บอสพาชิม : Le normandie by Alain Roux 🇹🇭 ตำนานที่ยังมีลมหายใจ
Le normandie นั้นเป็นหนึ่งในร้านที่ไม่ว่ายังไงผมก็จะมาเป็นประจำทุกปี ในคราวนี้ขอเขียนอะไรให้แปลกใหม่บ้างละกันครับ ก่อนอื่นต้องเสียใจที่ร้านถูกลดระดับเหลือแค่มิชลินดาวเดียว แต่ผมยังคงยืนยันว่าในแง่เทคนิคการปรุงอาหารและการบริการทางร้านยังคงมาตราฐานดีดุจเดิม เพียงแต่ว่าจานอาหารนั้นอาจจะดูold school ไม่มีอะไรแปลกใหม่ตามยุคสมัย
Review ในนี้ขอแบ่งเป็นสองส่วนละกันครับ คือ Le normandie ร้านเก่าของเชฟ Arnaud Dunand ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้ร่มเงาของ Alain roux แห่ง Water side inn อันโด่งดัง กับส่วนที่สองคือ Maison Dunand ร้านใหม่ของเชฟArnuadที่เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ได้ Michelin star เร็วที่สุดในโลก
การปรับเปลี่ยนใหม่ของ Le normandie หลังจากอยู่ภายใต้ร่มเงาของเชฟ Alain roux นั้นมีทั้งกระเเสตอบรับที่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งที่ชื่นชอบและไม่ค่อยชอบ ต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงหลังอยู่ภายใต้ร่มเงาของเชฟคนเก่ามานานนั้นส่งผลกับร้านอาหารระดับตำนานแห่งนี้ไม่น้อย
ภายใต้ Phil Hickman ลูกหม้อของ Waterside Inn นั้น Le normandie เลือกที่จะเสริฟ์อาหารคลาสสิกโดยชูจุดเด่นของอาหาร Nouvelle cuisine อย่างเด่นชัดอาจจะเรียกว่าเป็นไม่กี่ที่ในโลกที่ยังคงเอกลักษณ์แบบนี้
มื้ออาหารที่ Normandie ในยุค Alain roux นั้นเปรียบเสมือนTime capsule ที่พาเราย้อนเวลาไปสักยี่สิบปี ภาพเก่าๆเวันวานเก่านั้นย้อนกลับมา ยิ่งรวมกับความขลังของบรรยากาศร้านที่ประวัติศาสตร์ยาวนานอย่างที่นี่เเล้ว นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครจริงๆ
ผมก็ยังเลือกมา Normandie ในช่วงบ่ายวันธรรมดาเพราะราคาดีที่สุดกับเมนูสามคอร์สมื้อกลางวันโดยในแต่ละคอร์สนั้นมีOptionให้เราเลือก โดยเป็นอาหารแบบคลาสสิก ในแง่การปรุงและเทคนิคการทำอาหารเเล้ว แม้จะใช้มาตราฐานแบบจ้องจับผิดแต่ก็ต้องบอกว่าทำออกมาได้เพอร์เฟ็กต์ในทุกๆจานครับ การทำอาหารที่คลาสิกให้คนรู้สึกสมบูรณ์สำหรับผมนั้นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากๆ แต่ทว่า Portion size สำหรับสามคอร์สนั้น อาจจะรู้สึกว่าน้อยไปสักนิด คงเป็นเพราะทำปริมาณมาให้เหมาะกับสามารถทานได้ 7จาน การที่ลดทอนคอร์สลงมากว่าครึ่งนั้นอาจจะมากเกินไป และด้วยราคา2950++แล้วผมว่าประเด็นน่าพิจารณานะครับ
การบริการของ ที่นี่ยังคงเป็นหนึ่งในมาตราฐานที่ใช้เป็นเกณฑ์สำหรับร้านอาหารในไทยนั้น ความใส่ใจและ Service mind ของทีมบริกรที่นี้นั้นสุดยอดครับ และยังคงเป็นจุดแข็งของห้องอาหารแห่งนี้ ยกตัวอย่างเช่น ผมมาถึงก่อนเพื่อนนั่งนานแล้วบริกรมีการถามว่ารับขนมปังมารองท้องก่อนใหม่ หรือทางร้านมีหนังสือและนิตยสารให้อ่านเล่นรอฆ่าเวลาตรงนี้เท่าที่ผมเจอมานี่Normandie น่าจะเป็นร้านเดียวในไทยที่เคยเจอ รวมทั้งไวน์นั้นเราสามารถสั่งเป็นจำนวนแก้วแล้วทางร้านแพร์ริ่งให้ได้ด้วย
Canape สองคำแรก
Italian Melon spice pamesan tart เชฟเลือกเสริฟ์เมล่อนจากอิตาลีที่เนื้อฉ่ำหวานอมเปรี้ยว คุณภาพดีมากๆ ตัดกับรสชีสพาเมซานเค็มอ่อนๆ และแป้งทาร์ตเนื้อเบา กลิ่นเครื่องเทศไม่ค่อยออก ส่วนตัวเเล้วผมว่าเป็นจานที่แปลกดี
Chicken liver & date jam ตบเแต่งด้วยhelzelnut เสริฟ์มาบน toast จานนี้Pateรสเข้มข้นเค็มนำมีกลิ่นตับไก่ชัดเจนแต่ไม่คาวเนื้อฟูเบา เเยมมะเดื่อนั้นหวานอ่อนเกินไปจนส่วนตัวแล้วผมว่ามันสู้รสเข้มข้นของตับไก่ไม่ได้
ขนมปังจานแรกแป็นบันยัดไส้ ครับ ขนมปังที่นี้ก็ยังคงเสริฟ์มาอุ่นๆและทำได้ดี
มันฟรั่งpuree,fraiche cream เเละOscietra Caviar ด้านล่างมีเยลลี่คอนซอมเม่เย็น ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมว่าเยลลี่รสเข้มข้นไป รสเค็มนำ แม้จะมีครีมเเละรสหวานของมันฟรั่งใหม่เบรคเเล้ว แต่พอกินกับคาเวียร์เเล้วรสค่อนข้างหนักไปจริงๆครับ
kohlrabi & black truffle cream raviolo จานสุดท้ายเป็นเกี๊ยวที่ตัวแป้งทำจากหัวกะหล่ำปม จานนี้ รสเบาๆ ซุปน่าจะเป็นเบสผัก มีความเขียวสดชื่นจากน้ำมันสมุนไพรที่เดาว่าน่าจะเป็นทารากอน รสจืดมากๆแต่หวานและหอมทรัฟเฟิล บาลานซ์รสได้ดี ใช้เป็นคำล้างปากคำที่เเล้วได้ดีครับ
Sourdough โดยบริกรบอกว่าที่นี้นั้นทำเป็นแบบ super classic ใช้ natural yeast
รับประทานกับเกลือบ้านย่า จังหวัดสมุทรสาคร
จานแรกของผมเป็น Tenen Salmonกับปูอลาสก้า เสริฟ์มากับhollandaise sauceและเม็ดมัสตาร์ด รับประทานกับผักดอง จานนี้ปลาค่อนข้างสุกมีชมพูกลางนิดๆ เนื้อเเซลม่อนเเน่นมากๆแต่ยังคงความฉ่ำ ตัวซอสรสเปรี้ยวโปร่ง ครีมมี่ ออกแนวคลาสสิก พอรับประทานกับผักดองที่หวานอมเปรี้ยวแล้วเข้ากันดีครับ ส่วนKing crab ด้านบนแนื้อเเห้งๆ เสริฟ์มาเป็นเส้นๆฝอย คงทำไปย่างก่อน ช่วยเพิ่มกลิ่นอายทพเลจากปูและเท็กเจอร์เด้งๆในปากครับ
จานหลักของผม Monkfish tail white wine & dill sauce เป็นจานที่โคตรเรียบง่าย ยอดเยี่ยม แต่ผมว่านี่น่าจะเป็นปลาม้องที่ดีที่สุดจานนึงที่ผมเคยทานในไทยเลยครับ ปลาดีมากๆและย่างก็ดีมากๆ เนื้อหนึบเเน่นเด้งฉ่ำกรอบนิดๆแต่ไม่เหนียวแน่น ตามแบบฉบับปลาmonkที่ดี มากกว่านั้นคือตัวปลานั้นผิวกรอบนิดๆด้วย สุดยอดมากๆครับ ตัวซอสครีมไวน์ขาวที่ให้รสเปรี้ยวครีมมี่เบาๆ กับรสเขียวสดชื่นนิดๆ รับประทานกับมันฟรั่งใหม่หวานนิดๆและ ลีค นั้นนับเป็นคอมบิเนชั่นที่คลาสสิกมากๆ แต่ เพอร์เฟ้กต์ครับ
เชอรรี่เค้กกับเชอรรี่เชอเบท หลุดพ้นจากเค้กSouffleเสียทีในที่สุดก้ได้กินอย่างอื่นมาสามรอบหลังกินเค้กsouffleตลอด TOT จานนี้รสเปรี้ยวอมหวานสดชื่น เนื้อเค้กเป็นแนวฉ่ำๆไม่แห้ง รสเชอเบทนี่เปรี้ยวนำพอสมควร จนเพื่อนผมที่ไม่ชอบรสเปรี้ยวถึงกับร้อง แต่ส่วนตัวก็ว่าสดชื่นดี
ปิดท้ายด้วย Petitfour ผมว่ามาตราฐานนั้นออกจะดูตกลงไปนิด หวานมากๆแบบแสบคอทุกคำขนาดมีชาช่วย อาจจะเป็นเพราะกินต่อจากขนมจานแรกที่รสเปรี้ยวนำครับ เลยยิ่งเพิ่มความหวาน
#Score:
🍾Service:8.5/10
🍽Food:8.25/10
🤩WOW factor: 7.5/10
💰Value for money: 8/10
Total: 8/10
Visit : June-2023
🗺เเผนที่ :
https://maps.app.goo.gl/RR4JBURA8BVgLwZo7
⏰เวลาเปิดปิด: 12 – 3:30pm,6:30 – 11:30pm ปิดทุกวันจันทร์
💵ค่าเสียหาย: ~2,900 THB ++
⌨️เว็บไซต์ร้าน:
https://www.mandarinoriental.com/en/bangkok/chao-phraya-river/dine/le-normandie-by-alain-roux
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (
https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (
https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit:
https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
[CR] บอสพาชิม : Le normandie by Alain Roux 🇹🇭 ตำนานที่ยังมีลมหายใจ
Review ในนี้ขอแบ่งเป็นสองส่วนละกันครับ คือ Le normandie ร้านเก่าของเชฟ Arnaud Dunand ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้ร่มเงาของ Alain roux แห่ง Water side inn อันโด่งดัง กับส่วนที่สองคือ Maison Dunand ร้านใหม่ของเชฟArnuadที่เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ได้ Michelin star เร็วที่สุดในโลก
การปรับเปลี่ยนใหม่ของ Le normandie หลังจากอยู่ภายใต้ร่มเงาของเชฟ Alain roux นั้นมีทั้งกระเเสตอบรับที่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งที่ชื่นชอบและไม่ค่อยชอบ ต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงหลังอยู่ภายใต้ร่มเงาของเชฟคนเก่ามานานนั้นส่งผลกับร้านอาหารระดับตำนานแห่งนี้ไม่น้อย
ภายใต้ Phil Hickman ลูกหม้อของ Waterside Inn นั้น Le normandie เลือกที่จะเสริฟ์อาหารคลาสสิกโดยชูจุดเด่นของอาหาร Nouvelle cuisine อย่างเด่นชัดอาจจะเรียกว่าเป็นไม่กี่ที่ในโลกที่ยังคงเอกลักษณ์แบบนี้
มื้ออาหารที่ Normandie ในยุค Alain roux นั้นเปรียบเสมือนTime capsule ที่พาเราย้อนเวลาไปสักยี่สิบปี ภาพเก่าๆเวันวานเก่านั้นย้อนกลับมา ยิ่งรวมกับความขลังของบรรยากาศร้านที่ประวัติศาสตร์ยาวนานอย่างที่นี่เเล้ว นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครจริงๆ
ผมก็ยังเลือกมา Normandie ในช่วงบ่ายวันธรรมดาเพราะราคาดีที่สุดกับเมนูสามคอร์สมื้อกลางวันโดยในแต่ละคอร์สนั้นมีOptionให้เราเลือก โดยเป็นอาหารแบบคลาสสิก ในแง่การปรุงและเทคนิคการทำอาหารเเล้ว แม้จะใช้มาตราฐานแบบจ้องจับผิดแต่ก็ต้องบอกว่าทำออกมาได้เพอร์เฟ็กต์ในทุกๆจานครับ การทำอาหารที่คลาสิกให้คนรู้สึกสมบูรณ์สำหรับผมนั้นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากๆ แต่ทว่า Portion size สำหรับสามคอร์สนั้น อาจจะรู้สึกว่าน้อยไปสักนิด คงเป็นเพราะทำปริมาณมาให้เหมาะกับสามารถทานได้ 7จาน การที่ลดทอนคอร์สลงมากว่าครึ่งนั้นอาจจะมากเกินไป และด้วยราคา2950++แล้วผมว่าประเด็นน่าพิจารณานะครับ
การบริการของ ที่นี่ยังคงเป็นหนึ่งในมาตราฐานที่ใช้เป็นเกณฑ์สำหรับร้านอาหารในไทยนั้น ความใส่ใจและ Service mind ของทีมบริกรที่นี้นั้นสุดยอดครับ และยังคงเป็นจุดแข็งของห้องอาหารแห่งนี้ ยกตัวอย่างเช่น ผมมาถึงก่อนเพื่อนนั่งนานแล้วบริกรมีการถามว่ารับขนมปังมารองท้องก่อนใหม่ หรือทางร้านมีหนังสือและนิตยสารให้อ่านเล่นรอฆ่าเวลาตรงนี้เท่าที่ผมเจอมานี่Normandie น่าจะเป็นร้านเดียวในไทยที่เคยเจอ รวมทั้งไวน์นั้นเราสามารถสั่งเป็นจำนวนแก้วแล้วทางร้านแพร์ริ่งให้ได้ด้วย
Canape สองคำแรก
Italian Melon spice pamesan tart เชฟเลือกเสริฟ์เมล่อนจากอิตาลีที่เนื้อฉ่ำหวานอมเปรี้ยว คุณภาพดีมากๆ ตัดกับรสชีสพาเมซานเค็มอ่อนๆ และแป้งทาร์ตเนื้อเบา กลิ่นเครื่องเทศไม่ค่อยออก ส่วนตัวเเล้วผมว่าเป็นจานที่แปลกดี
Chicken liver & date jam ตบเแต่งด้วยhelzelnut เสริฟ์มาบน toast จานนี้Pateรสเข้มข้นเค็มนำมีกลิ่นตับไก่ชัดเจนแต่ไม่คาวเนื้อฟูเบา เเยมมะเดื่อนั้นหวานอ่อนเกินไปจนส่วนตัวแล้วผมว่ามันสู้รสเข้มข้นของตับไก่ไม่ได้
ขนมปังจานแรกแป็นบันยัดไส้ ครับ ขนมปังที่นี้ก็ยังคงเสริฟ์มาอุ่นๆและทำได้ดี
มันฟรั่งpuree,fraiche cream เเละOscietra Caviar ด้านล่างมีเยลลี่คอนซอมเม่เย็น ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมว่าเยลลี่รสเข้มข้นไป รสเค็มนำ แม้จะมีครีมเเละรสหวานของมันฟรั่งใหม่เบรคเเล้ว แต่พอกินกับคาเวียร์เเล้วรสค่อนข้างหนักไปจริงๆครับ
kohlrabi & black truffle cream raviolo จานสุดท้ายเป็นเกี๊ยวที่ตัวแป้งทำจากหัวกะหล่ำปม จานนี้ รสเบาๆ ซุปน่าจะเป็นเบสผัก มีความเขียวสดชื่นจากน้ำมันสมุนไพรที่เดาว่าน่าจะเป็นทารากอน รสจืดมากๆแต่หวานและหอมทรัฟเฟิล บาลานซ์รสได้ดี ใช้เป็นคำล้างปากคำที่เเล้วได้ดีครับ
Sourdough โดยบริกรบอกว่าที่นี้นั้นทำเป็นแบบ super classic ใช้ natural yeast
รับประทานกับเกลือบ้านย่า จังหวัดสมุทรสาคร
จานแรกของผมเป็น Tenen Salmonกับปูอลาสก้า เสริฟ์มากับhollandaise sauceและเม็ดมัสตาร์ด รับประทานกับผักดอง จานนี้ปลาค่อนข้างสุกมีชมพูกลางนิดๆ เนื้อเเซลม่อนเเน่นมากๆแต่ยังคงความฉ่ำ ตัวซอสรสเปรี้ยวโปร่ง ครีมมี่ ออกแนวคลาสสิก พอรับประทานกับผักดองที่หวานอมเปรี้ยวแล้วเข้ากันดีครับ ส่วนKing crab ด้านบนแนื้อเเห้งๆ เสริฟ์มาเป็นเส้นๆฝอย คงทำไปย่างก่อน ช่วยเพิ่มกลิ่นอายทพเลจากปูและเท็กเจอร์เด้งๆในปากครับ
จานหลักของผม Monkfish tail white wine & dill sauce เป็นจานที่โคตรเรียบง่าย ยอดเยี่ยม แต่ผมว่านี่น่าจะเป็นปลาม้องที่ดีที่สุดจานนึงที่ผมเคยทานในไทยเลยครับ ปลาดีมากๆและย่างก็ดีมากๆ เนื้อหนึบเเน่นเด้งฉ่ำกรอบนิดๆแต่ไม่เหนียวแน่น ตามแบบฉบับปลาmonkที่ดี มากกว่านั้นคือตัวปลานั้นผิวกรอบนิดๆด้วย สุดยอดมากๆครับ ตัวซอสครีมไวน์ขาวที่ให้รสเปรี้ยวครีมมี่เบาๆ กับรสเขียวสดชื่นนิดๆ รับประทานกับมันฟรั่งใหม่หวานนิดๆและ ลีค นั้นนับเป็นคอมบิเนชั่นที่คลาสสิกมากๆ แต่ เพอร์เฟ้กต์ครับ
เชอรรี่เค้กกับเชอรรี่เชอเบท หลุดพ้นจากเค้กSouffleเสียทีในที่สุดก้ได้กินอย่างอื่นมาสามรอบหลังกินเค้กsouffleตลอด TOT จานนี้รสเปรี้ยวอมหวานสดชื่น เนื้อเค้กเป็นแนวฉ่ำๆไม่แห้ง รสเชอเบทนี่เปรี้ยวนำพอสมควร จนเพื่อนผมที่ไม่ชอบรสเปรี้ยวถึงกับร้อง แต่ส่วนตัวก็ว่าสดชื่นดี
ปิดท้ายด้วย Petitfour ผมว่ามาตราฐานนั้นออกจะดูตกลงไปนิด หวานมากๆแบบแสบคอทุกคำขนาดมีชาช่วย อาจจะเป็นเพราะกินต่อจากขนมจานแรกที่รสเปรี้ยวนำครับ เลยยิ่งเพิ่มความหวาน
#Score:
🍾Service:8.5/10
🍽Food:8.25/10
🤩WOW factor: 7.5/10
💰Value for money: 8/10
Total: 8/10
Visit : June-2023
🗺เเผนที่ :https://maps.app.goo.gl/RR4JBURA8BVgLwZo7
⏰เวลาเปิดปิด: 12 – 3:30pm,6:30 – 11:30pm ปิดทุกวันจันทร์
💵ค่าเสียหาย: ~2,900 THB ++
⌨️เว็บไซต์ร้าน: https://www.mandarinoriental.com/en/bangkok/chao-phraya-river/dine/le-normandie-by-alain-roux
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit: https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้