เสียงเพรียกจากขุนเขา...ดอยหลวงเชียงดาว


       แล้ววันเดินทางก็เริ่มขึ้น....  เราจองการเดินทางขึ้นดอยหลวงเชียงดาวไว้ตั้งแต่ที่เปิดให้จองเมื่อเดือนตุลาคม 66 อยากจะขึ้นดอยกันช่วงต้นเดือนมกราคม 67  ซึ่งทางดอยหลวงเชียงดาวได้จัดการให้ลงทะเบียนสมัครผ่านเว็บไซต์ wildlifesanctuaryfca16.com แต่ไม่สามารถสมัครได้เพราะช่วงต้นเดือนมกราคมมีผู้จองไว้เต็ม เราจึงได้คิวขึ้นดอยในวันที่ 18 มกราคม 67 ต้องมีการอบรมก่อนขึ้นดอยหนึ่งวัน การเดินทางของพวกเราจึงเริ่มต้นในวันที่ 16 มกราคม 67 โดยเที่ยวบินตรงหาดใหญ่ -เชียงใหม่ ของแอร์เอเชีย
     มีอุปสรรคเกิดขึ้นที่สนามบินครับ อาหารสำเร็จรูปพร้อมทานที่เราเตรียมมา ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องเพราะเจ้าหน้าที่ฯแจ้งเป็นของเหลวขนาดบรรจุ เกินกว่า 100ml เราไม่อยากทิ้งไปเฉยๆ เลยขอนำออกมาแล้วให้กับพนักงานทำความสะอาดในสนามบินแล้วกลับเข้าไปใหม่  ของยังได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ และ ยังได้รับคำขอบคุณ !!

       แอร์เอเชียไม่ทำให้เราผิดหวังขึ้นลงตรงเวลาครับ ที่เป็นห่วงว่าน้ำหนักของที่เอาขึ้นเครื่องซึ่ง น่าจะเกิน 7 กิโลกรัมก็ไม่ได้ถูกสุ่มตรวจใดๆ พอถึงสนามบินบริการรถเช่าของ chick car rent ก็เตรียมรถไว้พร้อม ได้เป็นรถtoyota corolla สำหรับ 5 คน  upgradeค่าประกันรถเป็นชั้น 1 รวม 4 วันเป็นเงิน 625 บาท รวมเป็นค่าเช่ารถ 4151 บาท/ 4 วัน
    ถึงสนามบินก็บ่าย 4 โมงครึ่ง ทานอาหารเย็นกันในเมืองเชียงใหม่ออกเดินทางไปยังที่พัก The view เชียงดาวก็ประมาณ2 ทุ่มเศษ บรรยากาศ โรงแรมโดยรวมดูดีมากห้องพักสะอาดสะอ้านแต่วันนี้เราขอนอน 555 .
  ตื่นเช้าออกมาวิ่งสำรวจตลาดเชียงดาว  ทานอาหารเช้าที่ตลาดแล้วออกเดินทางไปจุดชมวิวบ้านระเบียงดาว เพื่อชมวิวดอยเชียงดาว วิวที่cafe  อากาศดีท้องฟ้าเปิดเราจึงได้ภาพสวยๆกันมา  

      ตามแพลนอยากจะไปให้ถึงเมืองคอง แต่ดูเวลาแล้วเราน่าจะไม่พอเพราะต้องมารายงานตัวและอบรมก่อนขึ้นดอยในเวลา 13:00 น. เราจึงเดินทางกลับมาเช็คอินกับถนนต้นยางใหญ่ ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวสนใจถ่ายรูปกันมากจนถึงกับมีป้ายข้างถนนเตือนผู้ขับขี่ให้ระวังนักท่องเที่ยว เอาไว้ด้วย 

        การอบรมนักท่องเที่ยวจัดขึ้นที่อาคารอเนกประสงค์วัดถ้ำเชียงดาว ในวันนั้นมีผู้เข้าอบรม 62 คน โดยที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีคนสมัครมาขึ้นเขาไว้ 71 คน สรุปคือเราจะขึ้นเขากันได้เพียง 62 คนที่เหลือน่าจะแปลว่าสละสิทธิ์  ได้ความรู้จากการอบรมมากพอสมควร
ทำให้ทราบว่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าต่างกับอุทยานแห่งชาติตรงที่ไม่สามารถจะจัดกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการได้ ...พวกเราจึงไม่ใช่นักท่องเที่ยวแต่เราเป็นนักศึกษาธรรมชาติ ต้องได้รับการอบรม โดยวิทยากรที่อบรมให้พวกเราก็คือผู้สื่อความหมายธรรมชาติ เนื้อหาการอบรม จะทำให้เรามีความเข้าใจเกี่ยวกับ chiengdow biosphere  การจัดการดูแล พื้นที่ ชีวมณฑล highlight คือ ข้อแนะนำวิธีเตรียมและวิธีปฏิบัติตัว เพื่อขึ้นสู่ยอดดอย โดยสรุปคือเราต้องไม่ทำลายธรรมชาติ โดยจะไม่ทิ้งขยะใดๆไว้เลย ทุกคนจะต้องจ่ายค่ามัดจำขยะ 500 บาท ถ้าสิ่งของที่นำลงมาครบตามที่เอาขึ้นไปก็จะได้เงินค่ามัดจำขยะคืน  น้ำที่เกิดจากพวกเราจะต้องใส่ในถุงที่ย่อยสลายเองได้ภายใน 70 วัน แล้วทิ้งไว้ในหลุมเพื่อรอการฝังกลบ การถ่ายปัสสาวะอุจจาระก็เช่นเดียวกัน โดย สามารถเอาถุงเข้าไปวางใต้ที่รองนั่งซึ่งเหมือนที่นั่งชักโครก  แล้วนำถุงนั้นไปทิ้งไว้ในหลุมฝังกลบหลังจากผูกปิดถุงไว้เรียบร้อย....ห้องสุขาก็น่าจะดูดีกว่าดอยช้างเผือกที่เราเคยไปกันมา ..ที่หลุมฝังกลบก็จะไม่มีกลิ่น เพราะของทุกคนก็จะอยู่กันในถุงอย่างเป็นส่วนตั๊วส่วนตัว . ทิชชู่เปียกและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่อนุญาตให้นำขึ้นไป ทางอุทยานจะมีทิชชู่ห่อให้คนละ 3 ห่อถุงย่อยสลายคนละ 8 ใบ...เหลือเฟือครับไปค้างแค่วันเดียว ผมเตรียมชุดอาบน้ำแห้งแบบที่ใช้กับคนติดเตียงมาจึงเอาขึ้นไปไม่ได้ครับ เอาไปได้แค่ผ้าเช็ดตัวเล็กๆ 1 ผืน ..เรื่องอาบน้ำไม่ต้องพูดถึง .

        เช้าวันขึ้นดอย เราต้องมาทำการเช็คอินก่อนเวลา 9:00 น
จ่ายค่าธรรมเนียมเข้าพื้นที่และ
เจ้าหน้าที่จะให้เราเบิกอุปกรณ์ที่เราจองมาหรือสิ่งที่เราจองเพิ่มเติม พร้อมกับจ่ายเงิน ในส่วนเกินจากที่จ่ายไว้แล้ว (จ่ายค่ารถและค่าธรรมเนียมกับค่าเช่าอุปกรณ์เบื้องต้นและ ค่าเหมารถใน web ไว้แล้ว
เฉลี่ยคนละ 1950 บาท )  หลังจากนั้นก็จะไปตรวจสอบสิ่งที่จะเอาขึ้นไปบนดอย ลงทะเบียนนับจำนวนสิ่งที่จะเป็นขยะโดยแบ่งเป็นประเภทเช่นขวดน้ำพลาสติก บรรจุภัณฑ์สำเร็จรูปถุงพลาสติก ...แล้วต้องไปเจอกับลูกหาบชั่งของที่ฝากลูกหาบ โดยคิดค่าบริการ 70 บาทต่อ กิโลกรัม  ของพวกเราใช้ลูกหาบเหมา 3 คน  ลูกหาบ1 คนสามารถแบกน้ำหนักได้ 21 กิโลกรัมค่าบริการขึ้นและลง 1470 บาท ต่อคน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยพวกเราก็ขึ้นรถโฟวิลพร้อมด้วยลูกหาบและข้าวของสัมภาระ เพื่อเดินทางไปยังจุดเริ่มต้นของการเดินเท้า ...หน่วยเด่นหญ้าขัด เส้นทางถนนส่วนใหญ่จะเป็นถนนดินลูกรัง จะค่อยไต่ระดับตามไหล่เขาขึ้นไปจนถึงระดับความสูง 1390 เมตรจากระดับน้ำทะเล

       ที่หน่วยเด่นหญ้าขัดนี้เราโชคดีได้เห็นดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานต้อนรับ ถึงกับทำให้หายเมื่อยจากการเขย่าของโฟวีลที่นั่งขึ้นมา ที่ตรงนี้เราเข้าห้องน้ำแบบปกติครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นดอย พร้อมกับเช็คชื่อขึ้นดอยกับพี่เจ้าหน้าที่ แล้วก็เริ่มลุยกันล่ะครับเป้าหมายคืออ่างฉลุงอีก 8.5  กิโลเมตรข้างหน้า กับความสูง 1990 เมตร

       ในช่วงแรกของการเดิน จะเป็นการเดินขึ้นเนินเตี้ยๆ
แล้วทะลุเข้าป่าสนเขา สูงใหญ่สมบูรณ์สวยงามสลับกับป่าเบญจพรรณ  ทางเดินไม่ได้ลาดชันมากนักจึงเป็นการเดินที่ค่อนข้างสบาย ทางเดินส่วนใหญ่เป็นทางแคบๆกว้างแค่เพียง 1 คนเดิน ถ้าจะแซงก็ต้องหลบกัน คำพูดให้แซง คำพูดขอบคุณเมื่อได้แซงจึงเป็นคำพูดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ที่มาปีนเขารู้จักกัน ระหว่างทางจะมี"ดอก QR code" พวกเราเรียกกันอย่างนั้นเพราะลักษณะเป็นเสาไม้ด้านบนจะมีแผ่นเหล็กมีภาพQR code ไว้ให้ scan เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งที่น่าสนใจบริเวณนั้น ซึ่งในช่วงแรกๆกลุ่มยังไม่หลุดห่างกันไป มาก เราจะรวมกลุ่มกันฟังจากนักสื่อความหมายธรรมชาติ มีมุกเล็กๆหยอดให้ได้ขำกัน และก็เป็นจุดหนึ่งที่ได้มีการแลกเปลี่ยนและเพิ่มเติมความสัมพันธ์ของนักศึกษาธรรมขาติแบบเรา แต่เมื่อระยะทางยาวขึ้น หลายคนก็เริ่มทิ้งช่วงห่างกันตามจังหวะการเดินของแต่ละคน ห่างจากนักสื่อความหมายธรรมชาติ การเรียนรู้ในจุดต่างก็จะเกิดขึ้นได้จากการscan QR code น่าเสียดายที่แอปที่ลงมาถ้าเป็นแอนดรอยจะไม่สามารถใช้ได้ คงยังใช้ได้เฉพาะของ IOS   คิดไปก็มีข้อดีเหมือนกันทำให้คนที่ใช้ Androidได้มีโอกาสทำความรู้จักทักทายกับเพื่อนนักเดินป่าที่ใช้ IPhone ซึ่งมีระบบ IOS ที่เดินมาอยู่ใกล้ในจุดที่ต้องอ่าน QR code บางช่วงเราต้องผ่านเข้าไปในป่าดิบชื้น ฃึ่งทางเดินอาจจะเป็นดินที่ลื่น ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินมาก พรรณไม้ข้างทางจะมี กลุ่มเฟิร์น ไม้ดอกเล็กๆ ไม้ที่มีดอกช่อ  และ ในหุบระหว่างเขาแต่ละลูก  เรามักจะได้เห็นดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานให้ชื่นใจ ในทางเดินช่วงแรกๆก่อนที่จะถึงสามแยกปางวัว  





      สามแยกปางวัวเป็นจุดพักที่ทำไว้เป็น shelter  เราได้ทาน เที่ยงกันที่นั่น มีห้องน้ำให้ใช้แต่ก็เป็นห้องน้ำที่เราต้องขับถ่ายใส่ถุงย่อยสลายเช่นเดียวกับห้องน้ำในจุดอื่นๆบนดอยนี้  จุดนี้ก็เป็นอีกจุดที่ทำให้นักปีนได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนเล่าประสบการณ์การปีนเขาและให้กำลังใจกันและกัน
กินอาหารกินน้ำกันเสร็จ ร่างกายก็พร้อมที่จะปีนกันอีกครั้ง

[img]https://f.
    เลยจากสามแยกปางวัวออกมาไม่นานนัก เราก็จะออกมาเดินอยู่ในพื้นที่โล่งระหว่างยอดเขาสามพี่น้อง ยอดเขาปิระมิดและเขานางนอน ส่วนยอดดอยเชียงดาวนั้นไม่สามารถมองเห็นได้จากทางเดิน ช่วงนี้ท้องฟ้าเปิด เราจึงเห็นทิวทัศน์ได้อย่างสวยงาม  อากาศก็สดชื่นกำลังดี   เดินกันไปได้อย่าง เพลิดเพลิน  แล้วเราก็ได้เห็น หินฟอสซิลเปลือกหอย ซึ่งน่าจะใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่าพื้นที่นี้เคยเป็นทะเลที่ยกตัวขึ้นมา  เลยไปอีกหน่อยก็เจอกับหินรูปเต่า ซึ่งก็ต้องบอกว่าเหมือนจริงๆ   ทางเดินต่อไปนำเราเข้าไปสู่ป่าดิบชื้น รู้สึกได้ถึงความเย็น เดินเลาะผ่านป่าดิบชื้นออกมา ลานกางเต๊นท์อ่างฉลุง ก็อยู่ตรงหน้า 55 ดีใจสุดๆ




     ที่ลานกางเต๊นท์มีอยู่หลายโซน   เราเลือกโซนที่มีเต๊นท์จัดไว้แล้วและมีพื้นที่ว่างพอที่เราจะวางเต๊นท์ที่เรานำขึ้นมากางใกล้ๆกันได้  ลูกหาบกาง เต๊นท์ของเราให้อย่างชำนาญ เราจึงได้พักผ่อนกันเกือบ 1 ชั่วโมงก่อนจะมุ่งหน้าไปสู่ยอดดอยหลวงเชียงดาว เพื่อชมพระอาทิตย์ตก

    ทางเดินจากจุดกางเต็นท์อ่างฉลุงขึ้นไปสู่ยอดดอยเชียงดาวซึ่งสูง 2225 เมตร เป็นทางลาดชันและเป็นเขาหินปูนบางช่วงมีเชือกให้จับเพื่อช่วยดึงตัวขึ้นไป  เรียกเหงื่อเราได้ดีทีเดียวทั้งที่อุณหภูมิตอนนั้นก็ประมาณ 14 C 



    พอขึ้นไปถึงยอดดอยหลวงเชียงดาวเรายังมีเวลาถ่ายรูปเล่นกันอีกเกือบชั่วโมงก่อนที่พระอาทิตย์จะตก แต่ละคนน่าจะได้รูปกันเกือบร้อยรูป และช่วงที่กำลังปีนขึ้นยอดดอยหลวงเชียงดาวช่วงนี้เองที่เราได้เห็นกวางผา 2 ตัวยืนโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนภูเขาหินปูนไกลๆ   บนยอดดอย ลมค่อนข้างแรง แสงอาทิตย์สีแดงส้มกับยอดเขาสามพี่น้องสีเขียวเข้มดูเข้ากันดี  การได้นั่งเฉยๆแล้วมองดูพระอาทิตย์ตกในทิวทัศน์เช่นนี้ทำให้รู้สึกดีมากแต่ก็นั่นแหละรู้สึกได้เลยว่าถ้ามีกาแฟอุ่นๆสักแก้วดื่มไปด้วยก็น่าจะดี จึงขอแนะนำคอกาแฟที่จะมาขึ้นดอยหลวงเชียงดาว เมื่อขึ้นมาถึงลานกางเต๊นท์อ่างฉลุง ให้รีบต้มน้ำร้อนชงกาแฟใส่กระติกเพื่อจะได้นำขึ้นมาบนยอดดอยพร้อมกับสิ่งจำเป็นที่ต้องเอาขึ้นมาคือ น้ำ เสื้อหนาวและไฟฉาย  แล้วพระอาทิตย์ก็ตกเรียบร้อย ความมืดแผ่เข้ามาพร้อมกับลมหนาวพวกเราค่อยๆทยอยกันเดินลงจากยอดดอย ด้วยความยากลำบาก ไฟฉายที่ติดกับศีรษะนับว่ามีประโยชน์มาก มองขึ้นไปทางยอดดอยที่ไต่ลงมา ความมืดทำให้ดวงดาวที่อยู่เต็มฟ้าสว่างเด่นชัด และรู้สึกเหมือนว่าจะมีขนาดโตขึ้นกว่าที่เคยดูเมื่ออยู่พื้นราบด้านล่าง











  
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่