เรื่องนี้ยาวนิดหนึ่งนะคะ ช่วงแรกจะเล่าว่าผ่านอะไรมาบ้าง ไม่ละเอียดนะคะ แล้วก็เป็นมุมมองเดียวด้วยค่ะ ใครว่ายาวไปข้ามไปอ่านข้างล่างได้เลยค่ะ
เราเป็นนักศึกษาป.เอก ม.ดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ตอนแรกที่เข้ามาเรียนต่อ เราสมัครเรียนแค่ป.โท รหัส 61 ได้รับทุนค่าเทอมและเงินเดือน 5000 จากภาควิชา ในส่วนของเงินเดือน อ. ให้ไปรับจากการเงินของแลปก่อน พอภาควิชาให้เงินเดือนเป็นก้อนก็เอามาคืน คิดว่าเงินจากแลปน่าจะมาจากโครงการ(การเงินแลปออกเช็คให้) โดยมีเงื่อนไขตกลงไว้ว่า เราจะต้องตีพิมพ์งานวิจัย ระดับ Tier 1 1 ฉบับ และไปงานสัมมนา (ปกติเงื่อนไขจบจะไม่ขนาดนี้)
ตอนที่เรียนต่อป.โท อ.ที่ปรึกษาได้มอบหมายหัวข้อวิชาให้เราและเพื่อนอีกคนที่เข้ามาพร้อมกัน ในปีแรก เรารับสอนพิเศษ ส่วนแม่ออกค่าหอให้ เพราะเงินเดือน 5000 ในกรุงเทพไม่พอใช้จริงๆ ผ่านไป 1 ปีแม่บอกว่าเงินที่ไปกู้ธนาคารมาจ่ายค่าหอให้เราทุกเดือนหมดแล้ว เราก็หาเพิ่มไม่ไหว บวกกับอ.
เสนอให้เราเปลี่ยนมาเรียนต่อป.เอก แล้วเขาจะให้เงินเดือน 20,000 เราเลยจำใจต่อเอก เพราะปัญหาเรื่องเงิน ใจไม่ได้อยากเรียนถึงเอกเลย
เรานึกว่าทันทีที่รับปากว่าจะเรียนต่อเอก จะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นทันทีในปีที่ 2 ปรากฏว่าเราจะต้องสอบความรู้พื้นฐานในสาขาที่เรียน ให้ผ่าน 3 ในทั้งหมด 6 วิชา (ให้สอบเทอมละครั้ง) ซึ่งเราผ่านแค่ 2 วิชาในปี 2 เทอม 1 ระหว่างนี้มหาลัยมีทุนตัวใหม่เข้ามา เขาจะให้ทุนเรียนต่อเอก ถ้าโทควบเอกให้ 5 ปี (3 ปีแรก ให้เงินเดือน 20,000 อีก 2 ปีสุดท้ายให้ 30,000) อ.ให้เราสมัครทุนนี้ เพราะถ้าเด็กได้อ.ก็จะได้เงินด้วย(ค่าที่ปรึกษา) ปรากฏว่าเราหลุดทุน อ.ไปตามทีหลัง เขาบอกว่าให้เฉพาะเด็กรหัส 62 ขึ้นไป (ตอนนั้นเรายังรหัส 61)
หลังจากที่ทุนนี้ก็หลุด ปี 2 เทอม 2 เราก็สอบวิชาที่ 3 ไม่ผ่าน เลยไม่สามารถขึ้นเป็นนักศึกษาป.เอก ด้วยรหัสเดิมได้ ปีการศึกษา 2563 เราได้สมัครเข้ามาใหม่ เป็นนักศึกษาดุษฎีบัณทิต แบบโทควบเอก รหัส 63 อ.ให้เราสมัครของทุนของมหาลัยอีกตัว ที่ให้ทุนค่าเทอม และเงินเดือน 9,000 เป็นเวลา 5 ปี แล้วอ.เพิ่มให้อีก 11,000 รวมเป็น 20,000 ตามที่ตกลงกันไว้ ในส่วนของเงิน 11,000 เราได้รับเช็คจากการเงินของแลป คิดว่าน่าจะเป็นเงินโครงการที่เอาไว้จ้างคนมาช่วยงานวิจัย เรารับเช็คจากแลปประมาณ 2 ปี แล้วเพื่อนบอกว่าอ.มีปัญหาอะไรกันไม่รู้ เขาขอให้แลปส่งเงินเดือนเด็กทุกคนไปให้เขา แล้วเขาจะโอนให้เราเอง
เราจะเล่าปัญหาในส่วนของเรา มุมมองของเราเท่านั้นนะคะ
1. ตอนป.โท ปี 1 ขอบเขตงานวิจัยของเรากับเพื่อนที่อ.มอบให้ งานมันทับซ้อนกัน คือ งานของเพื่อนเหมือนต่อยอดจากงานของเรา เพื่อนเลยเอางานของเราไปเป็นส่วนหนึ่งในการเทียบผล เปเปอร์ที่ตีพิมพ์ มีชื่อเราและชื่อเพื่อน เป็นชื่อแรก ซึ่งในกลุ่มแลปของเรามีการตกลงไว้ว่า ถ้าใครได้เป็นชื่อแรก ตีพิมพ์ในวารสาร Tier 1 จะได้รับเงินพิเศษ เป็นเงินที่มหาลัยมอบให้ แต่เราคิดว่าเราไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ช่วยเขียน เลยลืมเรื่องเงินไป จนเพื่อนมาบอกทีหลังว่า เงินส่วนของเขา อ.ขอไปให้คนอื่น เพื่อนเลยมาถามว่าเราได้เงินมั้ย สรุปว่าเราไม่ได้เงินส่วนของเรา และอ.ไม่เคยเอ่ยปากเรื่องนี้
2. ช่วงป.โทปี 2 หลังจากที่รับปากว่าจะต่อเอก เราก็ยุ่งกับการสอบ เลยไม่ได้จับงานวิจัยของตัวเองเลย ส่วนเงินเดือนก็ได้เท่าเดิม เพราะยังไม่ใช่ป.เอก ต้องสอบให้ผ่านก่อน ถ้าเขาให้เรารีรหัส(ออกแล้วสมัครเรียนใหม่) เราก็จะได้เงินเดือนป.เอกไปแล้ว
3. จบจากป.โท ปี 2 ไป เราได้สมัครเรียนเข้ามาใหม่ รหัส 63 (ป.เอกปี 1) งานวิจัยเก่าที่เคยทำ ทำต่อไม่ได้เพราะมันเก่า ช่วงนั้นเราช่วยงานวิจัย ทั้งหาข้อมูลและรันผล จนถึงตอนจะเขียน อ.มาขอให้พี่อีกคนได้งานนี้ไปก่อนเพราะต้องไปปิดทุนของเขา เราเลยให้เขาไปเขียน ให้เขาได้ชื่อแรก ส่วนเราก็ช่วยทำอย่างอื่น ช่วงนี้จะเสียเวลากับการช่วยงานวิจัยในกลุ่มแลป แต่ไม่ได้งานของตัวเองเลย เราเพิ่งจะได้ทำงานของเราตอนป.เอกปี 2 เทอม 2 เพราะเสียเวลากับช่วงค้นคว้าไปเยอะมาก แล้วอ.ไม่ approve ให้สักทีว่าทำได้หรือไม่ได้
4. ปีการศึกษา 2566 (ป.เอก ปี 4) อ.บอกว่าเขาจะให้เงินเดือนถึงเดือน ธค 66 เพราะครบ 4 ปีแล้ว ตอนนั้นเราท้วงว่า เราเข้า สค 63 จะครบ 4 ปีก็ต้อง กค 67 เขาเลยจ่ายเงินเดือนเราต่อ แต่ให้แค่ถึงเดือน พค 67 เพราะ มิย กับ กค 67 เป็นช่วงปิดเทอม ในขณะที่ทุนมหาลัยยังให้เต็มปีเลย ในส่วนนี้เราไม่เข้าใจอ.เลยค่ะ เราคิดว่ามันเป็นเงินเดือนที่เราได้จากโครงการ ทำไมเราถึงไม่ได้เต็มปี เราตั้งใจว่าจะจบ 4 ปีเพราะอ.จะไม่ให้เงินเดือนเราแล้ว ถึงแม้ว่าทุนมหาลัยจะให้ถึง 5 ปีก็ตาม
จากปัญหาข้างต้น กับสิ่งที่พบเจอมากับตัวอีกมากมายที่ไม่ได้เล่า ทำให้เราหมดศรัทธาในตัวอ. ไม่ค่อยกล้าพูด จะขอลาป่วย ลาหยุดทีก็คิดเยอะมาก
***หลังจากนี้จะเป็นปัญหาที่เราเพิ่งเจอมา และคำถามคือ "เราผิดมากขนาดนั้นเลยหรอ" ใครจะข้ามมาอ่านข้างล่างเลยก็ได้ค่ะ***
- เรามีแพลนจะไปเที่ยวต่างประเทศ 1 อาทิตย์ ทำวีซ่าไปตอนเดือน กพ ไปต่างประเทศเดือน มีค
- งานวิจัยแรกที่ส่งไปตอน ธค วารสารเพิ่งส่งมาให้แก้ตอน ปลายเดือน กพ
- เรามีเวลาเกือบ ๆ 2 อาทิตย์ต้องรีบแก้ก่อนไปเที่ยว นัดอ.มาดูแต่ไม่อ.ไม่มาเลย มีแค่เรากับพี่นักวิจัย (เราก็มีส่วนผิด เพราะบางครั้งเราไม่ได้นัดแบบที่แจ้งเตือนทางเมล แต่ครั้งที่แจ้งเตือนทางเมล เขาก็ไม่มาดู)
- เราอยากจะแจ้งเขาต่อหน้าว่าเราจะมีไปต่างประเทศนะ แต่พอไม่ได้เจอหน้าเลยต้องแจ้งผ่านทางโทรศัพท์แทน (โทรคุย) ซึ่งตรงนี้เรายอมรับผิด เพราะเราแจ้งเขา 1 วันก่อนเดินทาง ได้ขอโทษเขาไปแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราไม่สะดวกใจจะคุยกับเขาเลย ถ้าไม่ต้องแจ้งที่ปรึกษา เราคงไม่บอกเลย
- งานวิจัยที่ต้องแก้มีกำหนดส่ง ปลายเดือน มีค เราคิดว่าไปเที่ยว 1 อาทิตย์ กลับมายังเหลือเวลาอีก 1 อาทิตย์กว่า ก็ยังทัน เพราะก่อนไปเราได้แก้ไว้บ้างแล้ว เหลือมาเก็บรายละเอียด
- อ.ให้เราจะส่งงานช่วงที่เราไปเที่ยว เราเลยต้องหอบงานไปทำด้วย ไม่กล้าเอาโน๊ตบุ๊คไป เพราะไกด์ไม่ให้เราทิ้งของมีค่าไว้บนรถ เราก็เลยแก้งานผ่านไอแพด ซึ่งแก้ไม่เสร็จเรียบร้อย แต่เราก็ส่งไปก่อน เพราะอยากได้คอมเม้น กลับมาไทยจะได้แก้ทันที
- เรามาเห็นเมลตอบกลับว่าเขานัดเราไปส่งงานแก้ วันจันทร์ แต่เรามาเห็นเมลจันทร์ตอนเย็น เลยทำการนัดส่งงานวันอังคาร ไปถึงเขาก็ส่งงานให้วารสารเลย ไม่ได้ตรวจใดๆ ก่อน (ยังเหลือเวลาที่วารสารให้อีก 1 อาทิตย์) ตอนนั้นเราก็นอยเหมือนกันว่ารีบทำไม เป็นที่ปรึกษาไม่คิดจะตรวจหน่อยหรอ
- ผ่านมา 4 วัน เขาสร้างกลุ่มใหม่ แล้วพิมพ์ไลน์มาประมาณว่า เขาเสียดายเงิน 11,000 ที่ให้เรา เงินนั้นเป็นเงินส่วนตัวของเขา เพราะเราไม่จริงใจ เราเรียนป.เอกอยู่ ไม่มามอทุกวันอันนี้เขาไม่ว่า แต่มาลาไปเที่ยว 1 อาทิตย์ แถมมาบอกกระชั้นชิด เขาบอกว่าเราไม่จริงใจกับเขาเลย เขาสงสัยว่าเราทำงานช้า เพราะงานรันไม่เสร็จจริงๆ หรือเรา 'แกล้ง' รันไม่เสร็จ
- เขามองว่าเราจบช้า ถ้านับตามรหัสใหม่ก็เพิ่งจะ ปี 4 เอง แต่ถ้านับตั้งแต่ป.โท ก็ไม่แฟร์กับเราเท่าไหร่ เพราะเงินเดือน 11,000 เพิ่งจะมาให้ตอนป.เอก
- เขาบอกว่า เสียความรู้สึกมาก ๆ ไม่ต้องมาขอโทษแล้ว บอกให้รีบจบ เขาจะไม่มายุ่ง จะสอบเมื่อไหร่ก็จัดการตัวเอง
เราอยากได้ความเห็นของทุกคนค่ะ ว่าทุกอย่างนี้ เราผิดหมดเลย เราไม่ดีขนาดนั้นเลยหรอคะ นักศึกษาป.เอกต้องเข้ามอทุกวันหรอคะ แล้วลาไปเที่ยวไม่ได้หรอคะ ขนาดพนักงานเงินเดือนยังมีวันลาหยุดต่อปีเลย ทำไมเราถึงลาบ้างไม่ได้คะ แล้วเรื่องเงินเดือนอ.บอกเป็นเงินส่วนตัว คือเขาเอาเงินเดือนตัวเองมาจ่ายให้เราหรอคะ คนอื่นก็บอกว่าเงินของโครงการ
เรียนป.เอก ต้องมามอทุกวันมั้ย ลาหยุดไปเที่ยวไม่ได้ จริงหรอ?
เราเป็นนักศึกษาป.เอก ม.ดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ตอนแรกที่เข้ามาเรียนต่อ เราสมัครเรียนแค่ป.โท รหัส 61 ได้รับทุนค่าเทอมและเงินเดือน 5000 จากภาควิชา ในส่วนของเงินเดือน อ. ให้ไปรับจากการเงินของแลปก่อน พอภาควิชาให้เงินเดือนเป็นก้อนก็เอามาคืน คิดว่าเงินจากแลปน่าจะมาจากโครงการ(การเงินแลปออกเช็คให้) โดยมีเงื่อนไขตกลงไว้ว่า เราจะต้องตีพิมพ์งานวิจัย ระดับ Tier 1 1 ฉบับ และไปงานสัมมนา (ปกติเงื่อนไขจบจะไม่ขนาดนี้)
ตอนที่เรียนต่อป.โท อ.ที่ปรึกษาได้มอบหมายหัวข้อวิชาให้เราและเพื่อนอีกคนที่เข้ามาพร้อมกัน ในปีแรก เรารับสอนพิเศษ ส่วนแม่ออกค่าหอให้ เพราะเงินเดือน 5000 ในกรุงเทพไม่พอใช้จริงๆ ผ่านไป 1 ปีแม่บอกว่าเงินที่ไปกู้ธนาคารมาจ่ายค่าหอให้เราทุกเดือนหมดแล้ว เราก็หาเพิ่มไม่ไหว บวกกับอ.
เสนอให้เราเปลี่ยนมาเรียนต่อป.เอก แล้วเขาจะให้เงินเดือน 20,000 เราเลยจำใจต่อเอก เพราะปัญหาเรื่องเงิน ใจไม่ได้อยากเรียนถึงเอกเลย
เรานึกว่าทันทีที่รับปากว่าจะเรียนต่อเอก จะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นทันทีในปีที่ 2 ปรากฏว่าเราจะต้องสอบความรู้พื้นฐานในสาขาที่เรียน ให้ผ่าน 3 ในทั้งหมด 6 วิชา (ให้สอบเทอมละครั้ง) ซึ่งเราผ่านแค่ 2 วิชาในปี 2 เทอม 1 ระหว่างนี้มหาลัยมีทุนตัวใหม่เข้ามา เขาจะให้ทุนเรียนต่อเอก ถ้าโทควบเอกให้ 5 ปี (3 ปีแรก ให้เงินเดือน 20,000 อีก 2 ปีสุดท้ายให้ 30,000) อ.ให้เราสมัครทุนนี้ เพราะถ้าเด็กได้อ.ก็จะได้เงินด้วย(ค่าที่ปรึกษา) ปรากฏว่าเราหลุดทุน อ.ไปตามทีหลัง เขาบอกว่าให้เฉพาะเด็กรหัส 62 ขึ้นไป (ตอนนั้นเรายังรหัส 61)
หลังจากที่ทุนนี้ก็หลุด ปี 2 เทอม 2 เราก็สอบวิชาที่ 3 ไม่ผ่าน เลยไม่สามารถขึ้นเป็นนักศึกษาป.เอก ด้วยรหัสเดิมได้ ปีการศึกษา 2563 เราได้สมัครเข้ามาใหม่ เป็นนักศึกษาดุษฎีบัณทิต แบบโทควบเอก รหัส 63 อ.ให้เราสมัครของทุนของมหาลัยอีกตัว ที่ให้ทุนค่าเทอม และเงินเดือน 9,000 เป็นเวลา 5 ปี แล้วอ.เพิ่มให้อีก 11,000 รวมเป็น 20,000 ตามที่ตกลงกันไว้ ในส่วนของเงิน 11,000 เราได้รับเช็คจากการเงินของแลป คิดว่าน่าจะเป็นเงินโครงการที่เอาไว้จ้างคนมาช่วยงานวิจัย เรารับเช็คจากแลปประมาณ 2 ปี แล้วเพื่อนบอกว่าอ.มีปัญหาอะไรกันไม่รู้ เขาขอให้แลปส่งเงินเดือนเด็กทุกคนไปให้เขา แล้วเขาจะโอนให้เราเอง
เราจะเล่าปัญหาในส่วนของเรา มุมมองของเราเท่านั้นนะคะ
1. ตอนป.โท ปี 1 ขอบเขตงานวิจัยของเรากับเพื่อนที่อ.มอบให้ งานมันทับซ้อนกัน คือ งานของเพื่อนเหมือนต่อยอดจากงานของเรา เพื่อนเลยเอางานของเราไปเป็นส่วนหนึ่งในการเทียบผล เปเปอร์ที่ตีพิมพ์ มีชื่อเราและชื่อเพื่อน เป็นชื่อแรก ซึ่งในกลุ่มแลปของเรามีการตกลงไว้ว่า ถ้าใครได้เป็นชื่อแรก ตีพิมพ์ในวารสาร Tier 1 จะได้รับเงินพิเศษ เป็นเงินที่มหาลัยมอบให้ แต่เราคิดว่าเราไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ช่วยเขียน เลยลืมเรื่องเงินไป จนเพื่อนมาบอกทีหลังว่า เงินส่วนของเขา อ.ขอไปให้คนอื่น เพื่อนเลยมาถามว่าเราได้เงินมั้ย สรุปว่าเราไม่ได้เงินส่วนของเรา และอ.ไม่เคยเอ่ยปากเรื่องนี้
2. ช่วงป.โทปี 2 หลังจากที่รับปากว่าจะต่อเอก เราก็ยุ่งกับการสอบ เลยไม่ได้จับงานวิจัยของตัวเองเลย ส่วนเงินเดือนก็ได้เท่าเดิม เพราะยังไม่ใช่ป.เอก ต้องสอบให้ผ่านก่อน ถ้าเขาให้เรารีรหัส(ออกแล้วสมัครเรียนใหม่) เราก็จะได้เงินเดือนป.เอกไปแล้ว
3. จบจากป.โท ปี 2 ไป เราได้สมัครเรียนเข้ามาใหม่ รหัส 63 (ป.เอกปี 1) งานวิจัยเก่าที่เคยทำ ทำต่อไม่ได้เพราะมันเก่า ช่วงนั้นเราช่วยงานวิจัย ทั้งหาข้อมูลและรันผล จนถึงตอนจะเขียน อ.มาขอให้พี่อีกคนได้งานนี้ไปก่อนเพราะต้องไปปิดทุนของเขา เราเลยให้เขาไปเขียน ให้เขาได้ชื่อแรก ส่วนเราก็ช่วยทำอย่างอื่น ช่วงนี้จะเสียเวลากับการช่วยงานวิจัยในกลุ่มแลป แต่ไม่ได้งานของตัวเองเลย เราเพิ่งจะได้ทำงานของเราตอนป.เอกปี 2 เทอม 2 เพราะเสียเวลากับช่วงค้นคว้าไปเยอะมาก แล้วอ.ไม่ approve ให้สักทีว่าทำได้หรือไม่ได้
4. ปีการศึกษา 2566 (ป.เอก ปี 4) อ.บอกว่าเขาจะให้เงินเดือนถึงเดือน ธค 66 เพราะครบ 4 ปีแล้ว ตอนนั้นเราท้วงว่า เราเข้า สค 63 จะครบ 4 ปีก็ต้อง กค 67 เขาเลยจ่ายเงินเดือนเราต่อ แต่ให้แค่ถึงเดือน พค 67 เพราะ มิย กับ กค 67 เป็นช่วงปิดเทอม ในขณะที่ทุนมหาลัยยังให้เต็มปีเลย ในส่วนนี้เราไม่เข้าใจอ.เลยค่ะ เราคิดว่ามันเป็นเงินเดือนที่เราได้จากโครงการ ทำไมเราถึงไม่ได้เต็มปี เราตั้งใจว่าจะจบ 4 ปีเพราะอ.จะไม่ให้เงินเดือนเราแล้ว ถึงแม้ว่าทุนมหาลัยจะให้ถึง 5 ปีก็ตาม
จากปัญหาข้างต้น กับสิ่งที่พบเจอมากับตัวอีกมากมายที่ไม่ได้เล่า ทำให้เราหมดศรัทธาในตัวอ. ไม่ค่อยกล้าพูด จะขอลาป่วย ลาหยุดทีก็คิดเยอะมาก
***หลังจากนี้จะเป็นปัญหาที่เราเพิ่งเจอมา และคำถามคือ "เราผิดมากขนาดนั้นเลยหรอ" ใครจะข้ามมาอ่านข้างล่างเลยก็ได้ค่ะ***
- เรามีแพลนจะไปเที่ยวต่างประเทศ 1 อาทิตย์ ทำวีซ่าไปตอนเดือน กพ ไปต่างประเทศเดือน มีค
- งานวิจัยแรกที่ส่งไปตอน ธค วารสารเพิ่งส่งมาให้แก้ตอน ปลายเดือน กพ
- เรามีเวลาเกือบ ๆ 2 อาทิตย์ต้องรีบแก้ก่อนไปเที่ยว นัดอ.มาดูแต่ไม่อ.ไม่มาเลย มีแค่เรากับพี่นักวิจัย (เราก็มีส่วนผิด เพราะบางครั้งเราไม่ได้นัดแบบที่แจ้งเตือนทางเมล แต่ครั้งที่แจ้งเตือนทางเมล เขาก็ไม่มาดู)
- เราอยากจะแจ้งเขาต่อหน้าว่าเราจะมีไปต่างประเทศนะ แต่พอไม่ได้เจอหน้าเลยต้องแจ้งผ่านทางโทรศัพท์แทน (โทรคุย) ซึ่งตรงนี้เรายอมรับผิด เพราะเราแจ้งเขา 1 วันก่อนเดินทาง ได้ขอโทษเขาไปแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราไม่สะดวกใจจะคุยกับเขาเลย ถ้าไม่ต้องแจ้งที่ปรึกษา เราคงไม่บอกเลย
- งานวิจัยที่ต้องแก้มีกำหนดส่ง ปลายเดือน มีค เราคิดว่าไปเที่ยว 1 อาทิตย์ กลับมายังเหลือเวลาอีก 1 อาทิตย์กว่า ก็ยังทัน เพราะก่อนไปเราได้แก้ไว้บ้างแล้ว เหลือมาเก็บรายละเอียด
- อ.ให้เราจะส่งงานช่วงที่เราไปเที่ยว เราเลยต้องหอบงานไปทำด้วย ไม่กล้าเอาโน๊ตบุ๊คไป เพราะไกด์ไม่ให้เราทิ้งของมีค่าไว้บนรถ เราก็เลยแก้งานผ่านไอแพด ซึ่งแก้ไม่เสร็จเรียบร้อย แต่เราก็ส่งไปก่อน เพราะอยากได้คอมเม้น กลับมาไทยจะได้แก้ทันที
- เรามาเห็นเมลตอบกลับว่าเขานัดเราไปส่งงานแก้ วันจันทร์ แต่เรามาเห็นเมลจันทร์ตอนเย็น เลยทำการนัดส่งงานวันอังคาร ไปถึงเขาก็ส่งงานให้วารสารเลย ไม่ได้ตรวจใดๆ ก่อน (ยังเหลือเวลาที่วารสารให้อีก 1 อาทิตย์) ตอนนั้นเราก็นอยเหมือนกันว่ารีบทำไม เป็นที่ปรึกษาไม่คิดจะตรวจหน่อยหรอ
- ผ่านมา 4 วัน เขาสร้างกลุ่มใหม่ แล้วพิมพ์ไลน์มาประมาณว่า เขาเสียดายเงิน 11,000 ที่ให้เรา เงินนั้นเป็นเงินส่วนตัวของเขา เพราะเราไม่จริงใจ เราเรียนป.เอกอยู่ ไม่มามอทุกวันอันนี้เขาไม่ว่า แต่มาลาไปเที่ยว 1 อาทิตย์ แถมมาบอกกระชั้นชิด เขาบอกว่าเราไม่จริงใจกับเขาเลย เขาสงสัยว่าเราทำงานช้า เพราะงานรันไม่เสร็จจริงๆ หรือเรา 'แกล้ง' รันไม่เสร็จ
- เขามองว่าเราจบช้า ถ้านับตามรหัสใหม่ก็เพิ่งจะ ปี 4 เอง แต่ถ้านับตั้งแต่ป.โท ก็ไม่แฟร์กับเราเท่าไหร่ เพราะเงินเดือน 11,000 เพิ่งจะมาให้ตอนป.เอก
- เขาบอกว่า เสียความรู้สึกมาก ๆ ไม่ต้องมาขอโทษแล้ว บอกให้รีบจบ เขาจะไม่มายุ่ง จะสอบเมื่อไหร่ก็จัดการตัวเอง
เราอยากได้ความเห็นของทุกคนค่ะ ว่าทุกอย่างนี้ เราผิดหมดเลย เราไม่ดีขนาดนั้นเลยหรอคะ นักศึกษาป.เอกต้องเข้ามอทุกวันหรอคะ แล้วลาไปเที่ยวไม่ได้หรอคะ ขนาดพนักงานเงินเดือนยังมีวันลาหยุดต่อปีเลย ทำไมเราถึงลาบ้างไม่ได้คะ แล้วเรื่องเงินเดือนอ.บอกเป็นเงินส่วนตัว คือเขาเอาเงินเดือนตัวเองมาจ่ายให้เราหรอคะ คนอื่นก็บอกว่าเงินของโครงการ