แชมเปียนชิปเกิดการพลิกผันในตารางคะแนนเมื่อวานเมื่อเพรสตันเอาชนะอิปสวิชด้วยสกอร์ 3-2 ตำแหน่งอันดับสอง(และขึ้นที่ 1 ในบางครั้ง)มายาวนานกว่าครึ่งฤดูกาลในตอนนี้กลายเป็นเซาต์แฮมป์ตัน ที่แข่ง 29 นัดเท่ากันกับอิปสวิชปาดแซงขึ้นมาได้

และอันดับสามกลายเป็นลีดส์ที่แข่ง 30 นัด ผลการแข่งขันเมื่อคืนทำให้เวลานี้อิปสวิชหล่นไปอยู่อันดับ 4 ปัญหาของเดือนธันวา โปรแกรมแข่งขันที่อัดแน่นส่งผลชัดเจนเมื่อขุมกำลังหลายทีมเริ่มอ่อนล้าและรักษาผลการแข่งขันที่ต้องการไม่ได้ในช่วงตลาดฤดูหนาวที่ผ่านมาก็มีการเสริมทัพของแต่ละทีมบ้างแต่กว่าจะจูนกันติดอาจต้องใช้เวลาสักระยะ

แต่เวลานี้เลสเตอร์ยังอยู่อันดับหนึ่งอย่างมั่นคง แม้จะเสมออิปสวิชไปแต่นัดต่อมาก็ยังเก็บผลการแข่งขันได้ ชัยชนะเหนือเบอมิงแฮมในเกม FA CUP สวอนซี และสโต๊คเมื่อคืนทำให้คะแนนห่างอันดับสองอยู่ 11 คะแนน(แข่งมากกว่าหนึ่งนัด) ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเอง 

ตลาดฤดูหนาวเริ่มต้นด้วยเรื่องช็อก เชลซีดึงคาซาเดย์ตัวเยาวชนกลับ เรื่องนี้สโมสรและผู้จัดการทีมต่างมึนงง สถานการณ์ของเชลซีก็เป็นอย่างที่หลายคนรู้ นักเตะคุณภาพจำนวนมากอัดแน่นถึงขนาดว่าแน่นเกินไป คาซาเดย์ต่างจากพาลเมอร์ที่ย้ายมาจากแมนซิตี้ เขายังต้องการเวลาอีกหน่อยแต่ก็ต้องการโอกาสลงสนาม ไม่อยากอวยสโมสรแต่บอกตรงๆ ว่าเลสเตอร์คือที่ที่เหมาะกับคาซาเดย์ที่สุดในตอนนี้ เขาไม่ใช่ตัวจริงแบบได้รับการการันตี แต่มีโอกาสให้ลงเล่นแน่นอน สโมสรมีสิ่งอำนวยความสะดวกและการฝึกซ้อมที่ยอดเยี่ยม คาซาเดย์แค่ต้องการเวลาเพื่อสร้างความคุ้นเคยและเผยศักยภาพตัวเอง ช่วงหลังของฤดูกาลนี้ที่ตัวหลักหลาายทีมเริ่มล้าและตัวจริงได้รับอาการบาดเจ็บ(เอ็นดีดี้แทบจะปิดเทอมไปแล้ว)ไม่ว่ายังไงคาซาเดย์ก็จะกลายเป็นหนึ่งในตัวหลัก การดึงนักเตะกลับไปตอนนี้ดูไม่ส่งผลดีต่อนักเตะกับสโมสรที่ก็มีนักเตะเยอะอยู่แล้วเท่าไหร่ นั่นทำให้มาเรสก้าค่อนข้างมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

แถมการหายไปของคาซาเดย์ อาการบาดเจ็บของเอ็นดีดี้ การแข่งขันของแอฟฟริกันและเอเชียนคัพ มกราคมเป็นการเริ่มปีที่ยุ่งเหยิง กลางระดับคุณภาพหายไปถึงสองคน กองหน้ากองหลังไปเตะบอลถ้วยทวีป ตัวเยาวชนโดนดันขึ้นมาแก้ปัญหาชั่วคราว และโชคดีที่นักเตะที่บาดเจ็บหลายคนกลับมาได้ทัน

หลังจากบางทีมตกรอบ นักเตะก็เริ่มกลับมาทำให้ขุมกำลังของเลสเตอร์มีความพร้อมอีกครั้ง มีปัญหาที่ตำแหน่งกองกลางที่เลสเตอร์ต้องการคนอย่างเร่งด่วนเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะผ่านฤดูกาลนี้ด้วยผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

stefano sensi เป็นชื่อที่โผล่ขึ้นมา ตอนแรกก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่านักเตะระดับอินเตอร์มิลานจะย้ายมาเล่นในแชมเปียนชิปอยู่เหรอ ก็จริงที่เซนซี่มีช่วงเวลาที่ยากลำบากในอินเตอร์ แต่ถ้าย้ายไปทีมรองๆ ในลีกสูงสุดก็ดูเหมาะกว่า แต่มาเรสก้าชอบ มีนักเตะไม่มากที่มาเรสสก้าชอบและอยากได้ตัวเพราะเขารู้ว่าเลสเตอร์ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่เลือกใครก็ได้ หรือมีเงินไปดึงตัวเขามา

มีข่าวว่าเลสเตอร์ต้องขายก่อนหากจะนำใครเข้ามาและชื่อของดิวบุรีฮอลกลายเป็นชื่อที่หลายทีมในพรีเมียร์ต้องการ มีข่าวว่าทีมตั้งที่ 40 ล้านและหลายทีมยอมถอย ส่วนตัวนักเตะเห็นว่าเขาจะอยู่ที่นี่ และสถานการณ์ตอนนี้จริงๆ ถ้าปล่อยฮอลคือเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ด้วยราคาแค่ 40 ล้าน แต่เรื่องต้องขายใครก่อนจะนำเข้านักเตะใหม่นั่นเรื่องจริง

ถึงอย่างนั้นเซนซี่ก็มา นั่งเครื่องบินมาและตรวจสุขภาพทำให้แฟนบอลร้องว้าว ในวันสุดท้ายของตลาด นักเตะอยากจะกลับไปอยู่ในจุดที่ตัวเองเคยทำได้ เขาเชื่อมั่นในมาเรสก้า มีใจจะมาเล่นให้กับเลสเตอร์แล้ว ทุกอย่างจ่อสุดๆ รอชูเสื้อ แต่ดีลกลับล่มในตอนจบเมื่อเจรจากับทีมอินเตอร์ไม่สำเร็จ บางทีด้วยสถานการณ์เลสเตอร์อาจต้องการแบ่งจ่ายเพื่อไม่ให้ผิดกฎการเงิน มีเงื่อนไขบางอย่างที่จะทำให้เซนซี่สามารถเข้าสู่ทีมได้แต่เงื่อนไขนั้นอินเตอร์ไม่โอเคด้วยทำให้เขาต้องบินกลับอย่างน่าเสียดาย และกลางของเลสเตอร์ยังคงเป็นปัญหาอยู่ต่อไป

แต่ผู้จัดการทีมก็ยังแฮปปี้กับขุมกำลังดี ถ้าเทียบกับอีกหลายทีมเรานับว่าแข็งแกร่งมาก การแข่งขันกับสโต๊คนัดล่าสุดเห็นได้ชัดว่าสโต๊คอ่อนล้าแค่ไหน ชัยชนะ 5-0 มาจากการเคลื่อนที่อย่างเป็นระบบ การเข้าทำอย่างกระตือรือร้น และด้าก้าที่กลับมาจากแอฟฟริกันคัพออฟเนชันทำสองประตู

ถ้าติดตามสโมสรในช่องทางเป็นทางการจะพบว่าแฟนชาวแซมเบียของดาก้าเยอะมาก ถล่มเพจสโมสรเป็นครั้งคราว พวกเขาพยายามผลักดันนักเตะให้มีโอกาสลงเล่น ในช่วงต้นที่ย้ายมาดาก้าดูดีมาก จมูกไว คมกริบ แต่อยู่กับรอดเจอร์นานไปเขากลับหายไปและไม่ได้รับโอกาส ผลงานของเขาไม่ดีเอาเสียเลย

นั่นเป็นระยะเวลาที่ยาวนานจนคิดว่าหมดหวังแล้ว อาจจะสองปีที่เขาเกือบจะหายไป แฟนๆ ยังคงซัพพอร์ตและเรียกร้องให้ดาก้ามีโอกาสลงเล่น แต่เมื่อเขาทำประตูไม่ได้จึงไม่ได้รับเลือกกระทั่งไม่อยู่ในรายชื่อสำรอง

แต่วันนี้ดาก้ากลับมาเปล่งประกายอีกครั้ง ไม่ใช่เพิ่งยิงเข้าแต่ยิงมาหลายนัดแล้ว ไปเตะบอลทวีปก็ยิง ชั่วโมงนี้ฮอตมาก จากชายหนุ่มที่เพิ่งพ้นวัยรุ่น สับสนกับการเล่นฟุตบอลของอังกฤษ ไม่เข้าใจเรื่องราวมากมายและใช้สัญชาตญาณของตัวเองเล่นฟุตบอล มาวันนี้การเคลื่อนที่เขาเข้ากับทีมได้ ไหลลื่น และยามยิงประตูก็เฉียบคม ดาก้าพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งและทำให้ตำแหน่งกองหน้าของเลสเตอร์ร้อนเป็นไฟ นักเตะระดับคุณภาพตัวหลักของทีมมีอยู่ 4 คนเอาใครลงก็ยิงได้ ตำแหน่งนี้ของเลสเตอร์คือบ้ามากจากฤดูกาลก่อนที่ต้องพึ่งแดนกลางอย่างแมดดิสันแบกทีมและหน้าทำประตูไม่ได้ มันเป็นสถานการณ์ที่พลิกแบบหน้ามือเป็นหลังมือ

และการกลับมาของวาร์ดี้ เวลาราวสามสิบนาทีกับสองประตู ความกระหายของวาร์ดี้ยังมีไม่หมด เมื่อเขาทำสองประตูได้และทุกคนคิดว่าเกมควรจะจบแล้ว วาร์ดี้ยังคงไล่กวดนักเตะของสโต๊คเพื่อไล่บอลในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเพื่อจะทำแฮตทริค (เอาจริงๆ นัดนี้ก็เกือบแฮตทริคจริง มีพลาดลูกหนึ่ง) วาร์ดี้มีช่วงเวลาที่ไม่คุ้นเคยเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ร่างกายของเขาที่ศักยภาพลดลงตามช่วงอายุ เรารู้ว่าวาร์ดี้กับเลสเตอร์คงเหลือเวลาไม่มากแต่แฟนๆ ยังคงส่งเสียงเชียร์และยินดีทุกครั้งที่เห็นเขาลงสนาม ช่วงเวลาที่วาร์ดี้ทำประตูได้มันเปี่ยมไปด้วยอารมณ์และวันนี้เขาทำได้ถึงสอง มันทำให้เราเห็นภาพความทรงจำของเลสเตอร์ในช่วงรุ่งเรือง เห็นนักเตะที่ยิงประตูเทียบเคียงกับทีมใหญ่ต่อเนื่องหลายปี ความยินดีของกองเชียร์มันเหมือนล้นออกมาให้เห็น

เลสเตอร์ในตอนนี้อยู่อันดับหนึ่ง ในตอนตกชั้นคิดว่านี่จะเป็นช่วงที่ยากลำบากและบางทีเราอาจเตรียมพร้อมกับการต้องอยู่ตรงนั้นมากกว่าหนึ่งปี ทุกอย่างเละเทะมากในตอนจบฤดูกาลก่อน แต่กลับเป็นโอกาสที่ทำให้เรามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การเลือกที่ดีที่สุดเป็นการเลือกมาเรสก้าเข้าสู่ทีม สถานการณ์นี้อาจไม่เกิดขึ้นถ้าเลสเตอร์ยังอยู่ที่พรีเมียร์ลีก หลังจากจบฤดูกาล หากเลสเตอร์ทำสำเร็จและกลับขึ้นไปได้อีกครั้ง ในฤดูกาลหน้าทุกคนจะรู้จักกับผู้จัดการทีมของเราแบบเดียวกับที่รู้จักเดอ แซบี้