รักษาสัตว์ ควรมีจรรยาบรรณ มีใจเมตตาสัตว์ ไม่ใช่เห็นแก่เงินอย่างเดียว!

ขอระบายและขอแชร์ประสบการณ์ ไม่อยากให้ลูกๆบ้านไหนเจอแบบเราค่ะ 
แมวเราอายุ 1 ปี เพศเมีย พันธุ์สก็อตติช เป็นแมวที่เกิดจากพ่อแม่แมวที่เราเลี้ยงไว้ เราไม่ได้ทำฟาร์มนะคะ  
เมื่อวันที่ 21 มค.67 เราได้พาน้องไปทำหมัน  3 ตัว เพศเมัยทั้งหมด เป็นแม่และพี่ของเขา
ก่อนทำหมันก็ตรวจเลือด พอฟื้นจากยาสลบก็เดินได้ กินได้นิดหน่อย ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ
วันที่ 24 มค.67 นัดตรวจแผล แผลก็แห้งดี ไม่มีการอักเสบ แมวก็ปกติ

จนเมื่อวันที่ 27 มค.67  เราสังเกตุว่าน้องไม่ค่อยกินอะไร นอนเยอะ ซึม แต่ก็ยังเดินไปเดินมาได้
เราจึงพาไปหาหมอที่ทำหมัน พบว่าน้องมีไข้ ก็ฉีดยาลดไข้ให้
แล้วนัดให้มาตรวจซ้ำวันพรุ่งนี้พร้อมตัดไหม
เราก็พากลับบ้าน แล้วราก็ไปทำงาน จนกระทั้งประมาณ 1 ทุ่ม 
เรากลับบ้านพบว่ามีรอยอาเจียนเป็นน้ำใสๆ อยู่หลายจุด และน้องก็ยังไม่กินน้ำไม่กินอาหาร
เราจึงคิดเองว่า อยากจะพาน้องไปให้น้ำเกลือ
เพื่อให้มีแรง เพราะวันรุ่งขึ้น วันที่ 28 หมอก็นัดตัดไหมแล้ว

เราจึงพาน้องไป รพ.สัตว์เอกชนแห่งหนึ่ง คนละที่กับที่ทำหมันนะคะ
ที่ทำหมันเป็น รพ เช่นกัน แต่ไม่ได้เปิดตลอด 24 ชม.
รพ.สัตว์เอกชนนี้ อยู่ในตัวเมืองลพบุรี ค่ารักษาร่ำลือกันว่าสูงปรี้ด เปิดตลอด 24 ชม. 
เราพาน้องไป ประมาณ 22.30 น. ไปถึงก็ทำประวัติ ชั่งน้ำหนัก วัดไข้
น้ำหนักชั่งได้ 2.8 กก. ไม่มีไข้ (น้องฉีดยาลดไข้มาตึ้งแต่ 10.20 น.แล้ว) 
นั่งรอเกือบ 2 ชม. เพราะมีเคสฉุกเฉิน ในระหว่างรอ น้องก็เดินเข้าๆออกๆตะกร้า
มีร้องเรียกบ้าง ไม่ได้นอนซมอะไร จนเกือบๆเที่ยงคืน
ผู้ช่วยหมอก็เดินมาดูน้องแล้วทักว่า  น้องหายใจไม่ดีนะคะ
ขอเอ็กซเรย์ มีค่าใช้จ่าย 800 นะคะ เราก็โอเค 
พอเอาน้องมาคืน ก็บอกอีกว่า หัวใจและปอดไม่ค่อยดีนะคะ
ขออนุญาติโกนขนเพื่ออัลตร้าซาวด์หัวใจนะคะ เราก็โอเค 
เรารออยู่หน้าห้องอัลตร้าซาวด์ ประตูเป็นฟิล์มมัวๆ พอจะเห็นเงาคน
ว่า  คนนึงยืมก้มๆ อีกคนนั่งเก้าอี้ ก็ประมาณว่า จับน้องซาวด์น่ะแหละ
เรารอประมาณ 15 นาที  เขาเอาน้องออกมาก็ไม่ได้พูดอะไร
แล้วก็บอกให้เราพาน้อง ไปพบหมอในห้องตรวจ

ซึ่งพอเข้าไป คำแรกคือ "น้องอาการหนักมากนะคะ"
เราก็งง! คือ แมวเราก็ยังเดินอยู่บนตักเรา เข้าออกตะกร้าได้ 
ในขณะที่หมอพูดน้องก้ไม่ได้นอนซมอะไร
และหมอบอกว่า
"น้องหัวใจโต ปอดไม่ปกติ อยากให้แอดมิดเข้าตู้อ๊อกซิเจนสัก 3 คืน
และจะต้องขอเจาะเลือดเพื่อจะให้ยาขับน้ำ เพราะปอดมีน้ำเยอะนะคะ
ผลเลือดก็เม็ดเลือดขาวต่ำมากๆ" 
โอ้โห!! เราตกใจมาก หมอยังไม่จบค่ะ บอกว่า
"ยาที่จะฉีดนี้จะส่งผลให้ค่าไตสูงได้นะคะ อาจจะต้องพามารักษาต่อเนื่อง"
เราเลยถามว่า งั้นไม่ฉีดได้ไหมคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้หมอก็นัดตัดไหมและนัดตรวจไข้แล้วค่ะ 
เพราะถ้าจะรักษาต่อเนื่องเราไม่สะดวกมาที่นี่ค่ะ เราบอกไปแบบนี้
( ก่อนเข้าห้องก็ตรวจแล้วว่า ไม่มีไข้แล้ว) 

หมอยังไม่จบค่ะ " น้องก็มีภาวะโรคหัวใจแต่กำเนิดโดยสายพันธุ์ แมวพันธุ์นี้เป็นโรคหัวใจกันเยอะนะคะ 
แต่ที่มาแสดงอาการตอนนี้ อาจเพราะน้องไปทำหมันมา น้องหัวใจโตด้วยนะคะ
น้องอาจจะช็อคหัวใจวายฉับพลันได้นะคะ หรืออาจจะเป็นอัมพาต
ทำให้ขาหลังเดินไมไ่ด้เฉียบพลันนะคะ และปอดก็มีน้ำ น้ำท่วมปอดเสียชีวิตได้เลยนะคะ
คืนนี้ไม่อยากให้กลับนะคะ" 

เจอขนาดนี้ด้วยความรักความห่วง ก็ยอมให้แอดมินแต่เราก็บอกกับหมอว่า
ขอคืนเดียวค่ะ พรุ่งนี้จะพาไปพบหมอที่ทำหมัน เพราะหมอคนนี้ ถามถึงวิธีการทำหมัน
ให้น้ำเกลือระหว่างผ่าตัดไหม ใช้เวลาผ่าตัดเท่าไร คือเราก็อยากรักษากับหมอแรก
ที่พามาที่นี่แค่คิดว่าจะพามาให้น้ำเกลือ เหมือนคนเราที่เวลาป่วยให้น้ำเกลือก็จะดูมีแรง

เจอหมอพูดขนาดนี้ เราก็สองจิตสองใจ แล้วหมอก็พูดกรอกหูตลอด ว่า หนักมากๆๆ
จนเรายอมให้พาน้องเข้าวอดไป เราก็ยังรอถามหมอนะว่าน้องร้องไหม น้องดูเครียดไหม 
เค้าไม่ให้เราเข้าไปดูห้องพัก  แมวเราไม่เคยไปนอนที่ไหน เวลาเราไม่อยู่บ้าน
เราจะให้แม่มานอนค้างที่บ้านเพื่อดูแลลูกแมวเรา ตั้งแต่เราเลี้ยงคอกนี้มา เราเคยห่างเขามากสุด
คือ 4 คืน เพราะเราไปต่างประเทศ นอกนั้นก็คืนเดียว แต่ไม่เกิน 4 ครั้ง 

เวลาประมาณ 6.00 น. พยาบาลเวรส่งอัพเดตอาการน้องและคลิปน้อง บอกว่า ไม่มีไข้ ชีพจรประติ
ป้อนอาหารไป 6 ml แต่น้องอาเจียนจึงหยุดป้อน ไม่ฉี่ไม่อึ ในคลิปน็องก็นอนมองซ้ายมองขวา

ประมาณ 10.30 เรากับแฟนก็ไปรับน้อง จนท.บอกว่า รอสักครู่
เราบอกว่าขอประวัติการรักษาด้วยนะคะ จะย้ายน้องไปรักษาที่อื่น
จนท.บอกต้องรอ 5วัน!!! เราก็บอก งั้นเอาเบื้องต้นมาก่อนก็ได้ค่ะ 
แล้วเรากันั่งรอ    จนท. หายไปประมาณ 10 กว่านาที
จนท. ออกมาบอกว่า น้องช็อกหยุดหายใจ!
เราก็ตกใจ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็บอกว่าไม่ทราบค่ะ
เราบอกขอไปดูหน่อยได้ไหม  เขาก็ไม่ให้ไป
แต่ถามเราว่าให้ปั๊มไหมคะ เราก็ตอบ "ให้ปั๊ม" 
ห้องที่น้องพักมันอยู่ด้านหลังต้องเลี้ยว 2 รอบ ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รุ้ว่าน้องอยุ่ตรงไหน
เราก็วิ่งไปบอกแฟนที่รออยุ่ในรถ เพราะในรถมีแม่กับพี่เขามาด้วย จะไปตัดไหมทำหมัน
แฟนเราก็ตกใจ วิ่งลงมาพอดีกับที่ จนท. มาบอกว่า ปั๊มไม่ขึ้น ให้ปั๊มอีกไหมคะ
แต่ถ้ากลับมา ก็อาจจะพิการเอ๋อนะคะ เราก็บอก "ปั๊มค่ะ"
แฟนเราก็บอกว่า ขอไปดูน้อง จนท. บอกว่าเดี๋ยวไปถามหมอก่อนนะคะ 
แต่แฟนเราไม่ยอม วิ่งตามเ จนท. ไป เราก็วิ่งไปด้วย 
ภาพที่เห็นคือ มีท่อใส่ปากห้อง และมีการทำ CPR 
และในห้องก็มีหมาตัวใหญ่อยู่ใกล้ๆ น้อง และหมาอีกตัวที่พยายามตะกุยจะออกจากรง เสียง จนท ดุหมาเป็นระยะ
แล้วสรุป น้องก็ไม่รอดค่ะ เค้าบอกเราว่า "หัวใจวาย"  เราถามว่า เพราะเหตุอะไร ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนค่ะ 
เราก็รับร่างน้องและพาไปหาหมอที่ทำหมัน แล้วก็เล่าให้หมอฟัง พร้อมตัดไหมแม่และพี่ของเขาก็ปกติดี
หมอขอตรวจแผลที่ร่างน้อง แผลก็แห้งดี หมอขอผ่าดูแผลด้านใน โดยให้เราอยู่ดูตลอดเวลา แผลก้ไมไ่ด้อักเสบอะไร
เพราะฉะนั้น ที่ว่าน้องไม่สบายเพราะแผลอักเสบตัดไปได้เลย หมอบอกให้เราขอผลเอ็กซเรย์ ผลเลือด ผลซาวด์ ใบรายงานการักษา
ตอนนี้เลย ขอให้ส่งไลน์มาเลย ทาง รพ.เอกชนก็อิดออด เราตะคอกไปจึงยอมส่งมาให้แต่ส่งเฉพาะเอ็กซเรย์ กับผลเลือดเท่านั้น
ซึ่งจากที่หมออ่านค่าและอธิบายให้เราฟัง คือ จากฟิล์มไมไ่ด้หัวใจโต ไม่ได้เป็นโรคหัวใจแน่นอน
ส่วนปอดมีน้ำจริงแต่ไม่ถึงกับจะน้ำท่วมปอดได้แบบรวดเร็วขนาดที่หมอ รพ.เอกชนบอกกับเรา 
เราก็ทักไปขอผลอัลตร้าซาวด์ จนท.บอกไม่มี เราก็งง แต่  ณ เวลานั้น กำลังเสียใจ สับสนก็ไม่ได้ตามต่อ 
และก็ยังไม่ทราบว่า น้องช็อคเพราะอะไร 

ผ่านมา 3 วัน ไลน์ที่ขอเอกสารค้างไว้ ก้ไม่มีการตอบกลับใดๆ
จนกระทั่ง ประมาณบ่ายโมง วันที่ 30 มค 67 
เราเห็นเพื่อนพาหมาไปเช็คอิน ที่ รพ.เอกชน นี้ เราจึงรีบโทรไปบอกเพื่อนว่า
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเกิดอะไรกับลูกเรา
( เราไม่ได้คุยกับใคร ไม่ได้โพสอะไร เสียใจมากๆ กินไมไ่ด้นอนไม่หลับ) 
เพื่อนเราก็พาลูกออกจากที่นั่นทันที และพอเพื่อนออกมาก้มีโทรจาก รพ.เอกชน ถามว่า เป็นเพื่อนกับ.... เหรอ 
เพื่อนเราก็ตอบว่าใช่ และไม่สะดวกใจจะให้รักษาลูกหมาแล้ว แทนที่เขาจะโทรหาเรา เขากลับโทรไปอธิบายกับเพื่อนเรา
( เราเดานะคะ คงอยากได้เพื่อนเราเป็นลูกค้าค่ะ เพราะถ้าเปิดสมุดประจำตัวน้องแล้วคงเห็นแหละว่าเขาใส่ใจลูกเขาขนาดไหน )
 
เขาบอกเพื่อนเราว่า แมวเราอาการหนักมาก เข้าไปหาเขาคือโคม่าแล้ว ประมาณนี้ 
พอเรารู้แบบนี้ เราจึงทักไลน์ไปว่า ขอเอกสารที่ค้างอยุ่ด้วยค่ะ
มี จนท.รับเรื่อง และหายไป เกือบ 6 ชม จึงส่งรายงานการรักษามาให้
แต่ยังไม่ส่งคลิปอัลตราซาวด์หัวใจมาให้ รออีกพักใหญ่จึงส่งมา
และบอกว่า คลิปได้แค่สั้นๆ เพราะน้องไม่ยอม และเราไม่ได้คิดเงินส่วนนี้
แต่คืนนั้นออกห้องมาก้ไมได้บอกอะไรเรานะ 
เราก็ถามกลับไปหลายอย่างค่ะ เพราะใบรับรองการรักษา
บอกหัวใจเล็กกว่าปกติเล็กน้อย ปอดปกติ แต่คืนนั้น
บอกอะไรกับเราไว้เยอะแยะ และทุกอย่างเฉียบพลันด้วย
และพฤติกรรมของพวกคุณมันไม่จริงใจค่ะ แม้กระทั่งคลิปอัลตร้าซาวด์
คุณตัดต่ออยู่หรอคะ เอกสารต่างๆบอกรอ 5 วัน คืออะไรคะ 

จนท.โทรติดต่อมา บอกว่า หมอจะโทรมาหา หรือเราจะเข้าไปพบหมอก็ได้
หมอจะอธิบายอาการน้อง เราบอกโทรก็พอ ไม่อยากเข้าไปที่นั่นอีกแล้ว 
สรุปการโทรมาของหมอ คือ วนไปวนมา คุยพร้อมกัน กับหมอและ จนท.

เรื่องหัวใจโต หมอบอกว่า หมอพูดผิดค่ะ น้องกล้ามเนื้อหัวใจโต 
เรื่องปอดหมอพูดว่าก็มีน้ำในปอด มีโอกาสน้ำท่วมปอด 
เรื่องอัมมพาต หมอบอกว่า หมายถึง ในอนาคตมีโอกาสเป็นได้ค่ะ 
บบนี้นะคะ หมอพูดแบบทุกอย่างมันเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ไม่กี่ ชม. นี้เลยนะคะ 
ที่หมอจะฉีดขาขับน้ำ ดูอการ 4 ชม  หมอยังบอกต้องเฝ้านั่นโน่นนี่ 
พอมาตอนนี้บอกว่า ที่พูดหมายถึงว่า อนาคตมีโอกาส!!!!
และที่พีคมากคือ ไม่เปิดโอกาสให้เรามีทางเลือกเลยค่ะ 
ทุกคำพูดที่เราจะเอาลูกกลับ ไม่แอดมิด 
หมอจะพุดถึงอาการที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ 
หรือพูดง่ายๆก็คือ "ขู่ให้เรากลัว ต้องยอมแอดมิด" 

อ้อ! ใส่ส่วนของผลเลือด ที่พบว่าเม็ดเลือดขาวต่ำ  คือ เป็นผลโดยรวม
ไม่ใช่เม็ดเลือดขาวต่ำทุกตัวค่ะ มันไม่ถึงกับชีวิตค่ะ  อันนี้เราให้อีกหมออ่านแปลให้ค่ะ

สรุปสาเหตุการช็อก ก็วนไปวนมา มีโอกาสนั่นนี่ ไม่มีฟันธงอะไร และไม่มีการเยียวยาใดๆ 
จนท.ก็พูดตามสคริปขอแสดงความสียใจ จะพัฒนาบลาๆๆๆ
คืนนั้นเราจ่าย 5000ค่ะ จริงๆเขาจะเก็บเพิ่มอีก 2000 บาท
เขาบอกว่า สำหรับกรณีฉุกเฉินต้องปํ๊มหัวใจก็จะหักจาก 2000 นี้
แต่เราไม่จ่ายไว้ค่ะ และตอนที่รับร่างน้อง มี จนท. มาเรียกเก็บค่าบริการฉุกเฉินกับแฟนเราอีกด้วยค่ะ
และมาขอยา บอกจะเอาไปบริจาคให้แมวจรจัด แต่แฟนไมไ่ด้จ่ายและไม่ได้ให้ยาไป 
และยังบอกว่า ให้พาพี่ๆน้องๆเขามาตรวจโรคหัวใจด้วย ยังกล้าพูดอีกเนาะ!

เราก็เลยตัดบทสนทนาไปค่ะ คือเราก็พอรู้คำตอบว่ามันจะออกแนวไหน
แต่ไม่คิดว่า เขาจะกลับกลอกได้ขนาดนี้ ถ้าเขาพูดว่าอนาคตจะเป็นอัมพาตเราก็เข้าใจได้
โอกาสเสี่ยง แต่ที่เขาพูดคือ ไม่อยากให้เอากลับน้องจะช็อคแล้วอัมพาตพิการได้เลยนะคะ 
คำพูดนี้คำเดียวเลย ที่ทำให้เรายอมเอาน้องไว้กับเขา เราไมได้กลัวว่าจะเลี้ยงลูกพิการ
แต่เราสงสารเขา เคยวิ่งเล่นได้ แล้วจู่ๆ 2ขาหลังเดินไมไ่ด้ เขาจะรุ้สึกอย่างไร
เราเลือกเขาเหมือนลูก อะไรที่ทำให้เขาได้เราก็ทำ ยาวหน่อยนะคะ แต่อยากฝากไว้เตือนใจ
สถานที่ดูดี ราคาแพง ไม่ได้แปลว่า จะดูแลหรือมีจิตใจดี  เข้าใจค่ว่าทำธุรกิจ
แต่ก็ควรมีจรรยาบรรณ เมตตาสัตว์ เห็นใจคนเลี้ยงบ้าง เปิดทางเลือกให้เราบ้าง
เราเสนอทางเลือกขอกลับถ้าอาการไม่ดี เดี๋ยวรีบพามา
ก็เจอคำพูดที่ทำให้เราวิตกกังวล จนเราไม่กล้าเอากลับ
แบบนี้ มันเกินไปมากๆค่ะ 

โรงพยาบาลสัตว์เอกชน ที่เมืองลพบุรี ที่ใหญ่ และขึ้นชื่อเรื่องค่ารักษาแพง และเปิด 24 ชม.
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  โรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่