สวัสดีครับ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อสอบเนติ สมัย 74 ข้อ 6 วิแพ่ง ครับ
ข้อ ๖. คำถาม นายแดงเป็นโจทก์ฟ้องนายดำเป็นจำเลยให้ชำระหนี้เงินกู้ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท จำเลยให้การต่อสู้ว่า สัญญากู้ปลอม ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ปรากฏว่า
(ก) ...
(ข)
จำเลยยื่นคำแก้อุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาต่อศาลชั้นต้นให้โจทก์วางเงินหรือหาประกันเพื่อการชำระค่าฤชาธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในชั้นอุทธรณ์เพราะทราบว่าโจทก์ได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ต่างประเทศ และไม่มีสำนักทำการงานตลอดทั้งทรัพย์สินที่อาจถูกบังคับคดีได้อยู่ในราชอาณาจักร ศาลชั้นต้นไต่สวนข้อเท็จจริงได้ความตามคำร้อง จึงมีคำสั่งให้โจทก์วางเงินหรือหาประกัน ๒๐๐,๐๐๐ บาท โจทก์ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ศาลชั้นต้นส่งสำนวนความไปยังศาลอุทธรณ์
ให้วินิจฉัยว่า คำสั่งศาลชั้นต้นตาม (ก) และ (ข) ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ธงคำตอบ
(ข) จำเลยยื่นคำขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาให้โจทก์วางเงินหรือหาประกันเพื่อการชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายตามประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๕๓ ทวิ วรรคหนึ่ง ภายหลังที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ จึงเป็นการยื่นคำขอเมื่อคดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์แล้ว การสั่งคำขอดังกล่าวเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ตามมาตรา ๒๕๓ ทวิ วรรคสอง คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้โจทก์วางเงินหรือหาประกันจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ แม้โจทก์จะปฏิบัติตามคำสั่งก็หาเป็นเหตุให้คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นกลับเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายไม่
มาตรา 253 ทวิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ มาตรา ๒๕๓ ทวิ ในกรณีที่โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาคัดค้านคำพิพากษาถ้ามีเหตุใดเหตุหนึ่งตามมาตรา ๒๕๓ วรรคหนึ่ง จำเลยอาจยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา แล้วแต่กรณี ไม่ว่าเวลาใด ๆ ก่อนพิพากษา ขอให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์วางเงินต่อศาลหรือหาประกันมาให้เพื่อการชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้
ในระหว่างที่ศาลชั้นต้นยังมิได้ส่งสำนวนความไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา คำร้องตามวรรคหนึ่งให้ยื่นต่อศาลชั้นต้น และให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวน แล้วส่งคำร้องนั้นพร้อมด้วยสำนวนความไปให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาสั่ง
ให้นำความในมาตรา ๒๕๓ วรรคสองและวรรคสาม มาใช้บังคับแก่การพิจารณาในชั้นอุทธรณ์และฎีกาโดยอนุโลม
ข้อสงสัย
ตาม ม. 253 ทวิ วรรคหนึ่ง จำเลยต้องยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา
ทำไมในข้อ (ข) นี้ จำเลยถึงยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาต่อศาลชั้นต้น? ไม่ผิดหรอครับ?
ข้อสงสัย ข้อสอบเนติ กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 253 ทวิ
ข้อ ๖. คำถาม นายแดงเป็นโจทก์ฟ้องนายดำเป็นจำเลยให้ชำระหนี้เงินกู้ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท จำเลยให้การต่อสู้ว่า สัญญากู้ปลอม ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ปรากฏว่า
(ก) ...
(ข) จำเลยยื่นคำแก้อุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาต่อศาลชั้นต้นให้โจทก์วางเงินหรือหาประกันเพื่อการชำระค่าฤชาธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในชั้นอุทธรณ์เพราะทราบว่าโจทก์ได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ต่างประเทศ และไม่มีสำนักทำการงานตลอดทั้งทรัพย์สินที่อาจถูกบังคับคดีได้อยู่ในราชอาณาจักร ศาลชั้นต้นไต่สวนข้อเท็จจริงได้ความตามคำร้อง จึงมีคำสั่งให้โจทก์วางเงินหรือหาประกัน ๒๐๐,๐๐๐ บาท โจทก์ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ศาลชั้นต้นส่งสำนวนความไปยังศาลอุทธรณ์
ให้วินิจฉัยว่า คำสั่งศาลชั้นต้นตาม (ก) และ (ข) ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ธงคำตอบ
(ข) จำเลยยื่นคำขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาให้โจทก์วางเงินหรือหาประกันเพื่อการชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายตามประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๕๓ ทวิ วรรคหนึ่ง ภายหลังที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ จึงเป็นการยื่นคำขอเมื่อคดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์แล้ว การสั่งคำขอดังกล่าวเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ตามมาตรา ๒๕๓ ทวิ วรรคสอง คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้โจทก์วางเงินหรือหาประกันจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ แม้โจทก์จะปฏิบัติตามคำสั่งก็หาเป็นเหตุให้คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นกลับเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายไม่
มาตรา 253 ทวิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้อสงสัย
ตาม ม. 253 ทวิ วรรคหนึ่ง จำเลยต้องยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา
ทำไมในข้อ (ข) นี้ จำเลยถึงยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาต่อศาลชั้นต้น? ไม่ผิดหรอครับ?