เดือนกุมภาพันธ์สะดุดสองจากห้านัดในลีก โดยเฉพาะความพ่ายแพ้ต่อลีดส์ทำให้ช่องว่างคะแนนอันดับหนึ่งและสองตอนนี้ลดเหลือ 6 คะแนนกับโปรแกรมการแข่งขัน 12 นัดสุดท้าย
กัมภาพันธ์ลีดส์ทำผลงานชนะรวดอยู่ในตำแหน่งรองจ่าฝูงโดยมี 72 คะแนนเท่ากับอิปสวิชทาวน์ที่กลับมาเร่งเครื่องได้อีกครั้งหลังร่วงตกไปอยู่ลำดับ 4 ในเดือนมกราคม ขณะที่อันดับสองในเดือนมกราคมอย่างเซาต์แธมป์ตันทำผลงานไม่ดีเท่าทีมอื่นไปอยู่อันดับ 4 ด้วยคะแนน 67 คะแนน
แชมเปียนชิปยังเป็นเกมที่ยาวนานและผ่อนกันไม่ได้จนถึงท้ายฤดูกาล หัวตารางไล่กวดกันนัดต่อนัด อันดับ 2 ยังเปิดกว้างกับโปรแกรมที่เหลือและอันดับหนึ่งก็ยังไม่ถึงกับเป็นเรื่องที่แน่นอน
ชัยชนะเหนือบอร์นมัธในเกม FA สร้างกำลังใจให้กับทีมเป็นอย่างมาก เลสเตอร์เล่นในรูปแบบที่เขาเล่น ไม่ใช่เล่นในรูปแบบของทีมแชมเปียนชิปเจอทีมพรีเมียร์ลีก เลสเตอร์เคยทำสิ่งนี้แล้วกับลิเวอร์พูลในพรีซีซั่น ผลคือเละ แต่สิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเติบโต เป็นเรื่องประสบการณ์ ปัญหา และการนำกลับมาแก้ไข สถิติฤดูกาลนี้โอกาสยิงเยอะมากแล้วก็พลาดเยอะมากเช่นกัน ในพรีเมียร์ลีกจะไม่เปิดโอกาสให้เลสเตอร์เหมือนแชมเปียนชิป พวกเขาจำเป็นต้องมีความแม่นยำที่มากขึ้นหรือไม่อย่างนั้นก็ต้องพัฒนาการเกมรุกเพื่อสร้างโอกาสให้ได้เท่าเดิม
นัดหน้าพบเชลซี จริงๆ เป็นโอกาสที่ไม่เลวเลย เชลซีอยู่ในช่วงปรับปรุงทีมแต่คุณภาพนักเตะแน่นอนว่าอยู่ในระดับสูง คิดว่าทีมสามารถได้รับประสบการณ์มากมายในการเจอเชลซี โดยปกติแล้วถ้าเป็นทีมอื่นก็คงรับรอสวนคอยโอกาสอย่างใจเย็นแบบทีมเล็กเจอทีมใหญ่ แต่คิดว่าเลสเตอร์จะไม่ทำแบบนั้น เล่นแบบที่เล่นนี่แหละ น่าจะเปิดโอกาสให้เชลซีโจมตีมาก ขณะเดียวกันตัวรับก็น่าจะได้ประสบการณ์รับมือกับรื้อฟื้นจังหวะของลีกสูงสุดกันอีกครั้ง สำหรับแฟนบอลคงไม่ได้หวังถ้วยมาก หวังกับการเลื่อนชั้นมากกว่า ดังนั้นผลการแข่งขันเกมหน้าออกหน้าไหนก็รับได้ทั้งนั้น เข้ารอบก็ดีใจ ตกรอบก็จะได้โฟกัสกับการแข่งขันในลีก
โปรแกรมนัดที่เหลือของลีดส์น่าจะง่ายกว่า 4 ทีมหัวตารางหน่อย ไม่ได้เจอกับทีมหัวตารางกับทีมที่แย่งเพลย์ออฟนัก เลสเตอร์กับอิปสวิชหนักระดับหนึ่งคือไปเจอทีมที่ลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟหลายนัดในช่วงท้ายฤดูกาลใครบ้างจะไม่สู้ตายเพื่อหาโอกาสเลื่อนชั้น หนักสุดน่าจะเซาต์ใน 12 นัดที่เหลือนอกจากทีมที่ต้องการเพลย์ออฟแล้วยังเจอเลสเตอร์ อิปสวิช ลีดส์ คิดว่ามีโอกาสอยู่ในพื้นที่เพลย์ออฟมากกว่าสามทีมที่เหลือ
Leicester city 12 นัดสุดท้ายในลีกและ 8 ทีมสุดท้ายใน FA CUP
กัมภาพันธ์ลีดส์ทำผลงานชนะรวดอยู่ในตำแหน่งรองจ่าฝูงโดยมี 72 คะแนนเท่ากับอิปสวิชทาวน์ที่กลับมาเร่งเครื่องได้อีกครั้งหลังร่วงตกไปอยู่ลำดับ 4 ในเดือนมกราคม ขณะที่อันดับสองในเดือนมกราคมอย่างเซาต์แธมป์ตันทำผลงานไม่ดีเท่าทีมอื่นไปอยู่อันดับ 4 ด้วยคะแนน 67 คะแนน
แชมเปียนชิปยังเป็นเกมที่ยาวนานและผ่อนกันไม่ได้จนถึงท้ายฤดูกาล หัวตารางไล่กวดกันนัดต่อนัด อันดับ 2 ยังเปิดกว้างกับโปรแกรมที่เหลือและอันดับหนึ่งก็ยังไม่ถึงกับเป็นเรื่องที่แน่นอน
ชัยชนะเหนือบอร์นมัธในเกม FA สร้างกำลังใจให้กับทีมเป็นอย่างมาก เลสเตอร์เล่นในรูปแบบที่เขาเล่น ไม่ใช่เล่นในรูปแบบของทีมแชมเปียนชิปเจอทีมพรีเมียร์ลีก เลสเตอร์เคยทำสิ่งนี้แล้วกับลิเวอร์พูลในพรีซีซั่น ผลคือเละ แต่สิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเติบโต เป็นเรื่องประสบการณ์ ปัญหา และการนำกลับมาแก้ไข สถิติฤดูกาลนี้โอกาสยิงเยอะมากแล้วก็พลาดเยอะมากเช่นกัน ในพรีเมียร์ลีกจะไม่เปิดโอกาสให้เลสเตอร์เหมือนแชมเปียนชิป พวกเขาจำเป็นต้องมีความแม่นยำที่มากขึ้นหรือไม่อย่างนั้นก็ต้องพัฒนาการเกมรุกเพื่อสร้างโอกาสให้ได้เท่าเดิม
นัดหน้าพบเชลซี จริงๆ เป็นโอกาสที่ไม่เลวเลย เชลซีอยู่ในช่วงปรับปรุงทีมแต่คุณภาพนักเตะแน่นอนว่าอยู่ในระดับสูง คิดว่าทีมสามารถได้รับประสบการณ์มากมายในการเจอเชลซี โดยปกติแล้วถ้าเป็นทีมอื่นก็คงรับรอสวนคอยโอกาสอย่างใจเย็นแบบทีมเล็กเจอทีมใหญ่ แต่คิดว่าเลสเตอร์จะไม่ทำแบบนั้น เล่นแบบที่เล่นนี่แหละ น่าจะเปิดโอกาสให้เชลซีโจมตีมาก ขณะเดียวกันตัวรับก็น่าจะได้ประสบการณ์รับมือกับรื้อฟื้นจังหวะของลีกสูงสุดกันอีกครั้ง สำหรับแฟนบอลคงไม่ได้หวังถ้วยมาก หวังกับการเลื่อนชั้นมากกว่า ดังนั้นผลการแข่งขันเกมหน้าออกหน้าไหนก็รับได้ทั้งนั้น เข้ารอบก็ดีใจ ตกรอบก็จะได้โฟกัสกับการแข่งขันในลีก
โปรแกรมนัดที่เหลือของลีดส์น่าจะง่ายกว่า 4 ทีมหัวตารางหน่อย ไม่ได้เจอกับทีมหัวตารางกับทีมที่แย่งเพลย์ออฟนัก เลสเตอร์กับอิปสวิชหนักระดับหนึ่งคือไปเจอทีมที่ลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟหลายนัดในช่วงท้ายฤดูกาลใครบ้างจะไม่สู้ตายเพื่อหาโอกาสเลื่อนชั้น หนักสุดน่าจะเซาต์ใน 12 นัดที่เหลือนอกจากทีมที่ต้องการเพลย์ออฟแล้วยังเจอเลสเตอร์ อิปสวิช ลีดส์ คิดว่ามีโอกาสอยู่ในพื้นที่เพลย์ออฟมากกว่าสามทีมที่เหลือ