ไอติม พริษฐ์ ก้าวไกลหลังจ่อถูกยุบพรรค ยิ่งกระตุ้นให้ทำงานหนัก ต้องทำให้ฆ่าไม่ตาย
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4405393
พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ร่วมสนทนาในรายการ The Politics ร่วมกับ
เอกภัทร์ เชิดธรรมธร และ
“ใบตองแห้ง” อธึกกิต แสวงสุข มองสถานการณ์ก้าวไกลหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยล้มล้างการปกครอง เสี่ยงถูกยุบพรรค ชี้ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ทำงานหนักขึ้น ไม่ทิ้งอุดมการณ์ ต้องทำให้พรรคฆ่าไม่ตาย เชื่อยิ่งเจอแบบนี้จะยิ่งกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ออกมาร่วมกับพรรคมากขึ้น
ศิริกัญญา ลั่น 44 สส.ก้าวไกล พร้อมสู้คดีจริยธรรม ปมลงชื่อแก้ม.112 ยันไม่กังวล
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8079011
ศิริกัญญา ลั่น 44 สส.ก้าวไกล พร้อมสู้คดีจริยธรรม ปมลงชื่อแก้ ม.112 ระบุไม่ได้กังวล ชี้มีเวลาวางตัวแกนนํารุ่นใหม่ หากถูกศาลฟัน เชื่อส่งต่ออุดมการณ์พรรคได้
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ก.พ.2567 ที่รัฐสภา น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีผู้ไปยื่นร้องสอบจริยธรรม สส.ของพรรคก้าวไกล 44 คน จากกรณีเคยลงชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทว่า ตนก็เป็นหนึ่งใน สส.ที่ลงชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 112
ทางพรรคได้เตรียมต่อสู้คดีในเรื่องนี้แล้ว เพราะเป็นหนึ่งในฉากทัศน์ที่คาดไว้ ดังนั้น ไม่ได้กังวลใจ และมีข้อต่อสู้ในเชิงคดี น่าจะทำให้เราไม่ถูกตัดสินว่าทําผิดจริยธรรม และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่าสามารถชี้แจงได้ใช่หรือไม่ ว่าไม่ได้มีเจตนายกเลิกมาตรา 112 น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวว่า แน่นอน เพราะการแก้ไขกฎหมาย เป็นสิทธิ์ชอบธรรมของ สส.ในฝ่ายนิติบัญญัติ หากทำไม่ได้ก็ควรมีการโต้แย้งตั้งแต่ต้น ซึ่งอาจมีส่วนให้เราไม่สามารถยื่นจนบรรจุเข้าวาระได้ ทั้งนี้ การพิสูจน์พฤติการณ์ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญและศาลฎีกา มีความแตกต่างกัน ฉะนั้น เราจะสู้คดีอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่ามองว่ามีทางรอดสำหรับ สส.ทั้ง 44 คนหรือไม่ น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวว่า เราต้องเตรียมตัวสำหรับกรณีเลวร้ายที่สุด แต่ก็มีความหวัง
เมื่อถามว่าหากผลการพิจารณาคดีออกมาในทางลบ และ 44 สส.ถูกตัดสิทธิ์ มีแผนรองรับหรือไม่ น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวว่า คิดว่าระยะเวลาของกระบวนการยุติธรรมจะไม่รวดเร็ว จึงพอมีเวลาเตรียมแกนนำรุ่นต่อไปขึ้นมาแทนที่ได้แน่นอน ฉะนั้น ไม่กังวล
หากดูจาก สส.ของพรรค และผู้มาร่วมทํางาน ก็มีหลายคนที่มีศักยภาพสูง แม้จะไม่มี สส. 44 คน แต่รับรองว่าอุดมการณ์และวิธีคิดของพรรค จะสืบทอดต่อไปได้
"ศิริกัญญา" ไม่เชื่อตั้ง 9 อนุกมธ.พิจารณางบฯเสร็จเร็ว แต่ขรก.มาชี้แจงสะดวก แต่ปกป้องงบฯเจ้ากระทรวงหรือไม่
https://siamrath.co.th/n/511374
วันที่ 2 ก.พ.2567 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2567 สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งอนุกรรมาธิการทั้ง 9 คณะ ว่า ปีนี้เป็นปีที่มีความแตกต่างจากเดิมที่เราจะพิจารณาแต่ละรายการ หรือตามรายการว่าเราซื้ออะไร เช่น อนุครุภัณฑ์ อนุสิ่งปลูกสร้าง แต่ปีนี้เราเริ่มจากการที่อยากให้ตั้งอนุตาม ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณไปจนถึงยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งเราต้องดูว่ามีความสอดคล้องกันในเชิงยุทธศาสตร์อย่างไร จึงอยากให้มีการพิจารณาในชั้นอนุกมธ.ตามแผนงานต่างๆ แต่สุดท้ายก็มีการแบ่งตามรายกระทรวง โดยวิธีการแบ่งตอนแรกเราคาดว่าน่าจะแบ่งตามด้าน เช่น ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านความมั่นคง
น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า เมื่อแบ่งออกมาจริงๆ แล้ว ก็ทำให้มีความเข้าใจได้ว่าแบ่งตามพรรคการเมืองที่เป็นเจ้าของกระทรวงนั้น แม้กระทรวงการคลังหรือกระทรวงพาณิชย์จะแปะอยู่กับพรรคอื่นบ้าง แต่โดยเนื้อแล้วกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์มีงบประมาณน้อยมาก จึงชวนคิดได้ว่ากลุ่มเศรษฐกิจ 1 ที่เป็นเรื่องของพาณิชย์ เกษตรฯ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ก็พอเดาได้ว่าเป็นพรรคอะไร ส่วนเศรษฐกิจ 2 ก็จะเป็นเรื่องของคลัง อุตสาหกรรม พลังงาน ซึ่งก็สามารถเดาได้อีกเช่นกันว่าเป็นพรรคอะไร และเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ตนได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าอยากให้ตั้งตามยุทธศาสตร์มากกว่า แต่เราก็ยังไม่อยากตีตนไปก่อนไข้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และจะมีการปกป้องงบประมาณของเจ้ากระทรวงหรือไม่
น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า จึงตั้งข้อสังเกตเอาไว้เพื่อให้อนุ กมธ.ทำงานอย่างระมัดระวัง และไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่เราคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ จึงไม่มั่นใจว่าการตั้ง 9 คณะจะทำงานได้รวดเร็ว เนื่องจากบางอนุกมธ.ก็มีงบประมาณจำนวนมาก เช่น กลุ่มปกครอง ที่จะต้องมีการพิจารณาในส่วนของกระทรวงมหาดไทย กลุ่มจังหวัด การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีมูลค่ารวม 4 แสนกว่าล้านบาท และมีหน่วยงานที่จะต้องเข้ามาพิจารณาอีก 400 กว่าหน่วย แต่บางกลุ่มมีเพียงแค่ 8 หมื่นกว่าล้านบาท สำหรับกลุ่มแรกคือ กลุ่มบริหาร เช่น สำนักงานนายกรัฐมนตรี
"
ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะเร็วขึ้นหรือไม่ แต่วิธีการเช่นนี้จะสะดวกต่อข้าราชการ ที่จะเข้ามาชี้แจง เนื่องจากข้าราชการของแต่ละกระทรวงจะไม่ต้องเข้าไปชี้แจงในห้องอนุ กมธ.หลายครั้ง อย่างมากก็เพียงแค่สองคณะ คือคณะของตนเองและคณะที่เป็นแผนงานบูรณาการ ก็จบแล้ว แต่ในปีก่อนหน้าอาจจะต้องเข้า 3-4 คณะ" น.ส.
ศิริกัญญา กล่าว
เมื่อถามว่า จะต้องมีการกำชับกมธ.ในสัดส่วนของพรรคฝ่ายค้านหรือไม่ว่าจะต้องตรวจสอบให้มีความรอบคอบ น.ส.
ศิริกัญญา กล่าว เราพยายามที่จะเสนอวิธีการมองงบประมาณ และวิเคราะห์งบประมาณแบบใหม่ๆ ซึ่งจากเดิมจะดูแค่ว่าถูกไปหรือแพงไปในแต่ละรายการ แต่เมื่อมาดูในส่วนของโครงการต่างๆ แล้วเราจะเน้นให้ดูเรื่องของความคุ้มค่า ประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณ ความซ้ำซ้อนเป็นหลัก และในปีนี้เราอาจจะไม่ได้มีที่ว่างให้ตัดลดงบประมาณอะไรมากมาย เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นงบไปพลางด้วย เราจึงเน้นให้ดูเรื่องของความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณมากกว่า
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกันถึงการป้องกันเรื่องการตบทรัพย์หรือไม่ น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวว่า ในส่วนของพรรค ก.ก. เราไม่ค่อยกังวลเรื่องนี้ เพราะเราเชื่อมั่นและเตรียมตัวกัน มาอย่างดีว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเราก็จะทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ว่าหากมีลักษณะที่เข้าข่ายให้มีการตบทรัพย์ได้ เราก็จะรีบดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น
เมื่อถามว่า ในการพิจารณาครั้งนี้ พรรคได้ข้อมูลที่จะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวว่า ได้เยอะแยะ อย่างน้อยก็ได้ข้อมูลที่จะนำไปสู่การอภิปรายในวาระสองแล้ว ส่วนข้อมูลเบื้องต้นที่จะใช้ในการอภิปรายทั่วไปหรือไม่ไว้วางใจนั้น ก็เป็นเพียงแค่สารตั้งต้นที่จะทำให้เรานำไปสืบค้นต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเราจะทำงานคู่ขนานกันไปทั้งอนุกมธ.งบ กมธ.งบ และกมธ.สามัญชุดต่างๆ
JJNY : จ่อถูกยุบพรรค ยิ่งทำงานหนัก│ศิริกัญญาลั่นพร้อมสู้คดีจริยธรรม│"ศิริกัญญา"ไม่เชื่อ 9 อนุกมธ.│เกาหลีเหนือส่งสัญญาณ
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4405393
พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ร่วมสนทนาในรายการ The Politics ร่วมกับ เอกภัทร์ เชิดธรรมธร และ “ใบตองแห้ง” อธึกกิต แสวงสุข มองสถานการณ์ก้าวไกลหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยล้มล้างการปกครอง เสี่ยงถูกยุบพรรค ชี้ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ทำงานหนักขึ้น ไม่ทิ้งอุดมการณ์ ต้องทำให้พรรคฆ่าไม่ตาย เชื่อยิ่งเจอแบบนี้จะยิ่งกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ออกมาร่วมกับพรรคมากขึ้น
ศิริกัญญา ลั่น 44 สส.ก้าวไกล พร้อมสู้คดีจริยธรรม ปมลงชื่อแก้ม.112 ยันไม่กังวล
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8079011
ศิริกัญญา ลั่น 44 สส.ก้าวไกล พร้อมสู้คดีจริยธรรม ปมลงชื่อแก้ ม.112 ระบุไม่ได้กังวล ชี้มีเวลาวางตัวแกนนํารุ่นใหม่ หากถูกศาลฟัน เชื่อส่งต่ออุดมการณ์พรรคได้
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ก.พ.2567 ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีผู้ไปยื่นร้องสอบจริยธรรม สส.ของพรรคก้าวไกล 44 คน จากกรณีเคยลงชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทว่า ตนก็เป็นหนึ่งใน สส.ที่ลงชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 112
ทางพรรคได้เตรียมต่อสู้คดีในเรื่องนี้แล้ว เพราะเป็นหนึ่งในฉากทัศน์ที่คาดไว้ ดังนั้น ไม่ได้กังวลใจ และมีข้อต่อสู้ในเชิงคดี น่าจะทำให้เราไม่ถูกตัดสินว่าทําผิดจริยธรรม และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่าสามารถชี้แจงได้ใช่หรือไม่ ว่าไม่ได้มีเจตนายกเลิกมาตรา 112 น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า แน่นอน เพราะการแก้ไขกฎหมาย เป็นสิทธิ์ชอบธรรมของ สส.ในฝ่ายนิติบัญญัติ หากทำไม่ได้ก็ควรมีการโต้แย้งตั้งแต่ต้น ซึ่งอาจมีส่วนให้เราไม่สามารถยื่นจนบรรจุเข้าวาระได้ ทั้งนี้ การพิสูจน์พฤติการณ์ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญและศาลฎีกา มีความแตกต่างกัน ฉะนั้น เราจะสู้คดีอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่ามองว่ามีทางรอดสำหรับ สส.ทั้ง 44 คนหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เราต้องเตรียมตัวสำหรับกรณีเลวร้ายที่สุด แต่ก็มีความหวัง
เมื่อถามว่าหากผลการพิจารณาคดีออกมาในทางลบ และ 44 สส.ถูกตัดสิทธิ์ มีแผนรองรับหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คิดว่าระยะเวลาของกระบวนการยุติธรรมจะไม่รวดเร็ว จึงพอมีเวลาเตรียมแกนนำรุ่นต่อไปขึ้นมาแทนที่ได้แน่นอน ฉะนั้น ไม่กังวล
หากดูจาก สส.ของพรรค และผู้มาร่วมทํางาน ก็มีหลายคนที่มีศักยภาพสูง แม้จะไม่มี สส. 44 คน แต่รับรองว่าอุดมการณ์และวิธีคิดของพรรค จะสืบทอดต่อไปได้
"ศิริกัญญา" ไม่เชื่อตั้ง 9 อนุกมธ.พิจารณางบฯเสร็จเร็ว แต่ขรก.มาชี้แจงสะดวก แต่ปกป้องงบฯเจ้ากระทรวงหรือไม่
https://siamrath.co.th/n/511374
วันที่ 2 ก.พ.2567 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2567 สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งอนุกรรมาธิการทั้ง 9 คณะ ว่า ปีนี้เป็นปีที่มีความแตกต่างจากเดิมที่เราจะพิจารณาแต่ละรายการ หรือตามรายการว่าเราซื้ออะไร เช่น อนุครุภัณฑ์ อนุสิ่งปลูกสร้าง แต่ปีนี้เราเริ่มจากการที่อยากให้ตั้งอนุตาม ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณไปจนถึงยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งเราต้องดูว่ามีความสอดคล้องกันในเชิงยุทธศาสตร์อย่างไร จึงอยากให้มีการพิจารณาในชั้นอนุกมธ.ตามแผนงานต่างๆ แต่สุดท้ายก็มีการแบ่งตามรายกระทรวง โดยวิธีการแบ่งตอนแรกเราคาดว่าน่าจะแบ่งตามด้าน เช่น ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านความมั่นคง
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า เมื่อแบ่งออกมาจริงๆ แล้ว ก็ทำให้มีความเข้าใจได้ว่าแบ่งตามพรรคการเมืองที่เป็นเจ้าของกระทรวงนั้น แม้กระทรวงการคลังหรือกระทรวงพาณิชย์จะแปะอยู่กับพรรคอื่นบ้าง แต่โดยเนื้อแล้วกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์มีงบประมาณน้อยมาก จึงชวนคิดได้ว่ากลุ่มเศรษฐกิจ 1 ที่เป็นเรื่องของพาณิชย์ เกษตรฯ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ก็พอเดาได้ว่าเป็นพรรคอะไร ส่วนเศรษฐกิจ 2 ก็จะเป็นเรื่องของคลัง อุตสาหกรรม พลังงาน ซึ่งก็สามารถเดาได้อีกเช่นกันว่าเป็นพรรคอะไร และเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ตนได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าอยากให้ตั้งตามยุทธศาสตร์มากกว่า แต่เราก็ยังไม่อยากตีตนไปก่อนไข้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และจะมีการปกป้องงบประมาณของเจ้ากระทรวงหรือไม่
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า จึงตั้งข้อสังเกตเอาไว้เพื่อให้อนุ กมธ.ทำงานอย่างระมัดระวัง และไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่เราคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ จึงไม่มั่นใจว่าการตั้ง 9 คณะจะทำงานได้รวดเร็ว เนื่องจากบางอนุกมธ.ก็มีงบประมาณจำนวนมาก เช่น กลุ่มปกครอง ที่จะต้องมีการพิจารณาในส่วนของกระทรวงมหาดไทย กลุ่มจังหวัด การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีมูลค่ารวม 4 แสนกว่าล้านบาท และมีหน่วยงานที่จะต้องเข้ามาพิจารณาอีก 400 กว่าหน่วย แต่บางกลุ่มมีเพียงแค่ 8 หมื่นกว่าล้านบาท สำหรับกลุ่มแรกคือ กลุ่มบริหาร เช่น สำนักงานนายกรัฐมนตรี
"ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะเร็วขึ้นหรือไม่ แต่วิธีการเช่นนี้จะสะดวกต่อข้าราชการ ที่จะเข้ามาชี้แจง เนื่องจากข้าราชการของแต่ละกระทรวงจะไม่ต้องเข้าไปชี้แจงในห้องอนุ กมธ.หลายครั้ง อย่างมากก็เพียงแค่สองคณะ คือคณะของตนเองและคณะที่เป็นแผนงานบูรณาการ ก็จบแล้ว แต่ในปีก่อนหน้าอาจจะต้องเข้า 3-4 คณะ" น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
เมื่อถามว่า จะต้องมีการกำชับกมธ.ในสัดส่วนของพรรคฝ่ายค้านหรือไม่ว่าจะต้องตรวจสอบให้มีความรอบคอบ น.ส.ศิริกัญญา กล่าว เราพยายามที่จะเสนอวิธีการมองงบประมาณ และวิเคราะห์งบประมาณแบบใหม่ๆ ซึ่งจากเดิมจะดูแค่ว่าถูกไปหรือแพงไปในแต่ละรายการ แต่เมื่อมาดูในส่วนของโครงการต่างๆ แล้วเราจะเน้นให้ดูเรื่องของความคุ้มค่า ประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณ ความซ้ำซ้อนเป็นหลัก และในปีนี้เราอาจจะไม่ได้มีที่ว่างให้ตัดลดงบประมาณอะไรมากมาย เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นงบไปพลางด้วย เราจึงเน้นให้ดูเรื่องของความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณมากกว่า
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกันถึงการป้องกันเรื่องการตบทรัพย์หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ในส่วนของพรรค ก.ก. เราไม่ค่อยกังวลเรื่องนี้ เพราะเราเชื่อมั่นและเตรียมตัวกัน มาอย่างดีว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเราก็จะทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ว่าหากมีลักษณะที่เข้าข่ายให้มีการตบทรัพย์ได้ เราก็จะรีบดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น
เมื่อถามว่า ในการพิจารณาครั้งนี้ พรรคได้ข้อมูลที่จะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ได้เยอะแยะ อย่างน้อยก็ได้ข้อมูลที่จะนำไปสู่การอภิปรายในวาระสองแล้ว ส่วนข้อมูลเบื้องต้นที่จะใช้ในการอภิปรายทั่วไปหรือไม่ไว้วางใจนั้น ก็เป็นเพียงแค่สารตั้งต้นที่จะทำให้เรานำไปสืบค้นต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเราจะทำงานคู่ขนานกันไปทั้งอนุกมธ.งบ กมธ.งบ และกมธ.สามัญชุดต่างๆ