1. ไม่น่าผูก ให้ต้องตามแก้
อิชิอิเสี่ยงเดิมพัน เอาให้คู่แข่งคาดไม่ถึง เก็บตัวหลัก ใส่ตัวรอง กะเซอร์ไพรส์ แต่ก็นั่นแหละ … ผลไม่เป็นดังหวัง
ผัง 4-2-3-1 ปรากฏว่าในเลข 3 เป็นตัวรองทั้งหมด --- มากเกินไป?
อิชิอิวางแผน ใช้บอลยาว โจมตีเร็วทางข้าง แต่ ...
ขวา : รุ่งรัฐ “ชั้นไม่ถึง” สำหรับระดับนี้ แรกๆ วูบวาบ แต่ไม่กี่นาทีเขาก็ “จับทาง” ได้แล้ว จากนั้นก็ไปไม่เป็น
กลาง : วรชิต ไม่เห็นมันจะทำอะไรได้ (?)
ซ้าย : ปฐมพล ทำครับทำ ทำเสียตลอด (ขี้เกียจจะเอานิ้วนั่งนับ)
3 ตัวรุกของอิชิอิ ไม่ใช่ “จุดบอด” นะครับ เพราะมันไม่ใช่แค่ “จุด” --- แต่นี่เล่น “บอดสนิท” ทั้ง “แถบ”!
ผิดแผน เพราะบอลทางข้าง เราหวังผลไม่ได้ ขณะที่รับ นัดนี้ปั่นป่วน โดนตีรวนไปหมด
แล้วก็โดนจนได้ จบครึ่งแรก 0-1
2. ก็ถ้ามาตั้งแต่แรก!
สุภโชค คำเดียวจบ(โว้ย)!
ครึ่งหลัง เราได้ 2 พี่น้อง {ศุภมงคล} สุภโชค-ศุภณัฏฐ์ ลงมาแทนคนที่ไม่ควรจะอยู่ในสนามตั้งแต่แรกแล้ว (แต่อุบ๊ะ! ยังเก็บรุ่งรัฐไว้)
อิชิอิกลับมาเน้นบอลสั้นบอลเร็วมากขึ้น ต่อบอลหาช่องเข้าไปทำ แต่ทำไม่ถนัด
และแล้วก็เจอลูก “เวิลด์ คลาส” --- ศุภโชคเล่นกับธีราทร แล้วเอาบอลขึ้นไปต่อกับศุภชัย พอชิ่งกลับมาแล้วซัดงามหยด ตีเสมอ 1-1
อุซเบฯ สูงใหญ่ และ “แข็ง” --- แรงเบียด แรงปะทะ พละกำลัง บวกกับความแข็งของเบสิก พอบี้ติดๆ แล้วเราไปไม่ได้นะครับ
มีแต่สุภโชคที่ลากได้ เลี้ยงจี้ได้ และวิ่งฉีกไปกับบอลได้
มีแต่เขานี่แหละที่เจอประกบติด ตัวตามเยอะๆ แล้วยังสลัดหลุด พลิกออกมาได้
ถึงบอกว่าเราต้องมีนักเตะระดับ “เจลีก” ให้มากเข้าไว้จริงๆ (และต้องเป็น “เจลีก” ที่อยากรับใช้ชาติด้วยนะครับ --- ไม่ใช่เอาแต่อยากจะอ่าน “หนังสือ”?)
แค่คนเดียว ไม่พอ
3. อาตี๋แผลงฤทธิ์
“ฟัยซูลลาเยฟ” เล็กดี รสโต หมายเลข 22 --- เราเอาเขาไม่อยู่จริงๆ
ตัดเข้าใน แล้วเรากระบวนพลแตกหมดแทบทุกที (หน้าก็ทรงตี๋แสบ ไม่ออกค่อนทางแขก --- แม่ผมยังถามว่า อุซเบฯ ทำไมมีคนจีนด้วยเหรอ!? ผมก็ตอบว่า เฮ้ย คนเอเชียกลาง ไม่ใช่ตะวันออกกลาง มันลักษณะนี้แหละ … อ้าว แต่พอกล้องจับไปคนอื่นๆ ก็แขกขาวทั้งนั้นนี่หว่า)
แล้วพี่บึ้กแขกเคราเฟิ้มที่เป็นกองหน้าก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่ แต่พออาตี๋ “ฟัยซูลลาเยฟ” ทะลวงเข้ามา แล้ววิ่งให้ คอยทำทางให้ เอาบอลไปให้ พี่บึ้กเคราเล่นง่าย อันตรายขึ้นมาเลยทันที
ลูกที่เราโดนอาตี๋ ไม่อยากโทษพรรษานะครับ (… ก็ช้ากว่าจริง และให้พื้นที่ให้เวลาเขา น่าจะตามติดและตามชิดกว่านี้ ไม่ให้เขาง้างได้)
แต่ก็ต้องยกย่องอาตี๋ตีนไฟแหละครับ ไวทายาด แล้วยิงหักข้อลูกนั้น เบียดเสา ปฏิวัติหมดสิทธิ์เซฟ (ลูกยากขนาดนี้ ต้องระดับ “โอนานา” เท่านั้นครับถึงมีปัญญาเซฟ???)
ตาม 1-2
ทวงยาก
4. ย้อนกลับไปครึ่งแรก กลางเราสู้เขาไม่ค่อยได้
วีระเทพเล่นไม่ค่อยออก ส่วนสารัชที่โดดเด่นเหลือเกินในนัดเจอซาอุฯ สารัชอยู่แทบทุกจุดที่มีบอล แต่นัดนี้ “เงียบ” --- หายไปจากเกมอยู่หลายช่วง
ครึ่งหลัง พอบทเราครองบอลเพื่อเอาประตู คู่กลางรับของเราก็ขึ้นบอลไม่ได้เท่าไหร่ หรือช่วยเชื่อมก็ไม่ค่อยได้
(เป็นสุภโชคที่ต้องมาเอาจากหลังไปหน้า)
พีรดนย์ ลงมาช้าเกินไปครับ เวลาในสนามน้อยมาก
พอพีรดนย์ กับ พิชา ลงมาแล้ว เกมมีไดนามิก คึก ขับเคลื่อนไปข้างหน้าขึ้น
(แต่ให้พิชายืนต่ำซะเสียว เพราะรูปร่างเล็กมาก เรารุกแล้วเจอโต้ก็จวนเจียนเหมือนกัน …)
5. เสียดาย
ไม่มีชื่อของ เจริญศักดิ์ และ บดินทร์ (อิชิอิ มั่นใจเกินไป? หรือมองข้ามช็อตไปถึงรอบหน้า?)
ปกติ ผมชอบด่าบดินทร์บ้าง ด่าปฐมพลบ้าง แต่รุ่งรัฐนี่ไม่รู้จะเอาอะไรไปด่า ชั้นไม่ถึงพอจะให้วิพากษ์ … แต่กลับอยู่ในสนามนานมาก
ฝั่งข้างของเราวันนี้ไม่เวิร์ก ต้องยอมรับข้อนี้
ศุภณัฏฐ์พอลงมาครึ่งหลังแล้ว ดันเปลี่ยนเกมไม่ได้
ยืนซ้ายแล้วเล่นไม่ออก พอโยกไปฟากถนัดทางขวาก็เล่นไม่ได้อยู่ดี สลับกลับมาทางซ้ายก็ไม่ไหวอีก
เสียดาย
เพาะกระดูก เก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไปครับ
ศุภณัฏฐ์ คือ อนาคตที่สว่างไสวของทีมชาติไทย
(ส่วนชาญณรงค์ พยายามจะเลาะเข้าในเพื่อต่อบอล หาทางทำ แต่ก็ … วันนี้ยังไม่ใช่
จบที่คำเดียวกับศุภณัฏฐ์แหละครับ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไป เขาจะเป็นอนาคตที่เรืองรองของไทยเช่นกัน)
6. เกมรับนัดนี้ไม่ใช่ว่าจัดระเบียบไม่ดีนะครับ
แต่ด้วยมาตรฐานและคุณภาพของอุซเบฯ --- เร็วกว่า คล่องกว่า ทักษะดี และบอลเชื่องเท้า ทำให้ริ้วขบวนของเรา “เปิดเปิง” หมด
1-2 ถือว่าโดนน้อยแล้ว เขาจบไม่เนี้ยบเอง ไม่งั้นจะบานกว่านี้
แบ็กสองข้างของเราเล่นสนุกมากนะครับ บู๊สุดใจแล้ว ทั้งรับทั้งรุก --- ความผิดพลาดในเกมรับมีบ้าง แต่ก็ต้องเข้าใจว่ารับมือยาก
เกมรุกก็พยายามเต็มที่แล้ว ท้ายเกมมิคเกลสันเติมสุดอัตราศึก จะฝ่าจะเลื้อย จะแหวกไปให้ได้ … แต่มันก็แน่นไปหมด จนปัญญา
ธีราทรทำหน้าที่ทั้งต่อเกม เชื่อมเกม และพยายามขึ้นบอลไปข้างหน้า วัดตลอด ซึ่งบอลได้เสีย ถ้ามันจะเสียมากกว่าได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดา … เต็มที่แล้ว
ถ้าจะลุ้น “ดาราเอเชีย” ก็ลุ้นได้นะครับ
คนสุดท้ายที่ติด คือ ดุสิต เฉลิมแสน --- นานมาก ๆ แล้ว
มิคเกลสัน ผมว่ามีลุ้นติดทีมยอดเยี่ยม “เอเชียน คัพ” ได้เหมือนกัน
7. อิชิอิ
อิชิอิ ชื่อนี้ ทำให้เรากล้ามีความหวังถึงสิ่งดีๆ ข้างหน้า
เป็นไปได้ครับ ทุกสิ่งที่เคยยาก มันกลายเป็น “มีโอกาส”
มาได้ไกลแค่นี้ครับ สำหรับเอเชียน คัพ … แต่ “อนาคต” ของทีมชาติไทยในมือของอิชิอิ บินสูงได้กว่านี้แน่ๆ ครับ
ยังมีคัดบอลโลกอยู่นะครับ อย่าลืม
จีนเหรอ
เกาหลีใต้เหรอ
พอเป็น อิชิอิ แล้ว ไม่แน่ครับไม่แน่
เราจะเข้ารอบให้ได้ ดูสิ!
มาลุ้นไปด้วยกันนะครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวไทย
แฟนบอลท่านนึงกล่าวไว้หลังเกม...ต้องยอมรับ มาตรฐานและคุณภาพของอุซเบฯ
อิชิอิเสี่ยงเดิมพัน เอาให้คู่แข่งคาดไม่ถึง เก็บตัวหลัก ใส่ตัวรอง กะเซอร์ไพรส์ แต่ก็นั่นแหละ … ผลไม่เป็นดังหวัง
ผัง 4-2-3-1 ปรากฏว่าในเลข 3 เป็นตัวรองทั้งหมด --- มากเกินไป?
อิชิอิวางแผน ใช้บอลยาว โจมตีเร็วทางข้าง แต่ ...
ขวา : รุ่งรัฐ “ชั้นไม่ถึง” สำหรับระดับนี้ แรกๆ วูบวาบ แต่ไม่กี่นาทีเขาก็ “จับทาง” ได้แล้ว จากนั้นก็ไปไม่เป็น
กลาง : วรชิต ไม่เห็นมันจะทำอะไรได้ (?)
ซ้าย : ปฐมพล ทำครับทำ ทำเสียตลอด (ขี้เกียจจะเอานิ้วนั่งนับ)
3 ตัวรุกของอิชิอิ ไม่ใช่ “จุดบอด” นะครับ เพราะมันไม่ใช่แค่ “จุด” --- แต่นี่เล่น “บอดสนิท” ทั้ง “แถบ”!
ผิดแผน เพราะบอลทางข้าง เราหวังผลไม่ได้ ขณะที่รับ นัดนี้ปั่นป่วน โดนตีรวนไปหมด
แล้วก็โดนจนได้ จบครึ่งแรก 0-1
2. ก็ถ้ามาตั้งแต่แรก!
สุภโชค คำเดียวจบ(โว้ย)!
ครึ่งหลัง เราได้ 2 พี่น้อง {ศุภมงคล} สุภโชค-ศุภณัฏฐ์ ลงมาแทนคนที่ไม่ควรจะอยู่ในสนามตั้งแต่แรกแล้ว (แต่อุบ๊ะ! ยังเก็บรุ่งรัฐไว้)
อิชิอิกลับมาเน้นบอลสั้นบอลเร็วมากขึ้น ต่อบอลหาช่องเข้าไปทำ แต่ทำไม่ถนัด
และแล้วก็เจอลูก “เวิลด์ คลาส” --- ศุภโชคเล่นกับธีราทร แล้วเอาบอลขึ้นไปต่อกับศุภชัย พอชิ่งกลับมาแล้วซัดงามหยด ตีเสมอ 1-1
อุซเบฯ สูงใหญ่ และ “แข็ง” --- แรงเบียด แรงปะทะ พละกำลัง บวกกับความแข็งของเบสิก พอบี้ติดๆ แล้วเราไปไม่ได้นะครับ
มีแต่สุภโชคที่ลากได้ เลี้ยงจี้ได้ และวิ่งฉีกไปกับบอลได้
มีแต่เขานี่แหละที่เจอประกบติด ตัวตามเยอะๆ แล้วยังสลัดหลุด พลิกออกมาได้
ถึงบอกว่าเราต้องมีนักเตะระดับ “เจลีก” ให้มากเข้าไว้จริงๆ (และต้องเป็น “เจลีก” ที่อยากรับใช้ชาติด้วยนะครับ --- ไม่ใช่เอาแต่อยากจะอ่าน “หนังสือ”?)
แค่คนเดียว ไม่พอ
3. อาตี๋แผลงฤทธิ์
“ฟัยซูลลาเยฟ” เล็กดี รสโต หมายเลข 22 --- เราเอาเขาไม่อยู่จริงๆ
ตัดเข้าใน แล้วเรากระบวนพลแตกหมดแทบทุกที (หน้าก็ทรงตี๋แสบ ไม่ออกค่อนทางแขก --- แม่ผมยังถามว่า อุซเบฯ ทำไมมีคนจีนด้วยเหรอ!? ผมก็ตอบว่า เฮ้ย คนเอเชียกลาง ไม่ใช่ตะวันออกกลาง มันลักษณะนี้แหละ … อ้าว แต่พอกล้องจับไปคนอื่นๆ ก็แขกขาวทั้งนั้นนี่หว่า)
แล้วพี่บึ้กแขกเคราเฟิ้มที่เป็นกองหน้าก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่ แต่พออาตี๋ “ฟัยซูลลาเยฟ” ทะลวงเข้ามา แล้ววิ่งให้ คอยทำทางให้ เอาบอลไปให้ พี่บึ้กเคราเล่นง่าย อันตรายขึ้นมาเลยทันที
ลูกที่เราโดนอาตี๋ ไม่อยากโทษพรรษานะครับ (… ก็ช้ากว่าจริง และให้พื้นที่ให้เวลาเขา น่าจะตามติดและตามชิดกว่านี้ ไม่ให้เขาง้างได้)
แต่ก็ต้องยกย่องอาตี๋ตีนไฟแหละครับ ไวทายาด แล้วยิงหักข้อลูกนั้น เบียดเสา ปฏิวัติหมดสิทธิ์เซฟ (ลูกยากขนาดนี้ ต้องระดับ “โอนานา” เท่านั้นครับถึงมีปัญญาเซฟ???)
ตาม 1-2
ทวงยาก
4. ย้อนกลับไปครึ่งแรก กลางเราสู้เขาไม่ค่อยได้
วีระเทพเล่นไม่ค่อยออก ส่วนสารัชที่โดดเด่นเหลือเกินในนัดเจอซาอุฯ สารัชอยู่แทบทุกจุดที่มีบอล แต่นัดนี้ “เงียบ” --- หายไปจากเกมอยู่หลายช่วง
ครึ่งหลัง พอบทเราครองบอลเพื่อเอาประตู คู่กลางรับของเราก็ขึ้นบอลไม่ได้เท่าไหร่ หรือช่วยเชื่อมก็ไม่ค่อยได้
(เป็นสุภโชคที่ต้องมาเอาจากหลังไปหน้า)
พีรดนย์ ลงมาช้าเกินไปครับ เวลาในสนามน้อยมาก
พอพีรดนย์ กับ พิชา ลงมาแล้ว เกมมีไดนามิก คึก ขับเคลื่อนไปข้างหน้าขึ้น
(แต่ให้พิชายืนต่ำซะเสียว เพราะรูปร่างเล็กมาก เรารุกแล้วเจอโต้ก็จวนเจียนเหมือนกัน …)
5. เสียดาย
ไม่มีชื่อของ เจริญศักดิ์ และ บดินทร์ (อิชิอิ มั่นใจเกินไป? หรือมองข้ามช็อตไปถึงรอบหน้า?)
ปกติ ผมชอบด่าบดินทร์บ้าง ด่าปฐมพลบ้าง แต่รุ่งรัฐนี่ไม่รู้จะเอาอะไรไปด่า ชั้นไม่ถึงพอจะให้วิพากษ์ … แต่กลับอยู่ในสนามนานมาก
ฝั่งข้างของเราวันนี้ไม่เวิร์ก ต้องยอมรับข้อนี้
ศุภณัฏฐ์พอลงมาครึ่งหลังแล้ว ดันเปลี่ยนเกมไม่ได้
ยืนซ้ายแล้วเล่นไม่ออก พอโยกไปฟากถนัดทางขวาก็เล่นไม่ได้อยู่ดี สลับกลับมาทางซ้ายก็ไม่ไหวอีก
เสียดาย
เพาะกระดูก เก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไปครับ
ศุภณัฏฐ์ คือ อนาคตที่สว่างไสวของทีมชาติไทย
(ส่วนชาญณรงค์ พยายามจะเลาะเข้าในเพื่อต่อบอล หาทางทำ แต่ก็ … วันนี้ยังไม่ใช่
จบที่คำเดียวกับศุภณัฏฐ์แหละครับ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไป เขาจะเป็นอนาคตที่เรืองรองของไทยเช่นกัน)
6. เกมรับนัดนี้ไม่ใช่ว่าจัดระเบียบไม่ดีนะครับ
แต่ด้วยมาตรฐานและคุณภาพของอุซเบฯ --- เร็วกว่า คล่องกว่า ทักษะดี และบอลเชื่องเท้า ทำให้ริ้วขบวนของเรา “เปิดเปิง” หมด
1-2 ถือว่าโดนน้อยแล้ว เขาจบไม่เนี้ยบเอง ไม่งั้นจะบานกว่านี้
แบ็กสองข้างของเราเล่นสนุกมากนะครับ บู๊สุดใจแล้ว ทั้งรับทั้งรุก --- ความผิดพลาดในเกมรับมีบ้าง แต่ก็ต้องเข้าใจว่ารับมือยาก
เกมรุกก็พยายามเต็มที่แล้ว ท้ายเกมมิคเกลสันเติมสุดอัตราศึก จะฝ่าจะเลื้อย จะแหวกไปให้ได้ … แต่มันก็แน่นไปหมด จนปัญญา
ธีราทรทำหน้าที่ทั้งต่อเกม เชื่อมเกม และพยายามขึ้นบอลไปข้างหน้า วัดตลอด ซึ่งบอลได้เสีย ถ้ามันจะเสียมากกว่าได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดา … เต็มที่แล้ว
ถ้าจะลุ้น “ดาราเอเชีย” ก็ลุ้นได้นะครับ
คนสุดท้ายที่ติด คือ ดุสิต เฉลิมแสน --- นานมาก ๆ แล้ว
มิคเกลสัน ผมว่ามีลุ้นติดทีมยอดเยี่ยม “เอเชียน คัพ” ได้เหมือนกัน
7. อิชิอิ
อิชิอิ ชื่อนี้ ทำให้เรากล้ามีความหวังถึงสิ่งดีๆ ข้างหน้า
เป็นไปได้ครับ ทุกสิ่งที่เคยยาก มันกลายเป็น “มีโอกาส”
มาได้ไกลแค่นี้ครับ สำหรับเอเชียน คัพ … แต่ “อนาคต” ของทีมชาติไทยในมือของอิชิอิ บินสูงได้กว่านี้แน่ๆ ครับ
ยังมีคัดบอลโลกอยู่นะครับ อย่าลืม
จีนเหรอ
เกาหลีใต้เหรอ
พอเป็น อิชิอิ แล้ว ไม่แน่ครับไม่แน่
เราจะเข้ารอบให้ได้ ดูสิ!
มาลุ้นไปด้วยกันนะครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวไทย