คำถามที่พบได้บ่อยที่โต๊ะหมอ ณ วันเกณฑ์ทหาร

กระทู้สนทนา
จุดประสงค์ของการเขียนบทความนี้
- เพื่อรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารในขั้นตอนที่มีกรรมการแพทย์เป็นส่วนเกี่ยวข้อง สำหรับน้องๆที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจเลือกทหารกองเกิน จะได้เตรียมตัวให้พร้อมที่สุด

ข้อจำกัดของบทความ
- เป็นบทความที่เขียนโดยหมอที่ทำหน้าที่ "กรรมการแพทย์" มาแล้วห้าปี ประสบการณ์ถือว่าน้อย
- บทความนี้จะครอบคลุมเฉพาะขั้นตอนที่กรรมการแพทย์มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้น (การตรวจร่างกาย และจำแนกน้องๆเป็นบุคคลจำพวกต่างๆ)
- ไม่ครอบคลุมเนื้อหาในขั้นตอนอื่นๆ เช่น งานเอกสาร กระบวนการร้องเรียนกรรมการชั้นสูง หรือการขอใบรับรองแพทย์ก่อนวันตรวจเลือก (ไปขอได้วันไหน ที่ไหน เอาอะไรไปยื่นเพื่อขอใบรับรองแพทย์บ้าง) 
- จขกท. ไม่มีสิทธิ์ อำนาจ หรือหน้าที่ในการกำหนดบุคคลเป็นจำพวกผ่านระบบออนไลน์ อำนาจชี้ขาด ว่าน้องจะเป็นคนจำพวกใด จะอยู่ที่กรรมการแพทย์ (ร่วมกับประธานคณะ และสัสดี) ณ วันตรวจเลือกเท่านั้น
- การปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการแพทย์นั้น อาศัยดุลยพินิจเป็นหลัก กรรมการแพทย์ท่านอื่นอาจมีดุลยพินิจหรือความเข้มงวดในขั้นตอนการปฏิบัติงานที่แตกต่างจากที่เขียนไว้ในกระทู้นี้ได้ ขอให้อ่านกระทู้นี้เอาไว้เป็น "แนวทาง" ไม่ใช่ "กฏหมาย" นะครับ
- ข้อมูลอัพเดทล่าสุดวันที่ 25/3/67
_______________________________________________________
0. คอนเซปต์ของกรรมการแพทย์
- กรรมการแพทย์จะมีหน้าที่จำแนกน้องๆเป็นคนจำพวกต่างๆ โดยอาศัยหลักฐานหลายๆอย่างมาประกอบกัน ไม่ว่าจะมาจากการตรวจร่างกาย ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษา และผลตรวจพิเศษต่างๆ และใช้ "ดุลยพินิจ" ของกรรมการแพทย์ในการประเมินว่า จะให้น้องๆเป็นคนจำพวกไหน
- ในสายตาของกรรมการแพทย์ ใบรับรองแพทย์ไม่ใช่ "คำสั่ง" ว่าให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้ แต่เป็นเอกสารชนิดหนึ่งเพื่อประกอบกับการใช้ดุลยพินิจเท่านั้น
- ดังนั้น ไม่ควรถือใบรับรองแพทย์มาเพียงอย่างเดียว ในหลายๆกรณี ใบรับรองแพทย์อย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้กรรมการแพทย์ส่งคุณไปเป็นบุคคลจำพวกที่ 2 หรือ 4 (ทำให้เป็นบุคคลจำพวกที่ 3 ต้องมาใหม่ปีหน้าด้วยหลักฐานที่มากขึ้น หรือ บุคคลจำพวกที่ 1 จับใบดำใบแดงไปเลย) และในหลายๆกรณี แม้จะไม่มีใบรับรองแพทย์มาเลย แต่กรรมการแพทย์ตรวจพบความผิดปกติ ก็ทำให้น้องๆรอดพ้นจากการเกณฑ์ทหารได้เช่นเดียวกัน ดุลยพินิจล้วนๆครับ
- แต่ถ้ามีหลักฐานมาครบถ้วน ก็จะทำให้การใช้ดุลยพินิจ ทำได้ง่ายขึ้นกว่าไม่มีอะไรมาเลย

1. สิ่งที่กรรมการแพทย์คาดหวังจากน้องๆที่มีภาวะเจ็บป่วย
- เพื่อผลประโยชน์ของน้องๆ (และความง่ายของกรรมการแพทย์ในการทำงาน) กรรมการแพทย์คาดหวังที่จะได้เห็นสิ่งต่างๆดังต่อไปนี้
1.1. ใบรับรองแพทย์ฉบับจริง (เป็นใบๆ ไม่เอารูปถ่าย หรือเปิดดูออนไลน์ เนื่องจากน้องๆต้องเซ็นกำกับ ว่าเอาเอกสารฉบับนี้มายื่นจริง แล้วทางกรรมการแพทย์จะจัดเก็บไว้เป็นหลักฐานให้กองทัพต่อไป)
1.2. ประวัติการรักษา/เวชระเบียน โดยเฉพาะโรคที่รักษามานาน จะมีความสำคัญมาก
1.3. ผลตรวจต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น ผลเลือด ผลเป่าปอด ฟิล์ม X-ray, CT scan, MRI และอื่นๆ (บางโรค เอามาแต่ใบรับรองแพทย์ไม่ได้)
1.4. บัตรผู้พิการ (ถ้ามี)

2. ใบรับรองแพทย์ ควรจะไปขอจากที่ไหนดี รพ.ค่าย รพ.รัฐบาล รพ.เอกชน หรือ คลินิก?
- ความน่าเชื่อถือของใบรับรองแพทย์ ไล่จากที่เชื่อถือได้มากที่สุด ลงมาต่ำสุด คือ
2.1. ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลทหารบก (ตรวจเช็คได้ง่ายที่สุด เนื่องจากมีระบบออนไลน์ในการตรวจสอบ)
2.2. ใบรับรองแพทย์จากรพ.รัฐบาล (ถ้ามีข้อเคลือบแคลงสงสัย กรรมการแพทย์จะโทรไปสอบถามที่โรงพยาบาล)
2.3. ใบรับรองแพทย์จากรพ.เอกชน และคลินิก (ความน่าเชื่อถือต่ำที่สุด กรรมการแพทย์จะถูกเทรนมาว่า ไม่มีน้ำหนักในการพิจารณา)

ดังนั้น สามารถขอใบรับรองแพทย์ได้จากทั้งรพ.ทหาร และรพ.รัฐบาล ไม่แนะนำให้ขอใบรับรองแพทย์จากรพ.เอกชนหรือคลินิก เนื่องจากกรรมการแพทย์หลายท่านจะไม่พิจารณาใบรับรองแพทย์ฉบับนั้น

3. ปัญหาที่พบได้บ่อยในใบรับรองแพทย์
- สำหรับใบรับรองแพทย์รพ.ทหาร มักจะไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะจะรู้ดีว่าควรออกใบรับรองแพทย์อย่างไร (และมีระบบออนไลน์ที่จะแนบผลตรวจที่สำคัญให้กรรมการแพทย์อ่านอยู่แล้ว) แต่ปัญหาจะพบบ่อยในใบรับรองแพทย์รพ.รัฐ เช่น
3.1. แพทย์ที่เซ็นใบรับรองแพทย์ ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยโรคนั้นๆ เช่น ในใบรับรองแพทย์เขียนมาว่าสายตาสั้นเกิน 800 (แต่คนเซ็นใบรับรองแพทย์ไม่ได้เป็นจักษุแพทย์) เขียนว่าเป็นโรคซึมเศร้า (แต่คนเซ็นไม่ใช่จิตแพทย์) เป็นต้น -> ส่วนใหญ่จะจบลงเป็นบุคคลจำพวกที่ 3 (ปีหน้ามาใหม่ด้วยใบรับรองแพทย์ที่ถูกต้อง)
3.2. มีใบรับรองแพทย์มาจริง แต่เป็นโรคที่ต้องมีหลักฐานการตรวจอื่นๆประกอบ เช่น โรคหอบหืด (ต้องมีผลเป่าปอด), ธาลัสซีเมีย (ต้องมีผลตรวจ Hemoglobin typing) -> เป็นบุคคลจำพวกที่ 3 (ปีหน้ามาใหม่ด้วยหลักฐานที่มากชึ้น)
3.3. ใบรับรองแพทย์เก่าเกินไป ความเก่าของใบรับรองแพทย์ไม่ได้มีตัวตัดชัดเจนว่าต้องกี่เดือนกี่วัน แต่ถ้าห่างจากวันตรวจเลือกมากๆ ในบางโรคอาจทำให้ความน่าเชื่อถือของใบรับรองแพทย์ลดลง 
3.4. ถ้ากรรมการแพทย์สงสัยเรื่องการปลอมแปลงใบรับรองแพทย์ จะทำการโทรไปสอบถามที่โรงพยาบาล ว่าได้มาขอใบรับรองแพทย์จริงหรือไม่ ดังนั้น อย่าปลอมใบรับรองแพทย์มาเด็ดขาด

4. ไปขอใบรับรองแพทย์รพ.ทหารมาแล้ว แต่ไม่เห็นเขียนเลยว่างดเว้นการเกณฑ์ทหาร หรือเป็นบุคคลจำพวกไหน ตกลงต้องเกณฑ์ทหารไหม?
- หน้าที่ในการจำแนกน้องๆเป็นบุคคลจำพวกต่างๆ ไม่ใช่หน้าที่ของหมอที่รพ.ทหาร แต่เป็นหน้าที่ของกรรมการแพทย์ที่มาตรวจน้องๆ ณ วันตรวจเลือก ดังนั้น ใบรับรองแพทย์จากรพ.ทหาร จึงมักจะไม่ระบุจำพวกในใบรับรองแพทย์
- ใบรับรองแพทย์รพ.ทหารที่ไม่ได้ระบุจำพวก ในทางปฏิบัติ หมายถึง ให้กรรมการแพทย์หน้างานเป็นคนตัดสินใจเอง ว่าน้องๆเป็นบุคคลจำพวกใด
- ใบรับรองแพทย์รพ.ทหาร มักจะระบุจำพวก เฉพาะเพศสภาพไม่ตรงเพศกำเนิด หรือ บุคคลจำพวกที่ 4 เท่านั้น คือ มีโรคที่ขัดต่อการเกณฑ์ทหารอย่างชัดเจน เช่น เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคลมชัก โรคหอบหืด สายตาสั้นเกิน 800 เป็นต้น เนื่องจากเป็นโรคที่ต้องอาศัยพยานหลักฐานที่หนาแน่น และวินิจฉัยโดยแพทย์เฉพาะทาง จึงจะสามารถวินิจฉัยได้ ประกอบกับมีการสแกนเวชระเบียนที่สำคัญเข้าระบบออนไลน์ เพื่อให้กรรมการแพทย์หน้างานตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
- ภาวะอ้วน (BMI เกิน 35) ไม่ต้องขอใบรับรองแพทย์ เนื่องจากน้ำหนักสามารถเปลี่ยนแปลงได้ จึงต้องมาวัดน้ำหนักกับส่วนสูงที่หน้างานเท่านั้น ถ้าวัดแล้ว BMI เกิน 35 ก็เป็นคนจำพวกที่ 4 เลย แต่ถ้า BMI ไม่ถึง แม้จะมีใบรับรองแพทย์ ก็ต้องเป็นคนจำพวกที่ 1 เพราะต้องบันทึกน้ำหนักและส่วนสูงที่วัดได้ลงไปในใบสด.43 ด้วย

5. มีเหล็กดามกระดูก แปลว่าไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ใช่หรือไม่?
- ไม่ใช่ครับ เพราะการประเมินเหล็กดามกระดูก มีหลักสำคัญดังนี้
5.1. ใส่เหล็กดามไม่เกิน 1 ปี = ถือว่ากระดูกยังติดได้ไม่ดี ให้เป็นบุคคลจำพวกที่ 3 (ปีหน้ามาประเมินใหม่)
5.2. ใส่เหล็กดามเกิน 1 ปี จะตรวจร่างกาย พร้อมกับดูฟิล์ม X-ray
- ถ้าอยู่ที่แกนกลางกระดูก(ไม่ใกล้ข้อ): ถ้าในฟิล์ม X-ray กระดูกติดดี = จำพวกที่ 1, กระดูกติดผิดรูป = จำพวกที่ 2
- ถ้าอยู่ใกล้ข้อต่อ: ตรวจดูองศาการเคลื่อนไหว ถ้าองศาปกติ = จำพวกที่ 1, องศาลดลง = จำพวกที่ 2

6. รอยสักตามตัว หรือใบหน้า ระเบิดหู เจาะจมูก มีผลต่อการเกณฑ์ทหารหรือไม่?
- ไม่มีครับ เกณฑ์ทหารตามปกติ แต่ถ้าใครคิดจะมาเอาดีทางทหาร เช่น อยากเป็นนายสิบ นายร้อย ห้ามมีรอยสักในบริเวณที่เห็นได้ชัดเจน

7. เพศสภาพไม่ตรงเพศกำเนิด ต้องทำอย่างไรบ้าง?
- ถ้าทำการผ่าตัดเสริมเต้านมแล้ว หรือทำช่วงล่าง(ตัดทิ้ง)ไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองแพทย์
- ถ้ายังไม่ได้ทำ หรือกินแต่ฮอร์โมน ต้องมีใบรับรองแพทย์ประกอบ
- สามารถขอใบรับรองแพทย์ได้ที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า รพ.ค่าย (เฉพาะบางแห่งที่มีจิตแพทย์ หรือถ้าไม่มี มักจะร่างหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้จิตแพทย์รพ.รัฐตรวจแทนให้) หรือ รพ.รัฐ (ต้องออกใบรับรองแพทย์โดยจิตแพทย์เท่านั้น และต้องระบุชัดเจน ว่ามีเพศสภาพไม่ตรงเพศกำเนิด)
- ถ้าอยากให้กระบวนการลื่นไหลที่สุด มาปีเดียวแล้วจบ แนะนำให้ขอใบรับรองแพทย์จากรพ.พระมงกุฎเกล้า หรือรพ.ค่าย เนื่องจากมีหลายๆกรณีที่มีใบรับรองแพทย์จากรพ.รัฐ แล้วน้องๆต้องไปเอาใบรับรองแพทย์รพ.ทหารมายื่นใหม่ปีหน้า เช่น เขียนแทงกั๊ก (ไม่ฟันธงว่าเป็นหรือไม่เป็นกันแน่) อ่านไม่ออก ตรวจสอบชื่อแพทย์และเลขใบประกอบวิชาชีพไม่ได้ กรรมการแพทย์ไม่มั่นใจในใบรับรองแพทย์ ฯลฯ

8. การติดเชื้อ HIV
- ต้องมีใบรับรองแพทย์ และ/หรือผลเลือดมาประกอบทุกครั้งที่ยื่น
- ถ้าไม่มีผลเลือดหรือใบรับรองแพทย์ = ตรวจเหมือนน้องๆที่ไม่มีโรคประจำตัว ถ้าปกติดี = จำพวกที่ 1 (ถ้ามาพบทีหลังว่าติดเชื้อจริง ก็กินยารักษาในค่ายทหาร ไม่มีปลดออก ดังนั้น รับผิดชอบตัวเองในการเอาหลักฐานมานะครับ)
- ถ้ามีผลเลือดหรือใบรับรองแพทย์ = ลงในใบสด.43 ว่า มีโรคติดเชื้อ ซึ่งจะบำบัดให้หายใน ๓๐ วันไม่ได้ (จำพวกที่ 3) ซึ่งน้องๆต้องมาทั้งหมดสามครั้ง (3 ปี) หลังจากนั้นไม่ต้องมาอีกแล้ว
- ถามว่าทำไมต้องให้มาสามปี: เพื่อหลีกเลี่ยงการเขียนว่า "มีโรคติดเชื้อเรื้อรังระยะแสดงอาการรุนแรง ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้" (จำพวกที่ 4) ถ้าน้องๆรับได้ คิดว่าที่ทำงานเขาโอเคกับการเห็นใบสด.43 ที่เขียนเช่นนี้ ให้แจ้งกรรมการแพทย์ครับ กรรมการแพทย์ยินดีจะเขียนเป็นบุคคลจำพวกที่ 4 ให้

9. ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD, กลุ่มโรคตุ่มน้ำพอง โรคลำไส้โป่งพอง ตอนนี้งดเกณฑ์ทหารหรือยัง?
- อ้างอิงจากการประชุมกรรมการแพทย์ปี 2567 นี้ ได้ข้อสรุปว่า "ยังไม่งด" ครับ (อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ณ ตอนนี้ จึงยังไม่มีผลบังคับใช้)
- สรุป: ตอนนี้ถือว่าเป็นคนจำพวกที่ 1 อยู่ครับ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

10. ถ้าน้องๆคิดว่า กระบวนการตรวจเลือก ไม่ได้รับความเป็นธรรม จะร้องเรียนอย่างไรได้บ้าง?
- สามารถร้องเรียนได้ผ่านการร้องเรียน "กรรมการชั้นสูง" โดยสามารถสอบถามกระบวนการได้ที่เจ้าหน้าที่ ณ วันตรวจเลือก เดี๋ยวเขาพาไปทำเรื่องเอง
- กรรมการชั้นสูง จะเป็นทีมแยกอีกต่างหากในการพิจารณาคนเป็นจำพวกซ้ำ โดยการตัดสินจากกรรมการชั้นสูง ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด

11. BMI เกิน ยังเอาเข้าไปเป็นทหารอยู่หรือเปล่า?
- เอาจริงๆข้อนี้คือจุดประสงค์หลักที่ต้องมาตั้งกระทู้ เพราะมีสมาชิกให้คำตอบที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงหลายท่าน อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดถ้าปล่อยทิ้งไว้
- BMI เกิน เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่ทำให้เกิดโรคลมร้อน (heatstroke) ในพลทหาร ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายถึงตายได้ จากการที่อวัยวะหลายๆอย่างหยุดทำงาน (ไตวาย ตับวาย เป็นต้น ซึ่งต้องนอน ICU) หรือ ถ้าไม่ตาย มักจะทิ้งร่องรอยของโรคเอาไว้หลังจากพ้นขีดอันตราย โดยเฉพาะอาการทางสมอง (คิดอ่านช้าลง พูดไม่ชัด ฯลฯ)
- ซึ่งการที่เอาคนที่ BMI เกินเข้าไปในค่ายทหาร แม้ระเบียบจะเขียนเอาไว้ชัดเจนแล้วว่าเป็นคนจำพวกที่ 4 แปลว่า ประธานคณะตรวจเลือก สัสดี และกรรมการแพทย์ ต้องมารับผลกรรม รับหางเลข รับผิดชอบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เพราะฝ่าฝืนกติกาชัดเจน จึงไม่มีใครกล้าแบกรับความเสี่ยงตรงนี้ (อีกอย่างคือ มีคนจำพวกที่ 1 มากเกินพอที่จะเอาไปจับใบดำใบแดงอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องดึงดันเอาคนกลุ่มนี้เข้าค่ายทหารให้ได้)
- มีกระบวนการร้องเรียนกรรมการชั้นสูงรองรับอยู่แล้ว น้องๆสามารถร้องเรียนได้ครับ ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม

12. ผมมีโรค/อาการ "ใส่ชื่อโรค/อาการ" ต้องเกณฑ์ทหารไหม?
- เนื่องจากจขกท.ไม่มีอำนาจหน้าที่จำแนกคนผ่านระบบออนไลน์ ไม่ได้ตรวจร่างกายด้วยตนเอง ไม่ได้ตรวจสอบหลักฐานต่างๆที่มีด้วยตัวเอง จึงไม่สามารถตอบได้
- แต่ถ้าน้องๆไม่มั่นใจ ไปตรวจและขอใบรับรองแพทย์ที่รพ.ค่าย แต่ถ้าไม่ทัน พ้นช่วงเวลาแล้ว ให้ไปรพ.รัฐ มีอะไรมาให้ดูบ้าง ย่อมดีกว่าไม่มีอะไรมาให้ดูเลย แล้วกรรมการแพทย์หน้างานจะตัดสินเอง ว่าเป็นคนจำพวกใด

(ตัดจบเพราะจะเกิน 10,000 ตัวอักษร ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม จะตั้งกระทู้เพิ่มครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่