The Boy and the Heron (2023) - ประสบการณ์อันยาวนานก่อกำเนิดจินตนาการที่ไม่มีที่สิ้นสุด

The Boy and the Heron: เด็กชายกับนกกระสา


กำกับและเขียนบทโดย Hayao Miyazaki 

สวัสดีครับทุกท่าน ! ในที่สุดก็ได้ดูสักทีกับเรื่อง The Boy and the Heron (2023) จาก Studio Ghibli ที่ได้รับคำวิจารณ์ชื่นชมมากมาย แถมเพิ่งจะคว้าลูกโลกทองคำไปหมาด ๆ

ที่สำคัญ ผู้กำกับหนัง Hayao Miyazaki ประกาศไว้ว่า "The Boy and the Heron จะเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเขา"

ณ ตอนนี้ปู่ฮายาโอะก็อายุ 83 ปีแล้ว ดังนั้นหนังเรื่องนี้ก็คงจะเป็นเรื่องท้าย ๆ ที่ปู่จะฝากไว้ให้กับวงการ (แต่จะท้ายจริงหรือเปล่าไม่มีใครรู้ 😂)

ด้วยความดีงามขนาดนี้ จึงอยากจะมาแชร์ความรู้สึกดี ๆ เผื่อท่านใดสนใจนะครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
The Boy and the Heron - Main Trailer

ความรู้สึกหลังชม

- ความรู้สึกหลังดูจบ เป็นอะไรที่รู้สึกผสมปนเปเหมือนกัน ความรู้สึกแรก คือ เป็นหนังที่ "ชอบ" และบอกได้ว่าเป็นหนังคุณภาพสูงเกรดดีเยี่ยม

แต่ถ้าถามว่า อยากจะแนะนำเรื่องนี้ให้กับผู้ชมใหม่ ๆ ที่สนใจงานของ Studio Ghibli ไหม ก็อาจจะแนะนำได้ไม่เต็มปาก เพราะ หนังของปู่ฮายาโอะหลายเรื่องเฟรนลี่กับผู้ชมมากกว่านี้ The Boy and the Heron ไม่ใช่หนังที่เฟรนลี่กับผู้ชมในแง่ความบันเทิงมากนัก


- ส่วนแรกที่ชอบ ขอชื่นชมใน "ความแม่นและความลึกของเทคนิคทางภาพยนตร์"

นับตั้งแต่วินาทีที่เปิดเรื่องมา งานภาพแต่ละส่วนงดงามด้วยสไตล์แอนิเมชันแบบดั้งเดิมและเน้นโทนสีธรรมชาติเป็นพิเศษ ทำให้ขณะดู เรารู้สึกได้ถึงความเป็นศิลปะในภาพยนตร์ที่ประณีตพิถีพิถัน หาตัวจับยาก

ในขณะที่หนังดำเนินเรื่องไป เรายิ่งได้เห็นความอลังการของงานภาพและจินตนาการมากขึ้นเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่า นี่เป็นงานทะเยอทะยานของปู่ฮายาโอะที่กำลังจะทลายขีดจำกัดตัวเองไปสู่จุดที่สูงกว่าเดิม ซึ่งแกก็ทำได้สำเร็จ

The Boy and the Heron เต็มไปด้วยความลึกซึ้งและจินตนาการเลิศล้ำ... บ่งบอกถึงฝีมือและความเชี่ยวกรำในงานแอนิเมชัน ยิ่งแก่ยิ่งมากประสบการณ์จริง ๆ


- ส่วนถัดมา "ปมประเด็นในเรื่องอันท้าทาย"

อันที่จริงปมสำคัญในเรื่อง อาจจะไม่ได้เข้าใจยากมากนัก ในแง่ของการลำนำพรรณนา

"ความเศร้าความสูญเสียของเด็กชาย อันนำไปสู่บทพิสูจน์ทางจิตวิญญาณ และการเดินทางเพื่อตามหาความหมายของชีวิตและเสี้ยวความทรงจำชิ้นสำคัญในจิตใจ"

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ท้าทายสำหรับผู้ชม คือ "วิธีการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยสัญญะ ปรัชญาชีวิต และการตั้งคำถาม"

แม้หนังจะเล่าทุกอย่างตามภาพและทุกคนก็รู้ว่า หนังเรื่องนี้ดีมากเพียงใด แต่หนังก็มีความลึกซึ้งที่ต้องใช้ความพยายามในการเข้าถึงแก่น

เรียกได้ว่า The Boy and the heron มีความเป็นหนังส่วนตัว (ตามใจผู้กำกับ) พอสมควร แต่ก็เป็นงานคุณภาพสูงในเวลาเดียวกัน !


- อีกส่วนที่ชอบ คือ "ดนตรีประกอบจาก Joe Hisaishi"

ดนตรีในเรื่องค่อนข้างนิ่งและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นตามโทนหลัก

ที่ชอบที่สุดคือ ธีมเพลง "Ask Me Why" และ "Memories" รู้สึกชอบในทำนองดนตรีที่เข้ากับธีมเรื่องหลักและยังเข้ากับคำว่า "How Do You Live?" หรืออีกชื่อหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Ask Me Why (Mahito's Commitment)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Memories

- ถ้าเปรียบกับเรื่องอื่นใน Studio รู้สึกว่า หนังมีกลิ่นอายบางอย่างคล้ายกับ Spirited Away (2001) พอสมควร แต่ Spirited Away ทำได้กลมกล่อมครบองค์ประกอบมากกว่า ในแง่อาร์ตแฟนตาซี เทคนิค และความสนุก


ขณะที่ถ้าเทียบกับผลงานในระยะหลัง ส่วนตัวยังรู้สึกชอบ The Wind Rises (2013) ตรงที่เป็นงานดูง่าย ๆ นิ่ง ๆ ไม่หวือหวา แต่คมคาย รู้สึกว่าเป็นหนังที่ใช้ "Time & Space" (เวลาและที่ว่างในภาพยนตร์) ได้งามดี

ความสนุกอาจจะต่างกัน แต่ทั้ง 3 เรื่องนี้ จัดเป็นงานคุณภาพเยี่ยมที่ไม่มีใครแพ้ใคร
 


สรุป

The Boy and the Heron (2023) อาจจะไม่ใช่หนังที่สนุกบันเทิง แต่ดูจบก็รู้ว่า นี่คืองานที่แม่นยำในเทคนิคอันบ่งบอกถึงความเป็นยอดฝีมือที่ผ่านโลกมายาวนาน

ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ดีพอที่จะคว้า "ออสการ์แอนิเมชันยอดเยี่ยม" และยังรู้สึกว่า มีโอกาสน่าคว้าออสการ์มากกว่า Spider-Man: Across the Spider-Verse (2023) จากองค์ประกอบโดยรวมและความลึกซึ้งของภาพยนตร์

ดังนั้นรอก็ดูกัน... ถ้า The Boy and the Heron คว้าได้จริง ก็ถือเป็นออสการ์สาขาแอนิเมชันตัวที่ 2 ของญี่ปุ่น

และเป็นการปิดฉากอย่างงดงามของคุณปู่ Hayao Miyazaki พ่อมดแห่งวงการแอนิเมชันญี่ปุ่นผู้สร้างคุณูประการมากมาย

ใครสนใจดูได้ในโรง !

____________________________________

(เพิ่มเติม) 10 Years with Hayao Miyazaki

ใครเป็นแฟนผลงาน Studio Ghibli อยากจะแนะนำสารคดีเรื่อง 10 Years with Hayao Miyazaki ของ NHK มี 4 ตอน และเป็นสารคดีที่เจาะชีวิตของ "ฮายาโอะ มิยาซากิ" ค่อนข้างลึก เกี่ยวกับวิธีการทำงาน มุมมอง ความสัมพันธ์รอบตัวเขา ซึ่งมีอิทธิพลกับหนังแต่ละเรื่องไม่น้อยทีเดียว (The Boy and the Heron ก็ด้วยเช่นกัน)

มีบางตอนที่ดูแล้ว ก็น้ำตาซึม โดยเฉพาะตอนที่เกี่ยวกับแม่ ส่วนตัวยกให้เป็นหนึ่งในสารคดีที่เล่าได้สนุกและดีมาก ๆ

สารคดีมีซับไทย 2 ตอนแรก ส่วน 2 ตอนหลัง เหมือนจะมีแต่ซับอิ้ง แต่ถ้ามีพื้นฐานอังกฤษ ก็พอดูรู้เรื่องจับใจความได้

ใครสนใจแนะนำเลย


____________________________________

ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพูดคุยติดต่อ
    
Lemon8: BENJI Review
IG: benjireview
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่