ผมมีบัญชีออมทรัพย์กับทางกรุงไทย สาขาหนึ่ง ซึ่งบัญชีนี้ได้พ่วงบัตร ATM ไว้ ต่อมาได้แจ้งขออายัด ATM (ซึ่งทาง จนท.ได้อายัดให้เรียบร้อยแล้ว) แต่ จนท.ไม่สามารถยกเลิกบัตร ATM ให้ได้ และบอกผมว่าต้องไปที่สาขาที่เปิดบัญชีเท่านั้นจึงจะยกเลิกให้ได้
จากนั้นทุกต้นเดือน ม.ค. บัญชีออมทรัพย์นี้จะถูกหักค่า ATM ทุกปี ซึ่งนั่นหมายความว่า บัญชีที่ลงท้าย 209 ซึ่งไม่ได้ใช้ จะมียอด -199 บาทค้างในระบบ
วันที่ 5 ก.พ. 67 ผมจึงแจ้ง ข้อเสนอแนะแก่ทางธนาคาร ว่าควรปรับระบบงานหรือไม่ เพราะธนาคารควรทราบว่าลูกค้าไม่ได้ใช้บริการ (จากการอายัดบัตรเกิน 1 ปี) คุณควรวางระบบให้มีการคิดค่าบริการหรือไม่ และถ้าบัญชีที่อายัดไว้นานแล้วมันเป็นต้นทุนแก่ทางธนาคาร เหตุใดธนาคารไม่ยกเลิกการให้บริการ ATM แก่ลูกค้าเอง (คล้ายกับบางธนาคารที่วางกฎว่าหากบัญชีออมทรัพย์ใดมีเงินเหลือต่ำกว่าเกณฑ์, ไม่มีความเคลื่อนไหว จะถูกบังคับปิดบัญชี)
(เลขที่เสนอแนะ/ร้องเรียน CAS-2024020223 และ CAS-2024020223A รหัสติดตามร้องเรียน ODmDTjZL)
14 ก.พ. 67 ทางธนาคารได้โทรศัพท์ติดต่อกลับมา รับ Feedback ที่แจ้งไป โดยแก้ไขสิ่งที่ผมเคยเข้าใจผิดว่า "การปิดบัญชีบัตร ATM สามารถทำได้ทุกสาขา" (จากตอนแรกบอกว่าต้องไปสาขาเปิดบัญชีเท่านั้น) และรับเคสผมเป็นกรณีพิเศษจะยกเว้นค่าธรรมเนียมให้ แต่ขอให้ผมรีบไปธนาคารใดก็ได้โดยเร็ว ผมจึงแจ้งว่าขณะนั้นผมได้ลาป่วยอยู่ (เป็น Covid-19) อยู่ไม่สะดวกไป ประเด็นนี้ผมไม่เข้าใจว่า จนท. ที่โทรหาผมคิดอย่างไร ทำเพียงแจ้งว่าขอให้ผมไปธนาคารที่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว ผมจึงแจ้งว่าจะไปสาขาเดอะมอลล์ท่าพระ
ทั้งที่ผมป่วย และธนาคารไม่อลุ่มอล่วย ตกบ่ายวันนั้น ผมจึงรีบไปที่สาขาเดอะมอลล์ท่าพระ (โดยใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันผู้อื่นติดเชื้อ)
พอไปถึง จนท. ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าทางศูนย์ Call Center คุยกับผมไว้ (ทั้งที่บอกผมว่าจะดีลกันไว้ให้ไปโดยด่วน)
ผมรออยู่สาขาประมาณ 2 ชม. สรุปไม่ได้ความคืบหน้าใด ๆ และขอให้ผมกลับไปก่อน (กลับไปอาการป่วยหนักกว่าเดิม) สรุปวันนั้นไม่ได้อะไร ปิดบัญชีลงท้าย 209 ก็ไม่ได้ ค่าธรรมเนียมที่บอกจะยกเลิกให้ ก็ไม่ได้ทำให้
ไม่กี่วันต่อมา ทาง Call Center โทรเข้ามา บอกผมว่าเดี๋ยวรับเคสทำให้ต่อนะ แล้วก็หายไป จากนั้นไม่ได้รับการติดต่อจากธาคารอีกเลย
ปัจจุบัน บัญชี 209 ยังมียอด -199 บาทเช่นเดิม
ระบบร้องเรียนหน้าเว็บไซต์ธนาคารแจ้งสถานะ "ยกเลิกเคส"
ทั้งหมดนี้ผมมีข้อสงสัย 3 ข้อ
1. ธนาคารควรปรับระบบงานหรือไม่ เพราะธนาคารควรทราบว่าลูกค้าไม่ได้ใช้บริการ (จากการอายัดบัตรเกิน 1 ปี) คุณควรวางระบบให้มีการคิดค่าบริการหรือไม่ และถ้าบัญชีที่อายัดไว้นานแล้วมันเป็นต้นทุนแก่ทางธนาคาร เหตุใดธนาคารไม่ยกเลิกการให้บริการ ATM แก่ลูกค้าเอง (เสมือนกับบางธนาคารที่วางกฎว่าหากบัญชีออมทรัพย์ใดมีเงินเหลือต่ำกว่าเกณฑ์, ไม่มีความเคลื่อนไหว จะถูกบังคับปิดบัญชี)
ตรงนี้เป็นเรื่องระบบงาน ที่ผมอยากให้พิจารณาใหม่ และอยากทราบความคืบหน้า หรือเหตุผลที่หนักแน่นพอครับ
2. Call Center โทรมาให้ผมรีบไปสาขา ทั้งที่ผมแจ้งว่า "ผมป่วย" คุณคิดอะไรอยู่ครับ ถึงให้คนป่วยรีบลุกไป โดยที่คุณไม่ได้ประสานงานกันไว้ ตามที่ได้บอกกับผม อย่างน้อยก็น่าจะคิดถึงสวัสดิการ พนง.ธนาคารที่ผมต้องไปคุยด้วยก็ยังดี ไม่ใช่ให้ผมห่วงเขาเพียงฝ่ายเดียว
3. ข้อตกลงที่คุณให้คำมั่นกับผม เรื่องจะยกเว้นค่าธรรมเนียมให้ ทำไมยังไม่ได้ครับ แล้วช่วงนั้นจะตกลงกันไปเพื่ออะไร
ขอทางธนาคารกรุงไทย (KTB) ช่วยมาตอบและแจ้งความคืบหน้าเคสผมด้วยครับ
จากนั้นทุกต้นเดือน ม.ค. บัญชีออมทรัพย์นี้จะถูกหักค่า ATM ทุกปี ซึ่งนั่นหมายความว่า บัญชีที่ลงท้าย 209 ซึ่งไม่ได้ใช้ จะมียอด -199 บาทค้างในระบบ
วันที่ 5 ก.พ. 67 ผมจึงแจ้ง ข้อเสนอแนะแก่ทางธนาคาร ว่าควรปรับระบบงานหรือไม่ เพราะธนาคารควรทราบว่าลูกค้าไม่ได้ใช้บริการ (จากการอายัดบัตรเกิน 1 ปี) คุณควรวางระบบให้มีการคิดค่าบริการหรือไม่ และถ้าบัญชีที่อายัดไว้นานแล้วมันเป็นต้นทุนแก่ทางธนาคาร เหตุใดธนาคารไม่ยกเลิกการให้บริการ ATM แก่ลูกค้าเอง (คล้ายกับบางธนาคารที่วางกฎว่าหากบัญชีออมทรัพย์ใดมีเงินเหลือต่ำกว่าเกณฑ์, ไม่มีความเคลื่อนไหว จะถูกบังคับปิดบัญชี)
(เลขที่เสนอแนะ/ร้องเรียน CAS-2024020223 และ CAS-2024020223A รหัสติดตามร้องเรียน ODmDTjZL)
14 ก.พ. 67 ทางธนาคารได้โทรศัพท์ติดต่อกลับมา รับ Feedback ที่แจ้งไป โดยแก้ไขสิ่งที่ผมเคยเข้าใจผิดว่า "การปิดบัญชีบัตร ATM สามารถทำได้ทุกสาขา" (จากตอนแรกบอกว่าต้องไปสาขาเปิดบัญชีเท่านั้น) และรับเคสผมเป็นกรณีพิเศษจะยกเว้นค่าธรรมเนียมให้ แต่ขอให้ผมรีบไปธนาคารใดก็ได้โดยเร็ว ผมจึงแจ้งว่าขณะนั้นผมได้ลาป่วยอยู่ (เป็น Covid-19) อยู่ไม่สะดวกไป ประเด็นนี้ผมไม่เข้าใจว่า จนท. ที่โทรหาผมคิดอย่างไร ทำเพียงแจ้งว่าขอให้ผมไปธนาคารที่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว ผมจึงแจ้งว่าจะไปสาขาเดอะมอลล์ท่าพระ
ทั้งที่ผมป่วย และธนาคารไม่อลุ่มอล่วย ตกบ่ายวันนั้น ผมจึงรีบไปที่สาขาเดอะมอลล์ท่าพระ (โดยใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันผู้อื่นติดเชื้อ)
พอไปถึง จนท. ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าทางศูนย์ Call Center คุยกับผมไว้ (ทั้งที่บอกผมว่าจะดีลกันไว้ให้ไปโดยด่วน)
ผมรออยู่สาขาประมาณ 2 ชม. สรุปไม่ได้ความคืบหน้าใด ๆ และขอให้ผมกลับไปก่อน (กลับไปอาการป่วยหนักกว่าเดิม) สรุปวันนั้นไม่ได้อะไร ปิดบัญชีลงท้าย 209 ก็ไม่ได้ ค่าธรรมเนียมที่บอกจะยกเลิกให้ ก็ไม่ได้ทำให้
ไม่กี่วันต่อมา ทาง Call Center โทรเข้ามา บอกผมว่าเดี๋ยวรับเคสทำให้ต่อนะ แล้วก็หายไป จากนั้นไม่ได้รับการติดต่อจากธาคารอีกเลย
ปัจจุบัน บัญชี 209 ยังมียอด -199 บาทเช่นเดิม
ระบบร้องเรียนหน้าเว็บไซต์ธนาคารแจ้งสถานะ "ยกเลิกเคส"
ทั้งหมดนี้ผมมีข้อสงสัย 3 ข้อ
1. ธนาคารควรปรับระบบงานหรือไม่ เพราะธนาคารควรทราบว่าลูกค้าไม่ได้ใช้บริการ (จากการอายัดบัตรเกิน 1 ปี) คุณควรวางระบบให้มีการคิดค่าบริการหรือไม่ และถ้าบัญชีที่อายัดไว้นานแล้วมันเป็นต้นทุนแก่ทางธนาคาร เหตุใดธนาคารไม่ยกเลิกการให้บริการ ATM แก่ลูกค้าเอง (เสมือนกับบางธนาคารที่วางกฎว่าหากบัญชีออมทรัพย์ใดมีเงินเหลือต่ำกว่าเกณฑ์, ไม่มีความเคลื่อนไหว จะถูกบังคับปิดบัญชี)
ตรงนี้เป็นเรื่องระบบงาน ที่ผมอยากให้พิจารณาใหม่ และอยากทราบความคืบหน้า หรือเหตุผลที่หนักแน่นพอครับ
2. Call Center โทรมาให้ผมรีบไปสาขา ทั้งที่ผมแจ้งว่า "ผมป่วย" คุณคิดอะไรอยู่ครับ ถึงให้คนป่วยรีบลุกไป โดยที่คุณไม่ได้ประสานงานกันไว้ ตามที่ได้บอกกับผม อย่างน้อยก็น่าจะคิดถึงสวัสดิการ พนง.ธนาคารที่ผมต้องไปคุยด้วยก็ยังดี ไม่ใช่ให้ผมห่วงเขาเพียงฝ่ายเดียว
3. ข้อตกลงที่คุณให้คำมั่นกับผม เรื่องจะยกเว้นค่าธรรมเนียมให้ ทำไมยังไม่ได้ครับ แล้วช่วงนั้นจะตกลงกันไปเพื่ออะไร