ถือได้ว่าเป็นอนิเมะน้ำดีอีกหนึ่งเรื่อง ที่อาจจะมาในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะที่หลายคนอาจจะมีเอียนๆอนิเมะตามท้องตลาด(อะ อย่างน้อยๆก็ผม)
แต่ก็ไม่ใช่อนิเมะที่ทุกคนจะรู้สึกสนุกกับมัน(ซึ่งก็เป็นกับทุกเรื่องอยู่แล้ว)
สิ่งที่ชอบสำหรับเรื่องนี้คือการเดินเรื่องแบบชิลๆค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีความตึงเครียด,กดดัน,ปวดตับ หรือซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรมากมาย
เน้นเสพบรรยากาศชิลๆ สบายๆ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการอยู่พอดีเลยช่วงนี้
เสน่ห์ของเรื่องนี้ส่วนตัวคิดว่าเป็นWorld Building ที่ถึงแม้จะไม่ได้ดูแปลกใหม่ มีปีศาจ มีเอลฟ์ คนแคระ เวทมนตร์ ผู้กล้า เหมือนเกมRPGทั่วๆไป
ซึ่งก็เป็นเพียงแค่แบคกราว เรื่องราวดำเนินหลังจากกำจัดราชาปีศาจเข้าสู่ยุคสมัยแห่งความสงบสุข การเดินทางเพื่อย้อนรอยเมื่อ80ปีก่อน
ฟรีเรนตั้งใจที่จะทำความรู้จักกับตัวมนุษย์มากขึ้นหลังการตายของฮิมเมล ซึ่งทำให้การเดินทางอีกครั้งของฟรีเรนมีความหมายมากขึ้น
ก็ดูแล้วน่าจะมีต่อSS2ถ้าไม่มีปัยหาอะไรมาขัดนะ กระแสดีขนาดนี้
ทุกคนดูแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างมาแบ่งปันกันได้
Frieren: Beyond Journey's End: คําอธิษฐานในวันที่จากลา Animeจบแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง มาคุยกัน
แต่ก็ไม่ใช่อนิเมะที่ทุกคนจะรู้สึกสนุกกับมัน(ซึ่งก็เป็นกับทุกเรื่องอยู่แล้ว)
สิ่งที่ชอบสำหรับเรื่องนี้คือการเดินเรื่องแบบชิลๆค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีความตึงเครียด,กดดัน,ปวดตับ หรือซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรมากมาย
เน้นเสพบรรยากาศชิลๆ สบายๆ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการอยู่พอดีเลยช่วงนี้
เสน่ห์ของเรื่องนี้ส่วนตัวคิดว่าเป็นWorld Building ที่ถึงแม้จะไม่ได้ดูแปลกใหม่ มีปีศาจ มีเอลฟ์ คนแคระ เวทมนตร์ ผู้กล้า เหมือนเกมRPGทั่วๆไป
ซึ่งก็เป็นเพียงแค่แบคกราว เรื่องราวดำเนินหลังจากกำจัดราชาปีศาจเข้าสู่ยุคสมัยแห่งความสงบสุข การเดินทางเพื่อย้อนรอยเมื่อ80ปีก่อน
ฟรีเรนตั้งใจที่จะทำความรู้จักกับตัวมนุษย์มากขึ้นหลังการตายของฮิมเมล ซึ่งทำให้การเดินทางอีกครั้งของฟรีเรนมีความหมายมากขึ้น
ก็ดูแล้วน่าจะมีต่อSS2ถ้าไม่มีปัยหาอะไรมาขัดนะ กระแสดีขนาดนี้
ทุกคนดูแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างมาแบ่งปันกันได้