JJNY : ‘พิษธุรกิจซอมบี้’│"เจี๊ยบ ก้าวไกล"ตามจิก"ทักษิณ"ไม่นิ่ง│พายุไม่ช่วยน้ำในโคราชกระเตื้อง│ยูเครนโวทำลายเรือรบรัสเซีย

‘ระทึก!!’ กินเศรษฐกิจ ‘พิษธุรกิจซอมบี้’ สยอง ‘ไทยต้องระวัง’
https://www.dailynews.co.th/articles/3284601/

ถานการณ์เศรษฐกิจยุคนี้มี “คำเศรษฐกิจ” ที่ทำให้ประชาชนทั่วไปที่ได้รับทราบให้ความสนใจ เพราะเป็น ’ศัพท์แปลก“ ที่ไม่คุ้นหูคุ้นตา

 
คือคำว่า ’เศรษฐกิจซอมบี้-ธุรกิจผีดิบ“… ทั้งนี้ กับคำ ๆ นี้คนนอกวงการเศรษฐกิจโดยตรงก็อาจจะอดคิดไปถึงภาพยนตร์หรือนวนิยายแนวสยองขวัญสั่นประสาทไม่ได้ อย่างไรก็ตาม “ศัพท์เศรษฐกิจ” คำนี้แวดวงเศรษฐศาสตร์และภาคธุรกิจต่าง ๆ กำลังให้ความสำคัญ และเฝ้าจับตาติดตามอย่างใกล้ชิด ไม่เฉพาะแค่ในไทย แต่รวมถึงทั่วโลกด้วย เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับ “ผลกระทบ” ที่ติดตามมา เมื่อพบว่า…ขณะนี้มีหลายประเทศกำลังเจอ ’ปัญหาเศรษฐกิจซอมบี้“…
 
ยกตัวอย่าง “ญี่ปุ่น” ที่ “เจอปัญหา
จน “กระทบกับตลาดทุน-ตลาดหุ้น
ดังนั้น ’ไทย“ ก็ ’ต้องจับตาใกล้ชิด!!“
 
เกี่ยวกับ “ศัพท์แปลก” คำนี้…ที่ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จะสะท้อนต่อข้อมูลในวันนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญระบบเศรษฐกิจ พูดถึงกันมาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว ซึ่งก็รวมถึงในไทยด้วย หลังจากบางประเทศเผชิญ ’ปรากฏการณ์ธุรกิจซอมบี้“ อาทิ ญี่ปุ่น ซึ่งเจอปัญหาหนักจากเรื่องนี้ ขณะที่ในไทยเองก็ได้มีการหยิบนำคำ ๆ นี้มากล่าวถึงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสำหรับเรา ๆ ท่าน ๆ ที่เป็นคนทั่ว ๆ ไปที่ไม่ได้มีความรู้เฉพาะทางด้านเศรษฐศาสตร์ ก็สามารถทำความรู้จัก…สามารถรู้ไว้ใช่ว่ากับคำ ๆ นี้…
 
คล้ายเรื่องผีดิบอย่างไร??…มาดูกัน…
 
สำหรับ “คำเศรษฐกิจไม่คุ้นหู” อย่างคำว่า… “เศรษฐกิจซอมบี้-ธุรกิจผีดิบ” นั้น ทาง สุพริศร์ สุวรรณิก นักวิชาการ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ได้ให้คำอธิบายถึง “ศัพท์เศรษฐกิจ” คำนี้เอาไว้ ผ่านทางบทความที่มีการเผยแพร่อยู่ใน เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยนักวิชาการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ได้อธิบายถึงศัพท์คำนี้ด้วยการเริ่มต้นจาก ’ปุจฉา“ ที่ว่า… บริษัทผีดิบคืออะไร? ก่อนที่จะมีการขยายความเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ ดังต่อไปนี้…
 
เฉพาะคำว่า “ซอมบี้ (Zombie)” หรือ “ผีดิบ” นั้น คงจะเป็นคำที่คุ้นหูกันอยู่แล้ว สำหรับแฟน ๆ ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญที่เนื้อหาเกี่ยวข้องกับฝูงชนที่ติดไวรัสชนิดหนึ่งและเสียชีวิต แล้วกลับฟื้นคืนชีพ แต่มาพร้อมกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสุดขั้ว นั่นคือการ หันมาตามล่าวิ่งไล่กัดกินเนื้อมนุษย์ด้วยกัน… แต่บางท่านก็อาจจะยังไม่ทราบว่า… อันที่จริงศัพท์คำนี้มีการขยายวงมาสู่วงการเศรษฐศาสตร์มานานมากแล้ว ผ่านคำว่า… ’Zombie firms“ ที่ถ้าแปลเป็นภาษาไทยนั้น…
 
มีความหมายคือคำว่า ’บริษัทผีดิบ
 
ทั้งนี้ นักวิชาการท่านเดิมขยายความเรื่องนี้ไว้เพิ่มเติมว่า… ศัพท์คำนี้ได้เริ่มมีการนำมาใช้แพร่หลายขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ระบบเศรษฐกิจทั่วโลกต้องเผชิญกับ “บริษัทผีดิบ” หรือ “Zombie firms” เป็นจำนวนมาก โดยการ นำคำ ๆ นี้มาใช้เรียกนั้น ไม่ได้หมายถึงบริษัทที่ติดไวรัส ซึ่ง…คำถามสำคัญที่ตามมาคือ บริษัทผีดิบคืออะไร? เกิดขึ้นได้อย่างไร? มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเช่นไร? โดยหากเป็นนิยามตามกลไกตลาด ได้ให้คำจำกัดความ “บริษัทที่ดี” ไว้ว่า… คือ บริษัทที่มีผลิตภาพ (productivity) อยู่ในระดับสูง และ มีความสามารถทำกำไรที่สูง
 
ขณะเดียวกันในทางตรงกันข้าม… สำหรับบริษัทที่มีผลิตภาพต่ำ มีความสามารถในการทำกำไรต่ำ หรือขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ย่อมเป็นบริษัทที่ต้องปิดตัวลงและออกไปจากการแข่งขันในที่สุด อย่างไรก็ตาม แต่ยัง มีบริษัทส่วนหนึ่งที่มีผลิตภาพต่ำ ไม่มีความสามารถในการทำกำไร แต่ยังคงมีชีวิตอยู่ได้จากสภาพคล่องที่ได้รับเพื่อหล่อเลี้ยงต่อชีวิตบริษัท ไม่ว่าจะได้จากสินเชื่อสถาบันการเงินภายใต้อัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือได้รับความช่วยเหลือจากรัฐแบบเหวี่ยงแห ซึ่งบริษัทเหล่านี้ก็คือ ’บริษัทผีดิบ“ หรือ ’Zombie firms“ นั่นเอง …เป็นคำอธิบายที่นักวิชาการ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ได้ให้ไว้
และทางนักวิชาการท่านนี้ คือ สุพริศร์ สุวรรณิก ก็ได้ขยายความเรื่องนี้เอาไว้อีกว่า… ในทางเศรษฐศาสตร์ “บริษัทผีดิบ” คือ… “บริษัทที่ไม่มีความสามารถในการทำกำไรในปัจจุบันและในอนาคตได้มากเพียงพอที่จะนำมาชำระหนี้ของบริษัทได้ในระยะเวลานานต่อเนื่อง” หรือถ้าแบบภาษาชาวบ้านก็คือ… ’เป็นบริษัทที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว“ นั่นเอง
 
ส่วนคำถามที่ว่า… ถ้ามีบริษัทผีดิบแบบนี้จำนวนมากในระบบเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบอย่างไร? คำตอบของคำถามนี้มีไว้ว่า… การให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทที่ควรล้มหายตายจากให้ยังคงมีชีวิตอยู่ นอกจากจะทำให้บริษัทเหล่านี้ ขาดแรงจูงใจในการปรับตัวและพัฒนาผลิตภาพ แล้ว… กลไกการแข่งขันทั้งระบบจะถูกบิดเบือน เพราะบริษัทผีดิบจะทำให้กำลังการผลิตส่วนเกินยังคงอยู่ และอาจคอยตัดราคาคู่แข่งจนทำให้ธุรกิจอื่นที่มีความสามารถในการปรับตัว และมีผลิตภาพสูง กลับอยู่รอดยาก ไม่สามารถแข่งขันได้ …ซึ่ง ’บริษัทผีดิบ“ ก็ ’ไม่ต่างกับผีดิบซอมบี้“ ที่ไล่กัดกินเนื้อคนอื่นจนล้มตาย
 
แม้สัดส่วนบริษัทผีดิบของไทยจะอยู่ระดับปานกลางค่อนไปทางต่ำ แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะมีแนวโน้มจะมีบริษัทขนาดใหญ่กลายเป็นบริษัทผีดิบได้เช่นกัน ดังนั้นภาครัฐควรลดการออกมาตรการช่วยเหลือแบบเหวี่ยงแหที่ขาดประสิทธิผลและไม่คุ้มค่า แต่ควรเน้นให้ตรงจุดกับธุรกิจที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษจะดีที่สุด“ …นักวิชาการท่านเดิมระบุไว้
 
      ’ธุรกิจซอมบี้“ ไล่ ’กัดกินธุรกิจอื่น ๆ“
      ขยายวง ’ก่อปัญหาเศรษฐกิจซอมบี้“
      ’ในไทย“ นั้น ’ก็เสี่ยงระทึกขวัญ??“.



ไม่ไว้หน้าหมอ!? "เจี๊ยบ ก้าวไกล" ตามจิก "ทักษิณ" ไม่นิ่ง
https://siamrath.co.th/n/523999

หลังจากที่ เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.67) ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษ เดินทางมาตัดผมที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านประจำของนายทักษิณ ซึ่งอยู่บริเวณตึกแถวย่านสถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (สีลม)
 
ล่าสุด นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ระบุว่า...

ไม่คิดจะหักห้ามใจพักผ่อนนิ่ง ๆ ซัก 2-3 เดือนไว้หน้าหมอที่รับรองให้เลย
 
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02kgZiM5HaPRKDNdAjSVmKJvvNg15YRjUqou1Ax2xBD7Tmr1HSRwAWVzTyutBSX2S2l&id=100054162881442
 


พายุไม่ช่วยน้ำในเขื่อน-อ่างเก็บน้ำโคราชกระเตื้อง
https://www.innnews.co.th/news/local/news_694480/

พายุฝนยังไม่ช่วยให้ระดับน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่างๆ ในโคราชกระเตื้อง เตือนงดทำนาปรังและใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคเท่านั้น
 
วันนี้ (25 มีนาคม 2567) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศว่า ในวันนี้ ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ ได้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ จึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ 6 จังหวัด ให้เฝ้าระวังการเกิดฝนฟ้าคะนอง และพายุฤดูร้อน ได้แก่ เลย, นครพนม, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา และอุบลราชธานี ขณะที่สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนครราชสีมา รายงานสภาพอากาศในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ระหว่างเวลา 01.00 น. วันที่ 24 มี.ค. ถึงเวลา 01.00 น. วันที่ 25 มี.ค.67 พบว่าในพื้นที่ มีฝนตกลงมาร้อยละ 20 โดยปริมาณฝนตกสูงสุด วัดได้ 12.5 มม. ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมกับแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังเกิดฝนฟ้าคะนอง และพายุฤดูร้อน ระหว่างวันที่ 25-29 มี.ค.67
 
ด้านสำนักงานชลประทานจังหวัดนครราชสีมา รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดกลาง และขนาดใหญ่ รวมทั้งหมด 27 แห่ง พบว่า อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลือไม่ถึง 30% มีอยู่ทั้งหมด 3 แห่ง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยปราสาทใหญ่, อ่างเก็บน้ำหนองกก และอ่างเก็บน้ำบึงกระโตน ส่วนสถานการณ์อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 128.152 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 40.75 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร, อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 92.057 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 59.39 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 155 ล้านลูกบาศก์เมตร, อ่างเก็บน้ำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 65.816 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 46.68 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 117.817 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 42.84 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 275 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยฝนที่ตกลงมาเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่รวมเพียง 106,000 ลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 1.51 ของความจุกักเก็บเท่านั้น ขณะที่การระบายน้ำเมื่อวานนี้ ทั้ง 4 อ่างฯ ได้ระบายน้ำลงสู่ลำน้ำธรรมชาติ และเพื่ออุปโภคบริโภค รวม 1,277,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปริมาณฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำน้อยมาก เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำที่ต้องระบายลงไปตามลำน้ำธรรมชาติ เพื่อรักษาระบบนิเวศ และเพื่ออุปโภคบริโภค ดังนั้นทางสำนักงานชลประทานจังหวัดนครราชสีมา จึงแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ งดทำนาปรังในช่วงนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่