JJNY : ก้าวไกล ประกาศจุดยืน│สื่อนอกเกาะข่าว‘ทักษิณ’│ออกโรงจี้รัฐแก้‘สินค้านำเข้าราคาต่ำ’ทะลัก│ฮามาสยื่นคำขาด ต้องถอนทหาร

ก้าวไกล ประกาศจุดยืนปม ‘ทักษิณพักโทษ’ ต้องไม่ตอกย้ำสองมาตรฐาน-ไม่ส่งเสริมอภิสิทธิ์ชน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4430832
  
 
ก้าวไกล ประกาศจุดยืนปมทักษิณพักโทษ ต้องไม่ตอกย้ำสองมาตรฐาน-ไม่ส่งเสริมอภิสิทธิ์ชน
 
เมื่อวันที่ 18 เพจพรรคก้าวไกลโพสต์ข้อความกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางออกจากรพ.ตำรวจ กลับไปยังบ้านพักจันทร์ส่องหล้า เพื่อเข้ารับการพักโทษตามเงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์ หลังถูกจองจำนอกเรือนจำครบ 180 วัน เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา
โดยระบุว่า 
 
“จุดยืนพรรคก้าวไกล ต่อกรณีคุณทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักโทษ”
 
แม้รัฐบาลและนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มักย้ำในหลายเวทีถึงความสำคัญของการสร้างหลักนิติรัฐที่เข้มแข็ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์และกระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับคุณทักษิณ ชินวัตร ตลอด 180 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะการได้รับสิทธิรักษาตัวนอกโรงพยาบาลที่เรือนจำเป็นกรณีพิเศษโดยขาดความโปร่งใสเรื่องอาการป่วยของคุณทักษิณ ต่อเนื่องมาจนได้รับสิทธิพักโทษเพื่อปล่อยตัวกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านนั้น กลับเพิ่มคำถามที่มีในใจของประชาชนจำนวนมาก ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน สอดคล้องกับหลักการบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติหรือไม่
 
แน่นอนว่าหากมองไปที่อดีต ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกรัฐประหาร ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณทักษิณเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางวิถี
ประชาธิปไตย จนทำให้ประชาชนจำนวนมากตั้งคำถามต่อความเป็นธรรมของคดีความ กระบวนการทางกฎหมาย และบทลงโทษที่มีต่อคุณทักษิณ
แต่หากมองมาที่ปัจจุบัน เมื่อคุณทักษิณตัดสินใจนำตนเองกลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมในประเทศ ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า คำชี้แจงของรัฐบาลต่อคำถามสำคัญทั้งเรื่องสุขภาพของคุณทักษิณที่ผ่านมา หรือเกณฑ์ที่ใช้ในการอนุมัติให้คุณทักษิณได้รับการพักโทษ ไม่สามารถทำให้สังคมหยุดตั้งคำถามได้ถึงความเสมอภาคในการบังคับใช้กฎหมาย และการปฏิบัติเมื่อเปรียบเทียบกับนักโทษและผู้ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองคนอื่น ๆ
 
พรรคก้าวไกลยืนยันว่า สังคมไทยต้องการระบอบประชาธิปไตยที่ยึดหลักนิติรัฐและกระบวนการยุติธรรมเพื่อทุกคน ปราศจากระบบสองมาตรฐานหรือนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชน
 
ดังนั้น หากรัฐบาลต้องการจะอำนวยความยุติธรรมให้แก่คุณทักษิณในฐานะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งหรือการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง แนวทางในการดำเนินการต้องไม่ใช่การตอกย้ำระบบสองมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมในประเทศ หรือส่งเสริมให้ใครคนใดคนหนึ่งได้รับอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นในทางกฎหมาย แต่รัฐบาลต้องยึดแนวทางที่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ทุกคนอย่างทัดเทียมกัน
 
https://www.facebook.com/MoveForwardPartyThailand/posts/969305631425456?ref=embed_post



สื่อนอกเกาะติด ข่าว ‘ทักษิณ’ กลับบ้าน
https://www.matichon.co.th/heading-news/news_4430767

สื่อนอกเกาะติด ข่าว ‘ทักษิณ’ กลับบ้าน
 
สำนักข่าวต่างประเทศอย่างเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์ พากันเกาะติดข่าวการปล่อยตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการปล่อยตัวจากโรงพยาบาลตำรวจ หลังเขาเกณฑ์พักโทษเป็นกรณีพิเศษ ได้เดินทางกลับถึงบ้านจันทร์ส่องหล้าแล้วในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์
 
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ทักษิณได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการพิจารณาทัณฑ์บน และได้รับการปล่อยตัวอย่างเป็นทางการแล้ว
 
ขณะที่เอพีสัมภาษณ์ ศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งระบุว่า เชื่อว่าทักษิณยังคงใช้อิทธิพลที่มีอยู่มากมายมหาศาล ทำการควบคุมดนตรีเบื้องหลังพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในขณะนี้ และมีแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของเขาเป็นผู้บริหารพรรคอยู่ต่อไป อย่างไรก็ดีดูเหมือนอำนาจทางการเมืองที่เขาสามารถใช้ได้ในเวลานี้ยังคงไม่มีความชัดเจนนัก
 
เอพียังรายงานถึงการจัดตั้งรัฐบาลที่กลุ่มอนุรักษนิยมของไทยหันมาสนับสนุนให้มีการปรองดองกับกลไกทางการเมืองของทักษิณ เพื่อป้องกันไม่ให้พรรคก้าวไกลได้อำนาจ ทำให้พรรคเพื่อไทยซึ่งมีคะแนนเป็นอันดับสองได้ตั้งรัฐบาลกับพรรคแนวร่วมและพรรคอนุรักษนิยมที่ได้รับการยอมรับจากรัฐสภา และจัดตั้งรัฐบาลชุดปัจจุบันขึ้น โดยนับตั้งแต่นั้นพรรคเพื่อไทยได้ลดท่าทีต่อต้านทหารและประเด็นเกี่ยวกับการปฏิรูปต่างๆ ที่เคยสัญญาไว้ในระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง
 
รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคาดหวังที่จะเห็นหลังการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ และขณะนี้พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่เป็นตัวแทนของกองกำลังอนุรักษนิยมเพื่อรักษาสถานะที่เป็นอยู่
 
รศ.ดร.พวงทองกล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยสูญเสียผู้สนับสนุนไปเป็นจำนวนมาก และภาพลักษณ์ของพรรคกลายเป็นการประนีประนอมแบบแกมโกงเพื่อให้ได้กุมอำนาจ อย่างไรก็ดีพวงทองเชื่อว่า มันจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อความมั่นคงของรัฐบาลตราบใดที่พรรคไม่แตะต้องอำนาจเก่าและนายทุนรายใหญ่
 
ด้านเอเอฟพีเพียงแต่รายงานเกี่ยวกับการปล่อยตัวทักษิณในช่วงเช้าวันอาทิตย์นี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 6 เดือนหลังจากที่เขาเดินทางกลับมายังประเทศไทย จากการถูกเนรเทศนานกว่า 15 ปีในปีที่ผ่านมา โดยระบุด้วยว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการปล่อยตัวทักษิณจำนวนหนึ่งที่มารวมตัวอยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลด้วย
 


 
9 สมาคมนุ่งห่ม-สิ่งทอ ออกโรงจี้รัฐแก้ ‘สินค้านำเข้าราคาต่ำ’ ทะลัก แนะบังคับใช้เกณฑ์มาตรฐาน
https://www.matichon.co.th/economy/news_4430790

9 สมาคมนุ่งห่ม-สิ่งทอ ออกโรงจี้รัฐแก้ ‘สินค้านำเข้าราคาต่ำ’ ทะลัก แนะบังคับใช้เกณฑ์มาตรฐาน
 
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายยศธน กิจกุศล นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย (TGMA) เปิดเผยกับมติชน ว่า ขณะนี้สมาพันธ์สิ่งทอ 9 สมาคมที่เกี่ยวข้อง อาทิ เครื่องนุ่งห่มไทย ทอผ้าไทย ฟอกย้อมพิมพ์ สิ่งทอไทย เส้นใยสงเคราะห์ ผ้าไหม พ่อค้าผ้า เป็นต้น กำลังหารือถึงการบูรณาการร่วมกัน ถึงสถานการณ์ ปัญหาต่างๆ ที่กำลังเผชิญ เพื่อออกแนวทางและข้อเสนอที่จะนำไปหารือกับหน่วยงานรัฐ นายกรัฐมนตรี และเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เป็นซัพพลายเชน ให้สามารถอยู่รอดได้ ทั้งนี้ ประเด็นหารือและการวางกรอบความร่วมมือ หลักๆคือ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างซัพพลายเชน แนวทางที่ต้องการให้รัฐสนับสนุน ซึ่งในระยะสั้นเน้นแก้ปัญหาสินค้าชายแดนราคาถูกทะลักเข้าไทย โดยเฉพาะสินค้าฐานผลิตจากจีน และเร่งแก้ปัญหาต้นทุนในอุตสาหกรรมสูงจนขาดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมกับสนับสนุนแหล่งทุนต่ำและลดหย่อนภาษีสำหรับธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนไปใช้พลังงานทดแทน และสนับสนุนงบพัฒนาและวิจัยนวัตกรรมช่วยลดภาวะโลกร้อนและมุ่งสู่ความยั่งยืน

นายยศธน กล่าวต่อว่า วันนี้มักจะมองว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยกำลังถดถอยและรอวันล้มตาย ทั้งที่อุตสาหกรรมไทยพร้อมที่จะแข่งขัน หากรัฐบาลให้การสนับสนุนและเปลี่ยนแปลงให้ทันต่อสถานการณ์โลก ในหลายประเทศรัฐบาลมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ อย่างจีน ไต้หวัน ไม่แค่ผลิตสำเร็จรูปและส่งไปทั่วโลก รวมถึงไทย ในราคาถูกเท่านั้น แต่ยังกำลังขยายไปถึงต้นน้ำ คือ กำลังเข้ามาตั้งฐานผลิตและขายในประเทศนั้นๆ สะท้อนจากจีนเข้ามาจัดงานแสดงสินค้าในไทย หรือ ส่งทีมมาเจรจากับโรงงานในไทยมากขึ้น
 
“แนะก.อุตฯบังคับใช้มาตรฐาน” เรื่องลักลอบ มองเป็นปลายทาง ซึ่งที่ผ่านมา จากความไม่เข้มงวดจริงจังต่อเนื่อง ทำให้เกิดสินค้ามือสองทะลักเข้าไทย ตามด้วยสินค้าตามเทรนด์แม้สร้างสรรค์โดยเราเองก็จะเจอผู้จ้างผลิตเขามาดั้มราคา เช่น กางเกงช้าง กางเกงแมว ตอนนี้เราเห็นเสื้อผ้าเด็กราคาถูกมาก ขายส่ง 19-20 บาทเอง บ่อยไปอย่างนี้ไม่แค่อุตสาหกรรมในประเทศหมดลงเรื่อยๆ แต่เราจะใช้สินค้าไม่มีคุณภาพและมาตรฐานที่ดีพอ จึงเป็นเรื่องที่สมาพันธ์จะเสนอให้หน่วยงานรัฐ เร่งเพิ่มความเข้มงวดสกัดนำเข้าสินค้าราคาต่ำและด้อยคุณภาพ ควรนำมาตรฐานควบคุมวัตถุดิบมาเป็นมาตรการตรวจสอบก่อนนำเข้าและวางจำหน่ายในไทย เช่น โฆษณาอ้างเป็นเสื้อใยไหมอิตาลี แต่ดูจริงแล้วเป็นใยโพลีเอสเตอร์ สะท้อนจากราคาที่ขายถูกๆก็รู้ โดยรัฐก็ไม่คุมเรื่องมาตรฐาน ทั้งที่เราหน่วยงาน อย่าง กระทรวงอุตสาหกรรม ที่กำกับดูแลมาตรฐานสินค้า ก็ควรกำหนดมาตรฐานออกมาบังคับใช้ จะไปเน้นดูแค่ลักลอบนำเข้าซึ่งเป็นปลายทาง ไม่ใช่การดูแลที่ยั่งยืน” นายยศธน กล่าว
 
นายยศธน กล่าวต่อว่า ซอฟต์พาวเวอร์ อีกเรื่องี่จะช่วยประคองอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่มห่มไทยด้วย ก่อนหน้าซอฟต์พาเวอร์กลุ่มออกแบบแฟชั่น ก็ได้จัดแมชชิ่งระหว่างผู้ผลิต กับ ดีไซน์เนอร์ผู้ออกแบบโดยตรง ซึ่งจะทำให้เกิดการทำงานร่วมกันถึงการออกแบบที่ใช้วัตถุดิบแท้ของคนไทย ขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ได้ถูกทาง ส่วนภาพรวมซอฟต์พาวเวอร์อยากให้ต่อเนื่องไม่แค่ทำประชาสัมพันธ์รายครั้งแล้วหายไป อย่างก่อนหน้านี้เรามีโครงการกรุงเทพเมืองแฟชั่น แต่ก็ผ่านไปแล้ว ทั้งที่เป็นเรื่องดีที่ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักเรา
 
อุตฯนุ่งห่มหวั่นส่งออกโต 0% อุตสาหกรรมไทย ยังเผชิญกับปัจจัยลบด้านกำลังซื้อไม่ได้สูงขึ้น กลับทรงและทรุดมากขึ้น ยังเจอภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและทั่วโลกยังไม่ฟื้นเต็มที่ และอีกหลายความผันผวนของค่าเงิน เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย ภูมิรัฐศาสตร์ และเทรนด์เศรษฐกิจสีเขียว กำลังเป็นแรงกดดันเพิ่มขึ้น สมาคมจึงมองว่าส่งออกเครื่องนุ่งห่มของไทยปี 2567 นี้ อาจแค่เสมอตัวหรือโต0% จากปี 2566 กลับมาติดลบอีกครั้งประมาณ 10% และมีมูลค่าส่งออก 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมกับส่งออกสิ่งทอ ก็รวมเป็นประมาณ 5-6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาทประมาณ 2 แสนล้านบาท หากรัฐเข้ามาเข้มงวดการลักลอบ และสนับสนุนภาคผลิตไทย สถานการณ์จะดีขึ้น” นายยศธน กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่