คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
1. สัญญาจ้างแรงงาน มีลักษระเป็นสัญญาต่างตอบแทน โดยลูกจ้างมีหน้าที่ทำงานเพื่อตอบแทนค่าจ้างที่ได้รับ ส่วนนายจ้างก็มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างเพื่อตอบแทนการทำงานของลูกจ้าง
2. พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
โดยตามมาตรา 70 กำหนดให้นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างให้ถูกต้องและตามกำหนดเวลา
และมาตรา 76 ห้ามนายจ้างหักค่าจ้างของลูกจ้าง เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 76 (1) - (5)
3. ป.พ.พ. มาตรา 150 บัญญัติว่า การขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน การนั้นเป็นโมฆะ
ดังนั้น การที่นายจ้างกำหนดว่าถ้าลูกจ้างไม่ลาออกล่วงหน้า หรือลาออกไม่ถูกต้อง จะไม่จ่ายค่าจ้าง จึงเป็นการขัดต่อ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน กฎของนายจ้างดังว่านั้น ก็ใช้บังคับไม่ได้
ไม่ว่าลูกจ้างจะลาออกไม่ถูกต้องหรือเกิดความเสียหายอย่างไร นายจ้างก็ไม่มีสิทธิไม่จ่ายหรือหักค่าจ้าง
4. การที่นายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างให้ถูกต้องและตามกำหนดเวลา ต้องระวางโทษอาญาตามมาตรา 144
ลูกจ้างสามารถฟ้องศาลแรงงานหรือยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานก็ได้ แล้วแต่จะเลือก
5. การที่ลูกจ้างไม่แจ้งลาออก หรือแจ้งน้อยกว่าที่ตกลงกัน ถือเป็นการผิดสัญญาจ้าง ซึ่งหากนายจ้างเกิดมีความเสียหาย นายจ้างก็มีสิทธิฟ้องศาลแรงงานเพื่อเรียกค่าเสียหายนั้นได้
6. ถ้าใครบอกว่านายจ้างจะต้องพิสูจน์ความเสียหายจึงจะฟ้องได้ นั้น ไม่จริง
เพราะศาลแรงงานไม่มีกระบวนการไต่สวนมูลฟ้องก่อนการรับฟ้อง
ดังนั้น ในวันที่ยื่นคำฟ้อง รวมถึงวันนัดไกล่เกลี่ยและวันนัดกำหนดประเด็นข้อพิพาท นายจ้างยังไม่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงใด ๆ
นายจ้างเสียหายหรือไม่ อย่างไร ไปว่ากล่าวกันในวันนัดสืบพยาน ซึ่งเป็นนัดหลังจากวันนัดไกล่เกลี่ย วันนัดกำหนดประเด็นข้อพิพาท ดังนั้น เท่ากับว่าลูกจ้างจะต้องเสียเวลาไปศาลแล้วอย่างน้อย 2 นัด
FYI
#ไม่โลกสวย #ไม่เข้าข้างใคร
2. พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
โดยตามมาตรา 70 กำหนดให้นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างให้ถูกต้องและตามกำหนดเวลา
และมาตรา 76 ห้ามนายจ้างหักค่าจ้างของลูกจ้าง เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 76 (1) - (5)
3. ป.พ.พ. มาตรา 150 บัญญัติว่า การขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน การนั้นเป็นโมฆะ
ดังนั้น การที่นายจ้างกำหนดว่าถ้าลูกจ้างไม่ลาออกล่วงหน้า หรือลาออกไม่ถูกต้อง จะไม่จ่ายค่าจ้าง จึงเป็นการขัดต่อ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน กฎของนายจ้างดังว่านั้น ก็ใช้บังคับไม่ได้
ไม่ว่าลูกจ้างจะลาออกไม่ถูกต้องหรือเกิดความเสียหายอย่างไร นายจ้างก็ไม่มีสิทธิไม่จ่ายหรือหักค่าจ้าง
4. การที่นายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างให้ถูกต้องและตามกำหนดเวลา ต้องระวางโทษอาญาตามมาตรา 144
ลูกจ้างสามารถฟ้องศาลแรงงานหรือยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานก็ได้ แล้วแต่จะเลือก
5. การที่ลูกจ้างไม่แจ้งลาออก หรือแจ้งน้อยกว่าที่ตกลงกัน ถือเป็นการผิดสัญญาจ้าง ซึ่งหากนายจ้างเกิดมีความเสียหาย นายจ้างก็มีสิทธิฟ้องศาลแรงงานเพื่อเรียกค่าเสียหายนั้นได้
6. ถ้าใครบอกว่านายจ้างจะต้องพิสูจน์ความเสียหายจึงจะฟ้องได้ นั้น ไม่จริง
เพราะศาลแรงงานไม่มีกระบวนการไต่สวนมูลฟ้องก่อนการรับฟ้อง
ดังนั้น ในวันที่ยื่นคำฟ้อง รวมถึงวันนัดไกล่เกลี่ยและวันนัดกำหนดประเด็นข้อพิพาท นายจ้างยังไม่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงใด ๆ
นายจ้างเสียหายหรือไม่ อย่างไร ไปว่ากล่าวกันในวันนัดสืบพยาน ซึ่งเป็นนัดหลังจากวันนัดไกล่เกลี่ย วันนัดกำหนดประเด็นข้อพิพาท ดังนั้น เท่ากับว่าลูกจ้างจะต้องเสียเวลาไปศาลแล้วอย่างน้อย 2 นัด
FYI
#ไม่โลกสวย #ไม่เข้าข้างใคร
แสดงความคิดเห็น
แจ้งลาออกไม่ถึง1เดือน ไม่จ่ายเงินทุกกรณี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้