อิสรภาพการเงิน ตั้งเป้าเท่าไรดี?
หลีเริ่มมีความตั้งใจมีอิสรภาพการเงินตอนอายุราว 30 ตอนนั้นก็ถามตัวเองด้วยคำถามนี้ เพราะรู้ดีว่าถ้าไม่มีตัวเลขชัด
จะทำให้บริหารจัดการไม่ได้
คำตอบแรกแบบกำปั้นทุบดินคือ ทำให้มีรายได้จากการลงทุนหุ้น/กองทุน เท่าเงินเดือนตอนนั้น พอคำนวณเงินลงทุน
ที่ต้องมีก็รู้สึกท้อแท้ ไม่ทำอะไรอยู่หลายเดือนอีกแนวคิดคือให้จดบันทึกรายจ่าย จะได้รู้ยอดค่าใช้จ่าย นำมาคำนวณได้
... ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนหลีบ้าง ไม่ว่าจดลงมือถือ หรือผ่านแอปไหน ก็จดไม่เคยได้ สุดท้ายสรุปตรงที่ แยกบัญชีเงินฝากเฉพาะสำหรับค่าใช้จ่าย
ดูง่ายๆ ใช้เท่าไรจากบช. นี้
ได้ตัวเลข คำนวณหาเงินที่ต้องมีรู้สึกน่าจะมีลุ้นเป็นไปได้ จึงเริ่มลงมือทำจัดระบบการออมการลงทุน
ล่าสุดปีที่แล้วไปปฏิบัติธรรมถือศีล 8 กินอาหารวันละมื้อก็อยู่ได้ อาจารย์ถามว่า ถ้ากินข้าววันละมื้อ ตลอดชีวิตหลังจากนี้
ต้องใช้เงินเท่าไร พอคิดได้รู้สึกดี ว่าเรานี้ก็รวยแล้วน่ะ 555
จากประสบการณ์ส่วนตัวของหลี เป้าที่ดีคือเป้าที่สามารถขับเคลื่อนเรา ไปข้างหน้า ให้ลงมือทำสิ่งที่ปกติไม่ทำ
(ออกจาก comfort zone) เพื่อให้เข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น บางคนชอบเป้าใหญ่ไฟลุก ก็ตามสบาย
เรื่องนี้หลีชอบเป้าที่ปีนแล้วกระโดดเอื้อมได้
บางทฤษฎี บอกว่าอยากได้ lifestyle แบบไหนให้จัดไป อย่าไปจำกัดตัวเอง ไม่ต้องสนใจวิธีการ ตั้งเป้าใหญ่ให้ไฟลุก
เมื่อเราต้องการมากพอ วิธีการจะปรากฎ
และบางแนวคิดบอกว่า เราควรมี passive income 2-3 เท่าของค่าใช้จ่าย จึงถือได้ว่ามีอิสรภาพทางการเงินอย่างแท้จริง
การตั้งเป้าด้วยแนวคืดเหล่านี้ก็อยากชวนให้ลองนะคะ ถ้าตั้งแล้วไฟลุก ทำอะไรที่ปกติไม่ทำ ทำแล้วดี ขับเคลื่อนเราให้เติบโต
และเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น ดีเลยค่ะ ส่วนตัวหลีลองแล้ว กลับท้อแท้จึงเปลี่ยนเป้า
และเป็นกำลังใจให้ท่านที่รู้สึกว่าการมี อิสรภาพการเงินไม่ว่าเป้าไหนมันห่างไกล อาจเริ่มด้วยเป้าใกล้ๆตัว มีข้าวกินวันละมื้อ
ดีกว่าไม่ลงมือทำอะไรเลยนะคะ
เพื่อนๆมีเป้าหรือยังคะว่าเท่าไร คำนวนจากอะไรช่วยแบ่งปันด้วยจ้า
#วิญญูชน
อิสรภาพการเงิน ของคุณคือเท่าไร?
หลีเริ่มมีความตั้งใจมีอิสรภาพการเงินตอนอายุราว 30 ตอนนั้นก็ถามตัวเองด้วยคำถามนี้ เพราะรู้ดีว่าถ้าไม่มีตัวเลขชัด
จะทำให้บริหารจัดการไม่ได้
คำตอบแรกแบบกำปั้นทุบดินคือ ทำให้มีรายได้จากการลงทุนหุ้น/กองทุน เท่าเงินเดือนตอนนั้น พอคำนวณเงินลงทุน
ที่ต้องมีก็รู้สึกท้อแท้ ไม่ทำอะไรอยู่หลายเดือนอีกแนวคิดคือให้จดบันทึกรายจ่าย จะได้รู้ยอดค่าใช้จ่าย นำมาคำนวณได้
... ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนหลีบ้าง ไม่ว่าจดลงมือถือ หรือผ่านแอปไหน ก็จดไม่เคยได้ สุดท้ายสรุปตรงที่ แยกบัญชีเงินฝากเฉพาะสำหรับค่าใช้จ่าย
ดูง่ายๆ ใช้เท่าไรจากบช. นี้
ได้ตัวเลข คำนวณหาเงินที่ต้องมีรู้สึกน่าจะมีลุ้นเป็นไปได้ จึงเริ่มลงมือทำจัดระบบการออมการลงทุน
ล่าสุดปีที่แล้วไปปฏิบัติธรรมถือศีล 8 กินอาหารวันละมื้อก็อยู่ได้ อาจารย์ถามว่า ถ้ากินข้าววันละมื้อ ตลอดชีวิตหลังจากนี้
ต้องใช้เงินเท่าไร พอคิดได้รู้สึกดี ว่าเรานี้ก็รวยแล้วน่ะ 555
จากประสบการณ์ส่วนตัวของหลี เป้าที่ดีคือเป้าที่สามารถขับเคลื่อนเรา ไปข้างหน้า ให้ลงมือทำสิ่งที่ปกติไม่ทำ
(ออกจาก comfort zone) เพื่อให้เข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น บางคนชอบเป้าใหญ่ไฟลุก ก็ตามสบาย
เรื่องนี้หลีชอบเป้าที่ปีนแล้วกระโดดเอื้อมได้
บางทฤษฎี บอกว่าอยากได้ lifestyle แบบไหนให้จัดไป อย่าไปจำกัดตัวเอง ไม่ต้องสนใจวิธีการ ตั้งเป้าใหญ่ให้ไฟลุก
เมื่อเราต้องการมากพอ วิธีการจะปรากฎ
และบางแนวคิดบอกว่า เราควรมี passive income 2-3 เท่าของค่าใช้จ่าย จึงถือได้ว่ามีอิสรภาพทางการเงินอย่างแท้จริง
การตั้งเป้าด้วยแนวคืดเหล่านี้ก็อยากชวนให้ลองนะคะ ถ้าตั้งแล้วไฟลุก ทำอะไรที่ปกติไม่ทำ ทำแล้วดี ขับเคลื่อนเราให้เติบโต
และเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น ดีเลยค่ะ ส่วนตัวหลีลองแล้ว กลับท้อแท้จึงเปลี่ยนเป้า
และเป็นกำลังใจให้ท่านที่รู้สึกว่าการมี อิสรภาพการเงินไม่ว่าเป้าไหนมันห่างไกล อาจเริ่มด้วยเป้าใกล้ๆตัว มีข้าวกินวันละมื้อ
ดีกว่าไม่ลงมือทำอะไรเลยนะคะ
เพื่อนๆมีเป้าหรือยังคะว่าเท่าไร คำนวนจากอะไรช่วยแบ่งปันด้วยจ้า
#วิญญูชน