10 ประโยชน์การทานกิมจิ เครื่องเคียงชั้นเยี่ยมเกาหลี
กิมจิคือสุดยอดอาหารของโลก เพราะสามารถทานได้ทันที อร่อย เก็บได้นาน แถมยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายประเภทอีกด้วย
แต่น้อยคนนักที่มักจะรู้ว่ากิมจิมีประโยชน์ที่ดี ต่อร่างกายคนเรามากแค่ไหน เรารับประกันเลยว่า หากคุณได้อ่านบทความนี้แล้ว คุณจะมีความภูมิใจในการรับประทานกิมจิ มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
ประโยชน์ของกิมจิจริง ๆ มีอยู่มากมาย
แต่วันนี้เราขอพูดถึง 10 ประโยชน์ที่ได้รับเมื่อรับประทานกิมจิกันก่อน
สามารถคลิกดูเนื้อหาที่ละตอนได้
1. สร้างผิวให้กระจ่างใส
2. ช่วยลดน้ำหนัก
3. ชะลอความแก่
4. ช่วยในการมองเห็นที่ชัดเจน
5. ป้องกันโรคเบาหวาน
6. เพิ่มแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกาย
7. ช่วยลดคอเลสเตอรอล
8. ป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร
9. เพิ่มภูมิคุ้มกัน
10. ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
11. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกิมจิ
12. สรุป
1. สร้างผิวให้กระจ่างใสและเส้นผมที่เงางาม
กิมจิไม่เพียงแต่ทำให้คุณสวยจากภายใน แต่มันช่วยให้คุณสวยจากภายนอกอีกด้วย เพราะว่าในกระเทียม ที่อยู่ในกิมจินั้น มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระทำให้ผมและผิวพรรณดี เนื่องจาก สารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลูตาไธโอนนั้น สร้างวิตามิน C และรักษาวิตามิน C ให้คงที่ ทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การรับประทานกิมจิช่วยป้องกันริ้วรอยในระยะยาวอีกด้วย
2. ช่วยลดน้ำหนัก
กิมจิ 150 กรัมจะมีปริมาณแคลอรี่ เพียงแค่ 40 แคลอรี่เท่านั้น แต่ไม่เพียงเท่านั้น กิมจิยังช่วยเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตเพื่อช่วยในการลดน้ำหนักอีกด้วย
เพราะในกิมจิ มีปริมาณพริกป่นเกาหลีเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตได้เป็นอย่างดี
3. กิมจิช่วยชะลอความแก่
ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมคนเกาหลีถึงดูอ่อนวัยกว่าที่ควรจะเป็น นี้เป็นเพียงแค่ 1 ประโยชน์ ในหลาย ๆประโยชน์ของกิมจิที่คุณควรคำนึงถึง หลังจากกิมจิดองได้ 2 สัปดาห์ กิมจิจะอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยลดรอยเหี่ยวย่นของผิวพรรณ นอกจากนี้ยังยับยั้งการเกิดเซลล์ออกซิเดชั่นทำให้คุณดูไร้กังวลและผ่อนคลายแม้ว่าคุณจะเครียดมากก็ตาม
4. กิมจิช่วยในการมองเห็นที่ชัดเจน
ในปริมาณกิมจิ 100 กรัมมีวิตามินเอถึง 18% ที่หากเราพิจารณาจาก 2,000 แคลอรี่ต่อวันแล้ว วิตามินเอถึง 18 % ในกิมจิ มีประโยชน์ในการบำรุงสายตาที่ดีและมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย
5. ป้องกันโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานเป็นโรคที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ กลูโคสในร่างกายของเรานั้น มาจากน้ำตาลในอาหารที่เรากิน ในทางกลับกันอินซูลินมีหน้าที่ทำลายอนุภาคกลูโคสสำหรับร่างกายของเรา
เพื่อดูดซับและเปลี่ยนเป็นพลังงาาน การรับประทานกิมจิที่มีผักกาดขาวในปริมาณที่มากพอ ช่วยให้ระดับอินซูลินสูงขึ้นและลดระดับน้ำตาลกลูโคสอีกด้วย
6. เพิ่มแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกายเป็นจำนวนมาก
เนื่องจากการหมักตัวของกิมจิทำให้เกิด “แบคทีเรียดี” ที่เรียกว่าแลคโตบาซิลลัสที่ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารของร่างกายซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่ง ของกระบวนการหมัก คือก่อให้เกิด โปรไบโอติก หรือ แบคทีเรียดี ที่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อต่าง ๆ ในร่างกายของคุณได้อีกด้วย
7. ช่วยลดคอเลสเตอรอล
หากคุณเป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง อย่ากังวล เพราะกระเทียมที่พบในกิมจิ มีอัลลิซินและซีลีเนียม ซึ่งทั้งสองอย่างนี้
มีประโยชน์ในการลดปริมาณไขมันในร่างกาย และป้องกันการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในผนังหลอดเลือด นอกจากนี้ สารทั้งสองตัวนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดในสมองอักเสบหรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันอีกด้วย
8. ป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร
ศาสตราจารย์ มิริคิม ในแผนกโภชนาการอาหาร ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชุงนัม ค้นพบว่า ผักกาดขาวและหัวไชเท้าที่มีอยู่ในกิมจินั้น มีสารเคมีชีวภาพ ไอโซไซยาเนตและซัลไฟด์ ซึ่งสารเคมีชีวภาพเหล่านี้ สามารถล้างพิษโลหะหนัก ที่มักพบในตับ,ลำไส้เล็กและไต ทำให้สามารถป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหารได้
9. เพิ่มภูมิคุ้มกัน
ศาสตราจารย์ ริน่า หยู จากแผนกอาหารและโภชนาของมหาวิทยาลัยอุลซาน พบว่ากิมจิทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันและแอนตี้บอดี้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้น
ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันเคลื่อนไหว 55% ขณะที่อาหารปกติทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันเคลื่อนไหว 68% แต่กิมจิทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันเคลื่อนไหวถึง 75%
10. ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
แผลในกระเพาะอาหารมักเกิดจากเชื้อเอชไพโลไร ซึ่งเป็นแบคทีเรียเลวที่พบในกระเพาะอาหาร เราสามารถหยุดการเติบโตของมันได้ด้วย
การรับประทานกิมจิ เพราะกิมจิมีลิวโคนอสตอกที่สามารถผลิตเดกซ์ทริน ซึ่งเป็นแบคทีเรียดี เป็นสารสำคัญในการยับยั้งการเติบโตของเชื้อเอชไพโลไร ซึ่งเป็นแบคทีเรียเลวในร่างกายของคุณ
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่นี่เลยครับ
https://mrk.co.th/blog/10-benefits-kimchi/
ใครมีข้อสงสัย หรืออยากให้เราทำเกี่ยวกับเคล็ดลับก้นครัว หรือเมนูเกาหลีอื่นๆ คอมเม้นแลกเปลี่ยนเข้ามาได้เลยครับ 😉
10 ประโยชน์การทานกิมจิ
กิมจิคือสุดยอดอาหารของโลก เพราะสามารถทานได้ทันที อร่อย เก็บได้นาน แถมยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายประเภทอีกด้วย
แต่น้อยคนนักที่มักจะรู้ว่ากิมจิมีประโยชน์ที่ดี ต่อร่างกายคนเรามากแค่ไหน เรารับประกันเลยว่า หากคุณได้อ่านบทความนี้แล้ว คุณจะมีความภูมิใจในการรับประทานกิมจิ มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
ประโยชน์ของกิมจิจริง ๆ มีอยู่มากมาย
แต่วันนี้เราขอพูดถึง 10 ประโยชน์ที่ได้รับเมื่อรับประทานกิมจิกันก่อน
สามารถคลิกดูเนื้อหาที่ละตอนได้
1. สร้างผิวให้กระจ่างใส
2. ช่วยลดน้ำหนัก
3. ชะลอความแก่
4. ช่วยในการมองเห็นที่ชัดเจน
5. ป้องกันโรคเบาหวาน
6. เพิ่มแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกาย
7. ช่วยลดคอเลสเตอรอล
8. ป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร
9. เพิ่มภูมิคุ้มกัน
10. ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
11. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกิมจิ
12. สรุป
1. สร้างผิวให้กระจ่างใสและเส้นผมที่เงางาม
กิมจิไม่เพียงแต่ทำให้คุณสวยจากภายใน แต่มันช่วยให้คุณสวยจากภายนอกอีกด้วย เพราะว่าในกระเทียม ที่อยู่ในกิมจินั้น มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระทำให้ผมและผิวพรรณดี เนื่องจาก สารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลูตาไธโอนนั้น สร้างวิตามิน C และรักษาวิตามิน C ให้คงที่ ทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การรับประทานกิมจิช่วยป้องกันริ้วรอยในระยะยาวอีกด้วย
2. ช่วยลดน้ำหนัก
กิมจิ 150 กรัมจะมีปริมาณแคลอรี่ เพียงแค่ 40 แคลอรี่เท่านั้น แต่ไม่เพียงเท่านั้น กิมจิยังช่วยเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตเพื่อช่วยในการลดน้ำหนักอีกด้วย
เพราะในกิมจิ มีปริมาณพริกป่นเกาหลีเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตได้เป็นอย่างดี
3. กิมจิช่วยชะลอความแก่
ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมคนเกาหลีถึงดูอ่อนวัยกว่าที่ควรจะเป็น นี้เป็นเพียงแค่ 1 ประโยชน์ ในหลาย ๆประโยชน์ของกิมจิที่คุณควรคำนึงถึง หลังจากกิมจิดองได้ 2 สัปดาห์ กิมจิจะอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยลดรอยเหี่ยวย่นของผิวพรรณ นอกจากนี้ยังยับยั้งการเกิดเซลล์ออกซิเดชั่นทำให้คุณดูไร้กังวลและผ่อนคลายแม้ว่าคุณจะเครียดมากก็ตาม
4. กิมจิช่วยในการมองเห็นที่ชัดเจน
ในปริมาณกิมจิ 100 กรัมมีวิตามินเอถึง 18% ที่หากเราพิจารณาจาก 2,000 แคลอรี่ต่อวันแล้ว วิตามินเอถึง 18 % ในกิมจิ มีประโยชน์ในการบำรุงสายตาที่ดีและมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย
5. ป้องกันโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานเป็นโรคที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ กลูโคสในร่างกายของเรานั้น มาจากน้ำตาลในอาหารที่เรากิน ในทางกลับกันอินซูลินมีหน้าที่ทำลายอนุภาคกลูโคสสำหรับร่างกายของเรา
เพื่อดูดซับและเปลี่ยนเป็นพลังงาาน การรับประทานกิมจิที่มีผักกาดขาวในปริมาณที่มากพอ ช่วยให้ระดับอินซูลินสูงขึ้นและลดระดับน้ำตาลกลูโคสอีกด้วย
6. เพิ่มแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกายเป็นจำนวนมาก
เนื่องจากการหมักตัวของกิมจิทำให้เกิด “แบคทีเรียดี” ที่เรียกว่าแลคโตบาซิลลัสที่ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารของร่างกายซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่ง ของกระบวนการหมัก คือก่อให้เกิด โปรไบโอติก หรือ แบคทีเรียดี ที่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อต่าง ๆ ในร่างกายของคุณได้อีกด้วย
7. ช่วยลดคอเลสเตอรอล
หากคุณเป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง อย่ากังวล เพราะกระเทียมที่พบในกิมจิ มีอัลลิซินและซีลีเนียม ซึ่งทั้งสองอย่างนี้
มีประโยชน์ในการลดปริมาณไขมันในร่างกาย และป้องกันการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในผนังหลอดเลือด นอกจากนี้ สารทั้งสองตัวนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดในสมองอักเสบหรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันอีกด้วย
8. ป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร
ศาสตราจารย์ มิริคิม ในแผนกโภชนาการอาหาร ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชุงนัม ค้นพบว่า ผักกาดขาวและหัวไชเท้าที่มีอยู่ในกิมจินั้น มีสารเคมีชีวภาพ ไอโซไซยาเนตและซัลไฟด์ ซึ่งสารเคมีชีวภาพเหล่านี้ สามารถล้างพิษโลหะหนัก ที่มักพบในตับ,ลำไส้เล็กและไต ทำให้สามารถป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหารได้
9. เพิ่มภูมิคุ้มกัน
ศาสตราจารย์ ริน่า หยู จากแผนกอาหารและโภชนาของมหาวิทยาลัยอุลซาน พบว่ากิมจิทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันและแอนตี้บอดี้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้น
ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันเคลื่อนไหว 55% ขณะที่อาหารปกติทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันเคลื่อนไหว 68% แต่กิมจิทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันเคลื่อนไหวถึง 75%
10. ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
แผลในกระเพาะอาหารมักเกิดจากเชื้อเอชไพโลไร ซึ่งเป็นแบคทีเรียเลวที่พบในกระเพาะอาหาร เราสามารถหยุดการเติบโตของมันได้ด้วย
การรับประทานกิมจิ เพราะกิมจิมีลิวโคนอสตอกที่สามารถผลิตเดกซ์ทริน ซึ่งเป็นแบคทีเรียดี เป็นสารสำคัญในการยับยั้งการเติบโตของเชื้อเอชไพโลไร ซึ่งเป็นแบคทีเรียเลวในร่างกายของคุณ
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่นี่เลยครับ
https://mrk.co.th/blog/10-benefits-kimchi/
ใครมีข้อสงสัย หรืออยากให้เราทำเกี่ยวกับเคล็ดลับก้นครัว หรือเมนูเกาหลีอื่นๆ คอมเม้นแลกเปลี่ยนเข้ามาได้เลยครับ 😉