วัฒนธรรมการทำงานของคนเยอรมันเป็นอย่างไร? 🤔
โพสนี้ เราได้รวบรวมและกลั่นกรองประสบการณ์ตัวเองจริงๆ จากการทำงานในประเทศเยอรมนีเป็นเวลา 5 ปีค่ะ เชื่อว่าเนื้อหาที่มีรายละเอียดลึกซึ้งขนาดนี้ จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจและมีมุมมองใหม่ๆ จากวัฒนธรรมการทำงานของคนเยอรมันมากขึ้นนะคะ.. พร้อมแล้วก็ตามมาอ่านกันได้เลยค่าา ☺️
1. เวลาเจอหน้ากัน คนไทยจะทักทาย “สวัสดี” ยิ้มให้กันแล้วแยกย้ายไปทำงาน แต่คนเยอรมันนั้น เค้าจะต้องพูดคุยกันสักเล็กน้อยก่อนเริ่มงาน (Smalltalk) เพื่อสร้างความคุ้นเคย ความสัมพันธ์และมิตรภาพผ่านการสนทนา เช่น การทักทายสบายดีไหม ทำอะไรมาช่วงวันหยุด พูดถึงสภาพอากาศ การเดินทาง งานอดิเรก ฯลฯ เค้าจะเล่าสู่กันฟังสักเล็กน้อย แล้วแยกย้ายไปทำงาน ดังนั้นคนเยอรมันจึงมาทำงานก่อนเวลาสัก 10-15 นาที ดื่มกาแฟ และ Smalltalk กัน แต่บางคนเริ่มงานเลยก็มีค่ะ
2. คนเยอรมันเป็นคนตรงต่อเวลาค่ะ การมาทำงานสายแม้แต่นาทีเดียวถือว่าเป็นเรื่องเสียมารยาทค่ะ หากว่าต้องมาทำงานสายจริงๆ คนเยอรมันจะเอ่ยปากขอโทษทันทีที่มาถึงและบอกเหตุผลว่าทำไมถึงมาสายค่ะ
3. คนเยอรมันจะไม่ค่อยถามเรื่องส่วนตัวของกันและกัน ถ้าคู่สนทนาไม่ได้เล่าให้ฟังเอง แต่ถ้าสนิทกันแล้วก็สามารถถามได้ค่ะ เค้าไม่ได้อยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่น ไม่พูดถึงบุคคลที่ 3 ในที่ทำงานในทิศทางที่แย่ และไม่นำเรื่องในที่ทำงานไปเล่าให้คนอื่นฟัง อันนี้เป็นกฎการทำงานเลยนะคะ เรียกว่า Schweigepflicht (กฎการรักษาความลับ)
4. คนเยอรมันจะสื่อสารกันแบบตรงประเด็น ไม่อ้อมค้อม แสดงความคิดเห็นกันเต็มที่ วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ไม่มีคำว่าเกรงใจ อาวุโส เด็กเถียงผู้ใหญ่ อะไรแบบนี้ และไม่มีการโกรธกันนอกรอบแน่นอนค่ะ 😅 อยู่เยอรมันต้องแสดงความคิดเห็นค่ะ อย่านั่งเงียบ ดูไม่ดีเลย แต่ต้องยกมือก่อนนะคะ ห้ามพูดโพล่งออกไปเลย หรือ ถ้าเค้ายังไม่อนุญาตให้เราพูด ก็อย่าเพิ่งโพล่งออกไปค่ะ เสียมารยาทมาก และเค้าก็ทำงานกันเป็นทีมด้วยค่ะ แบบขัดแข้งขัดขาอะไรกันแบบนี้ไม่เจอในการทำงานกับคนเยอรมันค่ะ แต่กับคนเอเชียที่เยอรมันมีค่ะ 🤣
5. เราทำงานที่โรงเรียนอนุบาล ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องมือสื่อสารส่วนตัวใดๆ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ หรือ smartwatch ในที่ทำงาน หากต้องการถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอให้ใช้กล้องถ่ายรูปของทางที่ทำงานเท่านั้น เรื่องนี้เป็นเอกสารสัญญาให้พนักงานเซ็นต์ชื่อรับทราบเลยนะคะ มีสิทธิ์โดนไล่ออกหากฝ่าฝืนค่ะ ยิ่งถ่ายรูปเด็กๆ ลงในโซเชี่ยลนี่เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ โดนไล่ออกสถานเดียว ขนาดทางโรงเรียนจะทำการถ่ายรูปหมู่ของเด็กๆ กับครู ยังต้องขออนุญาตผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์อักษรเลยค่ะ หากผู้ปกครองไม่ยินยอม เด็กคนนั้นก็ไม่ได้ถ่ายรูปค่ะ
6. หากต้องการความช่วยเหลือ ให้ถามเค้าได้เลยค่ะ คนเยอรมันชอบให้ถาม และช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ปรกติคนเยอรมันไม่ค่อยเสนอความช่วยเหลือก่อน เพราะเค้าเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน จะไม่ถามเซ้าซี้ให้คู่สนทนาลำบากใจ หรือก้าวก่ายงานกันในที่ทำงาน
7. ไม่มีเลิกงานแล้วไปนั่งทานอาหารกันค่ะ เลิกงานตรงเวลาเป๊ะ ต่างคนต่างตรงดิ่งกลับบ้านหาครอบครัว หรือไปทำกิจกรรมส่วนตัว ไม่มีใครว่าด้วยค่ะ มีแต่เพื่อนร่วมงานบอกว่า เธอเลิกงานแล้วทำไมยังไม่กลับบ้านอีก ก่อนกลับบ้านเป็นมารยาทที่ดีที่ต้องเดินไปบอกลาเพื่อนร่วมงานค่ะ😅
8. จริงจังเวลาทำงาน ไม่ใช้มือถือส่วนตัวในที่ทำงาน ไม่ค่อยเล่นโซเชี่ยลมีเดีย เค้าจะรักษาสิทธิ์และความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบให้ใครมารู้เรื่องของตนเองผ่านทางโซเชี่ยล ยิ่งโพสเรื่องงานลงในโซเชี่ยลนี่ยังไม่เคยเจอค่ะ หรือ ภาพเซ็กซี่ บิกีนี่ลงโซเชี่ยลอะไรแบบนี้ มันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ขององค์กร มีสิทธิ์โดนสอบสวนและโดนไล่ออกได้เลยค่ะ
9. คนเยอรมันมี Life balance ที่ดีค่ะ เค้าจะเลือกชั่วโมงการทำงานที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น ผู้หญิงที่มีลูกอาจจะเลือกทำงานแค่
1. Minijob 43,35 ชั่วโมงต่อเดือน (รายได้ 12,41€ ต่อชั่วโมง) หรือ 538 ยูโรต่อเดือน หรือ
2. Part-time (Teilzeit) 20-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ
3. Full-time (Vollzeit) 35-40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ทั้งนี้ทั้งนั้น ลูกจ้างสามารถตกลงชั่วโมงการทำงานกับนายจ้างได้ และทำสัญญาจ้างงานกัน (Arbeitsvertrag) ไม่นิยมทำงาน 2 ที่นัก ซึ่งกรณีนี้จะต้องแจ้งนายจ้างงานก่อนด้วยค่ะ แต่ไม่คุ้มหรอกค่ะ และต้องเสียภาษีเป็น Klasse 6 ด้วย
10. เรื่องภาษี คนเยอรมันจะต้องระบุค่ะว่าจ่ายภาษี Klasse ไหน มีทั้งหมด 6 Klasse ด้วยกัน เช่น
Klasse 1: คนโสด, หย่าร้าง (เสียภาษีในอัตราสูงกว่า Klasse อื่นๆ)
Klasse 2: พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
Klasse 3 คู่กับ Klasse 5: สำหรับคู่สามีภรรยา ที่ใครคนใดคนหนึ่งมีรายได้มากกว่าคู่สมรส
Klasse 4: สำหรับคู่สมรสที่มีรายได้เท่าๆ กัน
Klasse 6: คนที่ทำงาน 2 ที่ (Nebenjob)
11. วันลาพักร้อน ตามกฎหมายเยอรมัน คือ 24 วันต่อปี แต่เราได้ 30 วันต่อปีค่ะ พักร้อนกันยาวๆ เลย แต่คนเยอรมันเค้าจะวางแผนลาล่วงหน้ากันเป็นปีนะคะ ว่าจะไปเที่ยวไหน หรือทำอะไร
12. ลาป่วย ไม่มีแบบบ้านเราที่กำหนดสูงสุด 30 วันค่ะ คนป่วยก็คือป่วย ถ้าแพทย์เขียนใบรับรองให้ก็ตามนั้นค่ะ ผู้ว่าจ้างหรือหัวหน้างานไม่มีสิทธิ์ถามนะคะว่าป่วยเป็นอะไร ในใบลาแพทย์ก็ไม่มีระบุด้วยค่ะ ที่สำคัญเพื่อนร่วมงานก็ไม่มีสิทธิ์ถามค่ะ ว่าเราป่วยเป็นอะไร เว้นแต่ว่า เราจะเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟังเอง
13. พักเบรค/พักกลางวัน ขึ้นอยู่กับชั่วโมงการทำงานต่อวันค่ะ ถ้าทำงานไม่ถึง 6 ชม.ไม่มีพักเบรค ตั้งแต่ 6 ชม.ขึ้นไปพักเบรคอย่างน้อย 30 นาที ถ้าทำงาน 9 ชม.ขึ้นไป พักเบรคอย่างน้อย 45 นาทีค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ วัฒนธรรมการทำงานของคนเยอรมันแตกต่างจากวัฒนธรรมการทำงานของไทยมากน้อยแค่ไหนคะ มาแชร์กันค่ะ☺️
วัฒนธรรมการทำงานของคนเยอรมันเป็นอย่างไร?
โพสนี้ เราได้รวบรวมและกลั่นกรองประสบการณ์ตัวเองจริงๆ จากการทำงานในประเทศเยอรมนีเป็นเวลา 5 ปีค่ะ เชื่อว่าเนื้อหาที่มีรายละเอียดลึกซึ้งขนาดนี้ จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจและมีมุมมองใหม่ๆ จากวัฒนธรรมการทำงานของคนเยอรมันมากขึ้นนะคะ.. พร้อมแล้วก็ตามมาอ่านกันได้เลยค่าา ☺️
1. เวลาเจอหน้ากัน คนไทยจะทักทาย “สวัสดี” ยิ้มให้กันแล้วแยกย้ายไปทำงาน แต่คนเยอรมันนั้น เค้าจะต้องพูดคุยกันสักเล็กน้อยก่อนเริ่มงาน (Smalltalk) เพื่อสร้างความคุ้นเคย ความสัมพันธ์และมิตรภาพผ่านการสนทนา เช่น การทักทายสบายดีไหม ทำอะไรมาช่วงวันหยุด พูดถึงสภาพอากาศ การเดินทาง งานอดิเรก ฯลฯ เค้าจะเล่าสู่กันฟังสักเล็กน้อย แล้วแยกย้ายไปทำงาน ดังนั้นคนเยอรมันจึงมาทำงานก่อนเวลาสัก 10-15 นาที ดื่มกาแฟ และ Smalltalk กัน แต่บางคนเริ่มงานเลยก็มีค่ะ
2. คนเยอรมันเป็นคนตรงต่อเวลาค่ะ การมาทำงานสายแม้แต่นาทีเดียวถือว่าเป็นเรื่องเสียมารยาทค่ะ หากว่าต้องมาทำงานสายจริงๆ คนเยอรมันจะเอ่ยปากขอโทษทันทีที่มาถึงและบอกเหตุผลว่าทำไมถึงมาสายค่ะ
3. คนเยอรมันจะไม่ค่อยถามเรื่องส่วนตัวของกันและกัน ถ้าคู่สนทนาไม่ได้เล่าให้ฟังเอง แต่ถ้าสนิทกันแล้วก็สามารถถามได้ค่ะ เค้าไม่ได้อยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่น ไม่พูดถึงบุคคลที่ 3 ในที่ทำงานในทิศทางที่แย่ และไม่นำเรื่องในที่ทำงานไปเล่าให้คนอื่นฟัง อันนี้เป็นกฎการทำงานเลยนะคะ เรียกว่า Schweigepflicht (กฎการรักษาความลับ)
4. คนเยอรมันจะสื่อสารกันแบบตรงประเด็น ไม่อ้อมค้อม แสดงความคิดเห็นกันเต็มที่ วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ไม่มีคำว่าเกรงใจ อาวุโส เด็กเถียงผู้ใหญ่ อะไรแบบนี้ และไม่มีการโกรธกันนอกรอบแน่นอนค่ะ 😅 อยู่เยอรมันต้องแสดงความคิดเห็นค่ะ อย่านั่งเงียบ ดูไม่ดีเลย แต่ต้องยกมือก่อนนะคะ ห้ามพูดโพล่งออกไปเลย หรือ ถ้าเค้ายังไม่อนุญาตให้เราพูด ก็อย่าเพิ่งโพล่งออกไปค่ะ เสียมารยาทมาก และเค้าก็ทำงานกันเป็นทีมด้วยค่ะ แบบขัดแข้งขัดขาอะไรกันแบบนี้ไม่เจอในการทำงานกับคนเยอรมันค่ะ แต่กับคนเอเชียที่เยอรมันมีค่ะ 🤣
5. เราทำงานที่โรงเรียนอนุบาล ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องมือสื่อสารส่วนตัวใดๆ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ หรือ smartwatch ในที่ทำงาน หากต้องการถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอให้ใช้กล้องถ่ายรูปของทางที่ทำงานเท่านั้น เรื่องนี้เป็นเอกสารสัญญาให้พนักงานเซ็นต์ชื่อรับทราบเลยนะคะ มีสิทธิ์โดนไล่ออกหากฝ่าฝืนค่ะ ยิ่งถ่ายรูปเด็กๆ ลงในโซเชี่ยลนี่เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ โดนไล่ออกสถานเดียว ขนาดทางโรงเรียนจะทำการถ่ายรูปหมู่ของเด็กๆ กับครู ยังต้องขออนุญาตผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์อักษรเลยค่ะ หากผู้ปกครองไม่ยินยอม เด็กคนนั้นก็ไม่ได้ถ่ายรูปค่ะ
6. หากต้องการความช่วยเหลือ ให้ถามเค้าได้เลยค่ะ คนเยอรมันชอบให้ถาม และช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ปรกติคนเยอรมันไม่ค่อยเสนอความช่วยเหลือก่อน เพราะเค้าเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน จะไม่ถามเซ้าซี้ให้คู่สนทนาลำบากใจ หรือก้าวก่ายงานกันในที่ทำงาน
7. ไม่มีเลิกงานแล้วไปนั่งทานอาหารกันค่ะ เลิกงานตรงเวลาเป๊ะ ต่างคนต่างตรงดิ่งกลับบ้านหาครอบครัว หรือไปทำกิจกรรมส่วนตัว ไม่มีใครว่าด้วยค่ะ มีแต่เพื่อนร่วมงานบอกว่า เธอเลิกงานแล้วทำไมยังไม่กลับบ้านอีก ก่อนกลับบ้านเป็นมารยาทที่ดีที่ต้องเดินไปบอกลาเพื่อนร่วมงานค่ะ😅
8. จริงจังเวลาทำงาน ไม่ใช้มือถือส่วนตัวในที่ทำงาน ไม่ค่อยเล่นโซเชี่ยลมีเดีย เค้าจะรักษาสิทธิ์และความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบให้ใครมารู้เรื่องของตนเองผ่านทางโซเชี่ยล ยิ่งโพสเรื่องงานลงในโซเชี่ยลนี่ยังไม่เคยเจอค่ะ หรือ ภาพเซ็กซี่ บิกีนี่ลงโซเชี่ยลอะไรแบบนี้ มันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ขององค์กร มีสิทธิ์โดนสอบสวนและโดนไล่ออกได้เลยค่ะ
9. คนเยอรมันมี Life balance ที่ดีค่ะ เค้าจะเลือกชั่วโมงการทำงานที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น ผู้หญิงที่มีลูกอาจจะเลือกทำงานแค่
1. Minijob 43,35 ชั่วโมงต่อเดือน (รายได้ 12,41€ ต่อชั่วโมง) หรือ 538 ยูโรต่อเดือน หรือ
2. Part-time (Teilzeit) 20-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ
3. Full-time (Vollzeit) 35-40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ทั้งนี้ทั้งนั้น ลูกจ้างสามารถตกลงชั่วโมงการทำงานกับนายจ้างได้ และทำสัญญาจ้างงานกัน (Arbeitsvertrag) ไม่นิยมทำงาน 2 ที่นัก ซึ่งกรณีนี้จะต้องแจ้งนายจ้างงานก่อนด้วยค่ะ แต่ไม่คุ้มหรอกค่ะ และต้องเสียภาษีเป็น Klasse 6 ด้วย
10. เรื่องภาษี คนเยอรมันจะต้องระบุค่ะว่าจ่ายภาษี Klasse ไหน มีทั้งหมด 6 Klasse ด้วยกัน เช่น
Klasse 1: คนโสด, หย่าร้าง (เสียภาษีในอัตราสูงกว่า Klasse อื่นๆ)
Klasse 2: พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
Klasse 3 คู่กับ Klasse 5: สำหรับคู่สามีภรรยา ที่ใครคนใดคนหนึ่งมีรายได้มากกว่าคู่สมรส
Klasse 4: สำหรับคู่สมรสที่มีรายได้เท่าๆ กัน
Klasse 6: คนที่ทำงาน 2 ที่ (Nebenjob)
11. วันลาพักร้อน ตามกฎหมายเยอรมัน คือ 24 วันต่อปี แต่เราได้ 30 วันต่อปีค่ะ พักร้อนกันยาวๆ เลย แต่คนเยอรมันเค้าจะวางแผนลาล่วงหน้ากันเป็นปีนะคะ ว่าจะไปเที่ยวไหน หรือทำอะไร
12. ลาป่วย ไม่มีแบบบ้านเราที่กำหนดสูงสุด 30 วันค่ะ คนป่วยก็คือป่วย ถ้าแพทย์เขียนใบรับรองให้ก็ตามนั้นค่ะ ผู้ว่าจ้างหรือหัวหน้างานไม่มีสิทธิ์ถามนะคะว่าป่วยเป็นอะไร ในใบลาแพทย์ก็ไม่มีระบุด้วยค่ะ ที่สำคัญเพื่อนร่วมงานก็ไม่มีสิทธิ์ถามค่ะ ว่าเราป่วยเป็นอะไร เว้นแต่ว่า เราจะเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟังเอง
13. พักเบรค/พักกลางวัน ขึ้นอยู่กับชั่วโมงการทำงานต่อวันค่ะ ถ้าทำงานไม่ถึง 6 ชม.ไม่มีพักเบรค ตั้งแต่ 6 ชม.ขึ้นไปพักเบรคอย่างน้อย 30 นาที ถ้าทำงาน 9 ชม.ขึ้นไป พักเบรคอย่างน้อย 45 นาทีค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ วัฒนธรรมการทำงานของคนเยอรมันแตกต่างจากวัฒนธรรมการทำงานของไทยมากน้อยแค่ไหนคะ มาแชร์กันค่ะ☺️