แม่ผมเล่าว่าสมัยก่อนประมาณปี 2513 คาดเคลื่อนนิดหน่อย
ตอนนั้นแม่ไปทำงานทางภาคใต้จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอหัวไทร
ทำงานเป็นโอเปอร์เรเตอร์ที่โรงแรมแห่งนึง ได้เงินเดือนประมาณเดือนละ 600 บาท
แม่บอกผมว่า แม่จำได้ว่าตอนนั้นทองราคาบาทละประมาณ 400 บาท
งานโอเปอร์เรเตอร์ ต่อสายโทรศัพท์ให้แขกเข้าพักในโรงแรมเวลาแขกต้องการโทรออก ก็จะต่อให้และมีเก็บเงินเพิ่มตามจำนวนนาทีที่โทร
งานของแม่มีที่พักให้ฟรีด้วย
จึงได้ค่าแรงไม่มากเรียกว่าน้อยเลยก็ว่าได้ อันนี้แม่บอกเอง
แม่บอกว่ามีฝรั่งซึ่งเขียน จดหมายติดต่อแม่ เป็นคนเยอรมัน แม่คงเล่น Penfriend ฝรั่งคนนั้นเคยเดินทางมาหาแม่ที่โรงแรมด้วย
พอชาวเยอรมันท่านนั้นรู้ว่าเงินเดือนแม่คือ 600 บาท(ทำไมเค้าถึงเสียมารยาทถามแม่อันนี้ไม่แน่ใจ) คนเยอรมัน คนนั้นบอกว่า เงิน 600 บาทที่เยอรมันซื้อรองเท้าได้แค่คู่เดียวเองนะ(อันนี้เรื่องราวอดีตนะครับอย่าลืม)
ผมถามแม่ด้วยความเสียดาย ว่าแล้วทำไมแม่ไม่ซื้อทองหรือซื้อที่ดินไว้เยอะๆหละครับ
แม่บอกว่า เงินเดือน 600 บาทมันก็ต้องกินต้องใช้นะ ใช้จ่ายไปก็หมด
ผมถามว่าของในตลาดอาหารการกินราคาเท่าไหร่ แม่บอกว่าสมัยนั้นเดินเข้าไปในตลาดกินข้าวยำ(อาหารใต้)และกินโน้นนี่อีกรวมๆ ประมาณ 3 บาทก็อิ่มแล้ว
ผมมาคิดดูถ้ากิน 3 บาทอิ่ม 3 มื้อต่อวัน ผมให้ใช้ 10 บาทต่อวันเลย มีที่พักฟรี
วันละ 10 บาทเดือนนึงก็ 300 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอีก 100 บาท(สมัยก่อนไม่ต้องจ่ายค่ามือถือค่าเน็ต ค่าเดินทางไม่มี ค่าที่พักฟรี)
รวมค่าใช้จ่าย 400 บาท ยังเหลือเก็บตั้ง 200 บาท ต่อเดือน
ดังนั้น 2เดือนซื้อทองได้ 1 บาทเลยนะครับ
ทั้งๆที่แม่ทำงานที่ได้รายได้น้อยสุดๆเลย
ถ้าเทียบเป็นเงิน ณ ปัจจุบันนี้น่าจะแค่เดือนละ 10,000 บาท
เข้าตลาดกินแบบอิ่มๆในยุคนี้ผมว่าต้องมี 100 บาทต่อมื้อ
หักค่ากินแล้ว
ถ้าเป็นปัจจุบันนี้ไม่มีทางที่ 2 เดือนจะเก็บซื้อทองได้ 1 บาทแน่นอน
มันมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอครับ น่าทึ่งจริงๆ
มีใครเชื่อมั้ยครับ?
เรื่องเหลือเชื่อแม่ผมทำงานได้เงินเดือนน้อยมากคือ 600 บาท แต่ทองบาทละ 400 บาท มันเป็นไปได้ยังไงกันครับ?
ตอนนั้นแม่ไปทำงานทางภาคใต้จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอหัวไทร
ทำงานเป็นโอเปอร์เรเตอร์ที่โรงแรมแห่งนึง ได้เงินเดือนประมาณเดือนละ 600 บาท
แม่บอกผมว่า แม่จำได้ว่าตอนนั้นทองราคาบาทละประมาณ 400 บาท
งานโอเปอร์เรเตอร์ ต่อสายโทรศัพท์ให้แขกเข้าพักในโรงแรมเวลาแขกต้องการโทรออก ก็จะต่อให้และมีเก็บเงินเพิ่มตามจำนวนนาทีที่โทร
งานของแม่มีที่พักให้ฟรีด้วย
จึงได้ค่าแรงไม่มากเรียกว่าน้อยเลยก็ว่าได้ อันนี้แม่บอกเอง
แม่บอกว่ามีฝรั่งซึ่งเขียน จดหมายติดต่อแม่ เป็นคนเยอรมัน แม่คงเล่น Penfriend ฝรั่งคนนั้นเคยเดินทางมาหาแม่ที่โรงแรมด้วย
พอชาวเยอรมันท่านนั้นรู้ว่าเงินเดือนแม่คือ 600 บาท(ทำไมเค้าถึงเสียมารยาทถามแม่อันนี้ไม่แน่ใจ) คนเยอรมัน คนนั้นบอกว่า เงิน 600 บาทที่เยอรมันซื้อรองเท้าได้แค่คู่เดียวเองนะ(อันนี้เรื่องราวอดีตนะครับอย่าลืม)
ผมถามแม่ด้วยความเสียดาย ว่าแล้วทำไมแม่ไม่ซื้อทองหรือซื้อที่ดินไว้เยอะๆหละครับ
แม่บอกว่า เงินเดือน 600 บาทมันก็ต้องกินต้องใช้นะ ใช้จ่ายไปก็หมด
ผมถามว่าของในตลาดอาหารการกินราคาเท่าไหร่ แม่บอกว่าสมัยนั้นเดินเข้าไปในตลาดกินข้าวยำ(อาหารใต้)และกินโน้นนี่อีกรวมๆ ประมาณ 3 บาทก็อิ่มแล้ว
ผมมาคิดดูถ้ากิน 3 บาทอิ่ม 3 มื้อต่อวัน ผมให้ใช้ 10 บาทต่อวันเลย มีที่พักฟรี
วันละ 10 บาทเดือนนึงก็ 300 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอีก 100 บาท(สมัยก่อนไม่ต้องจ่ายค่ามือถือค่าเน็ต ค่าเดินทางไม่มี ค่าที่พักฟรี)
รวมค่าใช้จ่าย 400 บาท ยังเหลือเก็บตั้ง 200 บาท ต่อเดือน
ดังนั้น 2เดือนซื้อทองได้ 1 บาทเลยนะครับ
ทั้งๆที่แม่ทำงานที่ได้รายได้น้อยสุดๆเลย
ถ้าเทียบเป็นเงิน ณ ปัจจุบันนี้น่าจะแค่เดือนละ 10,000 บาท
เข้าตลาดกินแบบอิ่มๆในยุคนี้ผมว่าต้องมี 100 บาทต่อมื้อ
หักค่ากินแล้ว
ถ้าเป็นปัจจุบันนี้ไม่มีทางที่ 2 เดือนจะเก็บซื้อทองได้ 1 บาทแน่นอน
มันมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอครับ น่าทึ่งจริงๆ
มีใครเชื่อมั้ยครับ?