หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ปอยเป็กข์ ปอยบวชลูกแก้ว วัดพระธาตุพระลอ อำเภอสอง จังหวัดแพร่
กระทู้ข่าว
จังหวัดแพร่
วัฒนธรรม
การอุปสมบท (การบวชพระภิกษุ)
ประเพณีงานบวชในภาคเหนือเรียกว่า ‘งานปอยน้อย’ หรือ ‘เป๊กข์ตุ๊’ ผู้ชายที่บวชจะต้องมีอายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไปถึง 20 ปี เรียกว่า ‘บวชพระ’ เพราะนิยมเรียกสามเณรทั้งหลายว่า ‘พระ’ เรียกสามเณรที่มีอายุน้อยว่า ‘พระน้อย’ (พระหน้อย) ถ้าเป็นสามเณรที่มีอายุมากเรียกว่า ‘พระโคร่ง’ หรือ ‘เณรโคร่ง’ หากลาสิกขาออกไปจะถูกเรียกชื่อว่า ‘หน้อย’ หรือ ‘น้อย’ ส่วนการเป๊กข์นิยมทำกับผู้ชายที่อายุ 20 ปี ขึ้นไปเรียกว่าอุปสมบท หรือ ‘เป๊กข์’ เมื่อเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้วจะเรียกขานว่า ‘ตุ๊เจ้า’ และเมื่อลาสิกขาบทออกไปชาวบ้านจะเรียกว่า ‘ขนาน’ หรือ ‘หนาน’
งานบวชนาคจะมี ‘วันดาปอย’ เป็นการตระเตรียมงานเมื่อกุลบุตรจะบรรพชา หรือ จะอุปสมบทนั้นพ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องไปบอกกล่าวตกลงใจกับเจ้าอาวาสที่สามารถให้การอุปัชฌาย์ในการบรรพชา หรือ อุปสมบท เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ก็จะมีการเตรียมตัวนาค (ผู้ชายผู้จะบวช) จะมีการแผ่นาบุญ (หน้าบุญ) โดยให้คนใกล้ชิด 2-3 คน นำผ้าสบงจีวรใส่พานขึ้นไปตามบ้าน ญาติมิตร เพื่อบอกหน้าบุญ เมื่อทราบแล้วก็จะยกพานผ้าขึ้นจรดหน้าผาก พร้อมทั้งกล่าวคำอนุโมทนาสาธุ ปัจจุบันนิยมบอกบุญโดยการส่งการ์ดหรือบัตรเชิญ วันดาปอย คือวันก่อนที่จะทำการอุปสมบทหรือบรรพชา 1 วัน เจ้าภาพจะมีการเตรียมการเกี่ยวกับเครื่องบวช เช่น ผ้าไตร บาตร หรือ อัฏฐบริขารให้พร้อม และต้องเตรียมอาหารการกินไว้ต้อนรับแขก ที่จะมาร่วมอนุโมทนา ซึ่งถือดอกไม้ ธูปเทียน จตุปัจจัย ใส่ในพานนาค เรียกว่า ‘ฮอมปอย’ นาคก็จะรับดอกไม้ธูปเทียนดังกล่าว และให้พรตอบแทน บางแห่งจัดทำพิธีรับขวัญนาค โดยจัดทำต้นเผิ้ง (ต้นผึ้ง) และเชิญอาจารย์ซึ่งเป็นมัคทายก หรือ ‘หนาน’ เป็นผู้ทำพิธีทำขวัญนาค เพื่ออบรมกล่อมเกลาจิตใจให้ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และรำพันถึงพระคุณของมารดา บิดา ที่เลี้ยงตนมา ทางเหนือเรียกผู้ที่จะอุปสมบทหรือบรรพชา หรือนาคว่า ‘ลูกแก้ว’ โดยจะไปโกนผมที่วัด ญาติพี่น้องจะพาลูกแก้วไปแต่งตัว ด้วยผ้านุ่งสีขาว นุ่งห่มโจงกระเบน สวมชฎา แต่งหน้า ทาปาก ทาคิ้ว ประดับแหวน ประดับสร้อย ล้วนของมีค่ามากมาย เสร็จแล้วจะมีพิธีแห่นาค โดยใช้รถบ้าง ม้าบ้าง บางแห่งให้ลูกแก้วนั่งบนหลังช้างไปตามถนนแวะบ้านญาติ เพื่อผูกข้อมือรับขวัญ
งานปอย ถือกันว่าเป็นงานมงคลที่ยิ่งใหญ่เจ้าภาพจัดเลี้ยงเพื่อบำเพ็ญทานตามแต่ฐานะของแต่ละคน บางคนอาจจัดมหรสพให้มี ซอ รำวง ดนตรี ลิเก หรือ ภาพยนตร์ เป็นการเฉลิมฉลองกันอย่างครึกครื้น ผู้คนไปทำบุญ ก็จะได้ร่วมรับประทานอาหารอย่างอิ่มหมีพีมัน และได้ชมมหรสพต่าง ๆ ต่อมาวันรุ่งเช้าเวลาประมาณ 7โมงเช้า ก็พานาคไปทำพิธีรอบประทักษิณ (เวียนรอบอุโบสถ ) จำนวน 3 รอบ เสร็จนำนาคเข้าไปรอพระสงฆ์อยู่ในอุโบสถ จากนั้นก็กราบอาราธนานิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 10 -100 รูป ตามกำลังทรัพย์ของเจ้าภาพ จากนั้นพระสงฆ์จะได้ทำพิธีให้ศีลบวชเป็นเณรก่อน ต่อมาพระสงฆ์จะได้ประกอบพิธีแสดงอาบัติและเริ่มพิธีสังฆกรรมอุปสมบทให้เณรเป็นพระภิกษุในช่วงระหว่างพระสงฆ์ประกอบพิธีสังฆกรรม ปุถุชนหรือคณะศรัทธาจะต้องหนีออกจากเขตพัทธสีมาของพระอุโบสถให้หมด ไม่ว่ากรณีใด ๆ ห้ามเข้าใกล้แม้แต่สัตว์หมูหมากาไก่ก็แล้วแต่จะต้องขับไล่ออกไปให้หมด ๆ เมื่อพระภิกษุทำสังฆกรรมเสร็จหมดแล้วจากนั้นก็จะเชิญแขกผู้มีเกรียติและญาติพี่น้องของพระใหม่ขึ้นไปบนพระวิหารเพื่อทำพิธีถวายจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์ และหยาดน้ำหมายทานไปถึงบรรพบุรุษเจ้ากรรมนายเวร จากนั้นพระใหม่ก็จะรับบิณฑบาต และแจกพวยทาน เสร็จจากนั้นก็จะลงไปถวายภัตตาหารเช้า แก่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร พระภิกษุสงฆ์สามเณรอนุโมทนาเป็นอันเสร็จพิธี จากนั้นรอพระสงฆ์ฉันเสร็จ พอเสร็จแล้วก็จะเลี้ยงแขกผู้มีเกรียติผู้ที่มาร่วมงานบุญ หรือเรียกตามภาษาพระก็คือ ‘ขโยม’ มานั่งฉันต่อจากพระสงฆ์จนอิ่มจากนั้นก็พักตามอัธยาศัยทักทายปราศัยกันไปตามญาติพี่น้องกัน
สำหรับพระบวชใหม่ก็จะต้อง ‘อยู่กรรม’ นอนบนวิหารหลวงเป็นเวลา ประมาณ 3-7 วัน เพื่อรำลึกถึงพระคุณของพ่อ แม่ โดยใช้ลูกประคำ ‘ตกหมากนับ’ และสวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็นภาวนาแผ่ฝายนาบุญให้กับสรรพสัตว์ตลอดจนถึงบรรพบุรุษเจ้ากรรมนายเวร เทวดาประจำตัวและเจ้าที่เจ้าทางให้ได้รับผลบุญที่เรากระทำอยู่ในช่วงเวลาอันน้อยนิด จากนั้นจำวัดตื่นเช้าทำวัตรเสร็จออกไปรับบิณฑบาตโปรดเมตตาพ่อแม่ออกศรัทธาภายนอกวัด เพื่อมาฉันเช้าและเที่ยง 2 เวลา ประพฤติปฏิบัติแบบนี้ไปทุก ๆ วันให้ครบจำนวน 7 วัน จากนั้นจะลาสิกขาหรือไม่ก็สุดแต่เจ้าตัวพระใหม่ หากอยู่ต่อก็จะแจ้งให้เจ้าอาวาสได้รับทราบว่าจะอยู่ไปตลอดพรรษาหรืออยู่เฉพาะ 2 - 3 เดือน นั้นก็สุดแต่ กรณีอยู่ไปเรื่อย ๆ ทางเจ้าอาวาสก็จะให้อยู่ตามระเบียบของวัด และอยู่ในโอวาทดุลพินิจของเจ้าสำนักนั้น ๆ
คุณค่าและความเชื่อของการบวชของชาวล้านนาที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ สังคมต้องการคนที่มีความรู้ และได้รับการฝึกหัดอบรมมาจากวัดแล้วว่า ‘เป็นคนสุก’ หรือเป็น ‘ขนานบัณฑิต’ ชาวบ้านอยากจะให้ลูกสาวแต่งงานด้วย หวังใจว่าคนที่บวชแล้วย่อมรักทนุถนอมลูกเมียไม่ทอดทิ้ง เพราะจิตใจเต็มไปด้วยความเมตตากรุณา
เอื้อเฟื้อภาพถ่ายโดย : ช่างภาพวัดพระธาตุพระลอ (ทีมงานลูกหลานป้อจาย)
อ้างอิง : มณี พยอมยงค์. 2537. ประเพณีสิบสองเดือนล้านนาไทย. เชียงใหม่ : ส.ทรัพย์การพิมพ์.
และ
http://watviangsathailand.blogspot.com/p/blog-page_15.html
ขันตั้งฮ้องวัญนาค
ขันตั้งช่างซอ
ปอยเป็กข์ - ปอยบวชลูกแก้ว
ขันศรีเมืองสอง l บายศรีอย่างชาวเมืองสอง
ทีมงานลูกศิษย์พระครูบาหมุน / ทีมลูกหลานป้อจายเมืองสอง /
คณะอัญเชิญพระไตรปิฎก / เครือข่ายวัฒนธรรมอำเภอสอง
กลองอืดเมืองสอง l ฟ้อนกลองอืด l ฟ้อนกลองอืดเมืองสอง
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอสอง l ที่ว่าการอำเภอสอง l เมืองสอง
วัดพระธาตุพระลอ l อุทยานลิลิตพระลอ
วัฒนธรรมอำเภอสอง อำเภอสอง จังหวัดแพร่
เครือข่ายวัฒนธรรม l เครือข่ายวัฒนธรรมอำเภอสอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
จาก "นักปราชญ์ผู้มีความสุข" สู่ "ผู้มีสิริดุจพระจันทร์"
เจริญพรโยมทุกคน!!! ในวันนี้ 1 กันยายน 2568 อาตมา "พระเขมณัฏฐ์ สิริจนฺโท" หรือนามก่อนบวช "นายเขมณัฏฐ์ อังศุวัชกุล" (โฟล์ค) ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุแห่งร่มบวรพุทธศาสนา เป็น
สมาชิกหมายเลข 8402768
กลอนลาบวช!!!
ประณมมือ วันทา ขอลาบวช กราบขอโทษ ญาติสนิท มิตรสหาย ทั้งคุณลุง คุณตา ปู่ย่ายาย ทั้งเจ้านาย เวรกรรม ที่ทำมา กราบขอโทษ สรรพสัตว์ ทั้งสิบทิศ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ปกป้อง พระศาสนา กราบขอโทษ ฟ้าดิน สิ้นพสุธา
สมาชิกหมายเลข 8402768
ขออำลาทุกคนเพื่อก้าวสู่ "ชายผ้าเหลือง"
วันเกิด : 10 กรกฎาคม 2530 (อายุ 38 ปี) วันอุปสมบท : 01 กันยายน 2568 ฉายาทางธรรม : สิริจนฺโท (ผู้มีพระจันทร์เป็นสิริ) ผม "นายเขมณัฏฐ์ " ขอร่ำลาทุกๆคนเพื่อละทางโลกเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษ
สมาชิกหมายเลข 8402768
เกรียงไกร เพ็ชรแก้ว ถือว่าเป็นพระหรือไม่
ถามท่านผู้รู้ เมื่อความจริงปรากฏออกมาว่า ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลปลอมตอนมาบวช และหนีทหาร ตกลงถือว่าเขาบวชเป็นพระเรียบร้อยแล้วไหม ?
สมาชิกหมายเลข 5727294
เณรที่บวชหน้าไฟอยากจะบวชเป็นพระ ต้องลาสิกขาก่อนไหมครับ
บวชเณรหน้าไฟ แล้วอยากบวชพระจำเป็นต้องลาสิกขา เป็นนาคก่อนไหมครับ? หรือบวชพระเข้าโบสถ์ ได้เลย รบกวนผู้รู้แนะนำด้วยนะครับ
สมาชิกหมายเลข 4353827
บวชฟรีที่อำเภอเมืองชลบุรี มีวัดไหนบ้างครับ
บวชฟรีที่อำเภอเมืองชลบุรี มีวัดไหนบ้างครับ
สมาชิกหมายเลข 5855894
ทำไมต้องปลงผมนาค???
การปลงผมนาค หรือที่เรียกว่า การโกนผมนาค เป็นพิธีกรรมสำคัญก่อนการอุปสมบท (บวช) ในพระพุทธศาสนา ซึ่งมีความสำคัญและมีเหตุผลหลายประการ. เหตุผลหลักของการปลงผมนาค: การสละความยึดติดในโลกียวิส
สมาชิกหมายเลข 8402768
ปอยเป็กข์ - ปอยบวชลูกแก้ว ปอยเมืองสอง วัดพระธาตุพระลอ อำเภอสอง จังหวัดแพร่
ประเพณีงานบวชในภาคเหนือเรียกว่า ‘งานปอยน้อย’ หรือ ‘เป๊กข์ตุ๊’ ผู้ชายที่บวชจะต้องมีอายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไปถึง 20 ปี เรียกว่า&nb
สมาชิกหมายเลข 7975223
เชิญชวนบวชเข้าพรรษา 2568
ชวนชายไทยบวชเข้าพรรษา ร่วมฟื้นฟูประเพณีชาวพุทธ - ชวนทุกวัดบวชอย่างน้อย 5 รูป รับกฐินตามพุทธานุญาตวันนี้ (21 มิ.ย.68) พระครูสมุห์สนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสรองค์กร วัดพระธรรมกายกล่าวว่า ว
สมาชิกหมายเลข 5138258
ดวงพระภิกษุรูปนี้จะบวชนาน หรือบวชไม่สึกมั้ย? (ขออนุญาตเจ้าของดวงแล้ว)
วันเกิดของท่าน => 12 เมษายน พ.ศ.2531 เวลาตกฟาก 12.30 น. (อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา) วันอุปสมบท => 28 ธันวาคม พ.ศ.2564
สมาชิกหมายเลข 8402768
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
จังหวัดแพร่
วัฒนธรรม
การอุปสมบท (การบวชพระภิกษุ)
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ปอยเป็กข์ ปอยบวชลูกแก้ว วัดพระธาตุพระลอ อำเภอสอง จังหวัดแพร่
ประเพณีงานบวชในภาคเหนือเรียกว่า ‘งานปอยน้อย’ หรือ ‘เป๊กข์ตุ๊’ ผู้ชายที่บวชจะต้องมีอายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไปถึง 20 ปี เรียกว่า ‘บวชพระ’ เพราะนิยมเรียกสามเณรทั้งหลายว่า ‘พระ’ เรียกสามเณรที่มีอายุน้อยว่า ‘พระน้อย’ (พระหน้อย) ถ้าเป็นสามเณรที่มีอายุมากเรียกว่า ‘พระโคร่ง’ หรือ ‘เณรโคร่ง’ หากลาสิกขาออกไปจะถูกเรียกชื่อว่า ‘หน้อย’ หรือ ‘น้อย’ ส่วนการเป๊กข์นิยมทำกับผู้ชายที่อายุ 20 ปี ขึ้นไปเรียกว่าอุปสมบท หรือ ‘เป๊กข์’ เมื่อเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้วจะเรียกขานว่า ‘ตุ๊เจ้า’ และเมื่อลาสิกขาบทออกไปชาวบ้านจะเรียกว่า ‘ขนาน’ หรือ ‘หนาน’
งานบวชนาคจะมี ‘วันดาปอย’ เป็นการตระเตรียมงานเมื่อกุลบุตรจะบรรพชา หรือ จะอุปสมบทนั้นพ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องไปบอกกล่าวตกลงใจกับเจ้าอาวาสที่สามารถให้การอุปัชฌาย์ในการบรรพชา หรือ อุปสมบท เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ก็จะมีการเตรียมตัวนาค (ผู้ชายผู้จะบวช) จะมีการแผ่นาบุญ (หน้าบุญ) โดยให้คนใกล้ชิด 2-3 คน นำผ้าสบงจีวรใส่พานขึ้นไปตามบ้าน ญาติมิตร เพื่อบอกหน้าบุญ เมื่อทราบแล้วก็จะยกพานผ้าขึ้นจรดหน้าผาก พร้อมทั้งกล่าวคำอนุโมทนาสาธุ ปัจจุบันนิยมบอกบุญโดยการส่งการ์ดหรือบัตรเชิญ วันดาปอย คือวันก่อนที่จะทำการอุปสมบทหรือบรรพชา 1 วัน เจ้าภาพจะมีการเตรียมการเกี่ยวกับเครื่องบวช เช่น ผ้าไตร บาตร หรือ อัฏฐบริขารให้พร้อม และต้องเตรียมอาหารการกินไว้ต้อนรับแขก ที่จะมาร่วมอนุโมทนา ซึ่งถือดอกไม้ ธูปเทียน จตุปัจจัย ใส่ในพานนาค เรียกว่า ‘ฮอมปอย’ นาคก็จะรับดอกไม้ธูปเทียนดังกล่าว และให้พรตอบแทน บางแห่งจัดทำพิธีรับขวัญนาค โดยจัดทำต้นเผิ้ง (ต้นผึ้ง) และเชิญอาจารย์ซึ่งเป็นมัคทายก หรือ ‘หนาน’ เป็นผู้ทำพิธีทำขวัญนาค เพื่ออบรมกล่อมเกลาจิตใจให้ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และรำพันถึงพระคุณของมารดา บิดา ที่เลี้ยงตนมา ทางเหนือเรียกผู้ที่จะอุปสมบทหรือบรรพชา หรือนาคว่า ‘ลูกแก้ว’ โดยจะไปโกนผมที่วัด ญาติพี่น้องจะพาลูกแก้วไปแต่งตัว ด้วยผ้านุ่งสีขาว นุ่งห่มโจงกระเบน สวมชฎา แต่งหน้า ทาปาก ทาคิ้ว ประดับแหวน ประดับสร้อย ล้วนของมีค่ามากมาย เสร็จแล้วจะมีพิธีแห่นาค โดยใช้รถบ้าง ม้าบ้าง บางแห่งให้ลูกแก้วนั่งบนหลังช้างไปตามถนนแวะบ้านญาติ เพื่อผูกข้อมือรับขวัญ
งานปอย ถือกันว่าเป็นงานมงคลที่ยิ่งใหญ่เจ้าภาพจัดเลี้ยงเพื่อบำเพ็ญทานตามแต่ฐานะของแต่ละคน บางคนอาจจัดมหรสพให้มี ซอ รำวง ดนตรี ลิเก หรือ ภาพยนตร์ เป็นการเฉลิมฉลองกันอย่างครึกครื้น ผู้คนไปทำบุญ ก็จะได้ร่วมรับประทานอาหารอย่างอิ่มหมีพีมัน และได้ชมมหรสพต่าง ๆ ต่อมาวันรุ่งเช้าเวลาประมาณ 7โมงเช้า ก็พานาคไปทำพิธีรอบประทักษิณ (เวียนรอบอุโบสถ ) จำนวน 3 รอบ เสร็จนำนาคเข้าไปรอพระสงฆ์อยู่ในอุโบสถ จากนั้นก็กราบอาราธนานิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 10 -100 รูป ตามกำลังทรัพย์ของเจ้าภาพ จากนั้นพระสงฆ์จะได้ทำพิธีให้ศีลบวชเป็นเณรก่อน ต่อมาพระสงฆ์จะได้ประกอบพิธีแสดงอาบัติและเริ่มพิธีสังฆกรรมอุปสมบทให้เณรเป็นพระภิกษุในช่วงระหว่างพระสงฆ์ประกอบพิธีสังฆกรรม ปุถุชนหรือคณะศรัทธาจะต้องหนีออกจากเขตพัทธสีมาของพระอุโบสถให้หมด ไม่ว่ากรณีใด ๆ ห้ามเข้าใกล้แม้แต่สัตว์หมูหมากาไก่ก็แล้วแต่จะต้องขับไล่ออกไปให้หมด ๆ เมื่อพระภิกษุทำสังฆกรรมเสร็จหมดแล้วจากนั้นก็จะเชิญแขกผู้มีเกรียติและญาติพี่น้องของพระใหม่ขึ้นไปบนพระวิหารเพื่อทำพิธีถวายจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์ และหยาดน้ำหมายทานไปถึงบรรพบุรุษเจ้ากรรมนายเวร จากนั้นพระใหม่ก็จะรับบิณฑบาต และแจกพวยทาน เสร็จจากนั้นก็จะลงไปถวายภัตตาหารเช้า แก่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร พระภิกษุสงฆ์สามเณรอนุโมทนาเป็นอันเสร็จพิธี จากนั้นรอพระสงฆ์ฉันเสร็จ พอเสร็จแล้วก็จะเลี้ยงแขกผู้มีเกรียติผู้ที่มาร่วมงานบุญ หรือเรียกตามภาษาพระก็คือ ‘ขโยม’ มานั่งฉันต่อจากพระสงฆ์จนอิ่มจากนั้นก็พักตามอัธยาศัยทักทายปราศัยกันไปตามญาติพี่น้องกัน
สำหรับพระบวชใหม่ก็จะต้อง ‘อยู่กรรม’ นอนบนวิหารหลวงเป็นเวลา ประมาณ 3-7 วัน เพื่อรำลึกถึงพระคุณของพ่อ แม่ โดยใช้ลูกประคำ ‘ตกหมากนับ’ และสวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็นภาวนาแผ่ฝายนาบุญให้กับสรรพสัตว์ตลอดจนถึงบรรพบุรุษเจ้ากรรมนายเวร เทวดาประจำตัวและเจ้าที่เจ้าทางให้ได้รับผลบุญที่เรากระทำอยู่ในช่วงเวลาอันน้อยนิด จากนั้นจำวัดตื่นเช้าทำวัตรเสร็จออกไปรับบิณฑบาตโปรดเมตตาพ่อแม่ออกศรัทธาภายนอกวัด เพื่อมาฉันเช้าและเที่ยง 2 เวลา ประพฤติปฏิบัติแบบนี้ไปทุก ๆ วันให้ครบจำนวน 7 วัน จากนั้นจะลาสิกขาหรือไม่ก็สุดแต่เจ้าตัวพระใหม่ หากอยู่ต่อก็จะแจ้งให้เจ้าอาวาสได้รับทราบว่าจะอยู่ไปตลอดพรรษาหรืออยู่เฉพาะ 2 - 3 เดือน นั้นก็สุดแต่ กรณีอยู่ไปเรื่อย ๆ ทางเจ้าอาวาสก็จะให้อยู่ตามระเบียบของวัด และอยู่ในโอวาทดุลพินิจของเจ้าสำนักนั้น ๆ
คุณค่าและความเชื่อของการบวชของชาวล้านนาที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ สังคมต้องการคนที่มีความรู้ และได้รับการฝึกหัดอบรมมาจากวัดแล้วว่า ‘เป็นคนสุก’ หรือเป็น ‘ขนานบัณฑิต’ ชาวบ้านอยากจะให้ลูกสาวแต่งงานด้วย หวังใจว่าคนที่บวชแล้วย่อมรักทนุถนอมลูกเมียไม่ทอดทิ้ง เพราะจิตใจเต็มไปด้วยความเมตตากรุณา
เอื้อเฟื้อภาพถ่ายโดย : ช่างภาพวัดพระธาตุพระลอ (ทีมงานลูกหลานป้อจาย)
อ้างอิง : มณี พยอมยงค์. 2537. ประเพณีสิบสองเดือนล้านนาไทย. เชียงใหม่ : ส.ทรัพย์การพิมพ์.
และ http://watviangsathailand.blogspot.com/p/blog-page_15.html
ขันตั้งฮ้องวัญนาค
ขันตั้งช่างซอ
ปอยเป็กข์ - ปอยบวชลูกแก้ว
ขันศรีเมืองสอง l บายศรีอย่างชาวเมืองสอง
ทีมงานลูกศิษย์พระครูบาหมุน / ทีมลูกหลานป้อจายเมืองสอง /
คณะอัญเชิญพระไตรปิฎก / เครือข่ายวัฒนธรรมอำเภอสอง
กลองอืดเมืองสอง l ฟ้อนกลองอืด l ฟ้อนกลองอืดเมืองสอง
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอสอง l ที่ว่าการอำเภอสอง l เมืองสอง
วัดพระธาตุพระลอ l อุทยานลิลิตพระลอ
วัฒนธรรมอำเภอสอง อำเภอสอง จังหวัดแพร่
เครือข่ายวัฒนธรรม l เครือข่ายวัฒนธรรมอำเภอสอง