นโยบายของไทยต่อวงการกีฬาสมัยก่อนเป็นอย่างไร เริ่มเป็นอย่างสมัยนี้เมื่อใด

หากได้ติดตามวงการกีฬาไทยในสมัยนี้ จะเห็นได้ว่า ก่อนการแข่งขันจะมีการวางเป้าหมายในกิจกรรม Meet The Press หรือการแถลงกับสื่อมวลชน มีการจัดการฝึกซ้อมที่เป็นระบบ มีวิทยาศาสตร์การกีฬา มีการสนับสนุนทั้งจากรัฐ (ซึ่งก็ควรเพิ่มมากขึ้น) และสปอนเซอร์เอกชน เมื่อสร้างผลงานได้ดี รัฐและสปอนเซอร์เอกชนก็มีเงินรางวัลสนับสนุนอีกจำนวนหนึ่ง

เลยอยากทราบว่า นโยบายของไทยต่อวงการกีฬาสมัยก่อนเป็นอย่างไร และเริ่มเป็นอย่างสมัยนี้เมื่อใดครับ

เท่าที่ จขกท. ค้นหามา มหกรรมกีฬาระดับนานาชาติครั้งแรกที่สยามเข้าร่วมการแข่งขัน คือการแข่งขันกีฬาชิงชนะเลิศแห่งภาคตะวันออกไกล หรือ Far Eastern Championship Games ที่ฟิลิปปินส์ในปี 1913 ตรงกับสมัยรัชกาลที่หก (มหกรรมกีฬาแรกของโลกสมัยใหม่ที่เป็นต้นแบบให้กับกีฬารายการอื่นๆ ต่อมาอย่างกีฬาโอลิมปิกนั้นเริ่มแข่งขันในปี 1896 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ห้า) ซึ่งเป็นการแข่งขันครั้งแรก โดยสยามเข้าร่วมการแข่งขันเพียงครั้งเดียว และไม่ได้เหรียญรางวัลจากการแข่งขันนี้ โดยการแข่งขันนี้ดำเนินมาจนยกเลิกไปในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นต้นแบบของการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ในเวลาต่อมา นอกจากนี้ สยามยังเกือบเป็นประเทศแรกๆ ในโลกที่ได้ร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930 ที่อุรุกกวัยนั้นไม่มีการแข่งขันรอบคัดเลือก เป็นการเชิญให้ประเทศทั่วโลกที่สมาคมฟุตบอลของประเทศนั้นได้รับการรับรองจาก FIFA เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งสมาคมฟุตบอลสยามที่ก่อตั้งและได้รับการรับรองจาก FIFA ในช่วงทศวรรษที่ 1920 ก็ได้รับเชิญด้วย ทว่าเนื่องจากการเดินทางไปอุรุกกวัยในทวีปอเมริกาใต้ทางเรือนั้นใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ประกอบกับรัฐบาลสยามในสมัยรัชกาลที่เจ็ดต้องควบคุมรายจ่ายเรื่องจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทั่วโลกในปี 1929 ทำให้สยามไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนั้น และทีมชาติไทยเริ่มเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในปี 1974 

กว่าไทยจะเริ่มเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติอีก ก็ต้องรอถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 1952 และได้เข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์และซีเกมส์ทุกครั้งตั้งแต่ครั้งแรกในปี 1951 และ 1959 ตามลำดับ ซึ่งผลงานนั้นแม้ในระดับกีฬาแหลมทองหรือซีเกมส์จะไม่เคยได้เหรียญต่ำกว่าอันดับ 3 ทว่าในกีฬาโอลิมปิกนั้นต้องใช้เวลาถึง 24 ปีถึงจะได้เหรียญแรกในปี 1976 และต้องใช้เวลาอีก 20 ปี ถึงจะได้เหรียญทองแรกในปี 1996 ในส่วนของเอเชียนเกมส์นั้นสองครั้งแรกในปี 1951 และ 1954 นั้นไทยก็ไม่ได้เหรียญใดๆ มาได้เหรียญแรกในปี 1958 และเหรียญทองแรกในปี 1962 อยากทราบว่าในช่วงนั้นนโยบายของไทยต่อวงการกีฬาเป็นอย่างไรบ้าง ครับ จขกท. เข้าใจว่าน่าจะเริ่มเป็นอย่างปัจจุบันในยุคทศวรรษที่ 1990 ที่ไทยเริ่มพัฒนาเศรษฐกิจ เริ่มมีการตั้งกองทุนกีฬาชาติ (เคยฟังคุณขาวผ่อง สิทธิชูชัย ฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิก 1984 เคยให้สัมภาษณ์ว่าได้เหรียญโอลิมปิกมา รัฐบาลไม่ให้อะไรเลย เพราะตอนนั้นยังไม่มีกองทุนกีฬาชาติ) จนทุกวันนี้ได้เหรียญโอลิมปิกและเหรียญทองเอเชียนเกมส์อย่างสม่ำเสมอ หลายรายการก็เคยไปแข่งระดับโลก แต่สมัยก่อนนั้นไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร

จขกท. เดาว่า สมัยก่อนนั้น คำว่ากีฬาสำหรับคนทั่วไปคือกีฬาไทยดั้งเดิม ชกมวย หมากรุก กระบี่กระบอง ตะกร้อ ฯลฯ เป็นหลัก ส่วนกีฬาตะวันตกนั้นน่าจะเข้ามาหลังจากมีชาวไทยได้ไปศึกษาต่อที่ยุโรป ซึ่งในช่วงแรกคนที่รู้จักกีฬาตะวันตกก็มักจะเป็นคนที่ไปศึกษาต่อที่ยุโรป และผู้คนในพระนครเป็นส่วนใหญ่ นักกีฬาจึงน้อย และสยามยุคนั้นยังต้องต่อสู้เพื่อรักษาเอกราชจากเจ้าอาณานิคม การจะมาพัฒนากีฬาจึงทำได้ยาก เลยไม่ได้ร่วมโอลิมปิกตั้งแต่ครั้งแรกๆ กว่าที่กีฬาสากลจะไปถึงคนทั่วไป จขกท. เดาว่าน่าจะเป็นช่วงที่เริ่มตั้งกรมพละศึกษา ถ้าจำไม่ผิดสมัย จอมพล ป. กีฬาสากลจึงเริ่มขยายไปต่างจังหวัดมากขึ้น การที่ไทยเริ่มร่วมโอลิมปิก, เอเชียนเกมส์ และซีเกมส์นั้นน่าจะมีเหตุผลอื่นๆ ทางการเมืองระหว่างประเทศด้วย หลังจากเริ่มได้เหรียญก็มีการส่งเสริมมากขึ้น แม้บางช่วงอาจน้อยเพราะมีปัญหาอื่น เช่น ความขัดแย้งชายแดน เป็นต้น จนมีการตั้งกองทุนกีฬาชาติ การสนับสนุนเลยเริ่มต่อเนื่องและเป็นระบบมากขึ้น

รบกวนช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ หากมีส่วนใดที่เข้าจผิดหรือผิดพลาดไปก็ขอออภัยด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่