แรงงานหญิง บุกทำเนียบ เรียกร้องยุติความรุนแรงทางเพศ-ยกเลิกกม.เลือกปฏิบัติ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8129704
แรงงานหญิง บุกทำเนียบ ‘วันสตรีสากล’ วอนรัฐ เพิ่มวันลาคลอด -ยกเลิกกม.เลือกปฏิบัติ-ยุติความรุนแรงทางเพศ พ้อ จนท.สกัด ไม่ให้ใกล้ทำเนียบ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มี.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง พร้อมเครือข่ายสตรี นำโดย น.ส.
ติมาพร เจริญสุข ตัวแทนกลุ่มสหภาพแรงงานสตรี เดินทางมารวมตัว เพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐบาล ในวันสตรีสากล 8 มี.ค. จึงขอเรียกร้องให้ปกป้องคุ้มครองไม่ให้ผู้หญิง เด็ก บุคคลในครอบครัว และบุคคลหลากหลายทางเพศ ถูกกระทำรุนแรง หรือปฏิบัติ ดังนี้
ให้รัฐบาลต้องรับประกันสิทธิลาคลอด 180 วัน โดยได้รับค่าจ้างตลอดการลา และจัดวันหยุดให้คู่ชีวิตทุกเพศ ลาเพื่อเลี้ยงลูกได้อย่างน้อย 30 วัน รวมถึงจัดให้มีสวัสดิการแม่และเด็กอย่างเหมาะสมถ้วนหน้า
โดยรัฐบาลและกระทรวงแรงงาน ต้องทำหน้าที่เป็นหลักประกันสิทธิแรงงานของแรงงานหญิงและแรงงาน ทุกเพศ ด้วยการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงขอให้ยกเลิกนโยบาย กฎหมาย ธรรมเนียม ที่เลือกปฏิบัติต่อสตรีและผู้มีความหลากหลายทางเพศ เช่น การตรวจครรภ์ก่อนเข้าทำงาน, การตีตราผู้ต้องการยุติการตั้งครรภ์เป็นคนบาปหรืออาชญากร, การตีตราผู้ขายบริการทางเพศ
ทั้งนี้ รัฐบาลและนายจ้างต้องเพิ่มสิทธิลาเมื่อมีประจำเดือน อย่างน้อยเดือนละ 2 วัน และเพิ่มวันลารับบริการอนามัยเจริญพันธุ์ทุกประเภท เช่น การยุติการตั้งครรภ์ การคุมกำเนิด การตรวจครรภ์การฝากครรภ์ และการข้ามเพศ
รัฐบาลและนายจ้างต้องอุดหนุนงบประมาณการแจกจ่ายผ้าอนามัยฟรี ขยายบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยและบริการอนามัยเจริญพันธุ์อื่นๆ และจัดให้มีห้องน้ำสาธารณะที่ถูกสุขลักษณะสำหรับแรงงานสตรี และแรงงานทุกเพศที่ทำงานบนท้องถนน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศให้การอยู่ การยุติความรุนแรงทางเพศ เพศสภาพ เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายตามกับที่ขายตามหลักสิทธิพื้นฐานมนุษยชน
น.ส.
ติมาพร ระบุว่าก่อนหน้านี้พ.ร.บ.เรื่องลาคลอดถูกบรรจุเข้าไปในสภาแล้ว ให้กลุ่มแรงงานมีหวัง ซึ่งไม่หวังที่จะได้วันหยุดถึง 180 วัน แต่ขอให้เป็นจุดเริ่มต้น ที่ไม่ใช่แค่ 98 วัน เพราะไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูบุตร
ขณะที่ น.ส.
ชนฐิตา ไกรศรีกุล ตัวแทนกลุ่มฯ กล่าวว่า เราตระหนักในเรื่อง คำจำกัดความที่กว้างขึ้น ของคำว่า วันสตรี วันนี้จึงรวมถึงข้อเรียกร้อง ทั้งกลุ่มสตรีและของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ไว้ด้วยกัน ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวัง ที่ถูกกันไว้ไม่ให้เข้าใกล้ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากมีการประสานอย่างถูกต้อง ที่จริงแล้ว ข้อเรียกร้องในวันนี้เป็นสิทธิ์ที่กลุ่มแรงงานสตรีควรจะได้ แต่ท่าทีการรับมือของเจ้าหน้าที่ เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น
จุดฮอตสปอตเชียงใหม่แซงลำปาง แต่ฝุ่นยังหนา ล่าสุดเกิดปรากฎการณ์ ดวงอาทิตย์สีสด
https://www.matichon.co.th/region/news_4461167
จุดฮอตสปอตเชียงใหม่แซงลำปาง แต่ฝุ่นยังหนา ล่าสุดเกิดปรากฎการณ์ ดวงอาทิตย์สีสด
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 มีนาคม ที่ จ.ลำปาง เกิดปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์เป็นสีแดงสด โดยบางช่วงเกิดเป็นลักษณะ พระอาทิตย์ทรงกลด ซึ่งเกิดขึ้นประมาณหนึ่งชั่วโมง ในตอนเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. – 07.00 น. ขณะดวงอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ไม่สร้างความตกใจ หรือประหลาดใจ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ที่พบเห็น เพราะเป็นสิ่งที่ปกติ และเป็นความเคยชินของประชาชนชาวลำปางแล้ว เนื่องจาก เป็นที่ทราบกันดีว่า หากในพื้นที่ เกิดสถานการณ์ฝุ่นหมอกควัน PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ปกคลุมพื้นที่หนาแน่น ก็มักจะเห็นดวงอาทิตย์สีสด หรือดวงใหญ่
สำหรับการเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว เพราะดวงอาทิตย์เจอหมอกฝุ่น หรือหมอกควันไฟที่หนาแน่นปกคลุม ก็จะเกิดแสงหักเห หรือแสงกระเจิง ทำให้เห็นดวงอาทิตย์มีลูกใหญ่ หรือเป็นสีแดงสดในตอนเช้า เป็นสัญญาณที่ประชาชนจะทราบกันดีว่า เกิดสถานการณ์ฝุ่นที่หนาแน่นมากปกคลุมพื้นที่ จึงทำให้แสงไม่สามารถส่องผ่านชั้นบรรยากาศลงมาได้ หลังจากนั้นในช่วงสาย ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะกลับเป็นปกติ และจะมีแสงแดดส่องลงมาเต็มที่ ตั้งแต่ช่วงเที่ยง ไปจนถึงช่วงบ่าย ทำให้อากาศในพื้นที่ร้อนมาก
จากสภาพอากาศในพื้นที่ ที่ยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง ซึ่งอุณหภูมิในแต่ละวันเฉลี่ย 38 – 40 องศาเซลเซียส หรือบางวันก็พุ่งทะลุไปถึง 41 องศาเซลเซียส ประกอบกับตามคำแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา อาจจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น ในช่วงระยะนี้ ซึ่งสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง ก็ประกาศให้ทุกพื้นที่ระวังการเกิดภัยดังกล่าว โดยชาวลำปาง ก็อยากให้เกิดฟ้าฝนขึ้นในพื้นที่ เพราะจะทำให้คลายร้อน คลายความแห้งแล้ง และบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นหมอกควันที่ปกคลุมพื้นที่ ให้ลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ขณะที่สถานการณ์ฝุ่นหมอกควัน ก็ยังหนักต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว ที่ค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งเกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับสีแดงในทุกพื้นที่ มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก โดยค่าสูงสุด ตามข้อมูลจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัติโนมัติของกรมควบคุมมลพิษที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ลำปาง พบที่ ต.พระบาท อ.เมือง เขตเทศบาลนครลำปาง 165.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร ส่วนพื้นที่ อ.แม่เมาะ อีก 3 สถานี ค่าฝุ่นก็อยู่ในระดับสีแดงเช่นกัน อยู่ระหว่าง 113 – 116 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร ทำให้พื้นที่ยังขะมุกขมัวเป็นเมืองในหมอกฝุ่นต่อเนื่อง
ในขณะที่การพบจุดความร้อน หรือจุดฮอตสปอต อันเกิดจากการเผาในที่โล่งแจ้งในพื้นที่ จ.ลำปาง ก็ยังมีเกิดขึ้นอย่างหนักในทุกวัน ล่าสุดในวันนี้ (8 มี.ค.67) พื้นที่ จ.ลำปาง มี 163 จุด เป็นอันดับที่ 2 รองจาก จ.เชียงใหม่ 170 จุด ที่พบมากสุดใน 17 จังหวัดภาคเหนือ จากจำนวนจุดความร้อนที่พบทั่วภาคเหนือวันนี้มากถึง 1,284 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 779 จุด , ป่าสงวนแห่งชาติ 439 จุด และที่โล่งแจ้งนอกเขตป่า 66 จุด ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมดับไฟป่าต้องทำการอย่างหนัก และอย่างเหน็ดเหนื่อย ท่ามกลางอากาศในพื้นที่ ที่ร้อนมาก จนน่าห่วงว่า กำลังเจ้าหน้าที่จะไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างหนักในขณะนี้ จากการเดินเท้าเข้าป่าในแต่ละวันที่ต้องเดินไกล บางช่วงก็ต้องปีนป่ายหน้าผาขึ้นไปบนเขาสูง เพื่อดับไฟป่าตามพิกัดดาวเทียมที่พบจุดความร้อน จึงทำให้ทั้งเหน็ดเหนื่อย และอ่อนล้า ในการปฎิบัติงาน เพราะสถานการณ์ไฟไหม้ป่าเกิดขึ้นกระจายทั้งจังหวัดใน 13 อำเภอ จึงต้องเร่งเข้าควบคุมดับไฟให้ได้โดยเร็ว
น้ำมันดิบตลาดโลก ร่วงลง 20 เซนต์ เหตุนักลงทุนเทขายทำกำไร
https://ch3plus.com/news/economy/morning/390421
ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ปิดตลาดพลิกร่วงลง โดยน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 78.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน คงที่ ปิดที่ 82.96 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นกว่า 1% วานนี้
ทั้งนี้ ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นวานนี้ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่น ลดลงมากกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในตลาด
ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ รวมทั้งรายงานที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติขยายการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจไปจนถึงไตรมาส 2/2567 เพื่อพยุงราคาน้ำมันในตลาด
JJNY : แรงงานหญิงบุกทำเนียบ│จุดฮอตสปอตเชียงใหม่แซงลำปาง│น้ำมันดิบโลก ร่วงลง20 เซนต์│เกาหลีเหนือโชว์ฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8129704
แรงงานหญิง บุกทำเนียบ ‘วันสตรีสากล’ วอนรัฐ เพิ่มวันลาคลอด -ยกเลิกกม.เลือกปฏิบัติ-ยุติความรุนแรงทางเพศ พ้อ จนท.สกัด ไม่ให้ใกล้ทำเนียบ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มี.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง พร้อมเครือข่ายสตรี นำโดย น.ส.ติมาพร เจริญสุข ตัวแทนกลุ่มสหภาพแรงงานสตรี เดินทางมารวมตัว เพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐบาล ในวันสตรีสากล 8 มี.ค. จึงขอเรียกร้องให้ปกป้องคุ้มครองไม่ให้ผู้หญิง เด็ก บุคคลในครอบครัว และบุคคลหลากหลายทางเพศ ถูกกระทำรุนแรง หรือปฏิบัติ ดังนี้
ให้รัฐบาลต้องรับประกันสิทธิลาคลอด 180 วัน โดยได้รับค่าจ้างตลอดการลา และจัดวันหยุดให้คู่ชีวิตทุกเพศ ลาเพื่อเลี้ยงลูกได้อย่างน้อย 30 วัน รวมถึงจัดให้มีสวัสดิการแม่และเด็กอย่างเหมาะสมถ้วนหน้า
โดยรัฐบาลและกระทรวงแรงงาน ต้องทำหน้าที่เป็นหลักประกันสิทธิแรงงานของแรงงานหญิงและแรงงาน ทุกเพศ ด้วยการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงขอให้ยกเลิกนโยบาย กฎหมาย ธรรมเนียม ที่เลือกปฏิบัติต่อสตรีและผู้มีความหลากหลายทางเพศ เช่น การตรวจครรภ์ก่อนเข้าทำงาน, การตีตราผู้ต้องการยุติการตั้งครรภ์เป็นคนบาปหรืออาชญากร, การตีตราผู้ขายบริการทางเพศ
ทั้งนี้ รัฐบาลและนายจ้างต้องเพิ่มสิทธิลาเมื่อมีประจำเดือน อย่างน้อยเดือนละ 2 วัน และเพิ่มวันลารับบริการอนามัยเจริญพันธุ์ทุกประเภท เช่น การยุติการตั้งครรภ์ การคุมกำเนิด การตรวจครรภ์การฝากครรภ์ และการข้ามเพศ
รัฐบาลและนายจ้างต้องอุดหนุนงบประมาณการแจกจ่ายผ้าอนามัยฟรี ขยายบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยและบริการอนามัยเจริญพันธุ์อื่นๆ และจัดให้มีห้องน้ำสาธารณะที่ถูกสุขลักษณะสำหรับแรงงานสตรี และแรงงานทุกเพศที่ทำงานบนท้องถนน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศให้การอยู่ การยุติความรุนแรงทางเพศ เพศสภาพ เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายตามกับที่ขายตามหลักสิทธิพื้นฐานมนุษยชน
น.ส.ติมาพร ระบุว่าก่อนหน้านี้พ.ร.บ.เรื่องลาคลอดถูกบรรจุเข้าไปในสภาแล้ว ให้กลุ่มแรงงานมีหวัง ซึ่งไม่หวังที่จะได้วันหยุดถึง 180 วัน แต่ขอให้เป็นจุดเริ่มต้น ที่ไม่ใช่แค่ 98 วัน เพราะไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูบุตร
ขณะที่ น.ส.ชนฐิตา ไกรศรีกุล ตัวแทนกลุ่มฯ กล่าวว่า เราตระหนักในเรื่อง คำจำกัดความที่กว้างขึ้น ของคำว่า วันสตรี วันนี้จึงรวมถึงข้อเรียกร้อง ทั้งกลุ่มสตรีและของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ไว้ด้วยกัน ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวัง ที่ถูกกันไว้ไม่ให้เข้าใกล้ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากมีการประสานอย่างถูกต้อง ที่จริงแล้ว ข้อเรียกร้องในวันนี้เป็นสิทธิ์ที่กลุ่มแรงงานสตรีควรจะได้ แต่ท่าทีการรับมือของเจ้าหน้าที่ เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น
จุดฮอตสปอตเชียงใหม่แซงลำปาง แต่ฝุ่นยังหนา ล่าสุดเกิดปรากฎการณ์ ดวงอาทิตย์สีสด
https://www.matichon.co.th/region/news_4461167
จุดฮอตสปอตเชียงใหม่แซงลำปาง แต่ฝุ่นยังหนา ล่าสุดเกิดปรากฎการณ์ ดวงอาทิตย์สีสด
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 มีนาคม ที่ จ.ลำปาง เกิดปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์เป็นสีแดงสด โดยบางช่วงเกิดเป็นลักษณะ พระอาทิตย์ทรงกลด ซึ่งเกิดขึ้นประมาณหนึ่งชั่วโมง ในตอนเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. – 07.00 น. ขณะดวงอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ไม่สร้างความตกใจ หรือประหลาดใจ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ที่พบเห็น เพราะเป็นสิ่งที่ปกติ และเป็นความเคยชินของประชาชนชาวลำปางแล้ว เนื่องจาก เป็นที่ทราบกันดีว่า หากในพื้นที่ เกิดสถานการณ์ฝุ่นหมอกควัน PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ปกคลุมพื้นที่หนาแน่น ก็มักจะเห็นดวงอาทิตย์สีสด หรือดวงใหญ่
สำหรับการเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว เพราะดวงอาทิตย์เจอหมอกฝุ่น หรือหมอกควันไฟที่หนาแน่นปกคลุม ก็จะเกิดแสงหักเห หรือแสงกระเจิง ทำให้เห็นดวงอาทิตย์มีลูกใหญ่ หรือเป็นสีแดงสดในตอนเช้า เป็นสัญญาณที่ประชาชนจะทราบกันดีว่า เกิดสถานการณ์ฝุ่นที่หนาแน่นมากปกคลุมพื้นที่ จึงทำให้แสงไม่สามารถส่องผ่านชั้นบรรยากาศลงมาได้ หลังจากนั้นในช่วงสาย ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะกลับเป็นปกติ และจะมีแสงแดดส่องลงมาเต็มที่ ตั้งแต่ช่วงเที่ยง ไปจนถึงช่วงบ่าย ทำให้อากาศในพื้นที่ร้อนมาก
จากสภาพอากาศในพื้นที่ ที่ยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง ซึ่งอุณหภูมิในแต่ละวันเฉลี่ย 38 – 40 องศาเซลเซียส หรือบางวันก็พุ่งทะลุไปถึง 41 องศาเซลเซียส ประกอบกับตามคำแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา อาจจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น ในช่วงระยะนี้ ซึ่งสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง ก็ประกาศให้ทุกพื้นที่ระวังการเกิดภัยดังกล่าว โดยชาวลำปาง ก็อยากให้เกิดฟ้าฝนขึ้นในพื้นที่ เพราะจะทำให้คลายร้อน คลายความแห้งแล้ง และบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นหมอกควันที่ปกคลุมพื้นที่ ให้ลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ขณะที่สถานการณ์ฝุ่นหมอกควัน ก็ยังหนักต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว ที่ค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งเกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับสีแดงในทุกพื้นที่ มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก โดยค่าสูงสุด ตามข้อมูลจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัติโนมัติของกรมควบคุมมลพิษที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ลำปาง พบที่ ต.พระบาท อ.เมือง เขตเทศบาลนครลำปาง 165.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร ส่วนพื้นที่ อ.แม่เมาะ อีก 3 สถานี ค่าฝุ่นก็อยู่ในระดับสีแดงเช่นกัน อยู่ระหว่าง 113 – 116 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร ทำให้พื้นที่ยังขะมุกขมัวเป็นเมืองในหมอกฝุ่นต่อเนื่อง
ในขณะที่การพบจุดความร้อน หรือจุดฮอตสปอต อันเกิดจากการเผาในที่โล่งแจ้งในพื้นที่ จ.ลำปาง ก็ยังมีเกิดขึ้นอย่างหนักในทุกวัน ล่าสุดในวันนี้ (8 มี.ค.67) พื้นที่ จ.ลำปาง มี 163 จุด เป็นอันดับที่ 2 รองจาก จ.เชียงใหม่ 170 จุด ที่พบมากสุดใน 17 จังหวัดภาคเหนือ จากจำนวนจุดความร้อนที่พบทั่วภาคเหนือวันนี้มากถึง 1,284 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 779 จุด , ป่าสงวนแห่งชาติ 439 จุด และที่โล่งแจ้งนอกเขตป่า 66 จุด ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมดับไฟป่าต้องทำการอย่างหนัก และอย่างเหน็ดเหนื่อย ท่ามกลางอากาศในพื้นที่ ที่ร้อนมาก จนน่าห่วงว่า กำลังเจ้าหน้าที่จะไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างหนักในขณะนี้ จากการเดินเท้าเข้าป่าในแต่ละวันที่ต้องเดินไกล บางช่วงก็ต้องปีนป่ายหน้าผาขึ้นไปบนเขาสูง เพื่อดับไฟป่าตามพิกัดดาวเทียมที่พบจุดความร้อน จึงทำให้ทั้งเหน็ดเหนื่อย และอ่อนล้า ในการปฎิบัติงาน เพราะสถานการณ์ไฟไหม้ป่าเกิดขึ้นกระจายทั้งจังหวัดใน 13 อำเภอ จึงต้องเร่งเข้าควบคุมดับไฟให้ได้โดยเร็ว
น้ำมันดิบตลาดโลก ร่วงลง 20 เซนต์ เหตุนักลงทุนเทขายทำกำไร
https://ch3plus.com/news/economy/morning/390421
ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ปิดตลาดพลิกร่วงลง โดยน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 78.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน คงที่ ปิดที่ 82.96 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นกว่า 1% วานนี้
ทั้งนี้ ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นวานนี้ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่น ลดลงมากกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในตลาด
ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ รวมทั้งรายงานที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติขยายการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจไปจนถึงไตรมาส 2/2567 เพื่อพยุงราคาน้ำมันในตลาด