บทความตามใจฉัน “GoC64: Pirate War Dreamcast”

Game Piracy หรือเกมละเมิดลิขสิทธิ์นั้นเป็นปัญหาที่เครื่องเกมคอนโซลเกือบทุกรุ่นจะต้องเจอ
แม้แต่ SEGA Dreamcast ที่เป็นความหวังสุดท้ายของ SEGA เองก็หนีไม่พ้นปัญหาดังกล่าว
ในบทความนี้ผู้เขียนจะกล่าวถึงวิธีที่ Dreamcast ใช้ป้องกันเกมละเมิดลิขสิทธิ์ว่าเค้าทำอย่างไรและเกิดความผิดพลาดที่ตรงไหนจนทำให้เกมละเมิดลิขสิทธิ์สามารถเล่นได้บน Dreamcast
 

 
ในยุคของ Dreamcast ซึ่งต่อไปนี้ผู้เขียนจะกล่าวถึงด้วยตัวย่อว่า dc นั้น มีความเชื่อกันว่า dc มีระบบป้องกันเกมละเมิดลิขสิทธิ์ที่อ่อนแอที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องยุคเดียวกัน
 
เรื่องราวที่ถูกเล่ากันมีอยู่ว่าทาง SEGA ที่กำลังประสบปัญหาทางสถานะการเงินนั้นได้พึ่งวิธีการใช้ GD-Rom ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะเพียงอย่างเดียวในการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่ใส่ระบบป้องกันอื่น ๆ ลงไปเลยเพื่อลดต้นทุน โดยเชื่อเอาเองว่าเมื่อไม่มี แผ่น GD-Rom และ GD-Rom Writer ในตลาด เกมก็จะไม่สามารถถูกละเมิดลิขสิทธิ์ได้

ทว่าก็มีผู้ที่พบว่า GD-Rom Drive ของ dc นั้นยังสามารถอ่านแผ่น CD ได้ จึงทดลองเขียนไฟล์เกมลง CD แล้วเล่นดู ผลปรากฏว่าเล่นได้ เลยทำให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่ในที่สุด โดยเกมที่มีขนาดใหญ่เกิน 700MB ซึ่งเป็นความจุสูงสุดของ CD นั้นจะมีการบีบอัดไฟล์เสียงหรือวิดีโอใหม่เพื่อให้ขนาดเล็กลงจนใส่ CD ได้ หรือไม่ก็ตัดออกไปเลย ทำให้การละเมิดลิขสิทธิ์เกมของ dc นั้นง่ายดายมากเพียงโหลดไฟล์ Iso ของเกมแล้วเขียนลง CD ก็สามารถเล่นเกมได้แล้ว
 
นั้นเป็นเพียงผลลัพธ์สุดท้ายเท่านั้น โดยเบื้องหลังแล้ว dc มีระบบป้องกันการละเมิดที่เกือบจะสมบูรณ์ที่สุดเครื่องหนึ่งก็ว่าได้
 

 
ก่อนอื่นเรามาเริ่มที่แผ่น GD-Rom กัน
แผ่น GD-Rom นั้นถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ ส่วน Audio Track ซึ่งจากในรูปจะเห็นวงในสุดของแผ่นที่เป็นวงเล็ก ๆ และสีแปลกกว่าส่วนอื่น ตรงนี้มีอีกชื่อเรียกว่า MIL-CD หรือ Music Interactive Live CD ซึ่งเป็น Format เฉพาะของ SEGA เองและเข้ากันได้กับ Audio CD Format ส่วนที่เหลือคือข้อมูลเกม
 
หากเอาแผ่น GD-Rom ไปใส่ CD หรือ DVD Drive ผลปรากฏว่า Drive จะมองเห็นแค่ในส่วนของ Audio Track เท่านั้น ทำให้ไม่สามารถก๊อปปี้ข้อมูลเกมออกมาได้
และหากสามารถก๊อปปี้ข้อมูลเกมออกมาได้ ทาง SEGA เองก็เตรียมวิธีการรับมือไว้แล้วโดยไฟล์สำหรับบูตโปรแกรมเกมที่เขียนอยู่บนแผ่นนั้นจะถูกเขียนในสภาพ shuffle ตามตำแหน่งต่าง ๆ ของแผ่น หากข้อมูลถูกนำออกมาไฟล์ก็จะถูกทำให้อยู่ในสภาพที่เสียหายจนนำไปใช้เล่นบน dc ไม่ได้ ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพ ก็นึกถึงเอกสารที่ถูกสลับหน้าทั้งเล่มจนมั่วไปหมด ไม่รู้ว่าหน้าไหนคือหน้าไหน
 

 
การที่จะอ่านไฟล์สำหรับบูตโปรแกรมเกมได้อย่างถูกต้องนั้นมีเงื่อนไข 2 ข้อ
1. ระบบต้องอ่านไฟล์ที่ชื่อ IP.Bin ที่อยู่ในส่วน Audio Track หรือ MIL-CD ก่อนเพราะไฟล์นี้จะบอกว่าไฟล์ข้อมูลสำหรับบูตเกมเริ่มตั้งต้นตำแหน่งไหน
2. ต้องมี GD-Rom Drive เพราะไม่มี Drive ใด ๆ ในโลกที่เข้าถึงส่วนของข้อมูลบน GD-Rom ได้นอกจาก GD-Rom Drive
 
วิธีการนั้นดูเหมือนจะรัดกุมดีแต่ก็มีการค้นพบจุดผิดพลาดขึ้นและเป็นความผิดพลาดโดยทาง SEGA เอง
สิ่งที่ค้นพบคือไฟล์ข้อมูลสำหรับบูตเกมนั้นสามารถรวบรวมและประกอบจนสมบูรณ์ได้ด้วย SEGA Katana ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับพัฒนาเกมบน Dreamcast จำหน่ายโดย SEGA เอง ซึ่งทำให้สามารถสร้างแผ่นบูต dc ที่สั่งงานให้เครื่องข้ามกระบวนการตรวจสอบเกมละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหมดได้
นี่ทำให้กำแพงป้องกันชั้นที่ 1 ของ Dreamcast แตกในที่สุด
 

 
กำแพงป้องกันชั้นที่ 2 คือตัวแผ่น GD-Rom เอง
แม้จะสามารถสั่งงานให้เครื่องข้ามกระบวนการตรวจสอบเกมละเมิดลิขสิทธิ์ได้แล้วแต่ยังเหลือปัญหาอยู่
หนึ่งคือจะก๊อปปี้ข้อมูลเกมได้อย่างไรและอีกหนึ่งคือจะเอาแผ่น GD-Rom ที่ไหนมาเขียนเกมลงไป
เรามาเริ่มที่การก๊อปปี้ข้อมูลเกมกันก่อน
 
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นคือข้อมูลเกมนั้นเข้าถึงได้ด้วย GD-Rom Drive เท่านั้น แล้วจะดึงข้อมูลเกมออกมาได้ยังไง
วิธีการนั้นค่อยข้าง Old School หรือง่ายกว่าที่คิด เพราะตอนนี้เราสามารถเขียนโปรแกรมสั่งให้ dc ทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการแล้ว โดยสรุปคือมีการเขียนแผ่นบูต dc ที่สั่งให้เครื่องอ่านและก๊อปปี้ข้อมูลแผ่นเกมทั้งหมดส่งออกมาผ่าน serial port ที่อยู่ข้างหลังเครื่องซึ่งต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าที่จะดึงข้อมูลเกมทั้งหมดออกมาได้
 
วิธีการนี้ต่อมาถูกปรับปรุงให้เร็วขึ้นโดยสั่งให้ dc ส่งข้อมูลเกมออกมาผ่าน broadband internet adapter ที่ถูกวางจำหน่ายในภายหลังแทน
 

 
ทีนี้เราก็ได้ข้อมูลเกมมาแล้ว ต่อไปก็แผ่นเกม เราจะไปหาแผ่น GD-Rom ที่ไหนมาเขียนเกม
คำตอบคือก็ไม่ต้องใช้ GD-Rom
จำได้ไหมว่า MIL-CD นั้นเข้ากันได้กับ Audio CD Format หรือก็คือ Format CD ธรรมดาทั่วไป
หรือพูดอีกอย่างก็คือ GD-Rom นั้นสามารถอ่านแผ่น CD ได้
ซึ่งตรงนี้จะย้อนไปถึงช่วงแรกของบทความ นั้นคือการเขียนไฟล์เกมลง CD แทน GD-Rom โดยเกมที่มีขนาดใหญ่เกิน 700MB จะมีการบีบอัดไฟล์เสียงหรือวิดีโอใหม่เพื่อให้ขนาดเล็กลงจนใส่ CD ได้ หรือไม่ก็ตัดออกไป ทีนี้ก็ได้แผ่นเกมมาในสุด
 
กระบวนบูตเกมละเมิดลิขสิทธิ์จึงมีดังนี้
1.ใส่แผ่นบูตสำหรับเริ่มเกม เมื่อบูตเสร็จจะขึ้นหน้าจอว่าให้ใส่แผ่นเกม
2. เอาแผ่นเกมที่ก๊อปปี้มาใส่ลงไป
ทาด้าาา เล่นเกมได้แล้ว
 

 
ต่อมาก็มีการปรับปรุงให้แผ่นบูตสำหรับเริ่มเกมรวมเป็นแผ่นเดียวกับเกมไปเลย ทำให้เกิดผลลัพธ์สุดท้ายคือแค่เขียนแผ่นเกมจาก iso ไฟล์ก็เอามาเล่นบน dc ได้ กลายเป็นความเข้าใจผิดว่า dc ไม่มีระบบป้องกันไปในที่สุด
 
SEGA ที่รู้ตัวถึงปัญหานี้เองก็ทำอะไรไม่ได้มากเพราะตอนนั้นถังแตกอยู่ ได้แต่ปล่อยเครื่อง dc รุ่นเก่าที่เล่นเกมละเมิดลิขสิทธิ์ได้ซึ่งคาดว่าน่าจะมีอยู่ในตลาดหลายล้านเครื่องไป โดยไปแก้ไขเอาในเครื่องล๊อตใหม่แทนโดนการปิดฟีเจอร์ของ MIL-CD เสีย ผลของมันนั้นบ้างก็ว่าทำให้ dc อ่านแผ่น CD เพลงไม่ได้อีก บ้างก็ว่าถึงขนาดอ่านแผ่น CD อะไรก็ตามไม่ได้อีกเลย
 
ซึ่งสุดท้ายก็โดน Mod Chip บังคับเปิดฟีเจอร์ของ MIL-CD อยู่ดี
 

 
ปล. ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน” 
โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ
https://www.facebook.com/uptomejournal/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่