อยากทราบครับว่า ทำไมไทยถึงเพิ่งเริ่มร่วมแข่งกีฬารายการใหญ่ๆ ในช่วงระยะประมาณ 60 - 70 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่หลายรายการมีมาก่อนหน้านั้น ดังที่พอจะยกตัวอย่างดังนี้นะครับ
1. โอลิมปิก เริ่มปี 1896 ไทยเริ่มส่งนักกีฬาในปี 1952
2. ฟุตบอลโลก ทีมชาติสยามได้รับเชิญจากฟีฟ่าในปี 1930 แต่ก็ถอนตัว กว่าไทยจะเริ่มมาแข่งรอบคัดเลือกก็ปี 1974
3. ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2 ครั้งแรก 1956 1960 ไทยไม่เข้าร่วมตั้งแต่รอบคัดเลือก 1964 1968 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก 1972 เข้ารอบในฐานะเจ้าภาพ 1992 ผ่านเข้ารอบได้ครั้งแรก
4. แม้จะเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่วมแข่งเอเชียนเกมส์ทุกครั้ง แต่ฟุตบอลไทยก็มาเริ่มแข่งเอเชียนเกมส์ประมาณปี 1958
เทียบกับหลายประเทศในเอเชีย ทั่งที่เป็นประเทศอิสระและเป็นอาณานิคมตะวันตกที่เริ่มแข่งก่อน อย่างอินเดียถ้าจำไม่ผิดเรื่มร่วมโอลิมปิกปี 1900 ญี่ปุ่นเริ่มปี 1920 จีนเริ่มปี 1932 ช่วงที่เพิ่งสบจากยุคขุนศึกไม่นาน หรือหลายประเทศที่ยังเป็นหรือเพิ่งผ่านยุคอาณานิคมมาไม่นานก็เริ่มร่วมก่อน อย่างดัตช์อีสต์อินดีสหรืออินโดนีเซียได้ไปบอลโลก 1938 พม่า สิงคโปร์ เกาหลีใต้หลังได้เอกราชปี 1948 ก็แข่งโอลิมปิกเลย ถ้าจำไม่ผิดเกาหลีใต้ได้เหรียญแรกในครั้งนั้นเลยด้วย (เหรียญแรกไทยมาปี 1976) ช่วงหลังสงครามเกาหลีเกาหลีใต้ก็ยังแข่งกีฬาต่อเนื่อง ได้เหรียญทองเอเชียนเกมส์ทุกครั้ง (ไม่แข่งในปี 1951 เพราะติดสงคราม ปี 1954 เป็นต้นมาได้เหรียญทองทุกครั้ง ไทยปี 1951 1954 ไม่ได้เหรียญเลย ได้เหรียญแรก 1958 เหรียญทองแรก 1962) ได้ไปฟุตบอลโลก 1954 ได้แชมป์เอเชียนคัพ 1956 1960
เลยสงสัยครับว่าเป็นเพราะอะไร อย่างโอลิมปิก 1896 ตอนนั้นพอเข้าใจได้ว่าสยามยุคใหม่ยังเพิ่งตั้งไข่ รายได้ยังไม่มั่นคง ยังบอบช้ำจากกรณี ร.ศ. 112 และสยามยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่พระประมุขยุโรปมากนัก (รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรปปี 1897) ที่สำคัญคือกีฬายุคใหม่น่าจะยังไม่แพร่หลายในสยามเลย ช่วงฟุตบอลโลก 1930 ตอนนั้นสยามเป็นหนึ่งในประเทศที่เจอ Great Depression มีการควบคุมรายจ่ายรัฐบาล จึงไม่ส่ง แต่ที่น่าสงสัยคือทำไมช่วงทศวรรษที่ 1910 - 1930 ที่สยามมั่นคงระดับหนึ่งแล้ว กีฬาสากลมีผู้เล่นจำนวนหนึ่งแล้วถึงไม่ส่ง กีฬานานาชาติรายการเดียวที่สยามส่งคือกีฬาชิฃชนะเลิศแห่งตะวันออกไกล (Far Eastern Championship Games) ที่เป็นต้นแบบกีฬาเอเชียนเกมส์ในเวลาต่อมา โดยร่วมครั้งเดียวในปี 1920 และไม่ได้เหรียญใดๆ
จขกท. มองว่าไม่มีนักกีฬาน่าจะประเด็นหลัก ไปอ่านเจอความเห็นจากที่หนึ่งมา เขาบอกประมาณว่า สมัยก่อน "กีฬา" ในสยามยุคเก่าคือกีฬาพื้นบ้านเล่นกันสนุกๆ เวลามีมหรสพ เช่นตะกร้อ ชกมวย (อาจเป็นเพราะมีรากฐานในสังคมไทยมานาน แม้อาจต้องปรับเป็นสากลบ้าง แต่ก็เป็นพื้นฐานที่ทำให้ต่อยอดได้ จนเป็นกีฬาแรกๆ ที่คนไทยได้แขมป์โลก คือคุณปู่โผน กิ่งเพชร และมวยสากลสมัครเล่นเป็นกีฬาแรกที่ไทยได้เหรียญโอลิมปิกทั้งสามเหรียญ) กีฬาสากลมีผู้เช่นน้อยเพราะกระจุกตัวในหมู่นักเรียนนอกและในโรงเรียนใหญ่ๆ ในพระนคร ที่เพิ่งมีนักเรียนนอกกลับมาเป็นครูแล้วนำมาเผยแพร่ช่วงประมาณปลายรัชกาลที่ห้าเป็นต้นมา กีฬาสากลน่าจะเริ่มขยายตัวหลังจากการจัดตั้งกรมพลศึกษาในปี 2477/1934 แต่ช่วงนั้นติดสงครามโลกครั้งที่ 2 กว่าจะเริ่มส่ง บวกกับไทยช่วงสงครามเย็นต้องการแสดงตัวตนในบทบาทโลก จึงเรื่มแข่งกีฬาเอเชียนเกมส์ปี 1951 โอลิมปิก 1952 ซีเกมส์ 1959 และอีกหลายๆ รายการต่อมา โดยสมมติฐานของ จขกท. และที่อ่านมาจากที่อื่นๆ มีประมาณนี้ เลยอยากทราบความเห็นของท่านอื่นๆ ครับ
รบกวนช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ หากมีส่วนใดที่เข้าใจผิดหรือผิดพลาดไปก็ขออภัยด้วยครับ
ทำไมไทยถึงเพิ่งเริ่มร่วมแข่งกีฬารายการใหญ่ๆ ในช่วงระยะประมาณ 60 - 70 ปีที่ผ่านมา
1. โอลิมปิก เริ่มปี 1896 ไทยเริ่มส่งนักกีฬาในปี 1952
2. ฟุตบอลโลก ทีมชาติสยามได้รับเชิญจากฟีฟ่าในปี 1930 แต่ก็ถอนตัว กว่าไทยจะเริ่มมาแข่งรอบคัดเลือกก็ปี 1974
3. ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2 ครั้งแรก 1956 1960 ไทยไม่เข้าร่วมตั้งแต่รอบคัดเลือก 1964 1968 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก 1972 เข้ารอบในฐานะเจ้าภาพ 1992 ผ่านเข้ารอบได้ครั้งแรก
4. แม้จะเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่วมแข่งเอเชียนเกมส์ทุกครั้ง แต่ฟุตบอลไทยก็มาเริ่มแข่งเอเชียนเกมส์ประมาณปี 1958
เทียบกับหลายประเทศในเอเชีย ทั่งที่เป็นประเทศอิสระและเป็นอาณานิคมตะวันตกที่เริ่มแข่งก่อน อย่างอินเดียถ้าจำไม่ผิดเรื่มร่วมโอลิมปิกปี 1900 ญี่ปุ่นเริ่มปี 1920 จีนเริ่มปี 1932 ช่วงที่เพิ่งสบจากยุคขุนศึกไม่นาน หรือหลายประเทศที่ยังเป็นหรือเพิ่งผ่านยุคอาณานิคมมาไม่นานก็เริ่มร่วมก่อน อย่างดัตช์อีสต์อินดีสหรืออินโดนีเซียได้ไปบอลโลก 1938 พม่า สิงคโปร์ เกาหลีใต้หลังได้เอกราชปี 1948 ก็แข่งโอลิมปิกเลย ถ้าจำไม่ผิดเกาหลีใต้ได้เหรียญแรกในครั้งนั้นเลยด้วย (เหรียญแรกไทยมาปี 1976) ช่วงหลังสงครามเกาหลีเกาหลีใต้ก็ยังแข่งกีฬาต่อเนื่อง ได้เหรียญทองเอเชียนเกมส์ทุกครั้ง (ไม่แข่งในปี 1951 เพราะติดสงคราม ปี 1954 เป็นต้นมาได้เหรียญทองทุกครั้ง ไทยปี 1951 1954 ไม่ได้เหรียญเลย ได้เหรียญแรก 1958 เหรียญทองแรก 1962) ได้ไปฟุตบอลโลก 1954 ได้แชมป์เอเชียนคัพ 1956 1960
เลยสงสัยครับว่าเป็นเพราะอะไร อย่างโอลิมปิก 1896 ตอนนั้นพอเข้าใจได้ว่าสยามยุคใหม่ยังเพิ่งตั้งไข่ รายได้ยังไม่มั่นคง ยังบอบช้ำจากกรณี ร.ศ. 112 และสยามยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่พระประมุขยุโรปมากนัก (รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรปปี 1897) ที่สำคัญคือกีฬายุคใหม่น่าจะยังไม่แพร่หลายในสยามเลย ช่วงฟุตบอลโลก 1930 ตอนนั้นสยามเป็นหนึ่งในประเทศที่เจอ Great Depression มีการควบคุมรายจ่ายรัฐบาล จึงไม่ส่ง แต่ที่น่าสงสัยคือทำไมช่วงทศวรรษที่ 1910 - 1930 ที่สยามมั่นคงระดับหนึ่งแล้ว กีฬาสากลมีผู้เล่นจำนวนหนึ่งแล้วถึงไม่ส่ง กีฬานานาชาติรายการเดียวที่สยามส่งคือกีฬาชิฃชนะเลิศแห่งตะวันออกไกล (Far Eastern Championship Games) ที่เป็นต้นแบบกีฬาเอเชียนเกมส์ในเวลาต่อมา โดยร่วมครั้งเดียวในปี 1920 และไม่ได้เหรียญใดๆ
จขกท. มองว่าไม่มีนักกีฬาน่าจะประเด็นหลัก ไปอ่านเจอความเห็นจากที่หนึ่งมา เขาบอกประมาณว่า สมัยก่อน "กีฬา" ในสยามยุคเก่าคือกีฬาพื้นบ้านเล่นกันสนุกๆ เวลามีมหรสพ เช่นตะกร้อ ชกมวย (อาจเป็นเพราะมีรากฐานในสังคมไทยมานาน แม้อาจต้องปรับเป็นสากลบ้าง แต่ก็เป็นพื้นฐานที่ทำให้ต่อยอดได้ จนเป็นกีฬาแรกๆ ที่คนไทยได้แขมป์โลก คือคุณปู่โผน กิ่งเพชร และมวยสากลสมัครเล่นเป็นกีฬาแรกที่ไทยได้เหรียญโอลิมปิกทั้งสามเหรียญ) กีฬาสากลมีผู้เช่นน้อยเพราะกระจุกตัวในหมู่นักเรียนนอกและในโรงเรียนใหญ่ๆ ในพระนคร ที่เพิ่งมีนักเรียนนอกกลับมาเป็นครูแล้วนำมาเผยแพร่ช่วงประมาณปลายรัชกาลที่ห้าเป็นต้นมา กีฬาสากลน่าจะเริ่มขยายตัวหลังจากการจัดตั้งกรมพลศึกษาในปี 2477/1934 แต่ช่วงนั้นติดสงครามโลกครั้งที่ 2 กว่าจะเริ่มส่ง บวกกับไทยช่วงสงครามเย็นต้องการแสดงตัวตนในบทบาทโลก จึงเรื่มแข่งกีฬาเอเชียนเกมส์ปี 1951 โอลิมปิก 1952 ซีเกมส์ 1959 และอีกหลายๆ รายการต่อมา โดยสมมติฐานของ จขกท. และที่อ่านมาจากที่อื่นๆ มีประมาณนี้ เลยอยากทราบความเห็นของท่านอื่นๆ ครับ
รบกวนช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ หากมีส่วนใดที่เข้าใจผิดหรือผิดพลาดไปก็ขออภัยด้วยครับ