ทำไม HR ถูกมองเป็น ‘มารร้าย’
ในความคิดของใครหลายคน
บทความโดย ‘โน้ต-ศรัณย์ คุ้งบรรพต’
.
เมื่อพูดถึงบทบาทของ HR (Human Resources) หรือ ฝ่าย บุคคล หรือ ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ใครหลายคนก็จะมีภาพที่แตกต่างกันไป และตีความบทบาทของ HR กันไปหลากหลายมาก แทบจะมากกว่างานแบบอื่นๆเลยก็ว่าได้
.
เพราะถ้าพูดถึง ‘ฝ่ายขาย’ คนจะเข้าใจทันที พอพูดถึง’การตลาด’ คนก็จะมีภาพที่ใกล้เคียงกันทันที หรือแม้แต่ ‘ฝ่ายกฎหมาย’ ก็จะพอนึกออกว่าไม่พ้นเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล
.
แต่พอมาถึงงาน HR เอ๊ะ ทำไม มันถึงเข้าใจยากจัง
.
พอลองมองเข้าไปที่ตัวคำ Human + Resource หลายคนก็คงจะพอเดาได้ว่า มันหนีไม่พ้นเรื่อง “คน...ในฐานะที่เป็น ทรัพยากรขององค์กร”
.
แต่การแปลความว่า เกี่ยวกับ ‘คน’ นี่แหละ มันเลยยากมาก เพราะ ‘คน’ มีหลากหลายเรื่องราวที่สุด และน่าปวดหัวที่สุดในบรรดาทุกเรื่องขององค์กร
.
ถ้าจะให้เล่าบทบาทของ HR ในบทความเดียวนี้ คงเล่าได้ไม่หมด เพราะในบางมหาวิทยาลัย เขาเรียนเรื่อง HR กันได้เป็นเดือนๆ ปีๆ
.
แต่วันนี้ ขอเล่าถึงบางเรื่องเพียงว่า เหตุที่คนอาจจะมีมุมมองที่ไม่ตรงนักกับความเป็น HR
.
ซึ่งก็คือ ‘มารร้าย’ ในองค์กร...เอ๊ะ นั่นน่ะสิ ทำไมนะ มาฟังที่มากัน
.
บทบาทของ HR เราดีลกับคน จัดการเรื่องคนแทนองค์กร ตั้งแต่การจ้างคน การดูแลและพัฒนาคน รวมไปถึง การบอกลากัน
.
ไม่ว่าจะด้วยรูปแบบใด ทั้งหมดผ่านการดูแลและสนับสนุนของ HR และทั้งหมดเป็นเรื่องยาก ต้องอาศัยศิลปะ และอีกหลายฝ่ายในองค์กรไม่อยากทำ
.
เพราะอย่างที่บอก เรื่องคน คือเรื่องน่าปวดหัว และเมื่อ HR ต้องมาจัดการเรื่องเหล่านี้ แน่นอน มันคือการเอาหน้าไปแปะเอาไว้ว่า ”ฉันนี่แหละ ยัยตัวร้าย“ ที่จัดการเรื่องเหล่านี้
.
แต่ต้องไม่ลืมว่า ไม่ใช่ทั้งหมดของกระบวนการ ที่ HR สามารถตัดสินใจได้เอง แทบทุกการตัดสินใจสำคัญๆ เรื่องคน ‘ควร’ และ ‘ต้อง’ มาจาก ผู้บริหาร และ หรือ หัวหน้างาน ของพนักงาน
.
แต่ก็อีกนั่นแหละ ในหลายครั้ง ที่เราก็ไม่ได้โชคดี ที่จะมีผู้นำที่กล้าตัดสินใจ กล้ายืดอกรับกระสุน หรือออกมาบอกกับทุกคนว่า “ฉันนี่แหละ คือ invisible hand"
.
เพราะส่วนใหญ่ หัวหน้างานก็อยากเป็นพระเอก นางเอก ในหัวใจลูกน้องเท่านั้น เรื่องไม่ดีทั้งหลาย จึงถูกมองว่า มาจาก “นัง HR" ตัวดี ที่มันมาทำร้ายพนักงาน
.
บางบทบาทใหญ่ๆ ของ HR ที่เฉพาะเจาะจงมากๆ ที่เกี่ยวกับมาตรการการจัดการคน ในด้านที่คนไม่ชอบนัก เช่น งานวินัย งานแรงงานสัมพันธ์ และงานที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ซึ่งเป็นปากท้องของคน ทั้งหมด ทำผ่าน HR ภาพของครูระเบียบ ป้าเป๊ะ หรือ ผู้คุ้มกฎ จึงพ่วงมากับความเป็น HR อย่างไม่ต้องสงสัย
.
คนที่ไม่เข้าใจบทบาท อย่างที่กล่าวไปในข้อแรก ก็จะเกิดอาการ ”ตีขลุม“ ว่า HR คือ คนที่รับบทคนจับผิด คนตรวจเวลาเข้าออก หรือ ร้ายที่สุด นังคนคอยหักเงินเดือน นังคนกดโบนัส
.
ซึ่งทั้งหมด ถ้าลองคิดดีๆ จะพบว่า HR ตัดสินใจทั้งหมด และลงมือทำเองแบบตามใจชอบไม่ได้ เช่น โบนัสน้อย แต่ HR โดนวีน ขึ้นเงินเดือนน้อย HR โดนโจมตีก่อนใคร ลงโทษคนเด็ดขาด HR ก็จะโดนมองว่า ทำเกินไปเสมอ ทั้งนี้ทั้งนั้น ย้อนกลับไปอ่านข้อแรก แล้วจะพบความจริงบางอย่าง ก่อนชี้นิ้ววีน HR ในบริษัทตนเอง
.
ท้ายที่สุด มันคือความเป็นผู้คุม และ การให้แนวทางในการปฏิบัติในหลายเรื่อง ที่คนในองค์กรต้องการความเป็นอิสระ เช่น การใช้เงินจ้างคน การใช้เงินไป Outing การจ้างคนได้มากน้อยและการควบคุมอัตรากำลังคน
.
บทบาทนี้ ในหลายๆ องค์กร HR คุม ซึ่งมันขัดแย้งกับ “ความอยาก และ ปากท้อง” ของคน ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือ การคุมกำลังคน ที่พนักงาน และหัวหน้าทีมก็อยากมีทีมเยอะๆ เพราะอยากกระจายงาน ไม่ให้ Load เกินไป
.
แต่ยัย HR นี่แหละ ที่ต้องคอยไปขัดแข้งขัดขา ไปบอกเขาว่า “ไม่ได้นะครับ คนพี่เต็มแล้ว” หรือ “ขอโทษนะครับ อัตรากำลังของพี่โดนตัดครับ เพราะตอนนี้องค์กรเราโดนลดหรือกำลังคุมจำนวนพนักงานอยู่”
.
ใครจะถูกมองว่าเป็นคนร้ายคนแรก??? แน่นอน หนีไม่พ้น HR
.
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น HR ที่ดี ต้องไม่ฉวยโอกาสแสดงความร้ายกาจ หรือทำตามใจตนเอง หรือ กลายเป็นพวกบ้าอำนาจ
.
ตรงกันข้ามก็ต้องสื่อสาร มีความยืดหยุ่น และหาความสมดุลให้ได้ แม้บทบาทที่ถืออยู่ อาจจะท้าทาย และ มีความเสี่ยงที่จะให้คนเข้าใจผิด ก็ยิ่งต้องสร้างความเข้าใจในเชิงบวก และ ถูกต้องให้พนักงานกระจ่าง และก็ต้องไม่เหลิงลอยไปกับ ภาพลักษณ์ว่าฉันมีอำนาจ ใหญ่โต และ คุมเกมส์
.
เพราะจริงๆ แล้ว หน้าที่ของ HR ถ้าจะสรุปได้ในประโยคเดียวคือ
.
”สนับสนุนให้องค์กรและพนักงาน สำเร็จ ก้าวหน้า เติบโต ในบทบาทงานขององค์กรอย่าง เป็นสุข และ เป็นธรรม“
.
บทความโดย ‘โน้ต-ศรัณย์ คุ้งบรรพต’
ทำไม HR ถูกมองเป็น ‘มารร้าย’ ในความคิดของใครหลายคน
ในความคิดของใครหลายคน
บทความโดย ‘โน้ต-ศรัณย์ คุ้งบรรพต’
.
เมื่อพูดถึงบทบาทของ HR (Human Resources) หรือ ฝ่าย บุคคล หรือ ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ใครหลายคนก็จะมีภาพที่แตกต่างกันไป และตีความบทบาทของ HR กันไปหลากหลายมาก แทบจะมากกว่างานแบบอื่นๆเลยก็ว่าได้
.
เพราะถ้าพูดถึง ‘ฝ่ายขาย’ คนจะเข้าใจทันที พอพูดถึง’การตลาด’ คนก็จะมีภาพที่ใกล้เคียงกันทันที หรือแม้แต่ ‘ฝ่ายกฎหมาย’ ก็จะพอนึกออกว่าไม่พ้นเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล
.
แต่พอมาถึงงาน HR เอ๊ะ ทำไม มันถึงเข้าใจยากจัง
.
พอลองมองเข้าไปที่ตัวคำ Human + Resource หลายคนก็คงจะพอเดาได้ว่า มันหนีไม่พ้นเรื่อง “คน...ในฐานะที่เป็น ทรัพยากรขององค์กร”
.
แต่การแปลความว่า เกี่ยวกับ ‘คน’ นี่แหละ มันเลยยากมาก เพราะ ‘คน’ มีหลากหลายเรื่องราวที่สุด และน่าปวดหัวที่สุดในบรรดาทุกเรื่องขององค์กร
.
ถ้าจะให้เล่าบทบาทของ HR ในบทความเดียวนี้ คงเล่าได้ไม่หมด เพราะในบางมหาวิทยาลัย เขาเรียนเรื่อง HR กันได้เป็นเดือนๆ ปีๆ
.
แต่วันนี้ ขอเล่าถึงบางเรื่องเพียงว่า เหตุที่คนอาจจะมีมุมมองที่ไม่ตรงนักกับความเป็น HR
.
ซึ่งก็คือ ‘มารร้าย’ ในองค์กร...เอ๊ะ นั่นน่ะสิ ทำไมนะ มาฟังที่มากัน
.
บทบาทของ HR เราดีลกับคน จัดการเรื่องคนแทนองค์กร ตั้งแต่การจ้างคน การดูแลและพัฒนาคน รวมไปถึง การบอกลากัน
.
ไม่ว่าจะด้วยรูปแบบใด ทั้งหมดผ่านการดูแลและสนับสนุนของ HR และทั้งหมดเป็นเรื่องยาก ต้องอาศัยศิลปะ และอีกหลายฝ่ายในองค์กรไม่อยากทำ
.
เพราะอย่างที่บอก เรื่องคน คือเรื่องน่าปวดหัว และเมื่อ HR ต้องมาจัดการเรื่องเหล่านี้ แน่นอน มันคือการเอาหน้าไปแปะเอาไว้ว่า ”ฉันนี่แหละ ยัยตัวร้าย“ ที่จัดการเรื่องเหล่านี้
.
แต่ต้องไม่ลืมว่า ไม่ใช่ทั้งหมดของกระบวนการ ที่ HR สามารถตัดสินใจได้เอง แทบทุกการตัดสินใจสำคัญๆ เรื่องคน ‘ควร’ และ ‘ต้อง’ มาจาก ผู้บริหาร และ หรือ หัวหน้างาน ของพนักงาน
.
แต่ก็อีกนั่นแหละ ในหลายครั้ง ที่เราก็ไม่ได้โชคดี ที่จะมีผู้นำที่กล้าตัดสินใจ กล้ายืดอกรับกระสุน หรือออกมาบอกกับทุกคนว่า “ฉันนี่แหละ คือ invisible hand"
.
เพราะส่วนใหญ่ หัวหน้างานก็อยากเป็นพระเอก นางเอก ในหัวใจลูกน้องเท่านั้น เรื่องไม่ดีทั้งหลาย จึงถูกมองว่า มาจาก “นัง HR" ตัวดี ที่มันมาทำร้ายพนักงาน
.
บางบทบาทใหญ่ๆ ของ HR ที่เฉพาะเจาะจงมากๆ ที่เกี่ยวกับมาตรการการจัดการคน ในด้านที่คนไม่ชอบนัก เช่น งานวินัย งานแรงงานสัมพันธ์ และงานที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ซึ่งเป็นปากท้องของคน ทั้งหมด ทำผ่าน HR ภาพของครูระเบียบ ป้าเป๊ะ หรือ ผู้คุ้มกฎ จึงพ่วงมากับความเป็น HR อย่างไม่ต้องสงสัย
.
คนที่ไม่เข้าใจบทบาท อย่างที่กล่าวไปในข้อแรก ก็จะเกิดอาการ ”ตีขลุม“ ว่า HR คือ คนที่รับบทคนจับผิด คนตรวจเวลาเข้าออก หรือ ร้ายที่สุด นังคนคอยหักเงินเดือน นังคนกดโบนัส
.
ซึ่งทั้งหมด ถ้าลองคิดดีๆ จะพบว่า HR ตัดสินใจทั้งหมด และลงมือทำเองแบบตามใจชอบไม่ได้ เช่น โบนัสน้อย แต่ HR โดนวีน ขึ้นเงินเดือนน้อย HR โดนโจมตีก่อนใคร ลงโทษคนเด็ดขาด HR ก็จะโดนมองว่า ทำเกินไปเสมอ ทั้งนี้ทั้งนั้น ย้อนกลับไปอ่านข้อแรก แล้วจะพบความจริงบางอย่าง ก่อนชี้นิ้ววีน HR ในบริษัทตนเอง
.
ท้ายที่สุด มันคือความเป็นผู้คุม และ การให้แนวทางในการปฏิบัติในหลายเรื่อง ที่คนในองค์กรต้องการความเป็นอิสระ เช่น การใช้เงินจ้างคน การใช้เงินไป Outing การจ้างคนได้มากน้อยและการควบคุมอัตรากำลังคน
.
บทบาทนี้ ในหลายๆ องค์กร HR คุม ซึ่งมันขัดแย้งกับ “ความอยาก และ ปากท้อง” ของคน ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือ การคุมกำลังคน ที่พนักงาน และหัวหน้าทีมก็อยากมีทีมเยอะๆ เพราะอยากกระจายงาน ไม่ให้ Load เกินไป
.
แต่ยัย HR นี่แหละ ที่ต้องคอยไปขัดแข้งขัดขา ไปบอกเขาว่า “ไม่ได้นะครับ คนพี่เต็มแล้ว” หรือ “ขอโทษนะครับ อัตรากำลังของพี่โดนตัดครับ เพราะตอนนี้องค์กรเราโดนลดหรือกำลังคุมจำนวนพนักงานอยู่”
.
ใครจะถูกมองว่าเป็นคนร้ายคนแรก??? แน่นอน หนีไม่พ้น HR
.
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น HR ที่ดี ต้องไม่ฉวยโอกาสแสดงความร้ายกาจ หรือทำตามใจตนเอง หรือ กลายเป็นพวกบ้าอำนาจ
.
ตรงกันข้ามก็ต้องสื่อสาร มีความยืดหยุ่น และหาความสมดุลให้ได้ แม้บทบาทที่ถืออยู่ อาจจะท้าทาย และ มีความเสี่ยงที่จะให้คนเข้าใจผิด ก็ยิ่งต้องสร้างความเข้าใจในเชิงบวก และ ถูกต้องให้พนักงานกระจ่าง และก็ต้องไม่เหลิงลอยไปกับ ภาพลักษณ์ว่าฉันมีอำนาจ ใหญ่โต และ คุมเกมส์
.
เพราะจริงๆ แล้ว หน้าที่ของ HR ถ้าจะสรุปได้ในประโยคเดียวคือ
.
”สนับสนุนให้องค์กรและพนักงาน สำเร็จ ก้าวหน้า เติบโต ในบทบาทงานขององค์กรอย่าง เป็นสุข และ เป็นธรรม“
.
บทความโดย ‘โน้ต-ศรัณย์ คุ้งบรรพต’