเขียนในมุมมองของเราเป็นหลักที่พบเจออะไรบ้าง เหนื่อยยังไงบ้าง กังวลอะไรบ้าง ถ้าคบฝ่ายชายที่เงินเดือนน้อยกว่า ต้องพบเจอปัญหา อะไรบ้าง ในฐานะของฝ่ายหญิง เรารู้สึกผิดเลย บางคนคิดว่าแฟนเรามาเกาะ ไม่ได้เรื่อง หรือหวังเงินเรา งั้นเราขอเล่าคร่าวๆอีกกระทู้นึงนะคะ (ถ้าต่อกระทู้นี้จะยาวไป) ว่าที่ผ่านมา แฟนเราพยายามมากแค่ไหน เค้าต้องเสียสละอะไรไปบ้าง ใน 3 ปีที่ผ่านมา ถ้าคุณได้อ่าน คุณอาจจะได้อีกมุมมองนึงค่ะ
https://pantip.com/topic/42616519
เข้าใจคำว่า ศีลไม่เสมอกัน แต่งงานกันไม่ได้ก็วันนี้แหล่ะ
เราแก่กว่าแฟน 10 ปี ตอนคบกัน เขาน่ารัก เป็นคนดีมาก รักพ่อแม่เรา รักครอบครัวเรา รักเพื่อนเรา ดีทุกอย่าง จริงจังกับเรา วางแผนอนาคตไว้ชัดเจน เราร่วมกันเก็บ ร่วมกันสร้าง จนมีแพลนจะแต่งงานกันในปีหน้า 3 ปีนี้ เรามีที่ดิน 2 แปลง มีเงินเก็บด้วยกัน5แสน มีรถยนต์ 1 คัน เป็นสิ่งที่เราร่วมกันสร้างให้มีด้วยกัน สำหรับวันที่พร้อมจะแต่งงาน แต่ความรู้สึกทุกอย่างเริ่มพังลง ตั้งแต่ความรักมันไม่ใช่เรื่องของคนสองคน แบบที่เราเคยคิด แต่กลับเป็นเรื่องของคนมากมาย พ่อแม่เค้า ญาติเค้า
การสร้างชีวิตคู่มันต้องใช้เงินเยอะมากๆ เราเงินเดือนมากกว่าแฟน แฟนเราเงินเดือนน้อย แต่ก็ฝากเงินอัดแต่งงาน จนบางทีไม่พอใช้ต่อเดือน ต้องหยิบยืมเรา แต่เราเข้าใจมาตลอด เพราะเค้าอายุยังน้อย จะมาหวังให้เค้ามีเท่าเราตอนนี้ มันคงเป็นไปไม่ได้ แค่เค้าตั้งใจเก็บเงินแต่งงานก็ยากแล้ว ลำพังถ้าเราพยุงกันไป 2 คน เรารับได้นะ เรายอมเหนื่อยหาเงิน ยอมเสียสละความสุขทีได้ไปเที่ยว แต่งตัวสวยๆ เพื่อสร้างครอบครัว ชีวิตของเรา แต่ถ้าต้องพ่วงครอบครัวแฟนมาด้วย บอกตรงๆเราไม่ไหว พื้นฐานครอบครัวเรากับแฟน แตกต่างกันเกินไป ทั้งฐานะ ความเป็นอยู่ สภาพสังคม อย่างเรา เราไปกินข้าวกับพ่อ-แม่ แม่ไม่เคยให้เราต้องออกเงินสักบาท แม่แต่ชวนแฟนมากินข้าวด้วย แม้เรายังเลี้ยงหรู เลี้ยงดีทุกมื้อ แม่เรามีแต่ให้ เพราะแม่รู้ว่าเราต้องใช้เงินสร้างอนาคตอีกเยอะ แม้แต่ตอนแก่ แม่เรายังเกรงใจที่จะมาอยุ่กับเรา แต่กับแม่แฟน แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เค้าคิดว่าแฟนเราต้องเป็นเสาหลัก เวลาไปกินข้าวกับแฟน แม่แฟน แม้แต่มื้อถูกๆที่กินด้วยกัน แฟนเราก็จ่ายตลอด ทั้งๆที่เงินแฟนเราก็แทบจะไม่พอใช้ต่อเดือน ต้องเก็บเงินแต่งงาน ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ไหนจะค่ารถ ค่าดูแลรถ จนเราต้องเอ่ยปากบอกแฟนว่า ให้ช่วยหารค่าข้าวไหม ในส่วนของแม่เค้า น้อยมากๆที่จะถามแฟนเราว่า เหนื่อยไหม กินข้าวยัง มีแต่ทักมาทวงเงินบ้าง เราเลยบอกแฟนว่า ถ้าแต่งงาน ยืนยันยังไงก็จะอยู่กันแค่ 2 คน แต่เราปรี๊ดแตกตรงที่ คราวนี้มีญาติทักมายืมเงินแฟนอีก ซึ่งแฟนก็ไม่มีเงินให้ยืม เพราะเก็บแต่งงานหมด เราต้องควักเงินส่วนตัวให้ญาติแฟนยืม ขนาดพ่อแม่ พี่น้อง ญาติแท้ๆของเรายังไม่เคยยืมเงินเราเลยสักบาท เราใกล้ความฝันที่จะได้แต่งงานกับแฟน มีบ้านมีรถ แต่ความรู้สึกเรากลับถอยห่างจากความฝันนั้นออกมาทุกที เพราะเราเหนื่อย เรารู้สึกเราเหนื่อยหาเงินมากๆ แล้วเงินนั้นจะต้องมาให้คนอื่นหยิบยืม แทนที่จะใช้เพื่อตัวเอง เรากลัวว่าถ้าเราแต่งงานกันไป เงินเดือนเราก็ต้องรวมกัน แล้วเราหาเงินได้เยอะกว่า ลำพังถ้ามีกันแค่2คน ก็พอจะช่วยๆพยุงกันไปได้ แต่เรากังวลอนาคตหลังแต่งงาน ถ้าแม่แฟนหรือญาติแฟนเดือดร้อนเรื่องเงิน เราก็ต้องไปช่วยพยุงให้ทางนั้นด้วยหรอ เราบอกตรงๆ เราเครียดมาก เครียดจนนั่งร้องไห้ไปหลายรอบ
ปรึกษาแม่ แม่ก็บอกให้เลือกดีๆ นี่ขนาดยังไม่แต่งงานนะ เรายังเครียดขนาดนี้ จริงๆ ผช หรือฝั่ง ผช ควรช่วยออกค่างานแต่ง หรือค่าใช้จ่ายในสัดส่วนที่มากกว่าด้วยซ้ำ แค่ช่วยออก ช่วยเก็บครึ่งๆ เราก็ให้เยอะมากๆแล้ว แม่ก็เตือนว่าถ้าแต่งไปเห็นอนาคตเลย ว่าเราเหนื่อยแน่นอน ถ้าเงินส่วนใหญ่ที่หาได้ในบ้าน เป็นเรา และถ้ามีคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนมาเกี่ยวข้องอีก
เราคิดวนไปวนมา ถ้าจะไม่แต่ง ถ้าจะเลิกกับแฟน เพียงเพราะญาติ หรือแม่เค้า หรือกังวลอนาคตมากเกินไป มันจะใจร้ายกับแฟนเราไปไหม ทั้งที่เก็บ ที่สร้างกันมา 3 ปี มันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ถึงแฟนเราเงินเดือนจะน้อย แต่ก็เหนื่อยและสู้ แต่ถ้าแต่งงานกันเราก็ไม่อยากต้องมาเครียดเรื่องเงิน(ไม่ได้เห็นแก่เงิน แต่เราคิดว่าเรื่องเงินเป็นปัญหาใหญ่สำหรับการใช้ชีวิตคู่จริงๆ) และกังสลเรื่องครอบครัวแฟนจะมาขอความช่วยเหลืออะไรอีกไหม ต้องมานั่งวุ่นวายเรื่องเงินกับญาติ กับแม่เค้าไหม แฟนเราไม่ได้ผิดอะไร เค้าเลือกพ่อแม่ เลือกญาติไม่ได้ และอายุเค้าก็ยังน้อย จะหวังให้มีเท่าเราก็ไม่ได้ และแฟนเราก็บอกแต่งงานมันคือเราแต่งกัน 2 คน ไม่ใช่คนอื่น มันก็ใช่เราแต่งกัน 2 คน แต่ทำไมทุกคนก็มายุ่งวุ่นวายกับแฟนเรา มายุ่งเรื่องเงินของเราไม่เลิก เราไม่เคยต้องเครียดเรื่องยืมเงินเลย เพราะพื้นฐานฝั่งครอบครัวเราไม่ใช่แบบนี้ เราควรจะทำยังไงดีคะ ตอนนี้เราก็เสียใจ ที่เรามองฝั่งครอบครัวแฟนไม่ดีมากๆ อาจเพราะเราเอาไปเปรียบเทียบกับพื้นฐานครอบครัวตัวเองแบบไม่รู้ตัว
แม่เราบอกให้เราเลือกคนที่ศีลเสมอกัน ไม่ต้องรวยกว่าก็ได้ แค่มีให้เท่าๆกับเรา พื้นฐานครอบครัวใกล้เคียงกับเรา แล้วเราจะไม่เหนื่อย เราควรจะตัดใจเลิกกับแฟน หรือต้องปรับความเข้าใจยังไงดี ในอนาคตเราก็ไม่อยากต้องมาทนมีปัญหาเรื่องหยิบยืมเงิน หรือให้ความช่วยเหลือกับญาติฝั่งแฟน
**แฟนเราเป็นคนดีจริงๆ ขยันมากๆ เค้าทำงานหนักมาก ยอมเอาเหงื่อแลกเงิน เสียสละความสุขส่วนตัว จากวัยที่เค้าจะได้เที่ยว ได้ใช้เงิน จากการเริ่มต้นทำงาน เค้าประหยัด แทบไม่ซื้อของอะไรเลย เพื่อเก็บเงิน จาก 3 ปีที่แล้ว เริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลยจริงๆ เค้าเป็นคนอายุน้อย แต่มองอนาคตไกล เค้าบอกขอเวลาเค้าได้พิสูจน์ตัวเอง เค้าจะทำให้ได้อย่างที่พูด ถ้าให้เค้ามีทุกอย่างตอนนี้ เค้าทำไม่ได้ แต่ถ้าอยู่ด้วยกัน ร่วมกันสร้าง วันหน้ามีแน่ ซึ่งวันนี้ก้อมีจริงๆ มีมากกว่าที่คิด มีเหมือนที่เค้าเคยพูดไว้ เค้าเป็นคนรักษาคำพูด พูดไหนคำนั้น ถ้าเค้าทำไม่ได้ เค้าจะไม่พูดมันออกมา เค้าเสมอต้นเสมอปลายกับเรายังไง วันนี้ก้อแบบนั้น เป็นเหมือนเพชร ที่เราไม่อยากเสียไป เค้าเคยบอกว่าครอบครัวเค้าไม่อบอุ่นนะ เราสงสารเค้า และก็กังวลด้วยที่ถ้าแต่งงานจะมีปัญหาเรื่องเงินกับญาติ กับครอบครัวเค้าไหม แต่เรื่องยืมเงินญาติรอบนี้ เค้าถามเราก่อนนะคะ ว่าจะให้ไหม ถ้าไม่ให้ เค้ายินดีปฏิเสธญาติ เราว่าเค้าหนักแน่นในระดับนึงค่ะ (แต่ในอนาคตก็หวังว่าเค้าจะหนักแน่นเหมือนเดิม) เค้าให้เราตัดสินใจ เค้าบอกเค้ารักเรามาก ถ้าวันนึงเหนื่อยจริงๆ ไม่ไหว ขอให้บอกเค้าคำเดียว เค้าพร้อมปล่อยเราไป สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเค้าคือเค้าอยากเห็นเรามีความสุข และเค้าขอโทดตลอดที่เค้าไม่มีอะไร เลยทำให้เราต้องเหนื่อย แต่เราก็เลือกที่จะเหนื่อยตั้งแต่วันแรกที่เราคบกับเค้าแล้วค่ะ ไม่งั้นเราคบคนรวยๆ ฐานะดีๆ ที่มาจีบเราเหมือนกันแล้ว ตอนนั้น55
**ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากๆเลยนะคะ🙏🏻 เราไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากขนาดนี้ เราเข้าใจทุกคนค่ะ ทุกคนหวังดี ส่วนใหญ่แนะนำให้เราคิดดีๆ แนะนำเหมือนแม่ของเรา เพราะหลายๆคนก็ผ่านจุดนี้ไปแล้ว หรือเห็นคนใกล้ตัว สภาพเป็นยังไงหลังจากนี้ กระทู้นี้เราเขียนในมุมมองของเราเป็นหลักที่พบเจออะไรบ้าง เหนื่อยยังไงบ้าง กังวลอะไรบ้าง ถ้าคบฝ่ายชายที่เงินเดือนน้อยกว่า ต้องพบเจอปัญหา อะไรบ้าง ในฐานะของฝ่ายหญิง เรารู้สึกผิดเลย บางคนคิดว่าแฟนเรามาเกาะ ไม่ได้เรื่อง หรือหวังเงินเรา งั้นเราขอเล่าคร่าวๆอีกกระทู้นึงนะคะ (ถ้าต่อกระทู้นี้จะยาวไป) ว่าที่ผ่านมา แฟนเราพยายามมากแค่ไหน เค้าต้องเสียสละอะไรไปบ้าง ใน 3 ปีที่ผ่านมา ถ้าคุณได้อ่าน คุณอาจจะได้อีกมุมมองนึงค่ะ https://pantip.com/topic/42616519