ตำนานสิงโต Mapogo ที่สังหารสิงโตกว่า 100 ตัว เพื่อยึดครองดินแดน Sabi Sand Ep.1 สามารับดูได้ที่ลิ้งนี้
https://pantip.com/topic/42485148
ตำนานสิงโต Mapogo ที่สังหารสิงโตกว่า 100 ตัว เพื่อยึดครองดินแดน Sabi Sand Ep.2 (ตอนจบ)
หลังจากการตายของ Kinky Tail ทำให้ Mr.t ที่ได้รับบาดเจ็บ และ เสียความมั่นใจจากการสูญเสียดินแดน ได้ล่าถอยไปยังยัง เขต Londolozi หนึ่งในพื้นที่ที่มันปกครอง และเป็นถิ่นที่อยู่ของ กลุ่มสิงโตเพศเมีย Tsalala Pride ที่ให้กำเนิดทายาท ของ Mr.T และ Kinky Tail มันยังอยู่ที่นี่นานถึง 2 สัปดาห์ และคำรามเรียกหา Kinky Tail ด้วยเสียงที่เผาเบา อย่างมีความหวังว่า Kinky Tail จะยังคงมีชีวิตอยู่ ต่างจากกลุ่มสิง Majingilane ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจจากการยึดครองดินแดนมาได้ พวกมันได้เดินทางลงใต้ เพื่อติดตาม Mr.T ไปยัง เขต Londolozi ในวันที่ 28-29 มิถุนายน 2010 เพื่อทำภารกิจสุดท้าย คือการ สังหาร Mr.t ผู้เคยครอบครองดินแดน Sabi Sand ตอนเหนือตัวสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ และเข้าปกครองอย่างสมบูรณ์
กลุ่มสิงโตเพศเมีย Tsalala Pride ที่ให้กำเนิดทายาท ของ Mr.T และ Kinky Tail
กลุ่มสิง Majingilane ทั้งสี่ที่ได้เดินทางมาเจอกับ Mr.t อีกครั้งและเข้าปะทะกัน ด้วยแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มสิงโต Majingilane บังคับให้ Mr.T ที่ได้รับบาดเจ็บ ต้องหลบหนี และ ละทิ้งดินแดนทางตะวันออก ข้ามแม่น้ำ กลับไป สมทบกับกลุ่มสิงโต Mapogo พี่ชายทั้ง 4 ของมัน ซึ่ง Mr.T ได้รับการยอมรับให้กลับเข้าฝูง ซึ่งถือเป็นการกลับรวมตัวกันอีกครั้ง ของกลุ่มสิงโต Mapogo ในระหว่างนั้น กลุ่มสิงโต Majingilane ได้เข้ายึดครอง Tsalala Pride ซาลาลา กลุ่มสิงโตเพศเมียที่ถูกปกครองโดย Mr.t และ Kinky ซึ่งการโจมตีในครั้งนี้ ทำให้ กลุ่มสิงโต Tsalala pride ต้องหนีเอาชีวิตรอดกระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง ลูกสิงโต ที่เป็นทายาทของ Mr.t และ Kinky ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ไม่ต่างกับที่ Mr.t เคยทำไว้ในอดีต #วงกลมของชีวิต ซึ่งเป็นกฎตามธรรมชาติของสิงโต ที่ต้องกำจัดทายาทของกลุ่มสิงโตคู่แข่งให้สิ้นซาก
Mr.T ที่กลับไปรวมกลุ่ม กับพี่ชายทั้ง 4 ตัว (Makhulu, Dreadlocks,Pretty Boy,Rasta) Mapogo
แต่ความโหดร้ายนี้ ยังมีความโชคดีอยู่เสมอ ลูกสิงโตเพศเมีย 4 ตัวที่อายุประมาณ1 ปี ลูกสาวของ Mapogo (Mr.t และ KT) ได้หนีเอาชีวิตรอดมาได้ ภายใต้ช่วยเหลือของสิงโตเพศเมียที่มีศักดิ์เป็นยายนามว่า Tsalala Tailless Lionesses (สิงโตเพศเมียของกลุ่ม ซาลาลา ที่ไร้หาง) ในตำนาน ซึ่งในภายหลัง
ลูกสาวของ Mr.t และ KT ถูกเรียกขาน ว่า Tsalala Breakaway Pride หรือ (ความภาคภูมิใจของกลุ่มสิงโตทซาลาลา ที่แตกสลาย)
การครองราชย์ของกลุ่มพันธมิตร Mlowathi/Mapogo Mr.t และ Kinky Tail ในฐานะกลุ่มพันธมิตรที่โดดเด่นทางภาคตะวันออกสิ้นสุดลงแล้ว ส่วนหนึ่งของภาคตะวันออกอยู่ภายใต้การควบคุมของชาย Majingilane ที่อายุน้อยกว่าในปี 2010
Tsalala Tailless Lionesses (สิงโตเพศเมียของกลุ่ม ซาลาลา ที่ไร้หาง) ในตำนาน
ลูกสาวของ Mr.t และ KT ที่รอดชีวิ และ ถูกเรียกขาน ว่า Tsalala Breakaway Pride หรือ (ความภาคภูมิใจของกลุ่มสิงโตทซาลาลา ที่แตกสลาย)
หลังจากการกลับมาของ Mr.t ในดินแดนตะวันตกที่ปกครองโดยพี่ชายทั้ง 4 ตัว แบบไม่มีการนองเลือด แต่กลับเป็น Mr.t เอง ที่นำมาซึ่งความตายแบบไม่คาดคิด เมื่อมันได้ฆ่าลูกสิงโตบางตัวใน ในกลุ่ม Ximhungwe pride (ความภาคภูมิใจซิมฮุงเว) กลุ่มสิงโตเพศเมียที่ถูกปกครองโดย Mapogo ผู้พี่ทั้ง 4 ตัว เนื่องจาก Mr.T ไม่ได้อยู่กับฝูงในเวลานั้น มันจึงไม่ยอมรับว่าลูกสิงโตเหล่านี้เป็นครอบครัวของมัน และเริ่มกำจัดลูกสิงโตโดยสัญชาตญาณ ซึ่งนี้คือเหตุผลที่มันได้รับฉายาว่า Mr.t/Satan (ซาตาน) จากการกระทำที่โหดร้ายกว่าสิงโตตัวอื่นๆ นอกเหนือไปจากนั้น การสังหารลูกสิงโตยังเป็นการปลดพันธะให้สิงโตตัวเมีย สามารถกลับมาผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูกน้อยได้ใหม่ Mr.Tได้แสดงตัวว่าการกลับมาในครั้งนี้ มันต้องการเป็นผู้นำของกลุ่มเหนือมาคูลูโดยที่พี่ชาย ทั้ง 4 ตัว เพิกเฉย และไม่ขัดขวางต่อการกระทำที่โหดร้ายของ Mr.t ในการสังหารลูกสิงโตที่เปรียบเสมือนหลานแท้ๆของมัน
Mr.t ได้สังหาร ลูกสิงโต ของพี่ชายมั้ง 4 ในกลุ่ม Mapogo ที่เปรียบเสมือนหลานแท้ๆของมัน จนมันได้ัยฉายาว่า Satan (ซาตาน)
หลังจากนั้นในวันที่ 9 กรกฎาคมปี 2010 การสูญเสียของกลุ่ม Mapogo ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อกลุ่มสิงโต Mapogo 2 ตัว คือ (Rasta และ Pretty Boy) ได้เดินทางลาดตระเวณไปยังดินแดนตะวันออกในพื้นที่บริเวณ บ้านพักที่ราบช้าง (Elephant Plains Game Lodge) และได้ปะทะกับกลุ่มสิงโต Majingilane ซึ่งไม่มีภาพเหตุการณ์และวีดีโอในการต่อสู้ในครั้งนี้ มีเพียงเสียงคำรามที่ดังก้องเหมือนกับการต่อสู้กันของสิงโต ที่ถูกบันทึกได้จากกล้องวีดีโอที่อยู่ในพื้นที่ และไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น แต่มีการต่อสู้ระหว่าง กลุ่มสิงโต Majingilane 4 ตัว และ กลุ่ม Mapogo 2 ตัว (Rasta และ Pretty Boy) เกิดขึ้นที่นี้อย่างแน่นอน โดยที่สมาชิกของกลุ่มสิงโต Mapogo ตัวที่เหลือ คือ (Makhulu, Dreadlocks, Mr.T) ไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ เนื่องจากพวกเขาไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลจากการต่อสู้ในวันต่อมา
วีดีโอที่ถูกบันทึกได้ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้ยินเสียง การต่อสู้กัน ระหว่าง Mapogo 2 ตัว (Preety Boy,Rasta) กับ Majingilane 4ตัว
หนึ่งหรือสองสัปดาห์ต่อมา Pretty Boy ได้กลับมายังดินแดนตะวันตกเพียงลำพัง และมีอาการบาดเจ็บสาหัสที่กระดูกสันหลัง ส่วน Rasta ไม่มีใครพบเห็นมันอีกเลยตั้งแต่วันนั้น ซึ่งหมายความว่า การต่อสู้กันในคืนนั้น กลุ่มสิงโต Majingilane เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ
Pretty Boy ที่ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสัน หลังกลับมาจากการต่อสู้
ซึ่งต่อมาในเดือนธันวาคมปี 2010 โชคชะตาของพวกมันก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง เมื่อDreadlocks 1 ใน สิงโตที่โดดเด่นและมีอำนาจสูงสุดในกลุ่ม ได้เข้าสู่ช่วงเวลาที่สำคัญ ในวัย 9 ปี ได้มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือยังดินแดนเก่าของมัน และไม่เคยกลับมาอีก
หลังจากที่ Pretty Boy ได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้ Rasta และ Dreadlocks หายตัวไป กลุ่มสิงโต Mapogos เขาก็ไม่เคยท้าทาย Majingilane อีกเลย ซึ่งดูเหมือนว่า Mapogos ที่เหลือทั้ง 3 จะพอใจในพื้นที่ส่วนเล็กๆในอาณาเขตของในแล้ว..
Rasta ที่เดินทางไปยังดินแดนตะวันออก แล้วหายตัวไปตลอดกาล
ตอนนี้สมาชิกของกลุ่มสิงโต Mapogo เหลือเพียง 3 กำลังเข้าสู้วัยเกษียณและต้องอยู่อย่างสงบ Makhulu (มาคูลู) ในวัย 13 ปี มันไม่แข็งแกร่ง และ พร้อมจะต่อสู้ได้เหมือนกับในอดีต Pretty Boy ในวัย10 ปี ที่บอบช้ำกับการต่อสู้ที่แสนสาหัส จนร่างกายไม่ปกติเหมือนเดิม และ Mr.t ในวัย 9 ปี ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยชรา แม้ว่าพวกมันจะสูญเสียสมาชิกไปถึง 3 ตัวในเวลา เพียงไม่กี่เดือน แต่กลุ่มสิงโต Mapogo ก็ยังคงเป็นกลุ่มพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และมีอำนาจสูงสุดในดินแดนตะวันตก
จนกระทั่งการปรากฏตัวของ สิงโตกลุ่มใหม่ ในนาม Selati (เซลาติ) ที่ถือกำเนิดในดินแดนตอนใต้สุดของ ซาบีแซน สิงโตหนุ่ม ที่แข็งแกร่ง 4 ตัว ในวัย 4-5 ปี ซึ่งในตอนแรก กลุ่มสิงโต Selati นั้นมีสมาชิก 5 ตัว แต่ในตอนที่พวกมันเริ่มต้นเดินทางเร่ร่อน ในรูปแบบที่สิงโตหนุ่มทุกตัวต้องทำ มันดันเดินหลงทางเข้าสู่ดินแดนตอนเหนือ ของ กลุ่มสิงโตMajingilane จึงเกิดต่อสู้กันระหว่างสิงโตสองกลุ่ม ส่งผลให้ สิงโตหนุ่ม ในกลุ่ม Selati 1ตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต จนในปี 2012 กลุ่มสิงโต Selati ก็ได้ปรากฎตัวอีกครั้ง ในดินแดนตะวันตกของ Sabi Sand และดูเหมือนว่าการกลับมาในครั้งนี้ พวกมันจะแข็งแกร่งขึ้น และอยู่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการออกเดินทางเพื่อยึดครองดินแดน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกมันมีจุดประสงค์ที่จะพิชิตดินแดนทางตะวันตกจาก กลุ่มสิงโต Mapogo Males Coalition (มาโพโก) มาตลอด แต่ในตอนตอนแรกสิงโตหนุ่มเหล่านี้ยังเกรงกลัวในอำนาจ ของ กลุ่มสิงโต Mapogos ทั้ง 3 ตัว และยังรักษาระยะห่างทุกครั้งที่ได้ยินเสียงคำรามของเจ้าถิ่น แต่ด้วยความที่มันต้องการครอบครอง ดินแดน และกลุ่มสิงโตตัวเมีย ที่อยู่ในการปกครองของกลุ่มสิงโต Mapogo จึงเป็นแรงขับดันให้สิงโตหนุ่มเหล่านี้กล้าที่จะต่อสู้ และเผชิญหน้ากับ กลุ่มสิงโต Mapogo
กลุ่มสิงโต Selati สิงโตหนุ่ม 4 ตัวที่เข้ามาท้าท้าย กลุ่มสิงโต Mapogo เพื่อแย่งชิงดินแดน
ซึ่งการเข้าต่อสู้ในครั้งแรกจบลงโดย Pretty Boy ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง แต่กลุ่มสิงโต Selati (เซลาติ) ยังไม่สามารถ ยึดครอง และขับไล่ กลุ่มสิงโต Mapogo ทั้งสามตัว ออกไปจากดินแดนตะวันตกได้ จนในวันที่ 16 มีนาคม ปี คศ. 2010 กลุ่มสิงโต (เซลาติ) ทั้ง 4 ตัว ได้กลับมาอีกครั้ง และพบกับ Mr. T ที่อยู่เพียงลำพัง ที่บริเวณพื้นที่ อินยาติ Inyati ในดินแดนตะวันตก ซึ่งในวันนั้นกลุ่มสิงโต Selati (เซลาติ) ได้รุมสังหารมิสเตอร์ที่ไร้ทางสู้อย่างโหดเหี้ยม ด้วยบาดแผลลึกทั่วทั้งขาหลังและหน้าท้อง รวมถึงมี รอยกัดขนาดใหญ่ที่กระดูกสัน หลังจนทำให้ Mr.t เป็นอัมพาต และ ตายหลังจากการถูกโจมตีเพียงไม่นาน
การต่อสู้ของกลุ่มสิงโตหนุ่ม Selati 4 ตัว กับ Mr.T และวาระสุดท้ายของ Mr.t
หลังจากพ่ายแพ้ของกลุ่มสิงโต Mapago และการจากไป Mr.T สมาชิกสองตัวที่เหลือของกลุ่มสิงโต Mapogo ที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามก็ถูกลดบทบาทลง การไล่ล่าจากกลุ่มสิงโตหนุ่ม Selati กดดันให้ Makhulu และ Pretty Boy ต้องละทิ้งดินแดนแห่งสุดท้ายทางตะวันตก ให้อยู่ภายใต้การปกครองของ กลุ่มสิงโต Selati ทั้ง 4 ตัว เป็นการสิ้นสุดการครองราชย์ของกลุ่มสิงโต Mapogo อันยิ่งใหญ่ ในเขตอนุรักษ์พันธุ์ซาบีแซนด์ ตลอดระยะเวลา 6 ปี 2006 - 2012
และกลายเป็นสิงโตเร่ร่อน ที่เดินทางไปทั่วเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า Sabi Sand รวมถึง อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงความการปะทะกับกลุ่มสิงโต อื่นๆ ตลอดช่วงระยะเวลา 3-4 เดือน ที่ Makhulu และ Pretty Boy ต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆซ่อนๆ จากการตามล่าของกลุ่มสิงโตหนุ่ม Selati และการถูกไล่ล่าหลายครั้งจึงทำให้ Makhulu และ Pretty Boy ต้องแยกจากกัน จนกระทั่งในวันหนึ่งเมื่อ Makhulu และ Pretty Boy กลับ มารวมตัวกันอีกครั้งและตัดสิ้นใจมุ่งหน้าลงไปทางใต้ พวกมันถูกพบเห็นว่ากำลังเดินทางเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ Kruger ผ่านประตูทางเข้า Paul Kruger ในเช้าวันหนึ่ง!
กลุ่มสิงโต Mapogo สองตัวที่เหลือ (Makulu , Preety Boy) ที่ถูกขับไล่ออกจากดินแดน และกลายเป็นสิงโตเร่ร่อน
สามารถรับชมเรื่องราวของกลุ่มสิงโต Mapogo ตอนจบได้ ผ่านทาง Youtube
ยังมีต่ออีก........
ตำนานสิงโต 🦁 Mapogo ที่สังหารสิงโตกว่า 100 ตัว เพื่อยึดครองดินแดน Sabi Sand (EP.2 จบ)
https://pantip.com/topic/42485148
ตำนานสิงโต Mapogo ที่สังหารสิงโตกว่า 100 ตัว เพื่อยึดครองดินแดน Sabi Sand Ep.2 (ตอนจบ)
หลังจากการตายของ Kinky Tail ทำให้ Mr.t ที่ได้รับบาดเจ็บ และ เสียความมั่นใจจากการสูญเสียดินแดน ได้ล่าถอยไปยังยัง เขต Londolozi หนึ่งในพื้นที่ที่มันปกครอง และเป็นถิ่นที่อยู่ของ กลุ่มสิงโตเพศเมีย Tsalala Pride ที่ให้กำเนิดทายาท ของ Mr.T และ Kinky Tail มันยังอยู่ที่นี่นานถึง 2 สัปดาห์ และคำรามเรียกหา Kinky Tail ด้วยเสียงที่เผาเบา อย่างมีความหวังว่า Kinky Tail จะยังคงมีชีวิตอยู่ ต่างจากกลุ่มสิง Majingilane ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจจากการยึดครองดินแดนมาได้ พวกมันได้เดินทางลงใต้ เพื่อติดตาม Mr.T ไปยัง เขต Londolozi ในวันที่ 28-29 มิถุนายน 2010 เพื่อทำภารกิจสุดท้าย คือการ สังหาร Mr.t ผู้เคยครอบครองดินแดน Sabi Sand ตอนเหนือตัวสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ และเข้าปกครองอย่างสมบูรณ์
กลุ่มสิงโตเพศเมีย Tsalala Pride ที่ให้กำเนิดทายาท ของ Mr.T และ Kinky Tail
กลุ่มสิง Majingilane ทั้งสี่ที่ได้เดินทางมาเจอกับ Mr.t อีกครั้งและเข้าปะทะกัน ด้วยแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มสิงโต Majingilane บังคับให้ Mr.T ที่ได้รับบาดเจ็บ ต้องหลบหนี และ ละทิ้งดินแดนทางตะวันออก ข้ามแม่น้ำ กลับไป สมทบกับกลุ่มสิงโต Mapogo พี่ชายทั้ง 4 ของมัน ซึ่ง Mr.T ได้รับการยอมรับให้กลับเข้าฝูง ซึ่งถือเป็นการกลับรวมตัวกันอีกครั้ง ของกลุ่มสิงโต Mapogo ในระหว่างนั้น กลุ่มสิงโต Majingilane ได้เข้ายึดครอง Tsalala Pride ซาลาลา กลุ่มสิงโตเพศเมียที่ถูกปกครองโดย Mr.t และ Kinky ซึ่งการโจมตีในครั้งนี้ ทำให้ กลุ่มสิงโต Tsalala pride ต้องหนีเอาชีวิตรอดกระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง ลูกสิงโต ที่เป็นทายาทของ Mr.t และ Kinky ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ไม่ต่างกับที่ Mr.t เคยทำไว้ในอดีต #วงกลมของชีวิต ซึ่งเป็นกฎตามธรรมชาติของสิงโต ที่ต้องกำจัดทายาทของกลุ่มสิงโตคู่แข่งให้สิ้นซาก
Mr.T ที่กลับไปรวมกลุ่ม กับพี่ชายทั้ง 4 ตัว (Makhulu, Dreadlocks,Pretty Boy,Rasta) Mapogo
แต่ความโหดร้ายนี้ ยังมีความโชคดีอยู่เสมอ ลูกสิงโตเพศเมีย 4 ตัวที่อายุประมาณ1 ปี ลูกสาวของ Mapogo (Mr.t และ KT) ได้หนีเอาชีวิตรอดมาได้ ภายใต้ช่วยเหลือของสิงโตเพศเมียที่มีศักดิ์เป็นยายนามว่า Tsalala Tailless Lionesses (สิงโตเพศเมียของกลุ่ม ซาลาลา ที่ไร้หาง) ในตำนาน ซึ่งในภายหลัง
ลูกสาวของ Mr.t และ KT ถูกเรียกขาน ว่า Tsalala Breakaway Pride หรือ (ความภาคภูมิใจของกลุ่มสิงโตทซาลาลา ที่แตกสลาย)
การครองราชย์ของกลุ่มพันธมิตร Mlowathi/Mapogo Mr.t และ Kinky Tail ในฐานะกลุ่มพันธมิตรที่โดดเด่นทางภาคตะวันออกสิ้นสุดลงแล้ว ส่วนหนึ่งของภาคตะวันออกอยู่ภายใต้การควบคุมของชาย Majingilane ที่อายุน้อยกว่าในปี 2010
Tsalala Tailless Lionesses (สิงโตเพศเมียของกลุ่ม ซาลาลา ที่ไร้หาง) ในตำนาน
ลูกสาวของ Mr.t และ KT ที่รอดชีวิ และ ถูกเรียกขาน ว่า Tsalala Breakaway Pride หรือ (ความภาคภูมิใจของกลุ่มสิงโตทซาลาลา ที่แตกสลาย)
หลังจากการกลับมาของ Mr.t ในดินแดนตะวันตกที่ปกครองโดยพี่ชายทั้ง 4 ตัว แบบไม่มีการนองเลือด แต่กลับเป็น Mr.t เอง ที่นำมาซึ่งความตายแบบไม่คาดคิด เมื่อมันได้ฆ่าลูกสิงโตบางตัวใน ในกลุ่ม Ximhungwe pride (ความภาคภูมิใจซิมฮุงเว) กลุ่มสิงโตเพศเมียที่ถูกปกครองโดย Mapogo ผู้พี่ทั้ง 4 ตัว เนื่องจาก Mr.T ไม่ได้อยู่กับฝูงในเวลานั้น มันจึงไม่ยอมรับว่าลูกสิงโตเหล่านี้เป็นครอบครัวของมัน และเริ่มกำจัดลูกสิงโตโดยสัญชาตญาณ ซึ่งนี้คือเหตุผลที่มันได้รับฉายาว่า Mr.t/Satan (ซาตาน) จากการกระทำที่โหดร้ายกว่าสิงโตตัวอื่นๆ นอกเหนือไปจากนั้น การสังหารลูกสิงโตยังเป็นการปลดพันธะให้สิงโตตัวเมีย สามารถกลับมาผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูกน้อยได้ใหม่ Mr.Tได้แสดงตัวว่าการกลับมาในครั้งนี้ มันต้องการเป็นผู้นำของกลุ่มเหนือมาคูลูโดยที่พี่ชาย ทั้ง 4 ตัว เพิกเฉย และไม่ขัดขวางต่อการกระทำที่โหดร้ายของ Mr.t ในการสังหารลูกสิงโตที่เปรียบเสมือนหลานแท้ๆของมัน
Mr.t ได้สังหาร ลูกสิงโต ของพี่ชายมั้ง 4 ในกลุ่ม Mapogo ที่เปรียบเสมือนหลานแท้ๆของมัน จนมันได้ัยฉายาว่า Satan (ซาตาน)
หลังจากนั้นในวันที่ 9 กรกฎาคมปี 2010 การสูญเสียของกลุ่ม Mapogo ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อกลุ่มสิงโต Mapogo 2 ตัว คือ (Rasta และ Pretty Boy) ได้เดินทางลาดตระเวณไปยังดินแดนตะวันออกในพื้นที่บริเวณ บ้านพักที่ราบช้าง (Elephant Plains Game Lodge) และได้ปะทะกับกลุ่มสิงโต Majingilane ซึ่งไม่มีภาพเหตุการณ์และวีดีโอในการต่อสู้ในครั้งนี้ มีเพียงเสียงคำรามที่ดังก้องเหมือนกับการต่อสู้กันของสิงโต ที่ถูกบันทึกได้จากกล้องวีดีโอที่อยู่ในพื้นที่ และไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น แต่มีการต่อสู้ระหว่าง กลุ่มสิงโต Majingilane 4 ตัว และ กลุ่ม Mapogo 2 ตัว (Rasta และ Pretty Boy) เกิดขึ้นที่นี้อย่างแน่นอน โดยที่สมาชิกของกลุ่มสิงโต Mapogo ตัวที่เหลือ คือ (Makhulu, Dreadlocks, Mr.T) ไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ เนื่องจากพวกเขาไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลจากการต่อสู้ในวันต่อมา
วีดีโอที่ถูกบันทึกได้ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้ยินเสียง การต่อสู้กัน ระหว่าง Mapogo 2 ตัว (Preety Boy,Rasta) กับ Majingilane 4ตัว
หนึ่งหรือสองสัปดาห์ต่อมา Pretty Boy ได้กลับมายังดินแดนตะวันตกเพียงลำพัง และมีอาการบาดเจ็บสาหัสที่กระดูกสันหลัง ส่วน Rasta ไม่มีใครพบเห็นมันอีกเลยตั้งแต่วันนั้น ซึ่งหมายความว่า การต่อสู้กันในคืนนั้น กลุ่มสิงโต Majingilane เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ
Pretty Boy ที่ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสัน หลังกลับมาจากการต่อสู้
ซึ่งต่อมาในเดือนธันวาคมปี 2010 โชคชะตาของพวกมันก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง เมื่อDreadlocks 1 ใน สิงโตที่โดดเด่นและมีอำนาจสูงสุดในกลุ่ม ได้เข้าสู่ช่วงเวลาที่สำคัญ ในวัย 9 ปี ได้มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือยังดินแดนเก่าของมัน และไม่เคยกลับมาอีก
หลังจากที่ Pretty Boy ได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้ Rasta และ Dreadlocks หายตัวไป กลุ่มสิงโต Mapogos เขาก็ไม่เคยท้าทาย Majingilane อีกเลย ซึ่งดูเหมือนว่า Mapogos ที่เหลือทั้ง 3 จะพอใจในพื้นที่ส่วนเล็กๆในอาณาเขตของในแล้ว..
Rasta ที่เดินทางไปยังดินแดนตะวันออก แล้วหายตัวไปตลอดกาล
ตอนนี้สมาชิกของกลุ่มสิงโต Mapogo เหลือเพียง 3 กำลังเข้าสู้วัยเกษียณและต้องอยู่อย่างสงบ Makhulu (มาคูลู) ในวัย 13 ปี มันไม่แข็งแกร่ง และ พร้อมจะต่อสู้ได้เหมือนกับในอดีต Pretty Boy ในวัย10 ปี ที่บอบช้ำกับการต่อสู้ที่แสนสาหัส จนร่างกายไม่ปกติเหมือนเดิม และ Mr.t ในวัย 9 ปี ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยชรา แม้ว่าพวกมันจะสูญเสียสมาชิกไปถึง 3 ตัวในเวลา เพียงไม่กี่เดือน แต่กลุ่มสิงโต Mapogo ก็ยังคงเป็นกลุ่มพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และมีอำนาจสูงสุดในดินแดนตะวันตก
จนกระทั่งการปรากฏตัวของ สิงโตกลุ่มใหม่ ในนาม Selati (เซลาติ) ที่ถือกำเนิดในดินแดนตอนใต้สุดของ ซาบีแซน สิงโตหนุ่ม ที่แข็งแกร่ง 4 ตัว ในวัย 4-5 ปี ซึ่งในตอนแรก กลุ่มสิงโต Selati นั้นมีสมาชิก 5 ตัว แต่ในตอนที่พวกมันเริ่มต้นเดินทางเร่ร่อน ในรูปแบบที่สิงโตหนุ่มทุกตัวต้องทำ มันดันเดินหลงทางเข้าสู่ดินแดนตอนเหนือ ของ กลุ่มสิงโตMajingilane จึงเกิดต่อสู้กันระหว่างสิงโตสองกลุ่ม ส่งผลให้ สิงโตหนุ่ม ในกลุ่ม Selati 1ตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต จนในปี 2012 กลุ่มสิงโต Selati ก็ได้ปรากฎตัวอีกครั้ง ในดินแดนตะวันตกของ Sabi Sand และดูเหมือนว่าการกลับมาในครั้งนี้ พวกมันจะแข็งแกร่งขึ้น และอยู่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการออกเดินทางเพื่อยึดครองดินแดน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกมันมีจุดประสงค์ที่จะพิชิตดินแดนทางตะวันตกจาก กลุ่มสิงโต Mapogo Males Coalition (มาโพโก) มาตลอด แต่ในตอนตอนแรกสิงโตหนุ่มเหล่านี้ยังเกรงกลัวในอำนาจ ของ กลุ่มสิงโต Mapogos ทั้ง 3 ตัว และยังรักษาระยะห่างทุกครั้งที่ได้ยินเสียงคำรามของเจ้าถิ่น แต่ด้วยความที่มันต้องการครอบครอง ดินแดน และกลุ่มสิงโตตัวเมีย ที่อยู่ในการปกครองของกลุ่มสิงโต Mapogo จึงเป็นแรงขับดันให้สิงโตหนุ่มเหล่านี้กล้าที่จะต่อสู้ และเผชิญหน้ากับ กลุ่มสิงโต Mapogo
กลุ่มสิงโต Selati สิงโตหนุ่ม 4 ตัวที่เข้ามาท้าท้าย กลุ่มสิงโต Mapogo เพื่อแย่งชิงดินแดน
ซึ่งการเข้าต่อสู้ในครั้งแรกจบลงโดย Pretty Boy ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง แต่กลุ่มสิงโต Selati (เซลาติ) ยังไม่สามารถ ยึดครอง และขับไล่ กลุ่มสิงโต Mapogo ทั้งสามตัว ออกไปจากดินแดนตะวันตกได้ จนในวันที่ 16 มีนาคม ปี คศ. 2010 กลุ่มสิงโต (เซลาติ) ทั้ง 4 ตัว ได้กลับมาอีกครั้ง และพบกับ Mr. T ที่อยู่เพียงลำพัง ที่บริเวณพื้นที่ อินยาติ Inyati ในดินแดนตะวันตก ซึ่งในวันนั้นกลุ่มสิงโต Selati (เซลาติ) ได้รุมสังหารมิสเตอร์ที่ไร้ทางสู้อย่างโหดเหี้ยม ด้วยบาดแผลลึกทั่วทั้งขาหลังและหน้าท้อง รวมถึงมี รอยกัดขนาดใหญ่ที่กระดูกสัน หลังจนทำให้ Mr.t เป็นอัมพาต และ ตายหลังจากการถูกโจมตีเพียงไม่นาน
การต่อสู้ของกลุ่มสิงโตหนุ่ม Selati 4 ตัว กับ Mr.T และวาระสุดท้ายของ Mr.t
หลังจากพ่ายแพ้ของกลุ่มสิงโต Mapago และการจากไป Mr.T สมาชิกสองตัวที่เหลือของกลุ่มสิงโต Mapogo ที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามก็ถูกลดบทบาทลง การไล่ล่าจากกลุ่มสิงโตหนุ่ม Selati กดดันให้ Makhulu และ Pretty Boy ต้องละทิ้งดินแดนแห่งสุดท้ายทางตะวันตก ให้อยู่ภายใต้การปกครองของ กลุ่มสิงโต Selati ทั้ง 4 ตัว เป็นการสิ้นสุดการครองราชย์ของกลุ่มสิงโต Mapogo อันยิ่งใหญ่ ในเขตอนุรักษ์พันธุ์ซาบีแซนด์ ตลอดระยะเวลา 6 ปี 2006 - 2012
และกลายเป็นสิงโตเร่ร่อน ที่เดินทางไปทั่วเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า Sabi Sand รวมถึง อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงความการปะทะกับกลุ่มสิงโต อื่นๆ ตลอดช่วงระยะเวลา 3-4 เดือน ที่ Makhulu และ Pretty Boy ต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆซ่อนๆ จากการตามล่าของกลุ่มสิงโตหนุ่ม Selati และการถูกไล่ล่าหลายครั้งจึงทำให้ Makhulu และ Pretty Boy ต้องแยกจากกัน จนกระทั่งในวันหนึ่งเมื่อ Makhulu และ Pretty Boy กลับ มารวมตัวกันอีกครั้งและตัดสิ้นใจมุ่งหน้าลงไปทางใต้ พวกมันถูกพบเห็นว่ากำลังเดินทางเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ Kruger ผ่านประตูทางเข้า Paul Kruger ในเช้าวันหนึ่ง!
กลุ่มสิงโต Mapogo สองตัวที่เหลือ (Makulu , Preety Boy) ที่ถูกขับไล่ออกจากดินแดน และกลายเป็นสิงโตเร่ร่อน
สามารถรับชมเรื่องราวของกลุ่มสิงโต Mapogo ตอนจบได้ ผ่านทาง Youtube
ยังมีต่ออีก........